All online

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ข่าว ; สวนสัตว์เชียงใหม่ดำเนินการผสมเทียมแพนด้าหลินฮุ่ยอีกครั้ง


วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560 ณ ห้องประชุมอาคารสโมสรหมีแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ และ นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย แถลงว่า  คณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้รายงานให้ทราบว่า  แพนด้าหลินฮุ่ย ซึ่งปัจจุบัน อายุ 16 ปี มีน้ำหนักตัว 118 กิโลกรัม ได้เริ่มแสดงพฤติกรรมการเป็นสัดตามธรรมชาติ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2560 ซึ่งพฤติกรรมการเป็นสัดของหลินฮุ่ยยังไม่ชัดเจนนัก แต่สามารถสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของหลินฮุ่ยได้ คณะทำงานโครงการวิจัยฯ สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้ดำเนินการตรวจระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจากปัสสาวะของหลินฮุ่ย เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนมาโดยตลอด และพบว่าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของรังไข่และทำให้เกิดพฤติกรรมการเป็นสัดเริ่มเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2560 ต่อมาในช่วงวันที่ 30 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2560 หลินฮุ่ยมีการเดินกระวนกระวายมากขึ้น มีการป้ายกลิ่นด้วยปัสสาวะถี่ขึ้น และเริ่มส่งเสียงร้องแพะเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์  ซึ่งเป็นเสียงที่พบได้ในช่วงฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น นอกจากนี้พบว่าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนมีความเข้มข้นสูงสุดในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560  สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

คณะทำงานโครงการวิจัยฯ ได้ติดต่อสอบถามและร่วมปรึกษาหารือถึงแนวทางการดำเนินการผสมพันธุ์หมีแพนด้ากับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีน โดยได้รับคำแนะนำให้มีการให้โอกาส ช่วงช่วง และหลินฮุ่ย ได้พบกันและสังเกตพฤติกรรมของหมีแพนด้าทั้งสองเป็นระยะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ ช่วงช่วง ได้เรียนรู้พฤติกรรมของหลินฮุ่ยในช่วงเป็นสัด และเพื่อสังเกตว่า ช่วงช่วงมีปฏิกิริยาอย่างไร มีความสนใจในหลินฮุ่ยหรือไม่ อีกทั้งเป็นการทดสอบว่าหลินฮุ่ย มีความพร้อมในการผสมพันธุ์เพียงใด

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 พบว่าหลินฮุ่ยแสดงการปฏิเสธช่วงช่วงโดยแสดงอาการส่งเสียงขู่ แต่ช่วงบ่ายมีการยอมรับมากขึ้น ซึ่งคณะทำงานได้ลงความเห็นว่าหลินฮุ่ยแสดงอาการเป็นสัดตามธรรมชาติ โดยทีมนักวิจัยฮอร์โมนหมีแพนด้าได้สรุปผลฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เริ่มลดระดับลงและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบ่งบอกว่าหลินฮุ่ยน่าจะมีการตกไข่ในเช้าวันที่ 4 กุมภาพันธ์ จึงเริ่มกระบวนการเตรียมผสมเทียมให้กับหลินฮุ่ยในห้วงเวลาที่เหมาะสม คือ 24-36 ชั่วโมงหลังจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงสุด คณะทำงานฯ จึงได้ตัดสินใจเก็บน้ำเชื้อและผสมเทียมในช่วงเวลา 20.30 น. ของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 โดยเริ่มวางยาสลบเก็บน้ำเชื้อ ช่วงช่วง ซึ่งปัจจุบัน อายุ 17 ปี มีน้ำหนักตัว 139 กิโลกรัม ได้น้ำเชื้อสดคุณภาพดี และได้ผสมเทียมให้กับหลินฮุ่ย โดยใช้น้ำเชื้อสดที่เก็บได้ พร้อมตรวจสุขภาพของหมีแพนด้าพบว่าทั้งสองตัวมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ดี

การดำเนินงานผสมเทียมในช่วงกลางคืนได้สิ้นสุดกระบวนการในเวลา 24.00 น. เป็นไปอย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ การวางยาสลบและการฟื้นของช่วงช่วงและหลินฮุ่ย ได้รับการดูแลจากทีมสัตวแพทย์และทีมพี่เลี้ยงเป็นอย่างดี ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีกทั้งทีมทันตแพทย์จากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มาร่วมทำการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันของช่วงช่วงและหลินฮุ่ยด้วย

“องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะทำหน้าที่ดูแลสุขภาพของช่วง ช่วงและหลินฮุ่ย โดยจะจัดทำโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมตามธรรมชาติ และนำต้นไม้มาเสริมในส่วนแสดงสำหรับการฝึกปีนป่าย ให้แพนด้าได้ออกกำลังกาย อีกทั้งจะเตรียมแผนการจัดการพื้นที่ให้หลินฮุ่ยได้อยู่โดยปราศจากความเครียดและการรบกวน โดยจะงดจัดแสดงหลินฮุ่ยในช่วง 3-4 เดือนนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้หลินฮุ่ยได้มีความเป็นส่วนตัวในระยะตั้งท้อง และทางทีมงานวิจัยหมีแพนด้า องค์การสวนสัตว์ มีความหวังว่าหลินฮุ่ยจะมีโอกาสให้กำเนิดน้องของหลินปิงในปีนี้” ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่กล่าว

**********************
ประชาสัมพันธ์สวนสัตว์เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น