ข่าว ; เชียงใหม่ก่อนสิ้นปีมีผู้เจ็บตายจากอุบัติเหตุอันดับ 2 ของประเทศ

อุบัติเหตุทางถนนเชียงใหม่มีตายแล้ว 6 คน จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นอันดับ 2 ของประเทศ จังหวัดสั่งเพิ่มความเข้มกวดขัน เตือน ปรามผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงโดยเฉพาะในชุมชนหมู่บ้าน 

วันที่ 31 ธันวาคม 2559 เวลา 10.00 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 จังหวัดเชียงใหม่ ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามและเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเฝ้าระวัง 7 วันอันตราย โดยมีการสรุปสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2559 เกิดอุบัติเหตุ 30 ครั้ง มากกว่าปี 2559 จำนวน 16 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ (Admit) จำนวน 31 คน (ชาย 25 คน หญิง 6 คน) มากกว่าปี 2559 จำนวน 18 คน มีผู้เสียชีวิต 4 คน เป็นชายทั้งหมด จากพื้นที่อำเภอเชียงดาว แม่แตง แม่ริม และจอมทอง ส่วนประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุ คือ รถจักรยานยนต์ รถปิคอัพ และรถเก๋ง โดยมีสาเหตุหลักมาจากขับรถเร็วเกินกำหนด เมาสุรา และตัดหน้ากระชั้นชิด

สำหรับสถิติโดยสรุป 2 วันของการเฝ้าระวังอุบัติเหตุทางถนน จังหวัดเชียงใหม่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน มากกว่า ปี 2559 จำนวน 2 คน อุบัติเหตุสะสม 51 ครั้ง ผู้ได้รับบาดเจ็บ 52 คน ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในอำเภอที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยจะเกิดในหมู่บ้านชุมชนมากที่สุด และสาเหตุหลักมาจากเมาสุรา ทำให้สถิติโดยรวมสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากจังหวัดอุดรธานี

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า แม้จังหวัดเชียงใหม่จะมีคำสั่งพร้อมทั้งขอความร่วมมือในการเฝ้าระวัง อำนวยความสะดวก โดยเฉพาะ 5 ดอย และจุดท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงให้ใช้มาตรการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด โดยตั้งด่านตรวจ จุดตรวจบนถนนสายหลัก 49 จุด ใช้เจ้าหน้าที่ประจำจุด 1,483 คน ด่านตรวจชุมชน 2,066 แห่ง และจุดตรวจร่วมถนนสายรองและใช้กำลังอาสาสมัครร่วมปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง จึงได้สั่งให้นายอำเภอและผู้กำกับการตำรวจภูธรทุกแห่ง กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำท้องถิ่นให้เพิ่มความเข้มในการตรวจจับยานพาหนะและผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะวันส่งท้ายปี ขณะเดียวกันให้นำคำสั่ง คสช.ที่46/2558  มาใช้บังคับใช้อย่างเคร่งครัด

ทางด้านนายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยจะส่งเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์มาให้เชียงใหม่เพิ่มอีก 31 เครื่อง เพื่อจะได้กวดขันในการตรวจวัดโดยเฉพาะผู้ที่ดื่มตามร้านเหล้าตองข้างทาง และให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเร่งกวดขัน ตักเตือนและปรามผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงในชุมชนเพิ่มขึ้นอีกด้วย

**********************

ข่าว ; นักท่องเที่ยวขึ้นแม่กำปองหนาแน่น ส่งผลรถติดยาวหลายกิโลเมตร

รายงานข่าวจากบ้านแม่กำปอง ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ช่วงบ่ายวันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะหลายคนเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว รวมแล้วทำให้มีรถยนต์จำนวนหลายร้อยคันที่เดินทางตามเส้นทางสายดังกล่าว ทำให้ถนนสายห้วยแก้ว - แม่กำปอง มีรถติดยาวโดยเฉพาะช่วงก่อนถึงบ้านแม่กำปองประมาณ 3-4 กิโลเมตรมีรถติดหนาแน่นจนแทบไม่สามารถขยับได้ ประกอบกับถนนสายดังกล่าวไม่ความกว้างเพียงรถวิ่งสวนทางกันได้เท่านั้น ทำให้การจราจรยิ่งติดขัดอย่างชัดเจน ทางอำเภอแม่ออนต้องจัดเจ้าหน้าที่รวมกับเจ้าหน้าที่ของตำบลห้วยแก้ว ออกอำนวยการจราจรเพื่อแก้ไขปัญหาแก่นักท่องเที่ยวรวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ต้องการสัญจรบนเส้นทางสายดังกล่าว

สำหรับบ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่ห่างจากตัว อ.แม่ออน 20 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่กลางขุนเขา มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีลำธารไหลผ่านหมู่บ้าน และป่าไม้ที่สมบูรณ์สวยงาม ประชาชนชาวบ้านแม่กำปองมีอาชีพปลูกเมี่ยง ทำไร่ และทำสวนกาแฟ พร้อมทั้งยังร่วมกันรักษาความเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ทำให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชื่นชมความงดงามอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ

นอกจากนั้น ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงที่นักท่องเที่ยวสามารถสามารถเที่ยวชมได้ทั้งก่อนหรือหลังเข้าหมู่บ้านแม่กำปอง ประกอบด้วย หมู่บ้านทำกระดาษสาต้นเปา ศูนย์หัตถกรรมร่มบ่อสร้าง ถ้ำเมืองออน น้ำพุร้อนสันกำแพง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก และอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านแม่กำปอง 23 กิโลเมตร ในขณะที่บ้านแม่กำปองมีผลิตภัณฑ์ชุมชนสำหรับจำหน่ายแก่ผู้มาเยือนในราคาไม่แพง เช่น กาแฟสดอารบิก้า ชาเขียวใบเมี่ยง หมอนสมุนไพรใบชา สมุนไพรพื้นบ้าน น้ำผึ้งธรรมชาติ เครื่องจักสาน และเครื่องเรือนไม้ไผ่ ไม้ดอกไม้ประดับ และยังมีบริการนวดแผนโบราณและโฮมสเตย์อีกด้วย

*****************

ข่าว ; นักท่องเที่ยวแห่ส่งท้ายปีเก่าดอยอินทนนท์ร่วม 20,000 คนต่อวัน

นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศร่วม 20,000 คน ส่งท้ายปีเก่า 2559 ที่ดอยอินทนนท์ซึ่งเป็น 1 ในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ส่งผลให้การจราจรคับคั่งจนรถยนต์เคลื่อนตัวช้า เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังช่วยจัดการจราจรและช่วยแก้ปัญหารถติดหรือรถเสีย

นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ รายงานว่า ในวันที่ 30 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวจำนวน 17,585 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 16,883 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 702 คน โดยมียานพาหนะจำนวน 4,500 คัน ในขณะที่สภาพอากาศค่อนข้างเป็นใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสอากาศหนาว อุณหภูมิในตอนเช้า 6 องศาเซลเซียส ซึ่งจากการที่มีนักท่องเที่ยวและยานพาหนะเดินทางเข้าพื้นที่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรหนาแน่นและเคลื่อนตัวช้า และยังมียานพาหนะบางคันจอดเสียกลางทาง เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ต้องจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้รถยนต์สามารถเคลื่อนตัวได้ อีกทั้งคอยอำนวยความสะดวกสำหรับรถยนต์ที่จอดเสียกลาวงทางไม่ให้เป็นอุปสรรคแก่การเดินทางโดยรวม ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ จะมีนักท่องเที่ยวในพื้นที่ประมาณวันละ 20,000 คนอย่างต่อเนื่องแน่นอน

ทางด้านนายบัญชา รามศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน  รายงานว่า ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 จำนวนนักท่องเที่ยว รวม 4,285 คน ชาวไทย 4,185 คน ต่างชาติ 100 คน ในจำนวนนี้มีผู้พักค้างแรม 846 คน โดยเฉพาะที่จุดชมวิวกิ่วลมและลานกางเต๊นท์มีนักท่องเที่ยวคับคั่ง ส่งผลให้การจราจรบริเวณจุดชมวิวดอยกิ่วลมอยู่ในระดับติดขัดถึงติดขัดมาก ขณะที่สภาพอากาศโดยรวมท้องฟ้าเปิด มองเห็นทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอย่างสวยงามทั้งฝั่งอำเภอแม่แตงและอำเภอปาย สร้างความสุขแก่นักท่องเที่ยวที่ได้มาชมและถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนานแม้ว่าอากาศจะหนาวเย็น โดยอุณหภูมิต่ำสุด 8 องศาเซลเซียส

ส่วน พ.ต.อ.ฐาปนพงศ์ ชัยรังษี ผู้กำกับการกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตำรวจจราจรเชียงใหม่ก็ได้จัดกำลังออกปฏิบัติหน้าที่อำนวยนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางและด้านการจราจร พร้อมร่วมกิจกรรมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยกับภาคเอกชน ในการตอบแทนผู้ใช้รถใช้ถนนรักษาวินัยจราจรร่วมกันช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 นี้ และทางตำรวจจราจรได้นำป้ายไปติดตั้งแจ้งเตือนบริเวณปากทางขึ้นดอยสุเทพ รวมทั้งประกาศแผนผังการปิดเส้นทางบางจุดของการขึ้นลงดอยสุเทพเป็นเวลา เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้รับทราบและสามารถปฏิบัติได้ตามที่กำหนด

********************

ส.ปชส.เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

TV Online ; ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) เปิดสาขาเชียงใหม่ เป็นแห่งที่ 9 ในประเทศไทย

นาย เริ่น อี้ เซิน กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้บริหารระดับสูงทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมพิธีเปิดสาขาที่ 9 ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ที่โครงการบิสสิเนสปาร์ค ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

Link TV Online

ดูทีวีออนไลน์ คลิกที่นี่

หรือลิงค์ด้านล่าง

https://youtu.be/-wNIGPJLN1c

**********************

ข่าว ; รพ.มหาราชนครเชียงใหม่จัดพิธีทำบุญและทำทักษิณานุปทานประจำปี 2559

โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่  คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  จัดพิธีทำบุญโรงพยาบาลและทำบุญทักษิณานุปทาน  ประจำปี  2559  เพื่อเป็นสิริมงคลแก่องค์กร ตลอดจนสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากรสำหรับการเริ่มต้นทำงานในปี 2560 และเป็นการน้อมอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลตลอดปี 2559 โดยมีพระครูวิทิตศาสนาทร รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ให้ความเมตตาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เมื่อวันพุธที่ 28 ธันวาคม 2559 เวลา 08.45 น. ณ บริเวณหน้าห้องพระหลวงปู่แหวน อาคารสุจิณโณ

ผศ.นพ.นิสิต วรรธนัจฉริยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวว่า โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้จัดพิธีทำบุญบำเพ็ญกุศลแก่ผู้ล่วงลับไปแล้วเป็นประจำทุกปี เนื่องจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เป็นโรงพยาบาลส่วนภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ผู้ป่วยที่มารับบริการส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยหนักที่ได้รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลเครือข่ายตามจังหวัดต่างๆในภาคเหนือ ดังนั้นจึงได้จัดให้มีการทำบุญทักษิณานุปทานประจำปี 2559 เพื่อเป็นเกียรติให้กับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งในปี 2559 มีผู้เสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 2,259 คน ทั้งนี้ได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดพระสิงห์และวัดสวนดอก จำนวน 9 รูป ทำพิธีสูตรถอนวิญญาณของผู้ตายตามพิธีกรรมทางศาสนา นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีการทำบุญเพื่อเป็นการเริ่มต้นการทำงานในปี 2560 ให้เป็นสิริมงคลแก่องค์กร ตลอดจนสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากร สำหรับการเริ่มต้นทำงานในปี 2560 อีกด้วย

************************

ข่าว ; แม่ทัพน้อยที่ 3 หารือหน่วยงานรณรงค์ป้องกันไฟป่าและหมอกควัน

พล.ท.ธนา จารุวัต แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับภาค ส่วนหน้า ประชุมเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2560 ที่ จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและลำปาง รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมประชุม

แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวว่า ขณะนี้หลายจังหวัดได้เตรียมการเรื่องการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายภารกิจให้กองทัพน้อยที่ 3 ดำเนินภารกิจหลักในพื้นที่ 43 หมู่บ้าน โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่และมีเป้าหมายคล้ายๆกัน คือ เป็นพื้นที่ยาเสพติด ไฟป่าและหมอกควัน และพื้นที่ความมั่นคง โดยการแก้ปัญหาแบบบูรณาการ

สำหรับเรื่องปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นเรื่องเร่งด่วนระดับชาติ ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้รับคำชมจากหลายฝ่ายว่าสถานการณ์ไม่รุนแรงมากนักและมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งนี้ในปี 2560 จะต้องไม่ประมาท ต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์หรือเกิดน้อยที่สุด และถ้าไม่เกิดผลกระทบยิ่งจะส่งผลดีต่อหลายๆด้าน ดั้งนั้นทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกัน ซึ่งของกองทัพภาคที่ 3 ได้ดำเนินการจัดชุดรณรงค์ออกปฏิบัติการ จำนวน 14 ชุด ลงพื้นที่ร่วมกันในการประชาสัมพันธ์ โดยใช้สื่อวิทยุทางทหารที่มีอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งชุดปฏิบัติการมวลชนกองกำลังให้ร่วมกันกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงของการเกิดปัญหา ประชาสัมพันธ์และแก้ไขปัญหาร่วมกัน

แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับภาค ส่วนหน้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกองทัพที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ 9 จังหวัด โดยจัดชุดรณรงค์ปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 จำนวน 4 ชุดปฏิบัติการที่เป็นศูนย์กลาง พร้อมให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศ์และบริเวณดอยสุเทพ

*******************

ข่าว ; สวนสัตว์เชียงใหม่มอบส่วนลด 30 % สำหรับนักศึกษา ข้าราชการ พนักงานของรัฐ

นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ แจ้งว่า เพื่อเป็นการตอบแทนพี่น้องชาวเชียงใหม่ที่ให้การสนับสนุนสวนสัตว์เชียงใหม่ด้วยดีเสมอมา เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2560 นี้ ทางสวนสัตว์เชียงใหม่จึงได้จัดรายการมอบสิทธิพิเศษ เป็นส่วนลดสูงสุด 30 % สำหรับนักศึกษา ข้าราชการและพนักงานของรัฐที่ทำงานอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เพียงแสดงบัตรประจำตัวก่อนซื้อบัตรเข้าชมรายการต่างๆ ของสวนสัตว์เชียงใหม่ก็ได้รับส่วนลดทันที ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากได้รับส่วนลดดังกล่าวแล้ว นักศึกษา ข้าราชการ และพนักงานของรัฐดังกล่าว ยังสามารถนำพาผู้ติดตามเข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ในอัตราส่วนลดเดียวกันได้อีก 2 คนอีกด้วย

รายการดังกล่าวนี้ มีกำหนดให้บริการระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2559 ถึง 31 มกราคม 2560 ซึ่งถือเป็นบรรยากาศการสนุกสนานในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2560 นี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ โทรศัพท์ 053 358116

*******************

ข่าว ; ฉก.ม.5 กองกำลังผาเมือง ตรวจค้นจับเฮโรอีน อ.ฝาง

กองกำลังผาเมือง โดยหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 5 รายงานผลการปฏิบัติเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2559 เวลา 05.00 น. กองบังการควบคุมที่ 2 โดย กองร้อยทหารม้าที่ 3 นำโดย ร.อ.อธิปัตย์  เขื่อนธรรม ผู้บังคับกองร้อยทหารม้าที่ 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่อำเภอฝาง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรฝาง กองร้อย.ตชด.334 เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น หมู่บ้านสันมะกอกหวาน หมู่ 9 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยได้ทำการเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 737 ซึ่งขณะทำการตรวจค้นมีชายผู้ต้องสงสัยได้วิ่งหลบหนีออกไปจากภายในบ้าน ทราบชื่อภายหลัง คือนายกว๋อชิว  แซ่เจ้า ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ภายในบ้านตรวจพบเฮโรอีนน้ำหนักประมาณ 2.1 กิโลกรัมซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า จึงได้ควบคุมตัวภรรยาของนายกว๋อชิง แซ่เจ้า มาสอบปากคำ ซึ่งจะได้ประสานรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

********************

ข่าว ; ท่าอากาศยานเชียงใหม่เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่

ท่าอากาศยานเชียงใหม่เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะหลั่งไหลขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ล่าสุดจำนวนผู้โดยสารทำสถิติสูงสุด กว่า 33,000 คนต่อวัน เตือนผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมาสนามบิน เนื่องจากการจราจรโดยรอบติดขัดซึ่งอาจทำให้ตกเครื่องได้

นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นมา มีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) เฉลี่ยวันละ 28,000-31,000 คน ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ย วันละ 26,000 คน ทำให้เกิดความคับคั่งของผู้โดยสารในบางช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินเข้าและออกติดกันหลายเที่ยวบิน และล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 มีผู้โดยสารมาใช้บริการสูงกว่า 33,000 คน ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดดำเนินการมา และในช่วงปลายปีนี้ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวันในโอกาสเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก ทชม.จึงได้เตรียมพร้อมรองรับด้านต่างๆ ประกอบด้วย

ด้านการตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจค้นปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น โดยเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติงานด้วยความสุภาพและปฏิบัติตามขั้นตอนงานอย่างเคร่งครัด สุ่มตรวจบุคคล และสัมภาระตามระดับมาตรการและมาตรฐานการปฏิบัติงาน เพื่อมิให้มีวัตถุอันตรายหรือวัตถุต้องห้ามผ่านขึ้นบนอากาศยานโดยเด็ดขาด

ด้านการรักษาความปลอดภัย จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เพื่องานตระเวนระงับเหตุ โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ จัดชุดตรวจผสม เพิ่มความถี่ในการตรวจตระเวนตามพื้นที่ต่างๆ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสภาพความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เขตการบิน ตลอดจนสินค้าที่จะผ่านเข้าพื้นที่เขตการบิน เพื่อมิให้มีวัตถุอันตรายหรือวัตถุต้องห้ามผ่านเข้าในพื้นที่เขตการบินโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังทำการสุ่มตรวจรถยนต์บริเวณทางเข้าก่อนเข้าถึงหน้าอาคารผู้โดยสาร ทั้งภายในตัวรถและใต้ท้องรถ รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจพื้นที่ด้วยกล้องวงจรปิด สังเกตและเฝ้าระวังผู้ที่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย ขณะเดียวกันยังได้รับการสนับสนุนจากสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ นำสุนัขตำรวจมาสุ่มตรวจกระเป๋าและสัมภาระของผู้โดยสาร เพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายอีกด้วย ทั้งนี้ หากผู้ใดประสบเหตุหรือพบเห็นสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย ทชม.หมายเลขโทรศัพท์ 0 5392 2205 ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านการจัดการจราจร จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรเพื่อให้รถยนต์สามารถเข้า-ออก บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสารได้อย่างสะดวก กวดขันมิให้มีการจอดรถยนต์ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด โดยอนุญาตให้หยุดเฉพาะเพื่อรับ-ส่ง เท่านั้น รวมทั้งกวดขันให้รถบัสสามารถจอดได้เฉพาะบริเวณที่กำหนด และดูแลมิให้มีรถยนต์ประเภทอื่นเข้าจอดในที่จอดรถบัส

ด้านการอำนวยความสะดวก ทชม.ได้จัดเตรียมความพร้อมและดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยเฉพาะการดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องน้ำและพื้นที่สาธารณะ รวมถึงเพิ่มจำนวนรถเข็นกระเป๋าและพนักงานจัดเก็บให้เพียงพอต่อการให้บริการ นอกจากนี้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 และวันที่ 1 มกราคม 2560 ได้จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อลดความเครียดให้กับผู้โดยสารที่รอใช้บริการ รวมทั้งแจกน้ำดื่มเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ด้วย ทั้งนี้ หากผู้โดยสารมีข้อสอบถามหรือข้อขัดข้องใดที่ต้องการความช่วยเหลือ รวมทั้งประสานงานในเรื่องต่างๆ สามารถติดต่อโดยตรงที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ได้ตลอดเวลาให้บริการ หรือติดต่อทางโทรศัพท์ได้ที่หมายเลข 0 5392 2100

ด้านการปฏิบัติการในเขตการบิน กำหนดให้เพิ่มรอบการตรวจวัสดุแปลกปลอมในเขตการบิน (FOD) รวมทั้งนกและสัตว์อันตรายในเขตการบิน ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2559 - 3 มกราคม 2560 จากการตรวจปกติ 4 รอบต่อวัน เป็น 10 รอบต่อวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 น. - 02.00 น.ของวันถัดไป โดยเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2559

ด้านการแพทย์ มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง และนอกเวลาสามารถตามตัวแพทย์และปรึกษาได้ทุกเวลา ทั้งนี้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่หน่วยงาน หรือสถานประกอบการต่างๆ อาจได้รับอนุญาตให้ปล่อยโคมลอยได้ตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ สายการบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศได้ยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 44 เที่ยวบิน เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวน 25 เที่ยวบิน และมีการเพิ่มเที่ยวบินภายในประเทศในวันที่ 1-2 มกราคม 2560 จำนวน 6 เที่ยวบิน อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าว การจราจรบริเวณโดยรอบ ทชม. อาจคับคั่งกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้เดินทาง ดังนั้นจึงขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมายังสนามบินเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษด้วย

**********************

ส่วนกิจการพิเศษและมวลชนสัมพันธ์ ทชม.-ข่าว/ภาพ

ข่าว ; เชียงใหม่รับรางวัล IAGTO Awards ในฐานะ Golf Destination of the Year

จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการโหวตจากบริษัทนำเที่ยวด้านกอล์ฟทั่วโลกให้เป็น “Golf Destination of the Year Asia & Australasia 2017” ตอกย้ำความเป็น “World Class Golf Destination” หลังจากที่เมืองพัทยาและหัวหินเคยได้รับรางวัลเดียวกันนี้ในปี 2012 และ 2014 ที่ผ่านมา

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นตัวแทนรับรางวัล “IAGTO Awards” ในโอกาสที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการโหวตจากบริษัทนำเที่ยวด้านกอล์ฟทั่วโลกให้เป็น “Golf Destination of the Year Asia & Australasia 2017” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบโดยสมาคม International Association of Golf Tour Operators (IAGTO) จากการโหวตของบริษัทนำเที่ยวด้านกอล์ฟชั้นนำจากทั่วโลก ภายในงาน International Golf Travel Mart 2016 (IGTM) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 ณ ปาร์ม่า เดอ มายอร์ก้า ราชอาณาจักรสเปน มีหน่วยงานในประเทศไทยได้รับรางวัลจากงานดังกล่าว จำนวน 2 รางวัล คือ Laguna Golf Phuket ได้รับรางวัล Sustainability Awards: Community Value และจังหวัดเชียงใหม่ได้รับรางวัล Golf Destination of the Year Asia & Australasia 2017 โดยที่ผ่านมาเมืองพัทยาและอำเภอหัวหิน เคยได้รับรางวัลเดียวกันนี้ในปี 2012 และ 2014

พร้อมกันนี้ ในวันที่ 22 ธันวาคม 2559 นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ยังเป็นตัวแทน ททท. ส่งมอบรางวัลดังกล่าวให้แก่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้รับมอบ และนายทวีวัฒน์ ทวีผล นายกสมาคมกอล์ฟรีสอร์ทภาคเหนือร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรมรติล้านนาริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่ โดย ททท. มองว่า จังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำสำหรับนักกอล์ฟ จากความพร้อมในด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค มีสนามกอล์ฟที่มีคุณภาพอยู่เป็นจำนวนมาก และมีการปรับปรุงเพื่อเพิ่มคุณภาพและเพื่อรองรับจำนวนนักกอล์ฟที่มากขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดนักกอล์ฟให้มาเยือนเชียงใหม่ คือบรรยากาศของสนามกอล์ฟที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ภูเขาที่โอบล้อม ผสานกับการบริการอันเป็นเลิศ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อม และเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เหมาะกับการพาครอบครัวมาพักผ่อน นอกจากนั้น ในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังเป็นเจ้าภาพจัดงาน Asia Golf Tourism Convention (AGTC) 2016 ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2559 ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้านกอล์ฟจากต่างประเทศจำนวนมาก มีโอกาสได้สำรวจสนามกอล์ฟและแหล่งท่องเที่ยวในภาคเหนือตอนบน รวมถึงสัมผัสการต้อนรับที่อบอุ่นจากเมืองเชียงใหม่อีกด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มกอล์ฟเป็นตลาดความสนใจเฉพาะที่มีศักยภาพสูง อีกทั้งสามารถต่อยอดการขายไปสู่สินค้าอื่น อาทิ ชอปปิ้ง สปา อาหารไทย โดยในปี 2558 พบว่ามีนักท่องเที่ยวที่มาทำกิจกรรมกอล์ฟในประเทศไทยประมาณ 3 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี พ.ศ. 2559 - 2560 จะมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศด้านกอล์ฟไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มกอล์ฟที่นิยมเดินทางมาประเทศไทยมาจาก 2 ตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดเอเชียตะวันออก และตลาดอาเซียน เนื่องจากการเดินทางมาไทยสะดวก ใช้ระยะเวลาการเดินทางสั้น จึงสามารถมาเล่นกอล์ฟที่เมืองไทยได้บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีราคาที่คุ้มค่ากว่าแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ

*******************

ข่าว ; มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เจ้าภาพร่วมจัดประชุมระดับนานาชาติ 2 รายการใหญ่

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับสำนักงานพัฒนาพิงนคร (องค์กรมหาชน) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ  (MOU) การจัดประชุมวิชาการนานาชาติ

               เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559  ณ ห้องประชุมพระยาศรีวิสารวาจา สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีนายปวิน ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร และรองศาสตราจารย์โรม จิรานุกรม รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาจารย์ ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคด้านสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนางเนตรนภา สุทธิธรรมดำรง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยทั้งสองหน่วยงานได้มีความตกลงที่จะร่วมมือกันจัดโครงการ "งานประชุมวิชาการนานาชาติไทยศึกษา ครั้งที่ 13 "  (International  Conference on Thai Studies)  ในระหว่างวันที่  15 -18 กรกฎาคม  2560 และการประชุมวิชาการนานาชาติ ครั้งที่ 10 (10th International Convention of Asia Scholars – ICAS10) ระหว่างวันที่ 20 -  23 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับการประชุมวิชาการนานาชาติไทยศึกษาครั้งที่ 13 ในหัวข้อ “Globalized Thailand: Connectivity, Conflict and Conundrums of Thai Studies” กำหนดจัดระหว่างวันที่ 15-18 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ จะเป็นเวทีให้ทั้งคณาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษา ทั้งไทยและต่างประเทศที่สนใจเกี่ยวกับประเทศไทย ได้นำเสนอบทความและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการเพื่อทำความเข้าใจสังคมไทยในมิติต่างๆ รวมทั้งทบทวนและพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับสังคมไทยท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความเชื่อมโยง (Connectivity) ในระดับภูมิภาคโดยเฉพาะยิ่งอาเซียน การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบใหม่นี้ได้ซ้อนทับกับโครงสร้างการเศรษฐกิจและการเมืองแบบเดิมซึ่งยังคงมีความเหลื่อมล้ำและความขัดแย้ง นำมาซึ่งปัญหาใหม่ๆที่สลับซับซ้อนในสังคมไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมมาแล้ว 12 ครั้ง โดยครั้งแรกจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2524 ณ กรุงเดลี ประเทศอินเดีย หลังจากนั้น มีการจัดการประชุมขึ้นในต่างประเทศสลับกับประเทศไทยทุก 3 ปี ครั้งล่าสุดจัดที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียเมื่อปี พ.ศ. 2557 และสำหรับในปี ที่จะจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่โดยมีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมประมาณ 600 คน

การจัดประชุมวิชาการนานาชาติไทยศึกษาครั้งที่ 13 นี้ นอกจากจะมีการปาฐกถานำโดยนักวิชาการที่ชื่อเสียง อาทิ Prof. Michael Herzfeld, Harvard University Prof. Duncan McCargo, University of Leeds และ Prof. Katherine A. Bowie, University of Wisconsin และการนำเสนอบทความทางวิชาการแล้ว ยังมีการจัดเวทีอภิปรายโต๊ะกลม (Roundtable) ในหัวข้อที่หลากหลาย เช่น มรดกทางวัฒนธรรม ชายแดนและประเด็นข้ามชาติ การเมือง การเมืองทางวัฒนธรรม การศึกษาและความเหลื่อมล้ำทางสังคม สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศและภัยพิบัติ ชาติพันธุ์ ล้านนาศึกษา ประเด็นหญิงชายและเพศสภาพ ประวัติศาสตร์ การจัดการความรู้ สื่อ ความเป็นเมือง ศาสนา ประเด็นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ความสัมพันธ์ไทย-จีน-อินเดีย ตลอดจนการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น นิทรรศการ การฉายภาพยนตร์ การออกร้านจำหน่ายหนังสือ เป็นต้น โดยกิจกรรมพิเศษเหล่านี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั่วไปได้เข้าร่วมด้วย

ส่วนการประชุมวิชาการนานาชาติ  10th International Convention of Asia Scholars (ICAS 10) ระหว่างวันที่ 20-23 กรกฎาคม 2560 เป็นการประชุมที่รวมนักวิชาการด้านเอเชียศึกษาที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในระดับโลก มีผู้เข้าร่วมจากกว่า 60 ประเทศ มาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเอเชียศึกษาในหลากหลายสาขาวิชาและครอบคลุมทุกภูมิภาคในเอเชีย การจัดประชุม ICAS นี้ สำนักเลขาธิการ ICAS  (ICAS Secretariat) องค์กรภายใต้ International Institute of Asian Studies – IIAS ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นผู้จัดการประชุม โดยในครั้งที่ 10 นี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพร่วม (local host) ในจัดการประชุม ซึ่งนอกจากจะมีกิจกรรมการนำเสนอผลงานทางวิชาการด้านเอเชียศึกษาในมิติต่างๆ เช่น สังคม วัฒนธรรม การเมือง สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีพิธีการมอบรางวัล ICAS Book Prize โดยเปิดรับผลงานที่เป็นหนังสือและวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวกับเอเชียจากทั่วโลก ซึ่งในปีนี้ เป็นปีแรกที่เปิดโอกาสให้หนังสือภาษาต่างๆ เช่น จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน เกาหลี ญี่ปุ่น นอกเหนือจากภาษาอังกฤษสามารถส่งเข้าร่วมประกวดด้วย นอกจากนี้ยังมีการออกร้านจำหน่ายหนังสือเกี่ยวกับเอเชียโดยสำนักพิมพ์ชื่อดังจากต่างประเทศกว่า 30 แห่ง รวมทั้งการออกร้านของกลุ่มองค์กรต่างๆ นิทรรศการเกี่ยวกับอาเซียนและวิถีชีวิตผู้คน และจัดฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับเอเชีย

ทั้งนี้ ในจัดการประชุมแต่ละครั้ง ผู้จัดการประชุม ICAS มีความพยายามที่จะสร้างการมีส่วนร่วมกับท้องถิ่น ผ่านสถาบันการศึกษา หน่วยงานและองค์กรท้องถิ่น ภาคประชาสังคม รวมทั้งการจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับท้องถิ่น  คาดว่าการประชุมดังกล่าวจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,500 คน ซึ่งกลุ่มนักวิชาการเหล่านี้มีความสนใจที่จะสร้างความเข้าใจและสัมผัสวิถีชีวิตผู้คน ศิลปะ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความเป็นเมืองของเมืองเชียงใหม่

ทั้งนี้ สำหรับการประชุมทั้ง 2 รายการที่กำหนดจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้ จะคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Conference) ในทุกขั้นตอน นับตั้งแต่ระบบสารสนเทศที่ลดการใช้กระดาษ ใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ ลดปริมาณขยะ รวมทั้งการรณรงค์ให้ใช้พลังงานทดแทน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรในรูปแบบชองการลดปริมาณการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดภาวะโลกร้อน

********************

งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

TV Online ; คณะแพทยศาสตร์ มช. แถลงผลงานประจำปี 2559

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แถลงผลงานที่สำคัญและน่าสนใจ ประจำปี 2559 รวมทั้งแผนงานโครงการต่าง ๆ ที่จะดำเนินการต่อไปในอนาคต เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2559 ที่ห้องประชุมชั้น 15 อาคารเฉลิมพระบารมี โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

Link TV Online

ดูทีวีออนไลน์ คลิกที่นี่

หรือที่ลิงค์ด้านล่าง

https://youtu.be/z7IM5y5bgFE

*****************

ภาพข่าว ; Nippon Medical School มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตแก่อธิการบดี มช.

ศาสตราจารย์ Akihiko Gemma อธิการบดี Nippon Medical School มอบปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต ในฐานะอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในงานครบรอบ 50 ปี ในความร่วมมือระหว่าง Nippon Medical School ประเทศญี่ปุ่น กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 ณ ห้องประชุมชั้น 15 อาคารเฉลิมพระบารมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งการรับปริญญาดุษฎีบัณฑิต จาก Nippon Medical University ครั้งนี้นับเป็นคนต่างชาติคนที่ 3 ในรอบ 140 ปี ของ Nippon Medical School ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

*****************

ข่าว ; เชียงใหม่ปล่อยแถวบูรณาการป้องกันอาชญากรรมสร้างความอุ่นใจช่วงปีใหม่

เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ 24 ธันวาค 2559 ณ บริเวณด้านหน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ ปล่อยแถวเพื่อการป้องกันและกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเน้นปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภทในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่ 2560  โดยพลตำรวจตรี พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พลตรี เกษมสุข ตาคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ได้นำกำลังข้าราชการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ และอาสาสมัคร ระดมปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตำรวจชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท นำไปสู่การแก้ไขปัญหาการประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว ตอบสนองนโยบายรัฐบาลในด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2560

สำหรับพิธีการปล่อยแถว หลังจากประธานได้กล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลแล้ว ได้ร่วมกันทำการปล่อยแถวโดยใช้มือสัมผัส I-Ball พร้อมกัน จากนั้นผู้ควบคุมแถวสั่งปรับและสั่งแถวเคลื่อนขบวนปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบ ขณะที่พลตำรวจตรี พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ในครั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 4,000 นาย ในการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยได้เตรียมโครงการ "ฝากตำรวจดูแลบ้าน" และยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยขอความร่วมมือให้เจ้าของบ้านติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อง่ายต่อการติดตามตัวหากมีการก่อเหตุลักทรัพย์เกิดขึ้น

*******************

ปชส.เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

TV Online ; โปรโมชั่น เป็ดปักกิ่งราคาพิเศษ 599 บาท ที่ภัตตาคาอาหารจีน ซั่งไห่หลง

               ภัตตาคารอาหารจีน ซั่งไห่หลง เชียงใหม่ จัดโปรโมชั่นพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปี เป็ดปักกิ่งราคาเพียงตัวละ 599 บาท จากราคาปกติ 750 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 ธันวาคม 2559 นี้เท่านั้น สอบถามรายละเอียดทางโทรศัพท์ 053-282084-5 และ 081-3221558

Link TV Online ดูทีวีออนไลน์ คลิกที่นี่

หรือลิงค์ด้านล่าง

https://youtu.be/y7rQHmm-2sE

*******************

ข่าว ; ผู้แทนพระองค์มอบถุงพระราชทานแก่ประชาชนที่ประสบภัยหนาว

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์นำถุงพระราชทานมอบให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยหนาว ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่แตง จำนวน 2,000 ราย

วันที่ 22 ธันวาคม 2559 เวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลอากาศเอก โยธิน ประยูรโภคราช ผู้แทนพระองค์ เดินทางมามอบถุงพระราชทานให้กับประชาชนที่ประสบภัยหนาว ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2,000 ราย โดยมีนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้แทนทหาร ตำรวจ นายอำเภอเชียงดาว ผู้อำนวยการโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว ข้าราชการและประชาชนชาวเชียงใหม่ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อันเนื่องมาจากลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ทำให้ในช่วงฤดูหนาวของทุกปีมีอากาศหนาวเย็น ประกอบกับ กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะอากาศในช่วงฤดูหนาวของปีนี้  บริเวณภาคเหนือตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นกว่า 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ข้อมูลผลการสำรวจความต้องการเครื่องกันหนาวเพื่อสงเคราะห์ราษฎร ประจำปี 2560 พบว่า ราษฎรในพื้นที่ประกอบด้วย ผู้สูงอายุ เด็กไร้ผู้อุปการะ คนพิการทุพพลภาพ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลการคมนาคม ยังมีความต้องการเครื่องกันหนาวเป็นจำนวนมาก

โอกาสนี้ ผู้แทนพระองค์ได้เยี่ยมประชาชน และจัดหน่วยแพทย์พระราชทานให้บริการตรวจสุขภาพแก่ประชาชนในพื้นที่ ยังความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิการชาวเชียงใหม่อย่างล้นพ้น

*****************

ส.ปชส.เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

ข่าว ; เปิดงานโครงการหลวง 2559 ภายใต้แนวคิด “ใต้ร่มพระบารมี 47 ปี โครงการหลวง”

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จฯทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2559”  ภายใต้แนวคิด “ใต้ร่มพระบารมี 47 ปี โครงการหลวง” ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

วันที่ 22 ธันวาคม 2559 เวลา 17.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จฯทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “โครงการหลวง 2559”  ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคณะกรรมการจัดงาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ข้าราชการตุลาการ ทหาร  ตำรวจ และประชาชนชาวไทยภูเขาเฝ้ารับเสด็จ

ศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ศักดิ์  อังกะสิทธิ์  ประธานกรรมการจัดงานโครงการหลวง 2559  ได้กราบทูลถวายรายงานการดำเนินงานโครงการหลวงซึ่ง เป็นโครงการในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก่อตั้งในปี พ.ศ.2512 โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมบนที่สูง ตลอดระยะเวลา 47 ปีได้ดำเนินการในพื้นที่ 5 จังหวัดของภาคเหนือ โดยจัดตั้งเป็นศูนย์และสถานี จำนวน 39 แห่ง พร้อมทั้งได้ดำเนินการพัฒนาเกษตรกรและประชาชนได้ 42,742 ครอบครัว ต่อมาปี 2535 จึงได้มีพระราชดำริให้จัดตั้งเป็นมูลนิธิโครงการหลวงขึ้น

การจัดงานโครงการหลวง ได้ดำเนินการมาเป็นประจำทุกปี ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  เผยแพร่พระราชกรณียกิจในโครงการหลวง  กิจกรรมวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงของมูลนิธิโครงการหลวง  เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิโครงการหลวง การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ , สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร และพระบรมวงศานุวงศ์ การจำหน่ายผลิตผล แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ และสาธิตการประกอบอาหารด้วยวัตถุดิบจากโครงการหลวง รวมทั้งกิจกรรมการมีส่วนร่วมของเยาวชนและประชาชน ในระหว่างวันที่ 22 – 25 ธันวาคม 2559 ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

โอกาสนี้ ได้ประทานพระอนุญาตให้ผู้เกี่ยวข้องถวายเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิโครงการหลวง จำนวน  8 ราย และได้ประทานพระอนุญาตให้ หม่อมราชวงศ์ ดัจฉราพิมล รัชนี เข้ารับเงินเพื่อสมทบทุนกิจกรรมมูลนิธิโครงการหลวง อีกทั้งยังได้ประทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดประเภทต่างๆ จำนวน  3 ราย  คือ กลุ่มเยาวชนโครงการหลวงดีเด่น ได้แก่ กลุ่มเยาวชนบ้านห้วยเย็น ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง ผู้ชนะเลิศศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงโครงการหลวง ได้แก่ โรงเรียนบ้านขุนแปะ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ และโรงเรือนพลาสติก Innoplus ดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนสะเมิงพิทยาคม สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

*******************

ส.ปชส.เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

ข่าว ; ประธานาธิบดีคนใหม่สหรัฐไม่สามารถแทรกแซงกฎหมายยาสูบไทยได้

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ระบุว่า กฎหมายอเมริกาห้ามเจ้าหน้าที่รัฐแทรกแซงนโยบายและกฎหมายควบคุมยาสูบของประเทศอื่นที่ไม่ได้เลือกปฏิบัติ เป็นเหตุให้สหรัฐอเมริกาแม้จะเปลี่ยนประธานาธิบดีก็ไม่สามารถแทรกแทรงกฎหมายเกี่ยวกับยาสูบของไทยที่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาได้

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยและสอบถามไปยังมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ว่า การที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัล ทรัมพ์ มีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายการค้า “อเมริกามาก่อน” เพื่อรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจอเมริกานั้น จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติขณะนี้หรือไม่นั้น

เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ชี้แจงว่า สหรัฐอเมริกามีกฎหมายห้ามสำนักผู้แทนการค้าช่วยบริษัทบุหรี่อเมริกาส่งเสริมการขายยาสูบ หรือแทรกแซงนโยบาย หรือกฎหมายควบคุมยาสูบของประเทศอื่น ที่ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติ ขณะที่มีคำสั่งประธานาธิบดีคลินตัน ที่ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งรวมเจ้าหน้าที่สถานทูต แทรกแซงกฎหมายควบคุมการโฆษณายาสูบของประเทศอื่นที่ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ซึ่งทั้งกฎหมายปัจจุบันและร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่ได้มีบทบัญญัติเลือกปฏิบัติระหว่างบุหรี่นำเข้าและบุหรี่ของโรงงานยาสูบ ดังนั้น หากนายทรัมพ์ในฐานะประธานาธิบดี คิดจะแทรกแซงกฎหมายควบคุมยาสูบของประเทศอื่น ก็ต้องทั้งแก้กฎหมาย และยกเลิกประกาศประธานาธิบดีคลินตัน ซึ่งคงจะเป็นเรื่องและไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากในสหรัฐอเมริกาเองก็มีการต่อต้านบริษัทบุหรี่ เนื่องจากเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอเมริกาเสียชีวิตก่อนเวลาด้วยโรคจากการสูบบุหรี่มากถึงปีละ 480,000 คน

อีกประการหนึ่ง บริษัทบุหรี่ข้ามชาติ ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ทำธุรกิจในประเทศไทย ก็มีสำนักงานอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์   ไม่ใช่ธุรกิจสัญชาติอเมริกัน จึงไม่สามารถเรียกร้องให้รัฐบาลอเมริกาแทรกแซงร่างกฎหมายของประเทศอื่นได้ การแทรกแซงนโยบายหรือกฎหมายควบคุมยาสูบของไทยที่เป็นอยู่ จึงมาจากธุรกิจยาสูบข้ามชาติฟิลลิป มอร์ริสและสภาหอการค้าอเมริกาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเอกชนและไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสหรัฐแต่อย่างใด

************************

ปชส.มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่-ข่าว

ข่าว ; มทภ.3 เผยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงปัญหาปลูกฝิ่น

แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 (มทภ.3/ผบ.ฉก.ศป.ปส.ทภ.3) เผยว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงปัญหาการปลูกฝิ่นในพื้นที่ภาคเหนือ ฝากให้ทางกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลพื้นที่โดยเฉพาะ อ.อมก๋อย และ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

พล.ท.วิจักขฐ์  สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีรับสั่งขณะที่เข้าเฝ้ารับเสด็จว่า พระองค์ทรงเป็นห่วงการลักลอบปลูกฝิ่นในพื้นที่ อ.อมก๋อย และ อ.แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของฝิ่นในชุมชนที่ห่างไกลความเจริญ โดยทรงมีโครงการส่วนพระองค์มากมายในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฏร รวมทั้งการที่พระองค์ทรงจัดหางบประมาณเพื่อนำมาพัฒนาขยายโรงพยาบาลแม่แจ่ม เพื่อให้ราษฎรในพื้นที่ยากลำบากได้เข้ามารับการรักษา ไม่ต้องเดินทางไกลไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่และโรงพยาบาลอื่นในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้รับทราบว่าพระองค์ท่านทรงเป็นห่วงราษฎรใน 2 พื้นที่นี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.อมก๋อย และ อ.แม่แจ่ม ที่ยังมีการลักลอบปลูกฝิ่นอยู่อย่างต่อนื่อง

ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุดของสถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด  สำนักงาน ป.ป.ส. มีการสำรวจพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่นตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค. - พ.ย.59 โดยได้ดำเนินการสำรวจทางอากาศ 15 ครั้ง สำรวจภาคพื้นดิน  3 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 19 ของแผน โดยเน้นการสำรวจพื้นที่ที่มีการเตรียมแปลงปลูกฝิ่นหนาแน่นตั้งแต่ต้นฤดู โดยที่จังหวัดเชียงใหม่พบพื้นที่ปลูกฝิ่น 1,179 แปลง เนื้อที่ 887.59 ไร่ จากทั้งหมดที่มีการตรวจพบจำนวน 1,537 แปลง 1,179.26 ไร่ พบว่าในพื้นที่ อ.อมก๋อย พบการปลูกฝิ่น 984 แปลง 727.27 ไร่ อ.แม่แจ่ม พบ 35 แปลง 24.04 ไร่ ซึ่งพื้นที่ปลูกฝิ่นจะอยู่ห่างไกลและกันดารมากขึ้นกว่าเดิม คาดว่าพื้นที่ปลูกปีนี้มีแนวโน้มทรงตัวจากปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จากการจัดตั้งกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อควบคุม อำนวยการ สั่งการตัดทำลายไร่ฝิ่น ตั้งแต่ห้วงวันที่ 15 พฤศจิกายน ถึง 17 ธันวาคม 2559 สามารถตัดทำลายไร่ฝิ่นไปแล้ว จำนวน 322 แปลง 343.33 ไร่ โดยเป็นพื้นที่แปเปอร์ - นาเกียน อ.อมก๋อย จำนวน 93 แปลง 94.30 ไร่ และพื้นที่ ท่าสองยาง - ปิตุคี อ.ท่าสองยาง จ.ตาก จำนวน 81 แปลง 103.50 ไร่

*********************

TV Online ; แม่โจ้กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์สปา จัดแข่งขันรายการ Member Challenge 2016

               สนามแม่โจ้กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์สปา จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการพิเศษ Member Challenge 2016 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559

********************

Link TV Online ดูทีวีออนไลน์ คลิกที่นี่

หรือลิงค์ด้านล่าง

https://youtu.be/4folDAci_50

***********************

ข่าว ; เชียงใหม่เกิดสภาพหมอกลงจัด สนามบินสั่งงดขึ้น-ลง 8 เที่ยวบิน

เชียงใหม่เกิดหมอกหนาช่วงเช้าวันนี้ทำให้​เกิดทัศนวิสัยต่ำในเขตการบิน สนามบินเชียงใหม่ต้องหยุดปฏิบัติงานในเขตการบินชั่วคราว ส่งผลให้เครื่องบินไม่สามารถขึ้นลงได้ 8 เที่ยวบิน แต่ก็ใช้เวลาไม่นานล่าสุดสามารถให้บริการได้ตามปกติแล้ว

​นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 07.20 น. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้รับแจ้งจากศูนย์ความปลอดภัยว่า ทัศนวิสัยในเขตการบินต่ำลงเหลือประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดไฟทัศนวิสัยต่ำพร้อมประกาศเตือนการปฏิบัติงานในเขตการบินเพื่อความปลอดภัย และต่อมาเวลาประมาณ 07.40 น. ได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินว่าทัศนวิสัยต่ำกว่า 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ประกาศหยุดการทำงานในเขตการบินทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยต่ออากาศยาน ทำให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินขึ้นลงได้ จำนวน 8 เที่ยวบินประกอบด้วย
สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD 8300 เส้นทาง ดอนเมือง-เชียงใหม่ เวลาลงปกติ 07.15 น. ไม่สามารถลงได้ต้องบินวนรออยู่ประมาณ 40 นาที และบินกลับไปลงที่ท่าอากาศยานพิษณุโลก
สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 101 เส้นทาง อู่ตะเภา-เชียงใหม่ เวลาลงปกติ 07.35 น.บินวนรอ
สายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบิน WE 150 เส้นทาง ดอนเมือง - เชียงใหม่ เวลาปกติ 07.40 น. บินวนอยู่ประมาณ 40 นาที ไม่สามารถลงได้ และได้บินกลับไปดอนเมือง
สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 3437 เส้นทาง ดอนเมือง - เชียงใหม่ เวลาลงปกติ 07.50 น. บินวนอยู่ประมาณ 40 นาที ไม่สามารถลงได้และได้บินกลับไปดอนเมือง
สายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบิน WE 168 เส้นทาง สุวรรณภูมิ - เชียงใหม่ เวลาลงปกติ 08.15 น. ต้องบินวนรอ
สายการบินไทยเวียตเจ็ต เที่ยวบิน TVJ 602 เส้นทาง สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ เวลาลงปกติ 08:25 ไม่สามารถบินลงได้ บินวนรอ
สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน AK 854 เส้นทาง กัวลาลัมเปอร์-เชียงใหม่ เวลาลงปกติ 08.40 น. ไม่สามารถลงได้ บินวนรอ
สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบิน SL 523 เส้นทาง เชียงใหม่ -ดอนเมือง เวลาบินออกปกติ 08.00 น. ไม่สามารถบินขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ​ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.สภาพหมอกได้เริ่มลดลงจนสามารถมองเห็นและทัศนวิสัยอยู่ในระดับปลอดภัยสำหรับอากาศยาน ท่าอากาศยานเชียงใหม่จึงได้ยกเลิกประกาศทัศนวิสัยต่ำ และสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติแล้ว

ขณะที่ นายเดชดวง อินทรกำแหง อดีตผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า สภาพหมอก (fog) ที่เกิดขึ้นในเมืองเชียงใหม่วันนี้ไม่มีเกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก ทำให้ผู้คนคนที่ตื่นเช้ามีความสดชื่น มีความสุขกับธรรมชาติกับการที่มีหมอกเช่นนี้ แสดงถึงบริเวณพื้นผิวมีความชื้น ป่าไม้ค่อนข้างสมบูรณ์จึงเกิดความชื้นขึ้น ทำให้นึกถึงสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2520 ที่ตนเองรับราชการเป็นรองหัวหน้าศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จะพบหมอกลักษณะนี้ที่เชียงใหม่บ่อยมาก แต่หลังจากปี 2525 เป็นต้นมาหมอกแบบนี้เริ่มหายไปจนมาเกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งลักษณะแบบนี้จะทำให้เกิดปัญหาทัศนวิสัยต่ำกว่า 100 เมตร อาจจะสร้างปัญหากับการบินขึ้นลงของอากาศยานได้ นอกจากนั้น หมอกลักษณะนี้ยังต่างกับหมอกแดด ที่จะทำให้เกิดฟ้าหลัวและหมอกควันจากการเผาเพิ่มเติมได้อีกด้วย

*******************

ส่วนกิจการพิเศษและมวลชนสัมพันธ์ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ - ข่าว/ภาพ

ข่าว ; ผลการแข่งขันกอล์ฟรายการ Gymkhana Christmas Golf and Party 2016

สโมสรเชียงใหม่ ยิมคานา จัดการแข่งขันกอล์ฟ รายการ Gymkhana Christmas Golf and Party 2016 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559 เพื่อเป็นการพบปะสังสรรค์ในกลุ่มสมาชิกสโมสรและแขกของสมาชิก โดยการแข่งขันกอล์ฟ 18 หลุมและจัดงานเลี้ยงในตอนค่ำ ผลการแข่งขันโดยคิดคะแนนแบบ 36 System มีดังนี้
ชนะเลิศ Over All Low Gross ได้แก่ รุสลี ขันแก้ว 36-36-72 (3) 69 ส่วนประเภทโลวเน็ต Flight A ชนะเลิศ อัครชัย พาล์มเมอร์ 36-40-76 (8) 68 รองชนะเลิศอันดับ 1 ปิยบุตร ทองประวิตร 39-36-75 (5) 70 รองชนะเลิศอันดับ 2 อภิชาติ รุ่งเจริญ 39-43-82 (11) 71 Flight B ชนะเลิศ สมเกียรติ จันทรศัพย์ 42-42-84 (13) 71 รองชนะเลิศอันดับ 1 สมเกียรติ พาลากิจ 40-45-85 (13) 72 รองชนะเลิศอันดับ 2 Sekido Seigo 43-44-87 (15) 72 Flight C ชนะเลิศ Yoshi Horie 47-49-96 (25) 71 รองชนะเลิศ อันดับ 1 Yoshisuke Koiwai 50-49-99 (26) 73 รองชนะเลิศ อันดับ 2 Dao Beece 48-51-99 (25) 74 Flight Senior ชนะเลิศ มงคล สุขใส 41-37-78 (7) 71 รองชนะเลิศอันดับ 1 Kevin 36-47-83 (12) 71 รองชนะเลิศอันดับ 2 ปราจีณ 44-40-84 (13) 71 Flight Lady ชนะเลิศ เปมิกา พลเมืองดี 38-39-77 (7) 70 รองชนะเลิศ ลัดดา 42-47-89 (17) 72 และรางวัลบู้บี้ Gera 67-64-131 (35) 96

********************

ข่าว ; อบต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน สั่งปิด Zipline ที่เกิดอุบัติเหตุกับนักท่องเที่ยว

นางสาวภัทราพร ลายจุด นายอำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า จากกรณีเครื่องเล่นโหนสลิง (Zipline) ซึ่งเปิดให้บริการในพื้นที่บ้านแม่กำปอง ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ชื่อ Flight of the Gibbon ได้เกิดอุบัติเหตุจนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมานั้น หลังเกิดเหตุ อำเภอแม่ออนได้แจ้งให้ อบต.ห้วยแก้วดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม ) และกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมเครื่องเล่น พ.ศ.2558 มาตรา 40,46 โดยทันที

ทั้งนี้ อบต.ห้วยแก้ว ได้มีคำสั่งให้สถานประกอบการดำเนินการแก้ไขอาคาร ตามมาตรา 46 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 โดยให้สถานประกอบการแก้ไขภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง คือวันที่ 17 ธันวาคม 2559 และมีคำสั่งห้ามใช้อาคารหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้อาคารที่อาจเป็นภยันตรายตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง และมาตรา 41 วรรค หนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ห้ามมิให้สถานประกอบการใช้หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารทั้งหมดหรือบางส่วนของอาคารดังต่อไปนี้คือ เครื่องเล่นโหนสลิง (Zipline) จำนวน 28 ฐาน จนกว่าจะได้จัดการแก้ไขให้ถูกต้องตามที่ได้รับอนุญาต และได้นำคำสั่งไปปิดประกาศไว้ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2559 ซึ่ง ตามกฎกระทรวงฯ ข้อ 2 ได้กำหนดให้เครื่องเล่นเป็นอาคารควบคุมการใช้ตามมาตรา 32(2) และขณะนี้สถานประกอบการได้ปิดการให้บริการตามคำสั่ง อบต.ห้วยแก้ว โดยอำเภอแม่ออนก็ได้มีการตรวจติดตามทุกวัน

และในวันที่ 19 ธันวาคม 2559 เวลา 15.30 น. ได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวนี้ โดยมีนายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน พร้อมกันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าพร้อมให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ประกอบด้วย นายอำเภอแม่ออน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่ออน ตำรวจท่องเที่ยว ท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่สาขาสันกำแพง นายก ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ และอบต.ห้วยแก้ว

หลังเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานการประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ประสานความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกหน่วยงาน แล้วสรุปผลนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และมอบหมายให้ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบเรื่องการประกอบธุรกิจนำเที่ยวของผู้ประกอบการว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ พร้อมให้เสนอมาตรการแนวทางแก้ไขปัญหาในอนาคต สรุปเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาต่อไป

******************

ข่าว ; เครือข่ายแรงงานข้ามชาติยื่นข้อเรียกร้อง เนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากล

วันที่ 19 ธันวาคม 2559 เวลา 14.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้แทนรับข้อเรียกร้องเนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากล 2016 โดยมีสาระสำคัญประกอบด้วย ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งให้ศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการแก้ไขปัญหาของแรงงานข้ามชาติอย่างมีส่วนร่วมและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึงสิทธิต่างๆที่ควรจะได้รับตามที่กฏหมายแรงงานกำหนด เช่น การไม่ได้รับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เวลาทำงาน วันทำงาน วันหยุด วันลา การทำงานล่วงเวลา และการทำงานในวันหยุด พร้อมทั้ง ให้รายงานผลการดำเนินงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ทุกสามเดือน และการดำเนินคดีการละเมิดสิทธิแรงงาน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยมุ่งคุ้มครองสิทธิแรงงานอย่างไม่คำนึงถึงสถานะการเข้าเมืองของแรงงาน

ทั้งนี้ เครือข่ายแรงงานภาคเหนือประกอบด้วย องค์กรที่ทำงานส่งเสริมสิทธิด้านแรงงานกว่า 15 องค์กร นักวิชาการจากสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ และตัวแทนคนงานในพื้นที่ ได้จัดการประชุมร่วมระหว่างวันที่ 18 - 19 ธันวาคม 2559 ณ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อประเมินและพิจารณาถึงสถานการณ์ด้านแรงงานข้ามชาติภายในพื้นที่ภาคเหนือ และพบว่ายังมีปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงานและการเข้าถึงสิทธิตามที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนด เช่น แรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เวลาทำงาน วันทำงาน วันหยุด วันลา การทำงานล่วงเวลา การทำงานในวันหยุด และมีปัญหาด้านสุขภาพความปลอดภัยในการทำงาน การเข้าไม่ถึงระบบประกันสังคมเนื่องจากนายจ้างไม่ได้นำลูกจ้างขึ้นทะเบียนประกันสังคม และบางส่วนมีปัญหาการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ เช่น กรณีรับเงินชราภาพที่ยังไม่มีมาตรการชัดเจนในการรับสิทธิ นอกจากนี้ยังพบว่าแรงงานข้ามชาติถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในการเดินทางและถูกเรียกรับผลประโยชน์

สำหรับวันที่ 18 ธันวาคมของทุกปี ถือเป็น "วันแรงงานข้ามชาติสากล" (International Migrants Day) เป็นวันที่องค์การสหประชาชาติได้จัดทำอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและครอบครัว ค.ศ.1999 เพื่อให้แรงงานข้ามชาติในประเทศต่างๆ ได้รับการคุ้มครองสิทธิทั้งสิทธิมนุษย์ชนและสิทธิเป็นแรงงาน ด้วยหลักการที่จะให้ทุกประเทศและทุกฝ่ายตระหนักถึงสิทธิของแรงงานข้ามชาติ ที่ต้องอพยพจากประเทศต้นทางไปทำงานยังประเทศปลายทาง ให้ได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมจากรัฐบาลและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติด้วยความแตกต่างเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว และเพศสภาพใด ๆ

******************

ข่าว ; ฉก.ม.5 รอ.กองกำลังผาเมือง จับผู้ต้องหาขนยาบ้า 12,000 เม็ด ที่ อ.เชียงดาว

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2559 เวลา 14.00 น. ร้อยตรี เจษฏา จามร ผู้บังคับหมวดทหารม้าลาดตระเวน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ (ฉก.ม.5 รอ.) กองกำลังผาเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจแก่งปันเต้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 335 อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเชียงดาว และหมวดสุนัขทหาร กองกำลังผาเมือง ได้ร่วมจับกุมผู้กระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด 1 ราย ได้ผู้ต้องหา 1 คนคือ นายอะตา จ่าซือ อยู่ที่ 282 หมู่ 6 ต.นครเจดีย์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้ของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 12,000 เม็ด โดยใช้สุนัขทหารดมกลิ่นและได้พบยาบ้าดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ภายในส่วนไฟท้ายและฝากระบะท้ายของรถกระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโก้ สีดำ ทะเบียน  บพ 5956 ลำพูน จึงได้ส่งมอบผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

******************

ภาพข่าว ; สนามกอล์ฟซัมมิทกรีนวัลเล่ย์ มอบความอบอุ่นแก่ผู้ประสบภัยหนาวบนดอยสูง

สโมสรไลออนส์ กรุงเทพสุพรรณหงส์ โดยโปรอรุณ วรทอง, พิชชุดา พลายเวช, ไพศาล เพชรโรจน์, ประสิทธิ์ อักษรทับ และ สมยศ อินทรสิน มอบเสื้อผ้ากันหนาวสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยหนาวบนดอยสูง โดยไสว ยอดอุดม ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส สนามซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่ คันทรีคลับ เป็นผู้รับมอบ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม  2559 เพื่อนำไปส่งต่อมอบความอบอุ่นแก่ผู้ประสบภัยหนาวและผู้ด้อยโอกาสบนดอยสูง ซึ่งสนามกอล์ฟซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่ คันทรีคลับ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

****************

TV Online ; สถานีกาแฟเวียงป่าเป้า เปิดฟาร์มหมอหลีรีสอร์ท บริการที่พักท่ามกลางธรรมชาติ

            สถานีกาแฟเวียงป่าเป้า หมู่ที่ 6 ตำบลป่างิ้ว อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย พร้อมเปิด "ฟาร์มหมอหลีรีสอร์ท" 25 ธันวาคม 2559 เพื่อให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการพักค้างคืนกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ ในพื้นที่ใกล้เส้นทางสัญจรที่สะดวก ไม่ห่างจากตัวเมือง

Link TV Online ดูทีวีออนไลน์

คลิก

หรือที่ลิงค์ด้านล่าง

https://youtu.be/mJMGNtpzYYc

*****************

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
http://newmediachannel.blogspot.com/2016/12/tv-online_16.html

*****************

ข่าว ; ERDICMU ทำดีเพื่อพ่อหลวง ร่วมแบ่งปันให้น้องผู้ด้อยโอกาส

ผู้บริหารและพนักงานเจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Energy Research and Development Institute - Nakornping : ERDICMU) ร่วมทำดีเพื่อพ่อหลวง สานต่อปณิธานการมอบความช่วยเหลือเพื่อผู้ด้อยโอกาสกว่าในสังคม จัดโครงการแบ่งปันให้น้องผู้ด้อยโอกาส ณ มูลนิธิโรงเรียนเพื่อชีวิตเชียงใหม่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กด้อยโอกาส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.อิทธิชัย  ปรีชาวุฒิพงศ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สิริชัย คุณภาพดีเลิศ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  และอาจารย์ ดร.เสาวหฤท นิตยวรรธนะ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นตัวแทนพนักงานมอบของ เงิน และสิ่งของบริจาคให้กับทางโรงเรียน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังได้จัดกิจกรรมเล่นเกมส์แจกของรางวัลและจัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับน้องๆ อีกด้วย

*****************

ปชส.สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มช.-ข่าว/ภาพ

ข่าว ; ซิปไลน์เกิดอุบัติเหตุอีกแล้ว ล่าสุดที่แม่กำปองมีนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ 3 คน

รายงานข่าวจากสถานีตำรวจภูธรแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า วันที่ 16 ธันวาคม 2559 เวลาประมาณ 17.30 น. เกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศประสบอุบัติเหตุจากการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ซิปไลน์ (Zipline) ที่บริเวณบ้านแม่กำปอง จากสถานประกอบการชื่อ Flight of the Gibbon ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล คือ Mrs.Orit bobrov อายุ 41 ปี Mr.sahar meir อายุ 42 ปี และ Liam bobrow อายุ 7 ปี ทั้งหมดได้ถูกนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยอาการเบื้องต้น  เด็กชาย Liam bobrow ได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ แพทย์อนุญาตให้กลับโรงแรมได้ ที่เหลืออีก 2 คนอยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์ โดยนักท่องเที่ยวทั้งหมดมีประกันอุบัติเหตุส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของสถานประกอบการนำเที่ยวที่เกิดเหตุได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และแสดงเจตนาว่ายินดีจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด

หลังจากได้รับแจ้งเหตุแล้ว นางสาวภัทรพร ลายจุด นายอำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.พงษ์เดช คำใจสู้ ผกก.สภ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ และ พ.ต.ท.วรกุล คุณยศยิ่ง รอง ผกก.(สอบสวน) ฯ ร้อยเวรสอบสวน สภ.แม่ออน ได้เดินทางเข้าพบและให้การช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ สภ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ จะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป

********************

ภาพข่าว ; มอบเงินสนับสนุนการจัดการศึกษา สมาคมนักศึกษาเก่าศึกษาศาสตร์ มช.

คุณแม่ไพรพรรณ สรณถาวรกุล จากประเสริฐแลนด์ มอบเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการบริหารจัดการการศึกษา ของสมาคมนักศึกษาเก่าคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี ผศ.อาคม ตันตระกูล นายกสมาคมฯ เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2559

*****************

TV Online ; สถานีกาแฟเวียงป่าเป้า ความประทับใจที่ได้รับมากกว่าแค่ที่พักริมทาง

สถานีกาแฟเวียงป่าเป้า ฟาร์มหมอหลี ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลป่างิ้ว อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 84 กับ 85 ทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่ - เชียงราย เมื่อได้เข้าไปสัมผัสแล้วจะมีความประทับใจหลายอย่างที่เป็นส่วนประกอบ มากกว่าเพียงใช้บริการห้องน้ำตามคำเชิญชวนเท่านั้น

*******************

Link TV Online ดูทีวีออนไลน์ คลิกลิงค์ด้านล่าง

https://youtu.be/4GsBaZRWiXQ

*********************

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
http://newmediachannel.blogspot.com/2016/12/tv-online_17.html

*********************

ข่าว ; กปร.จัดงาน “ล้นเกล้าชาวไทย สถิตในดวงใจนิรันดร์” ที่เชียงใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2559 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี  เป็นประธานเปิดงาน "ล้นเกล้าชาวไทย สถิตในดวงใจนิรันดร์" ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถที่สร้างคุณูปการเพื่อพสกนิกรไทยและแผ่นดินไทย ได้มีความร่มเย็นภายใต้หลักการทรงงานและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ได้พระราชทานให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเอง นำมาซึ่งรากฐานที่ความมั่นคงทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ

การจัดงานครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ประชาขนในพื้นที่ภาคเหนือได้แสดงพลังแห่งความจงรักภักดี และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานพระราชปณิธานที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมต่อไป

โอกาสนี้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้มอบเกียรติบัตรแก่โรงเรียนที่เข้าร่วมประกวดนิทรรศการ “แผ่นดินของเรา” และมอบพันธุ์ไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ได้แก่ ต้นทองกวาว ให้กับเกษตรกรและประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าในใจคน เพื่อเป็นต้นแบบในการสานต่อแนวพระราชดำริให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ได้มอบรางวัลและเกียรติบัตรให้กับประชาชนที่เข้าร่วมประกวดแข่งขันผลงาน จากการพัฒนาจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ รวมถึงเกษตรกรดีเด่นในพื้นที่ขยายผลของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ด้วย จากนั้น องคมนตรีและคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมกับร่วมปล่อยพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลาจำนวน 89 ตัว เพื่อขยายพันธุ์ให้เป็นแหล่งอาหารโปรตีนของประชาชน

งานนิทรรศการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าชาวไทย สถิตในดวงใจนิรันดร์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14–17ธันวาคม 2559 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ขึ้น ทำการศึกษาพัฒนาป่าไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้ผล ไม้เชื้อเพลิง ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตลอดจนคงความชุ่มชื้นเอาไว้เป็นประโยชน์อย่างที่ 4 และพื้นที่ต้นน้ำลำธารให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์เป็นหลัก โดยต้นทางเป็นการศึกษาสภาพพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธาร และปลายทางเป็นการศึกษาด้านการประมงตามอ่างเก็บน้ำต่างๆ ผสมกับการศึกษาด้านเกษตรกรรม ด้านปศุสัตว์และโคนม และด้านเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นศูนย์ต้นแบบการพัฒนาที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อราษฎรที่จะเข้ามาศึกษากิจกรรมต่างๆในศูนย์ฯ แล้วนำไปใช้ปฏิบัติอย่างได้ผลต่อไป

ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมการประกวดจัดแสดงนิทรรศการในหัวข้อ “แผ่นดินของเรา”จากสถาบันการศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวน 10 โรงเรียนที่ได้จากการเรียนรู้และน้อมนำแนวพระราชดำริไปร่วมสืบสาน และขยายผลมาร่วมจัดแสดงในครั้งนี้ และยังมีกิจกรรมสร้างงาน สร้างอาชีพ จากงานในหลวง เป็นการฝึกอบรมอาชีพให้กับผู้สนใจทั่วไปหรือเกษตรกร ตลอดจนการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานตารอยพระบาท ระยะทาง 20 กิโลเมตร และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มแม่บ้าน และผลผลิตทางการเกษตรอีกมากมาย

*********************

กองประชาสัมพันธ์ กปร.-ข่าว/ภาพ

ข่าว ; สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ลูกค่างห้าสี สัตว์ที่สวยงามและใกล้จะสูญพันธุ์เป็นสมาชิกใหม่

สวนสัตว์เชียงใหม่ประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์ค่างห้าสี หนึ่งในสัตว์ป่าที่สวยงาม หายากและใกล้สูญพันธุ์ ได้ลูกค่างห้าสีเพิ่มอีก 1 ตัว รวมที่มีอยู่เดิมเป็น 8 ตัว

นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่กล่าวว่า เช้าวันที่ 15 ธันวาคม 2559 เวลา 09.30 น.ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลค่างห้าสีว่า มีลูกค่างห้าสีได้ออกลูกมา 1 ตัวแต่ยังไม่ทราบเพศ สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี เกิดจากแม่ค่างห้าสีชื่อ “นาง” และพ่อชื่อ “ปีโป้” โดยลูกค่างห้าสีตัวนี้นับเป็นตัวที่ 3 ที่เกิดจากแม่ “นาง” ในสวนสัตว์เชียงใหม่ ทำให้สวนสัตว์เชียงใหม่มีสมาชิกค่างห้าสีเพิ่มขึ้นจากเดิม 7 ตัว ตัวผู้ 4 ตัว ตัวเมีย 3 ตัว เพิ่มตัวที่เกิดใหม่ยังไม่ทราบเพศ รวมเป็น 8 ตัว โดยขณะนี้ยังอยู่ในส่วนจัดแสดงและยังให้ประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวได้ชมอยู่ตามปกติ พร้อมเตรียมประกวดตั้งชื่อให้แก่ลูกค่างห้าสีที่เกิดใหม่ตัวนี้ต่อไป

สำหรับค่างห้าสีเป็นสัตว์ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว จากการที่มีสีสันสวยสะดุดตา ตามตัวมีสีตัดกันถึง 5 สีคือ ตัวและหัวมีสีเทา ตรงหน้าผากมีสีเทาดำออกแดง หนวดเคราสีขาว หางและก้นสีขาว ผิวหน้าเหลือง ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียราว 2 เท่า และมีขนเป็นพู่ที่เอวทั้ง 2 ข้างซึ่งตัวเมียไม่มี มีนิสัยชอบนอนเป็นส่วนใหญ่หลังจากกินอาหารแล้ว เลี้ยงยาก ลูกเป็นสีทองเหมือนค่างทั่วไป สำหรับถิ่นอาศัยตามธรรมชาติพบในป่าดิบชื้นของประเทศลาวและเวียดนามตอนเหนือ มีนิสัยเงียบขรึม ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มีการสืบพันธุ์ที่ไม่แน่นอน ตั้งครรภ์นานประมาณ 196 วัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว กินผักผลไม้เป็นอาหาร ทั้งนี้ ในประเทศไทยนอกจากสวนสัตว์เชียงใหม่แล้ว ยังสามารถชมค่างห้าสีได้ที่สวนสัตว์ดุสิต และสวนสัตว์เปิดเขาเขียว

********************

ปชส.สวนสัตว์เชียงใหม่ - ข่าว/ภาพ

TV Online ; ครูบาดวงคำ นำประชาชนอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ฟื้นฟูวิถีชีวิตวัฒนธรรม พร้อมเสริมทักษะว่ายน้ำ

          เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์ (ครูบาดวงคำ ฐานิสสโร) นำประชาชนชาวอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันจัดกิจกรรมอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ฟื้นฟูวิถีชีวิตวัฒนธรรม พร้อมนำชมสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นเพื่อเสริมทักษะว่ายน้ำแก่เยาวชนและประชาชนในพื้นที่

Link TV Online ดูภาพทีวีออนไลน์ คลิกลิงค์ด้านล่าง

https://youtu.be/y5M0wJacTog

*******************

ข่าว ; สนามกอล์ฟแม่โจ้โชว์เสื้อที่ระลึกผู้ร่วมแข่งขัน Member Challenge 2016

ตามที่สนามแม่โจ้กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์สปา กำหนดจัดการแข่งขันกอล์ฟสำหรับสมาชิก รายการ MJGR&S Member Challenge 2016 ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559 ช็อตกันสตาร์ทเวลา 13.00 น. เพื่อเป็นการพบปะสังสรรค์ระหว่างสมาชิกและแขกของสมาชิกนั้น

ล่าสุด แม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท แอนด์สปา ได้จัดทำเสื้อโปโลสำหรับเป็นของที่ระลึกให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขันเป็นสีขาว-ดำ เพื่อให้เข้ากับช่วงเวลาแห่งการถวายความอาลัยในช่วงเวลานี้ ทั้งนี้ การแข่งขันครั้งนี้มีอัตราค่าสมัครรวมกรีนฟี, แคดดี้, ของที่ระลึก, งานเลี้ยงเย็น สำหรับสมาชิก Albatross  เพียงคนละ 1,000 บาท สมาชิก Eagle คนละ 1,400 บาท แขกของสมาชิกคนละ 1,800 บาท ทั้งนี้ สมาชิกแต่ละคนสามารถรับรองแขกได้ 4 คน

ส่วนรางวัลพิเศษสำหรับรายการนี้คือ Hole In One ได้จัดไว้เป็นพิเศษครบทุกหลุมพาร์ 3 ประกอบด้วย Hole In One หลุม 2  รับรางวัล Suite Room 1 night at Mae Jo Golf Resort and Spa รางวัล Hole In One หลุม 7  ได้รับ Member Eagle 1 ปี รางวัล Hole In One หลุม 14 ได้รับ A-TA-TI Spa Package และ รางวัล Hole In One หลุม 17 ได้รับ Member  Albatross 1 ปี ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ที่ 053-354431-2 หรือ 081-9193200

*******************

ข่าว ; คณะแพทย์ มช.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ ปี 2559

ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กำหนดจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ ประจำปีพุทธศักราช 2559 เพื่อรำลึกถึงครูผู้ไร้ลมหายใจ ซึ่งเป็นผู้อุทิศร่างเป็นตำราให้เป็นวิทยาทานแก่การศึกษาเล่าเรียนของนักศึกษา จำนวน 538 ร่าง และเป็นการบำเพ็ญกุศลรวมถึงพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ ระหว่างวันที่ 16–18 ธันวาคม 2559 ณ วัดลัฏฐิวัน (พระนอนขอนตาลศักดิ์สิทธิ์) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมี พระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง เป็นประธานพิธีพระราชเพลิงศพฝ่ายสงฆ์ และ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์วัฒนา นาวาเจริญ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพฝ่ายฆราวาส โดยมีกำหนดการดังนี้

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2559
เวลา 07.00 น. เคลื่อนขบวนร่างอาจารย์ใหญ่จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปยังวัดลัฏฐิวัน (พระนอนขอนตาลศักดิ์สิทธิ์) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
  เวลา 09.30 น. เริ่มพิธีทางศาสนา ไหว้พระ รับศีล แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ กล่าวถวายมตกะภัตตาหารเพล จตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา แผ่เมตตา ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์
เวลา 11.00 น. เสร็จพิธีภาคเช้า
เวลา 12.30 น. เคลื่อนย้ายโลงศพอาจารย์ใหญ่ขึ้นสู่เมรุ
เวลา 13.00 น. เริ่มพิธีการทางศาสนา ทอดผ้าไตรบังสุกุลไตรเปิด ทอดผ้าบังสุกุล ทอดผ้าไตรบังสุกุล
เวลา 14.45 น. พิธีพระราชทานเพลิงศพ นิมนต์พระสงฆ์สามเณร วางดอกไม้จันทน์ เชิญแขกผู้มีเกียรติวางดอกไม้จันทน์

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559
เวลา 09.00 น. พิธีทำบุญอัฐิ และลอยอังคาร (ณ แม่น้ำปิง ตรงข้ามวัดลัฏฐิวัน)

สำหรับการแต่งกายของผู้เข้าร่วมพิธี ชุดสุภาพไว้ทุกข์ ข้าราชการ ชุดปกติขาวไว้ทุกข์

นอกจากนี้ ผู้มีจิตกุศลยังสามารถบริจาคเงินร่วมทำบุญสำหรับการนี้ได้ โดยโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ กองทุนงานพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เลขที่ 406-484001-4 และท่านที่ต้องการใบอนุโมทนาบัตร ขอให้แจ้งชื่อ ที่อยู่ และถ่ายรูปหลักฐานการโอนเงินส่งไปที่ anato2558@gmail.com

*******************

ข่าว ; พัฒนายกระดับการผลิตสินค้า OTOP เกษตรแปรรูปสู่สากล

กรมส่งเสริมการเกษตร โดยกองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ร่วมกับศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Food Innovation and Packaging Center, FIN) เปิดตัวโครงการ “พัฒนาศักยภาพและยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้า OTOP เกษตรแปรรูปสู่สากล” ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ฝ่ายส่งเสริมและฝึกอบรม เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ พร้อมด้วยนางยุพา อินทราเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุทธนา พิมลศิริผล ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมกับหน่วยงานความร่วมมือในการบริหารจัดการโครงการร่วมการแถลงข่าว

สำหรับการดำเนินงานของโครงการ เป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้า OTOP เกษตรแปรรูปสู่สากล โดยผ่านการวิเคราะห์ศักยภาพและจัดทำแผนพัฒนากิจการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ใหม่ การยกระดับมาตรฐานกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยการนำเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย และนวัตกรรมมาช่วยในการผลิตให้สามารถผลิตได้อย่างเหมาะสม การยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ และการเชื่อมโยงทดสอบตลาดผลิตภัณฑ์

โครงการพัฒนาศักยภาพและยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้า OTOP เกษตรแปรรูปสู่สากล มีวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 85 กลุ่มใน 77 จังหวัด อย่างน้อยจังหวัดละ 1 กลุ่ม เพื่อพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนของตนเองเพื่อก้าวสู่ระดับสากล ทั้งนี้ จะก่อให้เกิดความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนที่สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

********************

ศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์-ข้อมูล

ประชาสัมพันธ์ มช.-ข่าว/ภาพ

ภาพข่าว ; วิทยากรระดับโลกเข้าพบและหารือการฝึกอบรมกับสวนสัตว์เชียงใหม่

Dr.Mitchell Bush ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการสุขภาพและอายุรศาสตร์สัตว์ป่าสวนสัตว์ในระดับโลก มาเป็นวิทยากรให้กับสวนสัตว์เชียงใหม่ เข้าพบเพื่อหารือและแนะนำการดำเนินการฝึกอบรมบุคลากรที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับด้านการจัดการสุขภาพสัตว์ป่า ซึ่งได้เข้าร่วมการฝึกอบรมระหว่างวันที่ 10 -14 ธันวาคม 2559 โดยมีนายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ นำคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ ณ สวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559

**********************

ข่าว ; ถวายน้ำสรงพระราชทานพระอุตตรพาหุธาตุ สายสัมพันธ์ไทย-เมียนมาร์

คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ (มหานิกาย) คณะสงฆ์จังหวัดลำพูน เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุติกนิกาย) และประชาชน ขอเชิญร่วมสร้างประวัติศาสตร์แห่งมหากุศลบารมี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ในพิธีถวายน้ำสรงพระราชทานพระอุตตรพาหุธาตุ (พระบรมธาตุปล้องแขนซ้าย) เป็นกรณีพิเศษ (น้ำสรงพระราชทานลำดับสุดท้ายแห่งรัชกาลที่ 9) และพิธีสมโภชพระบรมธาตุสายสัมพันธ์สองแผ่นดินไทย-เมียนมาร์ วันที่ 11-14 ธันวาคม 2559 ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

รองศาสตราจารย์วรลัญจก์ บุณยสุรัตน์ คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า พระอุตตรพาหุธาตุเป็นพระบรมสารีริกธาตุปล้องแขนเบื้องซ้าย ที่พระมหาสังฆนายก ภัททันตะ กุมาระภิวังสะ อภิธชะ มหารัฏฐคุรุ พระประมุขสงฆ์สูงสุดแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ได้รับสืบทอดมาตั้งแต่อดีต และเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2559 ได้ทรงมอบพระบรมสารีริกธาตุส่วนแขนเบื้องซ้ายซึ่งเป็นส่วนที่เสด็จเพิ่มขึ้นมาจากองค์จริง เพื่ออัญเชิญสู่ประเทศไทย ปัจจุบันประดิษฐานชั่วคราว ณ วัดพระธาตุดอยแต จังหวัดลำพูน

สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดงานในครั้งนี้  เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และฟื้นฟูความสำคัญของศาสนาพุทธ เพื่อให้ประชาชน ศรัทธาสาธุชน ได้สักการะพระอุตตรพาหุธาตุ หรือพระบรมสารีริกธาตุปล้องแขนเบื้องซ้ายองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมระหว่างแผ่นดินไทย-เมียนมาร์ สนับสนุนนโยบายส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ความดีงาม ความเป็นคนไทย รวมทั้งเป็นการสมโภช 720 ปี เมืองเชียงใหม่ด้วย

กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 ธันวาคม 2559 เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2559 เวลา 08.45 น. ขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระอุตตรพาหุธาตุ เคลื่อนออกจากวัดสวนดอกไปยังหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เวลา 09.15 น. ขบวนอัญเชิญน้ำสรงพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (น้ำสรงพระราชทานลำดับสุดท้ายแห่งรัชกาลที่ 9) จากศาลาธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปยังหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เวลา 09.45 น. อัญเชิญน้ำสรงพระราชทานฯ สรงพระบรมสารีริกธาตุ เวลา 13.00 น. สรงน้ำพระบรมธาตุ เวลา 16.00 น. มหรสพสมโภช พิธีสวดมนต์ตั๋น พิธีสวดเบิก พิธีกวนข้าวทิพย์ เสร็จพิธีเวลา 22.00 น. สำหรับในวันที่ 12-13 ธันวาคม 2559 จะเปิดให้ประชาชนได้สักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. และสำหรับกรณีพิเศษในวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ครบรอบปีที่ 33 ของคณะวิจิตรศิลป์ ในเวลา 09.00 น. จะมีพิธีเทวาภิเษก “พระพิฆเนศวร์วิจิตรศิลป์ 59” เพื่อประดิษฐานที่คณะวิจิตรศิลป์ต่อไป และในวันที่ 14 ธันวาคม 2559 เวลา 09.00 น. จะเป็นพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสู่วัดพระธาตุหริภุญชัยและพระธาตุดอยแต จ.ลำพูน

จึงขอเรียนเชิญศรัทธาสาธุชน พุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมพิธีถวายน้ำสรงพระราชทาน (น้ำสรงพระราชทานลำดับสุดท้ายแห่งรัชกาลที่ 9) พระอุตตรพาหุธาตุ(พระบรมธาตุปล้องแขนเบื้องซ้าย) และพิธีสมโภชพระบรมธาตุสายสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน ไทย-เมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 11-14 ธันวาคม 2559 ณ มณฑลพิธี หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับผู้ที่ประสงค์จะร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพถวายจตุปัจจัยไทยทาน ถวายภัตตาหาร เจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ โรงทาน ติดต่อสอบถามได้ที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร. 0-5394-4829  และ 0-5394-4805 หรือ 08-2897-5495 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุคแฟนเพจ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือแฟนเพจ พระบรมธาตุเจ้าสายสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน

*******************

ประชาสัมพันธ์ คณะวิจิตรศิลป์ มช.-ข้อมูล

ประชาสัมพันธ์ มช.-ข่าว/ภาพ

ข่าว ; เพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมภาคเหนือ เตรียมรับมือยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน จัดสัมมนาในโครงการ Digital Lanna สร้างความเข้าใจสำหรับผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP เตรียมรับมือตลาดเศรษฐกิจยุคดิจิทัล หวังเพิ่มศักยภาพตลาดผู้ประกอบการภาคเหนือ พร้อมจัดตั้งศูนย์บริการเศรษฐกิจดิจิทัลสนับสนุน Digital Economy อย่างเต็มรูปแบบ
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 ณ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จ.เชียงใหม่ โครงการศูนย์บริการเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลลานนา (Lanna Digital Economy) ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ จากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้การดำเนินงานโครงการโดยวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจเชิงดิจิทัลทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับผู้ประกอบการภาคเหนือที่มีศักยภาพทางด้านการแข่งขันในตลาดเศรษฐกิจโลก โดยได้เล็งเห็นถึงกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนซึ่งมีอุตสาหกรรมที่มีความโดดเด่นหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว หัตถกรรม อาหาร สมุนไพร และอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและมีผู้ประกอบการทั้ง SMEs และ OTOP ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีทรัพยากรบุคคลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีศักยภาพ ทำให้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองในซุปเปอร์คลัสเตอร์ (Super Cluster) ด้านดิจิทัล ซึ่งสามารถขยายตลาดเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ได้สูงทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง

ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการทุกกลุ่มจึงจำเป็นต้องปรับตัวโดยนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมให้มากยิ่งขึ้น โดยก่อนหน้านี้ วิทยาลัยศิลปะสื่อฯ ได้จัดงานสัมมนา Tech Entrepreneur สำหรับนักศึกษาขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ให้แก่นักศึกษา และสตาร์ทอัพ (Startup) เพื่อเตรียมความพร้อมในการเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมดิจิทัล และผู้ประกอบการจากอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของภาคเหนือ ซึ่งนักศึกษาและสตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือกและบ่มเพาะจะมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมกับผู้ประกอบการจำนวน 100 ราย  โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและความรู้ด้านดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ และจะมีการจัดแสดงสินค้าและผลการดำเนินงานในโครงการทั้งหมด รวมถึงให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจดิจิทัลแก่ประชาชนอีกครั้ง ภายในงาน Northern Digital Expo 2017 ในวันที่ 5-7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ต่อไป

*******************

วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มช.-ข้อมูล

ประชาสัมพันธ์ มช.-ข่าว/ภาพ