Banana

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; ปิดฉากกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภาค 5 ครั้งที่ 28 เชียงใหม่ครองจ้าวเหรียญทอง

ทัพนักกีฬาทีมเชียงใหม่ครองความเป็นจ้าวเหรียญทองการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภาค 5 ครั้งที่ 28 ที่ปิดฉากลงอย่างสวยงาม คว้าเหรียญทองไปครองถึง 107 เหรียญ ขณะที่ลำปางอันดับสอง คว้าเหรียญทองไปครอง 32 เหรียญ


การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภาค 5 ครั้งที่ 28 “เชียงใหม่เกมส์” โดยวันนี้ (30 ต.ค.54) มีชิง 9 เหรียญทอง จาก 3 ชนิดกีฬา ก่อนที่จะมีพิธีปิดอย่างสวยงาม โดยผลการแข่งขันมีดังนี้
แบตมินตัน ชิง 5 เหรียญทอง ผลการแข่งขัน ทัพนักกีฬาทีมเชียงใหม่คว้าเหรียญทองไปครองทั้ง 5 ประเภท ได้แก่ คู่ผสม  ชายคู่  ชายเดี่ยว  หญิงคู่ และ หญิงเดี่ยว
วอลเล่ย์บอล ชิง 2 เหรียญทอง โดยเหรียญทองประเภททีมชายเป็นของทีมจังหวัดสุโขทัย  ส่วนประเภททีมหญิงเหรียญทองเป็นของทีมกำแพงเพชร
วอลเล่ย์บอลชายหาด ชิง 2 เหรียญทอง โดยทีมพิษณุโลก คว้าเหรียญทองไปครองทั้ง 2 เหรียญจากประเภททีมชาย และ ทีมหญิง
จากนั้นได้มีพิธีปิดการแข่งขันอย่างสวยงามด้วยชุดการแสดงที่ตระการตา และพิธีส่งมอบธงกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภาค 5 ให้แก่ ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 5 เพื่อส่งมอบให้จังหวัดเจ้าภาพการแข่งขันครั้งต่อไป  โดยผลการแข่งขันทีพนักกีฬาเชียงใหม่คว้าเหรียญทองไปครองถึง 107 เหรียญ ครองความเป็นจ้าวเหรียญทอง ส่วนอันดับสองเป็นของทีมจังหวัดลำพูน   โดยสรุปเหรียญรางวัลมีดังนี้
อันดับ 1  เชียงใหม่ 107 เหรียญทอง 101 เหรียญเงิน 59 เหรียญทองแดง รวม 267 เหรียญรางวัล 
อันดับ 2  ลำปาง 32  เหรียญทอง 33 เหรียญเงิน 40 เหรียญทองแดง รวม 105 เหรียญรางวัล 
อันดับ 3  สุโขทัย 26 เหรียญทอง 18 เหรียญเงิน 18 เหรียญทองแดง รวม 62 เหรียญรางวัล 
อันดับ 4 ลำพูน 25 เหรียญทอง 25 เหรียญเงิน 16 เหรียญทองแดง รวม 66 เหรียญรางวัล
อันดับ 5  น่าน 22 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 20 เหรียญทองแดง รวม 52 เหรียญรางวัล 
อันดับ 6 เชียงราย 20 เหรียญทอง 40 เหรียญเงิน 36 เหรียญทองแดง รวม 96 เหรียญรางวัล
อันดับ 7 พิษณุโลก 20 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน 23 เหรียญทองแดง รวม 75 เหรียญรางวัล
อันดับ 8  เพชรบูรณ์ 17 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 25 เหรียญทองแดง รวม 51 เหรียญรางวัล
อันดับ 9 พะเยา 17 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 19 เหรียญทองแดง รวม 40 เหรียญรางวัล 
อันดับ 10 พิจิตร 14 เหรียญทอง 18 เหรียญเงิน 17 เหรียญทองแดง รวม 49 เหรียญรางวัล 
อันดับ 11 กำแพงเพชร 12  เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 24 เหรียญทองแดง รวม 45 เหรียญรางวัล 
อันดับ 12 อุตรดิตถ์ 9 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน 17 เหรียญทองแดง รวม 40 เหรียญรางวัล 
อันดับ 13 แพร่ 9 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 20 เหรียญทองแดง รวม 39 เหรียญรางวัล
อันดับ 14 ตาก 5 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 10 เหรียญทองแดง รวม 25 เหรียญรางวัล
อันดับ 15 แม่ฮ่องสอน 3 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง รวม 17 เหรียญรางวัล
รวม 11 วันชิงไป 338 เหรียญทอง 338 เหรียญเงิน 353 เหรียญทองแดง รวม 1,029 เหรียญรางวัล 

ข่าว ; สถานการณ์ความเคลื่อนไหวด้านปริมาณและราคาสินค้าช่วงภาวะน้ำท่วม

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่จัดส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบสถานการณ์และภาวะราคาสินค้าสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดปัญหาทางด้านราคา หรือเหตุการณ์สินค้าขาดตลาด

นางสาวปานจิตต์  พิศวง  พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 เป็นต้นมา ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทยในหลาย ๆ พื้นที่ โดยเฉพาะทางภาคกลางของประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญ รวมทั้งระบบการขนส่งสินค้าทางบกต้องชะลอตัว ทำให้ประชาชนอาจเกิดความตื่นตระหนกในการซื้อสินค้ามากักตุนเกินความจำเป็น และอาจนำไปสู่การขาดแคลนสินค้า  ดังนั้น สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่จึงได้จัดเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบสถานการณ์และภาวะราคาสินค้าที่สำคัญของจังหวัดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ความเคลื่อนไหวด้านปริมาณและราคา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดปัญหาทางด้านราคา หรือเหตุการณ์สินค้าขาดตลาดในจังหวัดเชียงใหม่ เช่น น้ำดื่มบรรจุขวด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช กระดาษชำระ ข้าวสาร ไข่ไก่ เนื้อสุกรชำแหละ เป็นต้น

พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ผลการสำรวจพบว่าสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ในภาวะการค้าคล่องตัว ประชาชนในพื้นที่สามารถซื้อสินค้าได้ตามปกติ ไม่มีการตื่นตัวหรือการกักตุนสินค้า การจำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้า ยังคงมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน มีการจำกัดปริมาณการซื้อสินค้าบางรายการ เช่น น้ำมันพืช น้ำตาลทราย น้ำดื่ม เป็นต้น ทั้งนี้มีสินค้าบางชนิดเริ่มมีปริมาณจำหน่ายน้อยลง เช่น น้ำดื่มบรรจุขวดบางยี่ห้อ น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมผง เนื่องจากมีประชาชนซื้อไปเพื่อส่งไปบริจาคแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคกลาง ประกอบกับการนำเข้ามาในจังหวัดลดลง เนื่องจากโรงงานผู้ผลิตภาคกลางได้รับผลกระทบโดยตรง รวมทั้งปัญหาการขนส่งเป็นหลัก

สำหรับสถานการณ์ด้านราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญ อาทิ เนื้อสุกร ผักสด น้ำมันพืช และน้ำตาลทราย ยังคงอยู่ในภาวะปกติ ปริมาณสินค้าที่จำหน่ายมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ยกเว้น ราคาข้าวสาร และไข่ไก่ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยตามภาวะตลาด

พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงไม่มีโรงงานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญ ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมลำพูน มีโรงงานผลิตสินค้า จำนวน 87 โรงงาน สินค้าที่ผลิตมี 9 ประเภท โดยสินค้าหลัก คือ อุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ จึงอาจเกิดผลกระทบต่อการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคบางชนิด หากโรงงานผู้ผลิตสินค้าในภาคกลางไม่สามารถทำการผลิตสินค้าได้ ประกอบกับกับการขนส่งทางบกยังไม่คล่องตัว

ในส่วนของน้ำดื่มบรรจุขวดชนิดไม่คืนขวดของบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น ตราสิงห์ ตราน้ำทิพย์ ตราเนสท์เล่  ขาดตลาด ทั้งนี้บริษัทผู้ผลิตน้ำดื่มในจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวน 335 แห่ง โดยบริษัทสาขาย่อยของผู้ผลิตน้ำดื่มรายใหญ่ เช่น น้ำสิงห์ (อำเภอสารภี) บริษัทสำนักงานใหญ่แจ้งให้ชะลอการจำหน่ายลง โดยสำนักงานใหญ่จะเป็นผู้บริหารจัดการกระจายน้ำดื่มเอง สำหรับการผลิตน้ำดื่มของบริษัทรายอื่น ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากขาดปัจจัยการผลิต (ขวดบรรจุ) อย่างไรก็ตามยังคงมีบริษัทรายย่อยในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 11 แห่ง สามารถผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดเพื่อการจำหน่ายได้ ได้แก่ บริษัท เอส แอล มาร์เก็ตติ้ง, โครงการน้ำดื่มทรายทอง, น้ำดื่มน้ำใจ, น้ำดื่มแสงจันทร์, น้ำดื่ม      ธารทิพย์, ร้านโชคชัยวอเตอร์ทรีทเมนท์, ร้านลาวาริน, บริษัทเชียงใหม่โพลสตาร์, น้ำดื่มน้ำริน, น้ำดื่มเกษตรพัฒนา 999 และ น้ำดื่มพรีเมี่ยมโกลด์

ข่าว ; เชียงใหม่ขอความร่วมมือแจ้งการปล่อยโคมลอยกับท่าอากาศยานเพื่อความปลอดภัยในการบิน

จังหวัดเชียงใหม่ขอความร่วมมือประชาชนแจ้งการปล่อยโคมลอยกับท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อความปลอดภัยในการบินช่วงประเพณียี่เป็งปีนี้  โดยขอให้ปล่อยหลังเวลา 21.30 น. เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

นายชูชาติ กีฬาแปง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้ถึงเทศกาลยี่เป็ง หรือเทศกาลลอยกระทงแล้ว ซึ่งกิจกรรมหนึ่งที่มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีคือการปล่อยโคมลอยจำนวนมาก เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา  รวมทั้งมีการประกวดโคมลอยของหน่วยงานต่าง ๆ  ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุ อันอาจจะเกิดขึ้นกับอากาศยาน   จึงขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ประชาสัมพันธ์รณรงค์การปล่อยโคมลอยช่วงเทศกาลยี่เป็งในเขตพื้นที่ความปลอดภัยทางเดินอากาศ โดยหากชุมชนหรือหน่วยงานใดจะทำการปล่อยโคมลอย ขอให้แจ้ง     ท่าอากาศยานเชียงใหม่ทราบล่วงหน้าที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-5392-2319 โทรสาร 0-5327-7284 (ในเวลาราชการ) เพื่อจะได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้นักบินทราบต่อไป และขอให้ปล่อยหลังเวลา 21.30 น. เป็นต้นไป

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการปฏิบัติและกำหนดมาตรการเสริมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการปล่อยโคมลอย เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันอันตรายร้ายแรงที่อาจจะกระทบต่อการบินและอากาศยาน สำหรับปี 2554  โดยขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้โคมลอยตามที่    ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้กำหนดวัสดุและรูปแบบที่เหมาะสมของโคมลอย โดยอ้างอิงจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยมีสาระสำคัญประกอบด้วย

1.โคมลอยที่ปล่อยจะต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 90 เซนติเมตร ความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร
2.ใช้กระดาษว่าวชนิดบาง หากต้องใช้ลวดโลหะสำหรับผูกติดไส้เชื้อเพลิงให้ใช้ลวดอ่อน ความยาวไม่เกิน 20 เซนติเมตร
3.เชื้อเพลิงต้องไหม้สลายหมวดสิ้นขณะลอยอยู่ในอากาศ ภายในไม่เกิน 5 นาที (ขนาดของไส้เชื้อเพลิงต้องเหมาะสมกับขนาดของโคม)
4.ห้ามไม่ให้พ่วงหรือผูกติดพลุ ดอกไม้ไฟ หรือสิ่งอื่นใดไปกับโคมขณะปล่อย
5.ช่วงเวลาที่เหมาะสมและปลอดภัยต่ออากาศยานในการปล่อยโคมลอย ควรปล่อยในเวลา 21.30 น.     เป็นต้นไป
6.แจ้งให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทราบถึง วัน เวลา สถานที่ จำนวนโคมที่จะปล่อย ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ผู้ประสานงานในการปล่อยโคมลอย เพื่อที่จะได้แจ้งให้นักบินที่จะทำการบินมายังท่าอากาศยานเชียงใหม่ทราบ โดยแจ้งที่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เลขที่ 60 หมู่ 3 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์ 0-5392-2319 โทรสาร 0-5327-7284

ดังนั้นเพื่อให้งานเทศกาลยี่เป็งปี 2554 นี้เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ร่วมกันสืบสานวัฒนธรรมล้านนาด้วยการแต่งกายพื้นเมือง โดยงดเว้นการจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ขอความร่วมมือประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศปล่อยโคมลอยด้วยความปลอดภัยด้วย

ข่าว ; มหาวิทยาลัยพายัพจัดแข่งขันกอล์ฟการกุศลช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ผศ.ดร.ประดิษฐ์ เถกิงรังสฤษดิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพายัพ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล 2554 เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร และจัดสร้างอุทยานสันติภาพของมหาวิทยาลัยพายัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2554 ณ สนาม เดอะรอยัลเชียงใหม่ กอล์ฟ รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ รอบเช้าเวลา 06.30 น. และรอบบ่ายเวลา 12.30 น. มีผู้สนใจเข้าร่วมการแข่งขันประมาณ 300 คน

การแข่งขันกอล์ฟการกุศลครั้งนี้ นอกจากจะหารายได้สนับสนุนการกุศลแล้ว ยังเป็นการส่งเสริม ปลูกฝังและกระตุ้นให้นักศึกษา บุคลากร ศิษย์เก่าและประชาชนทั่วไปได้ร่วมกันเล่นกอล์ฟ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อห่างไกลอบายมุขและยาเสพติด ช่วยพัฒนาคุณภาพบุคคลทั้งด้านร่างกาย จิตใจและอารมณ์อีกด้วย โดยรางวัลการแข่งขันแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ประเภททีมบุคคลทั่วไป Low Net ประเภทบุคคลทั่วไป และประเภทบุคคล ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยพายัพ ชิงถ้วยเกียรติยศของนายกสภามหาวิทยาลัยพายัพ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพายัพ และผู้มีเกียรติอีกมากมาย

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; สรุปเหรียญรางวัล เชียงใหม่เกมส์ หลังการแข่งขันผ่านวันที่ 7

ผ่านไป 7 วัน เชียงใหม่เจ้าภาพยังคงครองความเป็นจ้าวเหรียญทองการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติภาค 5 ครั้งที่ 28 โดยคว้าเหรียญรางวัลทิ้งห่างทีมลำปางซึ่งเป็นอันดับสองไปมากกว่าเท่าตัว

                วันที่ 7 ของการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภาค 5 ครั้งที่ 28 ทัพนักกีฬาจังหวัดเชียงใหม่เจ้าภาพ ยังคงความเป็นจ้าวเหรียญทอง ล่าสุดคว้าเหรียญรางวัลมาครองถึง  55 เหรียญทอง 53 เหรียญเงิน 44 เหรียญทองแดง ทิ้งห่างทีมจังหวัดลำปางที่ตามมาเป็นอันดับ 2  ด้วยเหรียญรางวัลที่มากกว่าเท่าตัว
                การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ภาค 5 ครั้งที่ 28 “เชียงใหม่เกมส์ ในวันที่ 7 ของการแข่งขัน วันนี้ (26 ต.ค. 54) มีชิง 13  เหรียญทอง จักรยาน 4 เหรียญทอง เซปักตะกร้อ 2 เหรียญทอง  เปตอง 4 เหรียญทอง ยิงปืน 4 เหรียญทอง และ สนุกเกอร์ 1 เหรียญทอง
                สำหรับการแข่งขันมีดังนี้ จักรยาน ชิง 4 เหรียญทอง ใช้ถนนเวลโลโดรม สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี
 เป็นสนามแข่งขัน โดย ทีมจังหวัดพะเยาคว้า 2 เหรียญทอง ประเภทลู่ ไทม์ไทรอัล - ชาย (1 กม.) และ ประเภทลู่ ไทล์ไทรอัล - หญิง (500 ม.) ส่วนทีมเชียงรายคว้า 2 เหรียญทองเช่นกันจากประเภทประเภทลู่ พอยท์เรส - หญิง (20 กม.) และ สแครช - บุคคลชาย
                เซปักตะกร้อ ชิง 2 เหรียญทอง ผลการแข่งขัน ทีมจังหวัดพิษณุโลกคว้าเหรียญทองไปครองจากประเภททีมชุด ชาย ส่วนทีมจังหวัดกำแพงเพชร คว้าเหรียญทองไปครองจากประเภททีมชุด หญิง
                เปตอง ชิง 2 เหรียญทอง ผลการแข่งขันทีมจังหวัดพะเยาคว้าเหรียญทองไปครองทั้ง 2 เหรียญ จากประเภททีมชาย 3 คน และประเภททีมหญิง 3 คน
                ยิงปืน ชิง 4 เหรียญทอง ผลการแข่งขันทีมเชียงใหม่อาศัยความแม่นที่เหนือกว่าคว้าไปทั้ง 4 เหรียญทองจากประเภทปืนยาวอัดลม ทีมหญิง, ปืนยาวอัดลม บุคคลหญิง, ปืนสั้นสตรี ทีมหญิง และประเภท ปืนสั้นสตรี - บุคคลหญิง
                สนุกเกอร์ ชิง 1 เหรียญทอง ผลการแข่งขัน วิศรุต  ดวงสนิท จากทีมจังหวัดเชียงราย คว้าเหรียญทองไปครองจากประเภทเดี่ยว 6 แดง
                สรุปเหรียญรางวัลการแข่งขันระหว่างวันที่ 20 26 ตุลาคม 2554 มีดังนี้
อันดับ 1  เชียงใหม่ 55 เหรียญทอง 53 เหรียญเงิน 44 เหรียญทองแดง รวม 152 เหรียญรางวัล
อันดับ 2  ลำปาง 27  เหรียญทอง 25 เหรียญเงิน 30 เหรียญทองแดง รวม 82 เหรียญรางวัล
อันดับ 3  น่าน 15 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 16 เหรียญทองแดง รวม 39 เหรียญรางวัล
อันดับ 4  เพชรบูรณ์ 13 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง รวม 27 เหรียญรางวัล
อันดับ 5 พิษณุโลก 11 เหรียญทอง 19 เหรียญเงิน 20 เหรียญทองแดง รวม 50 เหรียญรางวัล
อันดับ 6 เชียงราย 10 เหรียญทอง 22 เหรียญเงิน 19 เหรียญทองแดง รวม 51 เหรียญรางวัล
อันดับ 7 พะเยา 10 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 12 เหรียญทองแดง รวม 24 เหรียญรางวัล
อันดับ 8 พิจิตร 9 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง รวม 30 เหรียญรางวัล
อันดับ 9 แพร่ 9 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 10 เหรียญทองแดง รวม 24 เหรียญรางวัล
อันดับ 10  สุโขทัย 8 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน 12 เหรียญทองแดง รวม 34 เหรียญรางวัล
อันดับ 11 กำแพงเพชร 8  เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 23 เหรียญทองแดง รวม 38 เหรียญรางวัล
อันดับ 12  ลำพูน 8 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง รวม 22 เหรียญรางวัล
อันดับ 13 อุตรดิตถ์ 7 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง รวม 19 เหรียญรางวัล
อันดับ 14 ตาก 3 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง รวม 16 เหรียญรางวัล
อันดับ 15 แม่ฮ่องสอน 1 เหรียญทองแดง
รวม 7 วันชิงไป 193 เหรียญทอง 193 เหรียญเงิน 223 เหรียญทองแดง รวม 609 เหรียญรางวัล

                สำหรับการแข่งขันในวันที่ 27 ต.ค.54 มีการชิงชัย 22  เหรียญทอง จากจักรยาน 3 เหรียญทอง ใช้เวลโลโดรม สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี  เป็นสนามแข่งขัน แบตมินตัน 2 เหรียญทอง แข่งขันที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ มวยไทยสมัครเล่น 7 เหรียญทอง มวยสากลสมัครเล่น 5 เหรียญทอง แข่งขันที่ศูนย์อนุรักษ์มวยไทย สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตเชียงใหม่  ยิงปืน 4 เหรียญทอง แข่งขันที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี และแฮนด์บอล 1 เหรียญทอง แข่งขันที่อุทยานการค้ากาดสวนแก้ว จึงขอเชิญชวนร่วมชมและเชียร์เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาที่เข้าแข่งขันโดยพร้อมกัน

ข่าว ; เชียงใหม่ระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

จังหวัดเชียงใหม่ให้ระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันภาวะมลพิษทั้งทางน้ำและในดิน ซึ่งก่อให้เกิดสภาวะขาดความสมดุลตามธรรมชาติ

หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ใช้อำนาจตามความในมาตรา 9 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535  โดยมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 6/2553 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2553 มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี เพื่อระงับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตามความในมาตรา 4(1) แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 ที่ใช้ความเค็มในพื้นที่น้ำจืด เนื่องจากจะเป็นเหตุให้เกิดภาวะมลพิษทั้งทางน้ำและในดิน เกิดสภาวะขาดความสมดุลตามธรรมชาติ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและก่อให้เกิดผลเสียหายต่อทรัพย์สินของรัฐและของประชาชน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้อาศัยอำนาจคำสั่งนายกรัฐมนตรีฉบับดังกล่าว โดยได้ออกคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ที่ 2970/2554 สั่ง ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2554 ให้ยกเลิกคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 2517/2541 ลงวันที่ 8 กันยายน 2541 เรื่อง  กำหนดมาตรการเพื่อรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในจังหวัด และให้ระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืดทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ในระหว่างที่มีคำสั่งระงับดังกล่าว และอยู่ระหว่างช่วงของการเพาะเลี้ยงก็ให้ดำเนินการเพาะเลี้ยงใน แต่ละช่วงต่อไปได้ และจะต้องจับสัตว์น้ำดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน นับแต่วันที่คำสั่งนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยให้ยกเว้นการเลี้ยงสัตว์น้ำในโรงเพาะฟักสัตว์น้ำ บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำของทางราชการ และสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน โดยไม่ให้มีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นและต้องจัดให้มีระบบการบำบัดและควบคุมการปล่อยน้ำทิ้ง ตลอดจนมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพเพื่อมิให้เกิด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพื้นที่ใกล้เคียงด้วย  จึงประกาศให้ทราบและถือปฏิบัติต่อไป

ข่าว ; สำนักงาน กปร. เชิญร่วมประกวดผลงานเฉลิมพระเกียรติ “84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา”

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับ หน่วยงานหลายองค์กร เชิญชวนเยาวชนและประชาชนส่งผลงานเฉลิมพระเกียรติร่วมประกวด

นายสุวัฒน์  แทพอารักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ(สำนักงาน กปร.) ร่วมกับ สำนักราชเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา และ สำนักงบประมาณ กำหนดจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย และเพื่อเผยแพร่และเสริมสร้างองค์ความรู้จากแนวพระราชดำริ ทฤษฎีการพัฒนาผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไปสู่สาธารณชน ได้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม และตระหนักถึงความสำคัญในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทต่อไป

รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่าการจัดกิจกรรมภายใต้โครงการดังกล่าว ได้จัดให้มีการประกวดผลงานเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทอด     แนวพระราชดำริผ่านกิจกรรมการประกวด 3 ประเภท ประกอบด้วย การประกวดขับร้องเพลง           พระราชนิพนธ์ การประกวดชุดภาพถ่าย ความสุขของแผ่นดิน และการประกวดผลิตสื่อวีดิทัศน์ประกอบบทเพลงโครงการอันเนื่องมากจากพระราชดำริ ร้อยมือล้านใจ โดยผู้ชนะการประกวดจะได้รับถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และผลงานที่ได้รับรางวัลจะได้ร่วมแสดงในงานเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ทั้งนี้ขอเชิญชวนเยาวชนและประชาชนทั่วไปส่งผลงานเข้าร่วมประกวด โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กปร. โทรศัพท์ 081-8167590, 022806193-200 ต่อ 153, 155 และ 157 โทรสาร 026299181, 022806206 หรือ web site www.rdpb.go.th

ข่าว ; ม.พายัพจัดกอล์ฟการกุศล หารายได้สมทบช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

ฝ่ายประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยพายัพแจ้งว่า มหาวิทยาลัยพายัพ กำหนดจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล 2554 เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร และจัดสร้างอุทยานสันติภาพของมหาวิทยาลัยพายัพ โดยการแข่งขันกำหรดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2554 ณ สนาม เดอะรอยัลเชียงใหม่ กอล์ฟ รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ รอบเช้าเวลา 06.30 น. และรอบบ่ายเวลา 12.30 น.

การแข่งขันกอล์ฟการกุศลครั้งนี้ นอกจากจะหารายได้สนับสนุนการกุศลแล้ว ยังเป็นการส่งเสริม ปลูกฝังและกระตุ้นให้นักศึกษา บุคลากร ศิษย์เก่าและประชาชนทั่วไปได้ร่วมกันเล่นกอล์ฟ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อห่างไกลอบายมุขและยาเสพติด ช่วยพัฒนาคุณภาพบุคคลทั้งด้านร่างกาย จิตใจและอารมณ์อีกด้วย โดยรางวัลการแข่งขันแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ประเภททีมบุคคลทั่วไป Low Net ประเภทบุคคลทั่วไป และประเภทบุคคล ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยพายัพ ชิงถ้วยเกียรติยศของนายกสภามหาวิทยาลัยพายัพ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพายัพ และผู้มีเกียรติอีกมากมาย

ผู้สนใจเข้าร่วมการแข่งขัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยพายัพ โทร. 053-851478 ต่อ 271, 321, 322 

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; เริ่มแล้ววันนี้ การแสดงระบำใต้น้ำที่เชียงใหม่ ซู อควาเรียม สวนสัตว์เชียงใหม่

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม แจ้งเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าชมโชว์ระบำใต้น้ำสุดอลังการ ที่ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม สวนสัตว์เชียงใหม่ โดยในช่วงไฮซีซั่นนี้ เชียงใหม่ ซู อควาเรียมได้จัดการแสดงนี้ขึ้นเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยว ในชื่อชุด “มหัศจรรย์ดินแดน....Under Water Land” เป็นการแสดงระบำใต้น้ำ โดยนักแสดงที่เป็นนักกีฬาระบำใต้น้ำระดับโอลิมปิก ด้วยเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างเจ้าหญิงใต้สมุทรและเจ้าปีศาจสาหร่าย เพื่อกอบกู้ดินแดนใต้น้ำ จัดแสดงภายในอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวที่สุดในโลก ทั้งอุโมงค์น้ำจืดและน้ำทะเล




การแสดงระบำใต้น้ำครั้งนี้ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม สวนสัตว์เชียงใหม่ กำหนดจัดแสดงวันละ 2 รอบ คือเวลา 10.45 น. และ 14.45 น. เฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดการแสดงแล้วตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้ชมอย่างแน่นอน

ข่าว ; หารือความร่วมมือเชียงใหม่-เซี่ยงไฮ้ ด้านการพัฒนาเทคนิค Software

จังหวัดเชียงใหม่ให้การต้อนรับและหารือร่วมกับกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทการลงทุนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเซี่ยงไฮ้และคณะ เพื่อแนะนำการพัฒนา Software “สมาร์ทซิตี้” ของมหานครเซี่ยงไฮ้และการนำเทคนิคมาใช้ในการพัฒนาเมืองและการบริหารภาครัฐ
 
หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ  ดร.จู้เหวยหมิน กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ นายเสิน เหว่ยกั๋ว กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทการลงทุนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเซี่ยงไฮ้และคณะ รวม 8 คน ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 14  - 21 ตุลาคม 2554 โดยมีกำหนดเยือนจังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 14 – 19 ตุลาคม 2554 เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของมหานครเซี่ยงไฮ้และจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแสวงหาแนวทางความเป็นไปได้ในความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายทางด้าน Software การบริหารภาครัฐ โดยได้แนะนำการพัฒนาเทคนิค Software “สมาร์ทซิตี้” แก่คณะของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
 
บริษัทการลงทุนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเซี่ยงไฮ้ (Shanhai Science & Technology Investment Corporation, Wonders Information Co., Ltd Shanghai Triman Information & Technology Co., Ltd และ Shanghai Shenji Information System Engineering Ltd) ประสบความสำเร็จในด้านการลงทุนเป็นอย่างมาก เป็นบริษัทที่มีการผลิต Software และการบริหารการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่มีการลงทุนความเสี่ยงทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2535 มีมูลค่าการลงทุนสะสมสูงถึง 9.6 ล้านหยวน มีมูลค่าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการลงทุนถึง 6 เท่า   ที่ผ่านมาบริษัทการผลิต Software ทั้ง 3 แห่ง ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่จัดเสนอ Software ด้านการบริหารภาครัฐที่มีชื่อเสียงในมหานครเซี่ยงไฮ้ตลอดจนสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยรวม
 
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่และมหานครเซี่ยงไฮ้ ได้มีการลงนามความตกลงสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องต่อกัน เมื่อปี ค.ศ.2000 ณ นครเซี่ยงไฮ้ โดยได้มีการกำหนดกรอบการแลกเปลี่ยนความร่วมมือในมติติต่าง ๆ ร่วมกัน อีกทั้งผู้บริหารทั้งสองเมืองทั้งระดับรัฐบาล ระดับท้องถิ่น ภาคเอกชนและประชาชน ได้มีการเดินทางเยี่ยมเยือนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา การแพทย์ การเกษตร และ Logistic เป็นต้น นอกจากนั้นยังผลักดันกำหนดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการส่งเสริมและสร้างเครือข่ายความร่วมมือและให้เกิดความคุ้นเคยในกลุ่มผู้ประกอบการและนักลงทุนที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งให้การสนับสนุนในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์แก่นักลงทุนและผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนบนพื้นฐานที่ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกันมาโดยตลอด

ข่าว ; โตโยต้าร่วมกัุบสนามกอล์ฟอัลไพน์เชียงใหม่ จัดกิจกรรมพิเศษแก่ผู้สนใจฟรี

ฝ่ายสื่อสารการตลาด อัลไพน์กอล์ฟรีสอร์ท - เชียงใหม่ แจ้งว่า ในวันที่ 22-23 ตุลาคม 2554 นี้ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กำหนดจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ Toyota Camry Hybrid Extremo ณ อัลไพน์กอล์ฟรีสอร์ท - เชียงใหม่ โดยภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ และของรางวัลสำหรับนักกอล์ฟที่มาออกรอบทั้งเช้าและบ่าย เช่น รางวัล Longest Bisdie , Nestest Pro แข่ง Near Pin กับโปรอาชีพหญิงและร่วมลุ้นรางวัล Lucky draw หัวไม้ 1 Taylormade R11/ Banner 2.0 โดยผู้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 053-880-888

ข่าว ; เชียงใหม่จัดประชุมหาแนวทางร่วมกันพัฒนาและแก้ไขปัญหาไนท์บาร์ซา

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมร่วมกันระหว่างนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ผู้แทนกลุ่มผู้ค้าแผงลอยและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางพัฒนาย่านเศรษฐกิจไนท์บาร์ซาให้เจริญรุ่งเรือง เกิดความสวยงาม มีมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว และเกิดความรู้สึกว่าหากมาเชียงใหม่แล้วต้องได้ไปสัมผัสบรรยากาศที่ไนท์บาร์ซาทุกครั้ง


เมื่อบ่ายวันที่ 18 ต.ค.54 ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกันระหว่างนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ผู้แทนกลุ่มผู้ค้าแผงลอยและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางพัฒนาย่านเศรษฐกิจไนท์บาร์ซาให้เจริญรุ่งเรือง เกิดความสวยงาม มีมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว และเกิดความรู้สึกว่าหากมาเชียงใหม่แล้วต้องได้ไปสัมผัสบรรยากาศที่ไนท์บาร์ซาทุกครั้ง


ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันสถานที่ดังกล่าวเกิดความซบเซา มีการบริหารจัดการที่ยังไม่เหมาะสมเนื่องจากการค้าขายของกลุ่มผู้ค้าแผงลอยล้อเข็นบนทางเท้าสาธารณะ ทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจร การเคลื่อนย้ายล้อเข็นของผู้ประกอบการแผงลอยซึ่งส่วนใหญ่เป็นล้อเหล็ก ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนผู้อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งปัญหาการจัดระเบียบและความสะอาดด้วย  โดยที่ประชุมได้เสนอให้มีการสร้างจุดขายบริเวณดังกล่าวให้มีความเป็นเอกลักษณะเฉพาะที่ไม่สามารถหาชมและสัมผัสได้จากสถานที่แห่งใดได้นอกจากย่านไนท์บาร์ซา จังหวัดเชียงใหม่ โดยเสนอให้ดำเนินการปรับเปลี่ยนรูปแบบแผงลอยล้อเข็นของผู้ประกอบการทั้งหมดซึ่งมีประมาณ 800 รายให้มีรูปแบบเดียวกัน และมีความโดดเด่น เพื่อเป็นการสร้างจุดขายและมนต์เสน่ห์ให้สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัสบรรยากาศบริเวณย่าน   ไนท์บาร์ซาให้มากขึ้น และ ควรสร้างจุดเด่นสินค้าที่นำมาวางจำหน่ายให้มีความแปลกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากแหล่งใด ซึ่งจะสร้างความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น


สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ประชุมเสนอให้ผู้ประกอบการแผงลอยล้อเข็นปรับเปลี่ยนล้อรถให้เป็นล้อยางทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวนผู้อาศัยบริเวณดังกล่าว มีการจัดระเบียบการเคลื่อนย้ายล้อเข็นเข้า-ออกให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการจราจร   และในระหว่างที่ตั้งจำหน่ายก็ควรมีการจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เกิดความสวยงาม และควรช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย  ทั้งนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาหารือในรายละเอียดร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้เกิดความพึงพอใจของทุกฝ่าย โดยมี นายชูชาติ  กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานคณะทำงาน และ นายสุรชัย จงรักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเลขานุการคณะทำงาน ซึ่งจะได้จัดประชุมในเร็ว ๆ นี้ 


ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าย่านไนท์บาร์ซา ให้บริการนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญด้วยมิตรไมตรี มีวาจาที่ไพเราะอ่อนหวาน ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่สวยงามของเชียงใหม่เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว และนำไปบอกต่อในกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วยกันต่อไป ซึ่งจะทำให้ย่านเศรษฐกิจไนท์บาร์ซาได้รับการกล่าวขานและอยากมาสัมผัสมากขึ้นของนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ก่อเกิดรายได้ที่มากขึ้นตามไปด้วย

ข่าว ; จังหวัดเชียงใหม่เชิญชวนร่วมกิจกรรมตักบาตรเชียงใหม่ ช่วยภัยน้ำท่วม

จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ และหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เชิญชวนร่วมกิจกรรม “ตักบาตรเชียงใหม่ ช่วยภัยน้ำท่วม” เพื่อนำสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง และ ภาคเหนือตอนล่าง


หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  เปิดเผยว่า จากวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,248,994 คน โดยไร้ที่อยู่อาศัย ขาดแคลนสิ่งของจำเป็นเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่หลายภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจดำเนินการเพื่อบรรเทาทุกข์ของผู้ประสบอุทกภัย ดังนั้นจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ และหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “ตักบาตรเชียงใหม่  ช่วยภัยน้ำท่วม” บนถนนสายบุญ สายวัฒนธรรม จังหวัดเชียงใหม่ขึ้นในวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2554 เวลา 06.00 – 08.00 น. บริเวณหน้าสวนรุกขชาติ ถนนศรีวิชัย – ห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพระสงฆ์ 499 รูป  เดินเคลื่อนขบวนรับบาตรเริ่มจากลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เคลื่อนไปตามเส้นทางผ่านสวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสุขภาพห้วยแก้ว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จากนั้นวนกลับที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเชิญชวนผู้ร่วมตักบาตรแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนา บนถนนสายบุญ สายวัฒนธรรม


ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวว่า  สิ่งของที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม “ตักบาตรเชียงใหม่ ช่วยภัยน้ำท่วม” จังหวัดเชียงใหม่จะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และ ภาคกลางต่อไป นอกจากนั้นยังเป็นการอนุรักษ์ประเพณีตักบาตรแบบล้านนา เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และเพื่อส่งเสริมความปรองดองและการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างพี่น้องชาวไทยด้วยกัน ซึ่งได้กำหนดปล่อยคาราวานรถบรรทุกสิ่งของที่ได้จากกิจกรรมดังกล่าวเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในวันที่ 23 ตุลาคม 2554 เวลา 09.00 น. ณ ด้านหน้าอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่  จึงขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ร่วมทำบุญตักบาตรในครั้งนี้โดยพร้อมกัน

ข่าว ; สมาคมนักธุรกิจไทยจีนเชียงใหม่ มอบเงินช่วยผู้ประสบอุทกภัย

สมาคมนักธุรกิจไทยจีนเชียงใหม่ มอบเงิน 1 ล้านบาทให้จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งเชิญชวนชาวเชียงใหม่ร่วมบริจาค ณ มูลนิธิเชียงใหม่สามัคคีการกุศล

นางสมศรี ศรีมนัส  อุปนายก คนที่ 1 สมาคมนักธุรกิจไทยจีนเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยนับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายจังหวัด หลายพื้นที่ ต้องจมอยู่ใต้บาดาล เป็นเหตุเกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนไร้ที่อยู่อาศัย ขาดที่ทำกิน  ขาดเครื่องอุปโภค บริโภคในการดำรงชีวิตในปัจจุบัน  ในขณะที่หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งสมาคมนักธุรกิจไทยจีนเชียงใหม่ ก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ได้มีการระดมทุนจากชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเงิน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยกำหนดจัดพิธีส่งมอบให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล ในวันที่ 19 ตุลาคม 2554 เวลา 11.00 น. ณ มูลนิธิเชียงใหม่สามัคคีการกุศล ถนนลอยเคราะห์ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง เชียงใหม่

อุปนายก คนที่ 1 สมาคมนักธุรกิจไทยจีนเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อให้ประชาชนชาวเชียงใหม่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ด้วย จึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยติดต่อร่วมบริจาคได้ที่มูลนิธิเชียงใหม่สามัคคีการกุศล ถนนลอยเคราะห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่  ภายในเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2554 เพื่อทางสมาคม ฯ จะได้ส่งมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในโอกาสเดียวกันต่อไป

ข่าว ; ประชุมเตรียมพิธีเปิดงาน สรรค์ศิลป์ ถิ่นท่ากาน ที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่จัดการประชุมเตรียมการรับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เสด็จทรงเป็นประธานเปิดงาน สรรค์ศิลป์ ถิ่นท่ากาน ในเดือนพฤศจิกายน 2554 นี้

ที่โบราณสถานเวียงท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่  หม่อมหลวงปนัดดา ศิลกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมเตรียมการจัดงาน สรรค์ศิลป์ ถิ่นท่ากาน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 7 พฤศจิกายน 2554 และได้ขอประทานกราบทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จทรงเป็นประธานเปิดงาน ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 เวลา 18.30 น. พร้อมพิธีปล่อยโคมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 585 โคม

ตามที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงมีพระดำริในการจัดงาน สรรค์ศิลป์ ถิ่นท่ากาน  เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา และเพื่อประชาสัมพันธ์เวียงท่ากานให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ภายในงานมีกิจกรรมสำคัญอย่างหลากหลาย เช่น การจัดนิทรรศการมีชีวิต จัดแสดงโบราณวัตถุล้ำค่าเวียงท่ากานที่มีอายุกว่า 1,000 การแข่งขันประกวดภาพถ่าย  One Shot Knockout ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การอบรมการอนุรักษ์โบราณสถาน และแข่งขันประกวดถ่ายภาพระดับเยาวชนในท้องถิ่น เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการดูแลรักษาและอนุรักษ์โบราณสถานให้อยู่คู่กับชุมชนสืบไป โดยเปิดรับสมัครเยาวชนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้ารับอบรมจำนวน100 คน

ข่าว ; มหาวิทยาลัยพายัพ จัดฟรีคอนเสิร์ตช่วยผู้ประสบอุทกภัย


มหาวิทยาลัยพายัพ สถาบันคริสเตียนนิเทศสัมพันธ์ ชมรมศิษย์เก่าดุริยศิลป์ ร่วมกับหน่วยงานพัฒนาและบริการสังคม สภาคริสตจักรในประเทศไทย และ วงมงฟอร์ต สตริงออเครสตร้า กำหนดจัดการแสดงฟรีคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อผู้ประสบอุทกภัยในประเทศไทย ในชื่องาน StagE Flood “เวทีดนตรี เพื่อน้องพี่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ในวันศุกร์์ ที่ 21 ตุลาคม 2554 เวลา 18:00 - 21:30 น. ณ โรงละครกลางแจ้ง C.C.I. มหาวิทยาลัยพายัพ เขตแก้วนวรัฐ(ตรงข้ามโรงพยาบาลแมคคอร์มิค)


คณะกรรมการจัดงานจึงขอเชิญชาวเชียงใหม่มาร่วมทุกข์ ร่วมสุข กับพี่น้องร่วมชาติของเรา ผ่านท่วงทำนองแห่งความรักและความห่วงใย...โดย วง Montfort String Orchestra และแขกรับเชิญ ชาย ตะเกียง (เจ้าของเพลง “จากเพื่อนถึงเพื่อน”)  ปุ้ม riverside นพ cottage เอ้ รงค์ สุภารัตน์(เจ้าของเพลง “ห้องสุดท้าย”) บุ๊ค คีตวัฒนะ ,นายไปรษณีย์, วงทิพย์, เก่ง-อัด-แมว, อ.มนูญ พลอยประดับ คุณแม่น้อย (แม่ของ โซ่ etc.) และ ปิง am:pm (นักแต่งเพลงชื่อดังและเจ้าของบทเพลง “งามแต้ แม่ปิง”) และ ศิลปินรับเชิญอีกมากมาย โดยผู้เข้าร่วมชมการแสดงครั้งนี้ไม่ต้องเสียบัตรผ่านประตูหรือเสียค่าใช้จ่ายใดๆ


ทั้งนี้ ภายในงานจะเปิดรับบริจาคเิงินและสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค โดยรายได้และสิ่งของบริจาคจากการจัดคอนเสิร์ตทั้งหมด จะนำไปมอบให้ หน่วยงานพัฒนาและบริการสังคม สภาคริสตจักรในประเทศไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทยต่อไป


ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณนภัส ไชยสถาน  โทร. 083-2083836

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; ศูนย์ภาษา ม.ราชภัฏเชียงใหม่จัดอบรมภาษาต่างประเทศระยะสั้น

ผศ.สุชานาฎ  สิตานุรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะความรู้ทางภาษาต่างประเทศ ให้แก่คณาจารย์ นักศึกษา บุคลากร และบุคคลทั่วไป ศูนย์ภาษา สถาบันภาษาฯ ได้จัดการอบรมหลักสูตรภาษาต่างประเทศ ระยะสั้น 20 ชั่วโมง ได้แก่ หลักสูตรการพูดภาษาอังกฤษ ระดับ 1 เรียนวันจันทร์ เวลา 18.00-20.00 น. หลักสูตรภาษาจีน ระดับ 2  เรียนวันอังคาร เวลา 18.00-20.00 น. หลักสูตรการเขียนภาษาอังกฤษเบื้องต้น  ระดับ 1 เรียนวันพุธ เวลา 18.00-20.00 น. หลักสูตรภาษาเกาหลี ระดับ 2 เรียนวันพุธ เวลา 18.00-20.00 น. หลักสูตรการฟังภาษาอังกฤษ ระดับ 1 เรียนวันพฤหัสบดี เวลา 18.00-20.00 น. หลักสูตรการอ่านภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ระดับ 1 กลุ่ม 1 เรียนวันศุกร์  เวลา 18.00-20.00 น. หลักสูตรภาษาญี่ปุ่น ระดับ 2 เรียนวันศุกร์ เวลา 18.00-20.00 น. หลักสูตรการอ่านภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ระดับ 1 กลุ่ม 2 เรียนวันเสาร์ เวลา 09.00-12.00 น. และหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับการเตรียมตัวสอบ TOEIC เรียนวันเสาร์ เวลา 13.00-16.00 น.

ผู้สนใจสามารถสมัครหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ภาษา สถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม ชั้น 4 อาคารราชภัฏเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-885867 ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554

ข่าว ; เทศกาลบอลลูนนานาชาติ ครั้งที่ 5 Thailand International Balloon Festival 2011

บริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด จับมือกับโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย พร้อมทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานแถลงข่าวเปิดงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครั้งที่ 5 Thailand International Balloon Festival 2011 (TIBF2011) ชมหมู่บอลลูนยักษ์หลากสีสันลอยละล่องตามลำน้ำปิง เหนือเมืองเชียงใหม่  พร้อมการแสดงโชว์ชุดพิเศษของบอลลูนจิ๋วสะท้อนแสง ในรูปแบบงาน “Glow Night & Festival of Light” ระหว่าง 25-27 พฤศจิกายน 2554 ณ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่
                   
คณะผู้จัดงานและผู้สนับสนุนหลัก ได้แก่ คุณยุทธ วาณิชชานนท์ นักบินบอลลูนอากาศร้อนและผู้ริเริ่มเทศกาลบอลลูนนานาชาติ ร่วมกับคุณสเปญ จริงเข้าใจ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย และ นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  พร้อมด้วยองค์กรผู้สนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีคุณนันท์นภัส ไกรนรา ประธานบริษัท เอิร์ท วินท์ แอนด์ ไฟร์ นำทีมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ในงานเดียวกัน ได้มีพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดภาพถ่ายเทศกาลบอลลูนนานาชาติประจำปี 2553 โดยผู้ที่รับรางวัลที่1 ได้แก่นายปกรณ์ ชุณหสวัสดิกุล รางวัลที่2 ได้แก่นายอัครายชญ์  เพ็ชร์อำไพ รางวัลที่ 3 ได้แก่นายสุริยา ผลาหาญ และรางวัลชมเชยอีก 10 รางวัล

คุณยุทธ วาณิชชานนท์ ผู้ริเริ่มธุรกิจสร้างสรรค์และการบริหารจัดการเทศกาลนานาชาติ ทีปรึกษา บริษัทเอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด  เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นสร้างสรรค์การจัดงานในรูปแบบ “Festival of Light” ที่จังหวัดเชียงใหม่และมุ่งหวังให้เป็นหนึ่งเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและน่าติดตามชมทุกๆปี เราเชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะมาร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเป็นหนึ่งงานเทศกาลที่สามารถสร้างความประทับใจสู่สายตานานาชาติ

ผู้เข้าชมงานจะได้ตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมภายในงาน อาทิ การปล่อยบอลลูนในช่วงเช้าตรู่ (6.00-7.00 น.) เนื่องจากสภาพอากาศตอนเช้าเหมาะสมที่สุดในการปล่อยบอลลูน รวมทั้งการแททเทอริ่งบอลลูน หรือการลอยบอลลูนขึ้นชมวิวในอากาศ การแสดงแสง สี เสียงในยามค่ำคืน ในรูปแบบงาน “Glow Night & Festival of Light” รวมทั้งการแสดงดุริยางค์โยธวาธิต และการแสดงสุดพิเศษของแสงไฟพร้อมกับเสียงดนตรี “Animated Light Show” พร้อมร่วมสนุกภายในงาน กับการแต่งกายในธีม "สะท้อนแสง-Illuminated โดยงานนี้บุคคลทั่วไปและนักท่องเที่ยวสามารถเข้างานได้โดยเสีย

คุณสเปญ จริงเข้าใจ ผู้จัดการ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยได้เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนถือได้ว่าเป็นสถานศึกษาที่มีคุณภาพระดับสากล รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะมีโอกาสร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดงานระดับประเทศครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับทางนโยบายหลักของโรงเรียนที่มุ่งเน้นให้เยาวชนจัดกิจกรรมความรู้เพื่อเสริมและพัฒนาทักษะของแต่ละบุคคล ได้เล็งเห็นประโยชน์ของการจัดงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ ประเทศไทย ครั้งที่ 5 อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้คนในครอบครัวมาร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน ส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่เกิดแรงบันดาลใจและเกิดจินตนาการจากการชมและสัมผัสกับบอลลูนหลากสีสัน อีกทั้งภูมิใจที่นำเสนอ อาคารท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นครั้งแรกที่เปิดให้เข้าชม กลุ่มอาคารเก่าที่ประดับประดาด้วยแสงไฟสว่างไสว ซึ่งได้รับรางวัลพระราชทานโล่เกียรติยศจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นอาคารอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ประจำปี 2549

นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.) กล่าวในโอกาสเดียวกันว่า  เทศกาลบอลลูนนานาชาติครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมระดับนานาชาติที่ช่วยส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในช่วงของ High Season ถือเป็นโอกาสดีที่จะประชาสัมพันธ์เรื่องของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ของประเทศ พร้อมกับดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น เทศกาลบอลลูนถือว่าเป็นกิจกรรมที่ ททท. ให้ความสนับสนุนตลอดมา เนื่องจากเห็นถึงความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของคณะผู้จัดงาน โดยแต่ละปีของการจัดงานผู้จัดงานจะสรรหากิจกรรมในรูปแบบที่หลากหลาย ดึงจุดเด่นของสถานที่นั้นๆให้เป็นที่จดจำของชาวต่างชาติและชาวไทย โดยทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักท่องเที่ยวทุกคนมีส่วนช่วยสร้างสานสัมพันธ์กัน และเกิดความประทับใจและภาคภูมิใจว่ามีส่วนช่วยกันสร้างสิ่งที่ดีให้กับประเทศจากนี้ไป
Thailand International Balloon Festival 2011 จัดขึ้นโดยบริษัท เอิร์ท วินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด ร่วมกับโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้วยความสนับสนุนของ เทศบาลนครเชียงใหม่ ทรู คอร์ปอเรชันส์ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด บริษัท เทสโก้ คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด สายการบินเอทิฮัด บริษัท จี4เอส ซีเคียวริตี้ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ฮาเวลส์ ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในเครือเบทาโกร Wall Ice- cream ร่วมทั้งการออกบูธจำหน่ายสินค้า อาหารและเครื่องดื่มจากโรงแรมชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งส่วนลดที่พักราคาพิเศษจาก โรงแรม เซนทารา ดวงตะวัน เชียงใหม่,โรงแรม คุ้มพระยา รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่โรงแรม เลอ เมอร์ริเดียน เชียงใหม่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่ โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่             โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส เชียงใหม่ โรงแรม อิมพีเรียล แม่ปิง และโรงแรม แมนดาริน โอเรียลเต็ล ดาราเทวี เชียงใหม่ รวมทั้งสื่อพันธมิตรที่ให้การสนับสนุน ได้แก่ นิตยสารและทีวีในเครือ Honeymoon & Travel นิตยสาร WhO? นิตยสารเที่ยวรอบโลก นิตยสาร Go Barefoot  ZIZZEE.COM และ Le Petit Journal 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ : บริษัท ฟุล เฮ้าส์ พีอาร์ ลิงซ์ จำกัด


ศิริ  เศรษฐโกมุท (หมู)                                        Managing Director
โทร 089 191 6495                                              E-mail : moosiri@gmail.com
เเฟ็กซ์ (053) 216-505


นันทพล  เจริญภักดี (ตู่)                                     Executive Director
โทร 081 9251715                                               E-mail : nanthapolc@hotmail.com
เเฟ็กซ์ (053) 216-505 

*****************************


Taste the first chilly breeze of winter amidst big balloons in Chiang Mai at the 5th Thailand International Balloon Festival 2011

Earth Wind and Fire Company is teaming up with The Prince Royal’s College and the Tourism Authority of Thailand in launching the biggest balloon festival in Thailand, the 5th Thailand International Balloon Festival 2011 (TIBF2011). Be mesmerized by a myriad of colorful balloons drifting along the Ping River, the vein of Chiang Mai. Be even more mesmerized with glow-in-the-dark mini balloons in the “Glow Night & Festival of Light” from November 25 to 27, 2011 at Prince Royal’s College. 
                          
Bangkok – At Meeting Room 1, 10th Floor of TAT’s Head Office, the press conference of the event will be honored by the organizer, main sponsors and invited guests such as hot air balloon pilot and festival pioneer Yut Wanichanond, Spain Jingkaojai of The Prince Royal’s College and Vilaiwan Twichasri, the Deputy Governor for Tourism Products and Business of the Tourism Authority of Thailand (TAT). Apart from these, there will be other honorable guests from the public and private sectors, welcomed by Nannapas Krainara, Earth Wind and Fire Company's Managing Director. At the event, awards will be presented to the winners of the TIBF 2010 photography contest. The first, second and third prize winners are Pakorn Chunhasawasdikul, Akkarat Petampai and Suriya Palahan respectively. Ten consolation prizes will also be given out at the event.
 
Yut Wanichanond, who created and managed this international event and is Earth Wind and Fire’s consultant, said: “This event is the initiation of the “Festival of Light” in Chiang Mai, and it is aimed to be one of the most spectacular must-see events of the year. I am confident that a large number of Thai and foreign visitors will show interest in the festival. This is one of the events recognized on an international level.”

He also added, “Participants will be awed and entertained by the activities in the festival, such as the early morning balloon launch (6-7am) since the morning weather is the best for flying balloons, as well as balloon tethering . At night, there will be light and sound spectacular performances in “Glow Night & Festival of Light” as well as marching band performances and light & sound show “Animated Light Show”. Don’t forget to dress up to match the “Illuminated” theme.

Meanwhile, Spain Jingkaojai Manager of The Prince Royal’s College said, “To confirm our school’s international standard, it is an honor to be the host of this international event, which is in line with the school’s policy to encourage creativity and individual skills development. We see the importance of the 5th Thailand International Balloon Festival 2011, as it is also a place for families to spend time together. Children can come and get inspiration and source of imagination by seeing these creative balloons. Another highlight is the biggest planetarium, which will be open for the first time. Old buildings will be illuminated with beautiful lights. These buildings have been awarded an honorary plaque from H.R.H. Princess Maha Chakri Sirindhorn for architectural art preservation in 2006.”

Vilaiwan Twichasri, the Deputy Governor for Tourism Products and Business of the Tourism Authority of Thailand (TAT) said, “This event marks the first time an international balloon festival is held in Chiang Mai. It will coincide with the high season, which is a good time for promoting Chiang Mai’s tourism and creative economy. It will attract both local and foreign visitors, and TAT has always supported the Balloon Festival. We’ve seen the dedication and determination of the organizer in each year’s event. The activities were various and the highlights of each place were brought out to attract visitors. We hope that everyone will come and take part in this impressive event and make a good impression on other visitors as well.”
           
Thailand International Balloon Festival 2011 is organized by Earth Wind and Fire Company together with The Prince Royal’s College, Chiang Mai Municipality and Tourism Authority of Thailand (TAT). The event is sponsored by True Corporations, Krungsriayudhya Card Company Limited, Tesco Card Services Ltd., Etihad Airways, Nok Airlines Co., Ltd., G4S Security Service (Thailand), Havells Sylvania (Thailand), Betagro affiliates, and Walls Ice-Cream. Food and drink booths are sponsored by leading hotels in Chiang Mai, and special promotion for accommodation is sponsored by Centara Duangtawan Chiang Mai, Khum Phaya Resort & Spa Chiang Mai, Le Meridien Chiang Mai, Holiday Inn Chiang Mai, Dusit D2 Chiang Mai, Royal Princess Chiang Mai, Imperial Mae Ping and Mandarin Oriental Dhara Dhevi Chiang Mai. Media partners are Honeymoon & Travel Group, WhO? Magazine, Travel Around the World – Go Barefoot, ZIZZEE.COM and Le Petit Journal.

# # # # # # # # # #

For further information, please contact: Full House PR Lynx Company Limited
Siri Setthakomoot (Moo)
Tel: 08-9191-6495; 08-4611-6850; Fax: (053) 216- 505
E-mail: fullhouseprlynx@gmail.com
Nanthapol Charoenpakdi (Tu)
Tel: 08-1925-1715; Fax: (053) 216-505          E-mail: nanthapolc@hotmail.com

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; มหากฐินอาจารย์วารินทร์ทอด 14 วัด ศิษย์ปู่ทวดเกวลันร่วมถวาย

เมื่อบ่ายวันที่ 15 ตุลาคม 2554 ที่วิหารปู่ทวดเกวลัน หมู่บ้านสุขิโต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ร่วมกับคณะศิษย์ได้ประกอบพิธีสมโภชองค์มหากฐิน 14 กอง เพื่อนำไปถวายวัดต่าง ๆใน อ.เมืองเชียงใหม่ ดังนี้ 1. พล.อ.อ.ชลิต-ผศ.ดร.พรทิพย์ พุกผาสุก นำไปทอดถวายวัดอินทขีลสะดือเมือง พล.ท.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองเสนาธิการทหารบก นำไปทอดถวายวัดศรีดอนไชย พล.ร.ต.สุรพล-นางณัฐชยา คุปตะพันธ์ ผบ.ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ นำไปทอดวัดพันเตา นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร และนายสุนทร โนราส บ.ขนส่ง จก. นำไปทอดวัดบุพพาราม นายสุชาติ โชว์วิวัฒนา นางพิมพ์เพ็ญ พงษ์ขจรธน บ.สิทธิราช จก. ทอดถวายวัดโลกโมฬี นางคัทลียา แสงศาตรา บ.ไดนาสตี้เซรามิคฯ ทอดวัดปิยาราม

นายสพสันต์ พัฒนชัย นางนิ่มนวล วัฒนะเพ็ญไพบูลย์ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำและคุ้มภูคำ นำไปทอดถวายวัดดอนชัย ต.ป่าแดด นายชนะชัย ลีนะบรรจง บ.อีเอ็มซี.(มหาชน) ทอดถวายวัดล่ามช้าง ดร.มรกต-ดร.ฉัตรทิพย์ และ ดร.กิตติพัฒน์ สุวรรณชิน มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น ทอดถวายวัดยางกวง พ.ต.อ.อรรถสิทธิ์ จิตรพันธ์ รอง ผบก.ภ.กำแพงเพชร ทอดถวายวัดฟ้าฮ่าม นายสำราญ จิตต์ดำรง และคณะมี ภารดี นิศามณีวงศ์  รัชนีวรรณ จิตต์ดำรง และรัชฎา แสนเรือง ถวายวัดพระเจ้าเม็งราย รศ.กิติ-นางกรรณิการ์ สินธุเสก ผู้แทนโดยนางจีรนัย สินทอง ถวายวัดลังกา นายภาณุพันธ์ ตรัยวัฒนา นางพรรณทิพา ทองจินดาวงศ์ และ ดร.อนพัทย์ ตรัยวัฒนา บ.บราเดอร์อินเตอร์เนชั่นแนลฯ และบริษัทวิภาวดีรังสิตโฮเต็ล ถวายวัดป่าพร้าวนอก ส่วนอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ และคณะวิหารหลวงปู่นำถวายไปถวายวัดวังสิงห์คำ ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่พร้อมพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งหน้าตัก 159 นิ้ว สำหรับปัจจัยยอดองค์กฐินแต่ละวัดเป็นเงินสดวัดละ 300,000 บาท เป็นเครื่องอัฐบริขารและบริวารองค์กฐินวัดละ 50,000 บาท.

บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์ …….ข่าว/ภาพ

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; เชียงใหม่รับมอบเงินพระราชทานช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล   ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำหัวหน้าส่วนราชการ และ ประชาชนชาวเชียงใหม่ ประกอบพิธีรับพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อนำไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ราษฎรชาวจังหวัดเชียงใหม่ที่ประสบอุทกภัย เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท

จากสถานการณ์อุทกภัยน้ำป่าไหลหลากขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่   ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของพายุนกเตน พายุไห่ถาง และ พายุเนสาด ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2554 เป็นต้นมา ส่งผลให้ราษฎรในพื้นที่ทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ที่อยู่ชนบทห่างไกล จนถึงพื้นที่ชุมชนเมืองได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะ ย่านไนท์บาซ่า ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ได้รับความเสียหายจำนวนมาก  มีราษฎรเสียชีวิต   สูญหาย   ราษฎรได้รับความเดือดร้อนบ้านเรือนพังเสียหาย   พืชผลทางการเกษตร  สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน และสะพานได้รับความเสียหายหลายแห่ง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ที่ประสบอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากโดยมิทันได้ตั้งตัว จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์พระราชทานเป็นจำนวนเงิน 100,000  บาท แด่หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่   เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ได้พระราชทานถุงยังชีพช่วยเหลือราษฎรจังหวัดเชียงใหม่   ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณแก่ราษฎรชาวจังหวัดเชียงใหม่อย่างหาที่สุดมิได้ 

รายงาน ; สืบชาตาประเทศไทยพ้นภัยพิบัติ วัดดอนจั่น...บูชาเสด็จพ่อ ร.5 คุ้มครอง

ภัยพิบัติประเทศไทย พ.ศ. 2554 รุนแรงเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องจากน้ำเหนือไหลบ่าท่วมทุกจังหวัด ก่อนไหลลงสู่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง อันเป็นพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำของเมืองไทย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พระครูปราโมทย์ประชานุกุล หรือพระอาจารย์อานันท์ อนันโท เจ้าอาวาสวัดดอนจั่น อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า อุทกภัยปีนี้เทียบความสูญเสียไม่ได้เลยกับอดีตที่ผ่านมา เพราะยุคสมัยปัจจุบันความหายนะเกิดขึ้นมากมาย และเป็นผลกระทบทั้งด้านทรัพย์สิน ชีวิตผู้คน การดำเนินวิถีชีวิตไม่ได้ตามปกติ จากที่กระทรวงมหาดไทยแถลงล่าสุดยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 26 จังหวัด ตั้งแต่สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ร้อยเอ็ด กำแพงเพชร ตาก และราชบุรี 187 อำเภอ 1,364 ตำบล 10,344 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 766,267 ครัวเรือน 2,230,016 คน และมีผู้เสียชีวิต 281 ราย สูญหาย 2 คน

วัดดอนจั่น ในฐานะหน่วยหนึ่งของสังคมไทยตระหนักถึงภัยพิบัติดังกล่าวว่าสามารถจะร่วมคลี่คลายด้วยพลังจิตแห่งการเจริญพระพุทธมนต์ สืบชาตาหลวงตามแบบอย่างประเพณีพื้นเมืองเหนือ จึงจะร่วมกันประกอบพิธีนี้ในวันปิยมหาราช พร้อมไปกับการบูชาพระมหากรุณาธิคุณ พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเอ่ยพระนามจนคุ้นว่า เสด็จพ่อ ร.5 ในวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมนี้ เพื่อขอบารมีพระองค์ท่านคุ้มครองปวงชนชาวไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตอันยากลำบากอยู่ในขณะนี้

พระครูปราโมทย์ประชานุกุล กล่าวว่า ปกติทุกปีวัดดอนจั่นประกอบพิธีบูชา เสด็จพ่อ ร. 5 และทำบุญในโอกาสสำคัญถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ปีนี้มีเหตุเภทภัยมากจึงประกอบพิธีสืบชาตาประเทศไทย ขณะที่ญาติโยมผู้มาทำบุญก็จะได้อานิสงส์สองต่อ คือได้ทำบุญ ได้ช่วยแผ่พลังจิตร่วมกันไปสู่พี่น้องคนไทยที่กำลังทุกข์ยาก อีกทางหนึ่งปัจจัย และสิ่งของที่นำมาร่วมกันถวายวัด ก็จะช่วยเหลือยังชีพแก่เยาวชนในวัด ซึ่งมีทั้งหมดถึง 750 คน ซึ่งเป็นเด็กกำพร้า เด็กชาวเขาที่มาอยู่กิน และเรียนหนังสือตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม มัธยมศึกษาจนถึงระดับอาชีวศึกษา และระดับปริญญาตรี ซึ่งที่วัดดอนจั่นเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ของกรมอาชีวศึกษา และเป็นสาขาหนึ่งของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่

ปกติที่วัดดอนจั่นมีการรับบริจาคข้าวสาร น้ำมันพืช หมูสด-ไก่สด-ไข่ ผักทุกชนิด  เช่น ผักกาดขาวปลี  กะหล่ำ  มาม่า-ปลากระป๋อง สบู่ยา-สีฟัน-ผงซักฟอก อุปกรณ์การศึกษา เช่น สมุด ดินสอฯลฯ เพื่อช่วยโครงการเด็กกำพร้าวัดดอนจั่น  ที่กินนอน และเรียนตามอย่างวิถีพุทธจำนวนมาก มีค่าใช้จ่ายเฉพาะอาหารถึงวันละ 7,000 บาท บางวันมีผู้มารับเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหาร 1-2 หรือ 3 มื้อ ไม่รวมเสื้อผ้า ของใช้จำเป็นอื่น ๆ

ที่นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เมื่อวัดดอนจั่นได้รับพระราชทานทรัพย์จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อการเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่เด็กกำพร้าเดือนละ 100,000 บาท และเมื่อเร็วๆ นี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ก็เสด็จมาที่วัดดอนจั่น และทรงปวารณาเป็นเจ้าภาพประทานอาหารแก่เด็กกำพร้า 3 มื้อเดือนละ 3 ครั้ง 

นอกจากนั้น ยังได้รับการอุปถัมภ์จากญาติโยมที่ใจบุญสร้างอาคารเรียนเพิ่มขึ้นอีก 3 หลังมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาทได้แก่โยมพ่อวัฒนา อัศวเหม โยมวิญญู คุวานนท์ (โคว้ยู่ฮะ) และโยมสมศักดิ์ จิตติพลังศรี บริษัทไซโจเดนจิฯ ซึ่งต้นปี 2554 จะประกอบพิธีเปิดอาคาเรียนอย่างเป็นทางการ

สำหรับพิธีทำบุญถวายสมเด็จพระปิยมหาราช พร้อมพิธีสืบชาตาเสริมบารมีประเทศไทย ในวันปิยมหาราชที่ 23 ตุลาคม 2554 ณ วัดดอนจั่น กำหนดขึ้นสองวัน  22-23 ตุลาคม วัดดอนจั่นรับบริจาคดอกกุหลาบ สีแดงสีขาวสีชมพูจำนวนหลายหมื่นดอก ตลอดทั้งวัน วันที่ 23 ตุลาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 07.45 น. มีการทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 21 รูป เวลา 10.00 น. พิธีสืบชาตาประเทศไทย   พิธีสืบชาตาเสริมบารมีผู้เข้าร่วมพิธี  ส่วนเวลา 19.49 น. คณาจารย์จะประกอบพิธีเทวาภิเสก พระร่วง ผู้มีวาจาสิทธิ์ และพระพิฆเณศ เพื่อมอบให้แก่ศรัทธาประชาชนที่ร่วมทำบุญช่วยการศึกษา และเลี้ยงดูเด็กกำพร้า

พระครูปราโมทย์ประชานุกูล ก่อตั้งโครงการเพื่อการศึกษาเด็กด้อยโอกาส เด็กยากจน และเด็กกำพร้า มานานกว่า 25 ปี รับอุปการะเลี้ยงดู และให้การศึกษาแก่เด็กจาก 13 จังหวัดในภาคเหนือ จนเป็นความหวังของพ่อแม่ที่ยากจน และไร้ที่พึ่งบางคนนำลูกมาฝากทั้งน้ำตา เพราะหมดหนทาง แต่พระครูปราโมทย์ประชานุกุล ถือว่าเด็กทุกคนควรได้รับการดูแล ให้มีที่อยู่อันอบอุ่น มีอาหาร 3 มื้อรับประทาน และที่สำคัญได้เรียนหนังสือ ใครเรียนเก่งก็เรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย ใครอยากเรียนอาชีวศึกษาก็เรียน ขณะนี้จบไปทำงานแล้วกว่า 1,250 คน ทุกคนถูกหล่อหลอมให้เป็นคนดี รู้จักสัมมาคารวะ ขยันทำวัตรสวดมนต์ และฝึกบริการสังคมตั้งแต่เด็กๆ ท่านที่อยากทำบุญได้อานิสงส์สองต่อ สอบถามรายละเอียดที่วัดดอนจั่น 053-240184
                                                                                                                                                                บุณย์ มหาฤทธิ์ เรื่อง/ภาพ.