All online

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ข่าว ; ไทยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด


แม่ทัพภาคที่ 3 ประชุมคณะกรรมการ ศูนย์อำนวยการเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยพื้นที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าเขตไทยมากที่สุดคือบริเวณชายแดนภาคเหนือ ทั้งนี้เพื่อหาแนวทางบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการป้องกันและจับกุมอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ปส.ชน.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ครั้งที่ 1/2560 พร้อมด้วย นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, พลโทธนา จารุวัต แม่ทัพน้อยที่ 3 / ผู้บัญชาการ ศป.ปส.ชน. , พลตำรวจตรีภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และนายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะกรรมการอำนวยการฯ และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการฯ เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ พบแหล่งผลิตยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีการผลิตยาเสพติดประเภทยาบ้า ไอซ์ และเฮโรอีนเป็นจำนวนมาก เพราะสารเคมีที่ใช้เป็นสารตั้งต้นส่งเข้าไปอย่างต่อเนื่อง และยังตรวจพบว่าปี 2560 มีพื้นที่ปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้น การลักลอบโดยกลุ่มชนเผ่าที่อยู่ตามแนวชายแดนยังเป็นกลุ่มลำเลียงเข้าเขตไทยเป็นหลัก แม้ว่าในปัจจุบันยาเสพติดจากแหล่งผลิตจะมีทิศทางไปทางตะวันออกเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณยาเสพติดที่เข้าทางภาคเหนือยังคงมีอยู่จำนวนมาก เพราะกลุ่มขบวนการสามารถผลิตได้ตามต้องการของผู้เสพ นอกจากนี้ ยังพบว่าแนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติดตามแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน จะมีการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนยาเสพติดที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เป็นจำนวนมาก

สำหรับพื้นที่การลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าเขตไทยที่สำคัญคือบริเวณอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดแนวไปจนถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และบริเวณท่าข้ามในลำน้ำโขง ซึ่งการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ จะทำการควบคุมอำนวยการ ประสานงานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2559 ถึง มกราคม 2560 ได้แก่ ด้านการป้องกันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีการจัดระเบียบสังคมควบคุมพื้นที่เสี่ยง จำนวน 285 ครั้ง สั่งปิดสถานประกอบการจำนวน 7 แห่ง และในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มีการประกาศรับรอง "ครัวเรือนสีขาว ปลอดยาเสพติด" จำนวน 2,080 ครัวเรือน รวมถึงการเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่บ้านห้วยส้าน ด้านการบำบัดรักษา โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย เปิดโครงการอบรมค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน รวม 5 รุ่น ผู้เข้ารับการอบรมรวมทั้งสิ้น 471 คน และ ด้านการสกัดกั้นปราบปราม ในพื้นที่ 3 จังหวัด ยาบ้าจำนวน 4,628,597 เม็ด ไอซ์จำนวน 56.0 กิโลกรัม เฮโรอีนจำนวน 30.8 กิโลกรัม เงินสดจำนวน11.7 ล้านบาท และมีผู้ต้องหาจำนวน 406 คน

แม่ทัพภาคที่ ๓ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาเสพติดที่จับกุมได้นั้นเกิดจากการบูรณาการของทุกภาคส่วน และยาเสพติดที่เข้ามาในประเทศไทยมีจำนวนค่อนข้างสูง ประกอบกับรายได้ในการขนส่งยาเสพติดเป็นสิ่งที่จูงใจแก่นักขนส่งหน้าใหม่และชนเผ่า จึงส่งผลให้ยาเสพติดมีปริมาณมาก ซึ่งทางประเทศไทยก็ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ โดยจะร่วมกันปราบปรามยาเสพติดและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน รวมถึงการประชุมในวันนี้ ได้นำตัวอย่างการจับกุมที่ผ่านมา มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เพื่อหาแนวทางและการจับกุมให้เกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

*******************
ส.ปชส.เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น