ผศ.นพ.เธียรไชย ภัทรสกุลชัย อาจารย์ประจำหน่วยศัลยกรรมศีรษะและลำคอ มะเร็งวิทยา และศูนย์บำบัดด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การรักษาผู้ป่วยด้วยออกซิเจนความดันบรรยากาศสูง “Hyperbaric Oxygen Therapy [HBOT]” ด้วยเครื่อง Hyperbaric Chamber ในระยะแรกถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางทางเวชศาสตร์ใต้นํ้า ใช้รักษาผู้ป่วยภาวะสมองขาดเลือดจากการอุดตันของก๊าซไนโตรเจนในนักดำนํ้า การเกิดฟองอากาศในกระแสเลือดไปอุดตันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเครื่องนี้สามารถเพิ่มความดันทำให้ฟองอากาศมีขนาดเล็กลงจนทำให้ออกซิเจนผ่านเข้าไปในเลือด ทำให้เลือดสามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองและส่วนต่างๆ ได้ดีขึ้น
ส่วนชนิดและลักษณะของห้องปรับบรรยากาศ ที่ใช้ดำเนินการรักษาผู้ป่วยอยู่ในปัจจุบัน เป็นห้องปรับความดันบรรยากาศสูงชนิดคนเดียว (Monoplace Chamber) มีลักษณะคล้ายหลอดแก้วใหญ่ทำด้วยพลาสติกอะครีลิคใส สามารถทนความกดบรรยากาศได้สูงสุด 3 บรรยากาศ จุผู้ป่วยนอนได้ครั้งละ 1 คน ผู้ป่วยสามารถผ่อนคลาย นอนพัก หรืดูโทรทัศน์ขณะเข้ารับการรักษา ภายในห้องนี้เพิ่มความกดบรรยากาศด้วยออกซิเจน ผู้ป่วยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการหายใจ มีระบบสื่อสาร ผู้ป่วยสามารถพูดคุยติดต่อกับบุคคลภายนอกได้ขณะเข้ารับการรักษา ปัจจุบันมีหลายโรคที่สามารถรักษาได้ด้วย Hyperbaric Oxygen Therapy โดยใช้เครื่อง Hyperbaric Chamber ได้แก่ โรคฟองแก๊สอุดตันในหลอดเลือดแดง โรคลดความดันบรรยากาศหรือโรคน้ำหนีบ แก้ไขภาวะการเป็นพิษจากแก๊สคาร์บอนมอนนอกไซด์ แก๊สไซยาไนด์หรือการสำลักควันไฟ โรคติดเชื้อที่ทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อ การติดเชื้อของเนื้อเยื่อจากแบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจน การติดเชื้อเรื้อรังของกระดูก โรคฝีในสมอง การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อเนื่องจากการถูกบดขยี้ การได้รับบาดเจ็บจากรังสี โรคแผลหายยาก การเสียเลือดจำนวนมากในผู้ป่วยกลุ่มเลือดหายาก การปลูกถ่ายผิวหนังและกล้ามเนื้อในผู้ป่วยบางภาวะ แผลไฟไหม้หรือจากความร้อน สูญเสียการมองเห็นจากเส้นเลือดแดงของตาอุดตัน และสูญเสียการได้ยินเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ
ผศ.นพ.เธียรไชย ภัทรสกุลชัย กล่าวต่อว่า ที่ศูนย์บำบัดด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เริ่มใช้เครื่อง “Hyperbaric Chamber” ชนิดตู้เดี่ยว มูลค่า 6 ล้านบาท จำนวน 2 เครื่อง รักษาผู้ป่วยมาตั้งแต่ปี 2557 นับว่าเป็นเครื่องที่มีมาตรฐานเครื่องแรกเครื่องเดียวในภาคเหนือ ให้การรักษาผู้ป่วยฟันผุและเหงือกอักแสบจากการฉายแสงมากที่สุด รองลงมาคือโรคเบาหวาน, กระเพาะปัสสาวะอักเสบจากการฉายแสง , เส้นเลือดอุดตัน , แผลจากการผ่าตัดที่มีปัญหาจากการขาดเลือดไปเลี้ยง, แผลติดเชื้อรุนแรง และลำไส้ใหญ่ส่วนปลายอักเสบจากการฉายแสง ตามลำดับ ทำการรักษาผู้ป่วยมาแล้ว 120 ราย รวมกว่า 3,700 ครั้ง ซึ่งผู้ป่วย 1 รายจะต้องเข้ารับการรักษา 30-40 ครั้ง และสูงสุดไม่เกิน 60 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับชนิดของโรค ใช้ออกซิเจนคนละ 30,000 ลิตร เฉลี่ย 200-300ลิตร ต่อนาที ในขณะที่ผู้ป่วยทั่วไปใช้เพียง 5-10 ลิตร โดย 1 วันสามารถรักษาผู้ป่วยได้ 6-8 ราย ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษายาวนานที่สุด คือ โรคเบาหวาน และเส้นเลือดอุดตัน แล้วผ่าตัดล้มเหลว การรักษาให้ผลค่อนข้างดีถ้าไม่เป็นกระดูกตายมาก่อนจะได้ผลเกือบ 100%
นอกจากนี้การรักษาโรคด้วย Hyperbaric Chamber ยังทำให้สมองและร่างกายได้รับออกซิเจนสูงกว่าการให้ออกซิเจนตามปกติหลายเท่า จนสามารถช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทในส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการเจริญของเนื้อเยื่อและหลอดเลือดฝอย ช่วยยับยั้งและต่อต้านการติดเชื้อโรคบางชนิด เพิ่มประสิทธิภาพเซลล์เม็ดเลือดขาวในการทำลายเชื้อโรค ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปสู่อวัยวะที่ขาดเลือดได้ดีขึ้น ลดอาการบวมของอวัยวะ ลดขนาดของฟองอากาศในเนื้อเยื่อและหลอดเลือด และยังพบว่ามีผลในด้านความสวยความงามที่ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น ผมดกดำขึ้น ผมขาวลดลง ผิวพรรณเต่งตึง สุขภาพแข็งแรง ซึ่งเป็นผลจากการที่ร่างกายได้รับออกซิเจนที่เพิ่มขึ้น โดยในอนาคตอาจจะมีการวิจัยเรื่องศาสตร์ชะลอวัย (Anti-aging) ร่วมกับนักวิจัยอีกด้วย
*****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น