สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เร่งใช้มาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรคไข้เลือดออกในตัวเมืองให้เร็วที่สุด พร้อมลดพื้นที่เสี่ยงที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดรุนแรงเหมือนในปีที่ผ่านมา
ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นพ.วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยเน้นเรื่องของไข้เลือดออก ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่พบการระบาดของโรคไข้เลือดออกเป็นประจำทุกปีเฉลี่ย 5,000 - 6,000 ราย โดยพบผู้ป่วยสูงสุดในปี 2556 จำนวน 11,463 ราย ซึ่งในปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยจำนวน 4,751 ราย และคาดว่าจะมีการระบาดเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ทั้งนี้ยังพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกในทุกๆปี โดยพบผู้ป่วยในทุกๆอำเภอโดยเฉพาะในเขตเมืองและอำเภอรอบเมืองในพื้นที่ประชากรหนาแน่น ชุมชนต่างด้าว และในสถานประกอบการต่างๆ กลุ่มประชากรก็มีความหลากหลาย ทั้งนักเรียนนักศึกษา ชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 15 - 25 ปี ซึ่งอยู่ในวัยเรียนและวัยทำงาน จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกจังหวัดเชียงใหม่ขึ้นมา ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด อำเภอ และตำบล เพื่อกำหนดนโยบาย แผนงานและมาตรการในการดำเนินงานป้องกันควบคุม พร้อมกับขับเคลื่อนมาตรการในการแก้ไขปัญหาโรคไข้เลือดออกขึ้นมา โดยมีทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนอยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย
สำหรับสถานการณ์ไข้เลือดออกจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2560 มีผู้ป่วยทั้งหมด 43 ราย คนไทย 40 ราย ต่างชาติ 3 ราย เกิดมากที่สุดภายในวัดและโรงเรียน แนวโน้มไข้เลือดออกในปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนบ่อยทำให้เอื้อต่อการเจริญเติบโตของยุง
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ความสำคัญของโรคไข้เลือดออกเป็นวาระของจังหวัด โดยใช้ชื่อว่า เชียงใหม่สู้ภัยโรคไข้เลือดออก ปี 2560 โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ และขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุง มีมาตรการดำเนินการจัดเก็บขยะ สำรวจทำลายแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำทุกหลังคาเรือน ทั้งชุมชน วัด โรงเรียน สถานที่ทำงาน พร้อมกับลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางการแก้ไขให้มีประสิทธิภาพ ในการควบคุมโรคไข้เลือดออกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
********************
ส.ปชส.เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น