Banana

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

รายงาน ; งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ

รัฐบาลได้ประกาศให้วันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2555 เป็นวันหยุดราชการ เนื่องจากวันดังกล่าว มีหมายกำหนดการงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี  ณ เมรุท้องสนามหลวง กทม. และต่างจังหวัดประกอบพิธีถวายดอกไม้จันทน์พร้อมเพรียงในวันเดียวกัน สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบพิธี ณ วัดสวนดอก (พระอารามหลวง) ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป


พิธีหลวงในส่วนกลาง คงจะทราบดีจากสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ แต่พิธี และเรื่องราวบางประการที่พสกนิกรต่างจังหวัดควรทราบเกี่ยวกับงานพระราชพิธีนี้ยังมีอีกมาก จากการที่สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 ได้จัดบรรยายพิเศษโดยนายเชื้อพร รังควร ผู้ช่วยผู้บริหารงานในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนสุดา สิริโสภาพัณณวดี และ ดร.ชัชพล ไชยพร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬา และข้าราชบริพารในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ เมื่อ 15 มีนาคมที่โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่มีหลายตอนน่าสนใจยิ่ง
สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 กับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ประสูติเมื่อวันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน 2468 เวลา 12.55 น.  ณ พระที่นั่งเทพสถานพิลาส ซึ่งอยู่เบื้องหลังของพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง ในหมู่มหามณเฑียร พระบรมมหาราชวังก่อนก่อนพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จสวรรคตเพียงวันเดียว

เมื่อคณะแพทย์ระบุว่า พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี (พระนามเดิม เครือแก้ว อภัยวงศ์ ครั้งยังทรงเป็นเจ้าจอมสุวัทนา จะมีพระประสูติการ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชหฤทัยโสมนัสยิ่ง โปรดเกล้าฯให้จัดเตรียมประสูติการอย่างเต็มที่ แต่แล้วพระองค์ก็ทรงประชวร จากบาดแผลการผ่าตัดพระอันตะ(ไส้ติ่ง) และสวรรคตลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2468วันรุ่งขึ้นพระราชธิดาจึงถือประสูติกาล ...

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ เริ่มการศึกษาที่พระตำหนักสวนหงส์ พอทรงเจริญพระวัยขึ้นได้ทรงพระอักษร ณ โรงเรียนราชินี และต่อที่สวนรื่นฤดี โดยพระวรราชเทวีทรงจ้างมิสซิสเดวีส์ อดีตครูโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยมาถวายพระอักษรวิชาภาษาอังกฤษ และการคำนวณ จนมีพระชนมายุย่างเข้า 13 พรรษา จึงเสด็จไปทรงศึกษาในประเทศอังกฤษ พร้อมกับพระชนนี โดยรถไฟขบวนพิเศษไปปีนัง จากนั้นประทับเรือเดินสมุทรชื่อยุตแลนเดียต่อไปฝรั่งเศส ก่อนจะเสด็จไปอังกฤษ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเหตุการณ์ต่างๆ ในประเทศอยู่ในภาวะปกติ กอปรกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จนิวัติประเทศไทยแล้ว สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ และพระชนนี จึงตัดสินพระทัยเสด็จนิวัตประเทศไทยเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2500

ตั้งแต่ปี พ.ศ.2502  สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเพิ่มพูนขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะการสืบสานพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ และการแบ่งเบาพระราชภารกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งยังทรงพระอุปการะและทรงอุปถัมภ์องค์กรสาธารณกุศลทุกแขนงไว้เป็นจำนวนมาก เช่นที่จังหวัดเชียงใหม่ทรงอุปถัมภ์โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และปรินสรอยแยลส์วิทยาลัย ที่พระบรมชนกนาถทรงวางศิลาฤกษ์เปิดโรงเรียนไว้เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระยุพราช นอกจากนั้นยังทรงบำเพ็ญพระองค์เป็นแบบอย่างอันดีงามแก่ประชาชน ทั้งด้านความเป็นไทย ความประหยัดมัธยัสถ์ เป็นต้น

นายเชื้อพร รังควร (รังคะวร) วิทยากรบรรยายถึงพระกรณียกิจในจังหวัดเชียงใหม่ว่า พระองค์พอพระราชหฤทัยมาก เสด็จมาเป็นประจำ ตั้งแต่หลัง พ.ศ. 2502 โดยทางรถไฟ ทรงสนพระทัยศิลปวัฒนธรรมของภาคเหนือ และทรงไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง เช่นเดียวกับการไปทรงงานช่วยเหลือคนยากไร้ในภาคใต้ตอนบน ก็ประทับรถไฟ เมื่อขบวนรถถึงสถานีใดก้มีพสกนิกรมารอเฝ้ารับเสด็จ ส่วนข้าราชบริพารที่ตามเสด็จ ก็นั่งนอนตามทางเดินนั่นเอง 

ส่วน ดร.ชัชพล ไชยพร อธิบาย งานพระราชทางเพลิงพระศพฯ เป็นงานใหญ่ พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงถือเป็นเทพเทวดา เมื่อสิ้นพระชนม์จึงจำลองพระเมรุเป็นเข้าพระสุเมรุ สถิตอยู่ในที่สูง และต้องมีโกศหรือภานชนะอย่างนั่ง ปกติศพทั่วไปเป็นศพนอน แต่เจ้าฟ้าเมื่อมีการกลับไปก็ไปอย่างเทวดา ไม่มีไม้ ไม่มีเหล็กอย่างที่พูดกันไปน่ากลัว สำหรับเขาพระสุเมรุ อยากเห็นเป็นอย่างไรมีภาพจำลองไว้ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย ลำพูนนี่เอง งานพระสุเมรุถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ฉลุลาย ซ่อนไม้ ทำพระโศกอย่างงดงาม คนทั้งหลายมาช่วยกันทำสนองพระเดชพระคุณ สานงานศิลป์ แม้มหรสพต่างๆ ก้มีการสมโภช คนไทยจึงถือว่า..ไปที่ชอบ..คือสรวงสวรรค์ จึงมีการสมโภชอย่างใหญ่โต

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเลื่อนฉัตรจากห้าชั้นเป็นเจ็ดชั้น สัตตปฏลเศวตฉัตร และวันที่ 8 เมษายน จะมีพิธีเชิญพระศพสู่พระมหาเวชยันต์ราชรถ สำหรับสมเด็จเจ้าฟ้า โดยใช้คนเดิน 6,000 คน ในจำนวนนั้นก็มีลูกเสือจากโรงเรียนปรินสรอลแยลส์วิทยาลัย ก็จะเข้าร่วมพิธีด้วย

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.37 นาฬิกา ณ ตึก 84 ปี โรงพยาบาลศิริราช สิริพระชันษา 85 พรรษา ข้าราชบริพารใกล้ชิดพระองค์ กล่าวว่า ความคิดของพระองค์ท่าน ชอบทำดี เพื่อความดี ไม่ใช่เพื่อการป่าวร้อง การที่ประชาชนจะไปยังวัด วางดอกไม้จันทน์ธรรมดา จะไม่มีความหมายอะไร แต่ถ้ามีการประชาสัมพันธ์ ก็จะมีความหมาย การจัดงานออกพระเมรุในครั้งนี้ พระองค์เป็นเทวดาที่มีชีวิต ใครทำงานกับพระองค์ท่าน เห็นประโยชน์งานทุกอย่าง รู้ว่าเจ้านายทำอะไร โดยผรุสวาทวาจาไม่เคยใช้ วาจาหยาบคายไม่เคยมี...

พระองค์ท่านไปแล้ว แต่พระนามยังคงอยู่ องค์กรในพระอุปถัมภ์ยังคงอยู่  มูลนิธิเพชรัตน์-สุวัทนา ก็ยังอยู่สิ่งของพระราชทาน ก็ยังมีชื่อเดิมอยู่ สิ่งของไม่ได้ตกอยู่กับใคร ฉากชีวิตเจ้าหญิงพระองค์นี้ งดงามทั้งกาย วาจา และใจ  ดังนั้น วันที่ 9 เมษายน 2555 หากอยู่ส่วนกลางเชิญไปร่วมงานพระราชพิธีอันยิ่งใหญ่หรือรับชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ต่างจังหวัดเช่นที่เชียงใหม่ ไปร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ เพื่อแสดงความอาลัยพระองค โดยพร้อมเพรียงกัน

เรื่อง/ภาพ โดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; พิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ ปี 2555

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ พระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ 8 แห่ง 25-28 เมษายน 2555 นี้

ผศ.ดร.เรืองเดช  วงศ์หล้า  อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคเหนือ ปีการศึกษา 2553-2554 ระหว่างวันที่ 25-28 เมษายน 2555 ณ หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตสะลวง ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏ และพสกนิกรในภาคเหนืออย่างหาที่สุดมิได้ ทั้งนี้ มีกำหนดการให้บัณฑิต มหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 8 แห่ง  เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ดังนี้
·                               วันพุธที่ 25 เมษายน 2555 : ภาคเช้า มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ภาคบ่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
·                               วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2555 : ภาคเช้า มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม            ภาคบ่าย มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
·                               วันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2555 : ภาคเช้า มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ภาคบ่าย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
·                               วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555 : ภาคเช้า มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ภาคบ่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์

อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ในฐานะคณะกรรมการดำเนินงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรฯ ประจำปี 2555 ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในส่วนงานต่างๆ โดยเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ พร้อมคณะทำงานหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยราชภัฏ 8 แห่ง ณ หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งได้มีการตรวจความเรียบร้อยของสถานที่ การเตรียมความพร้อม ของส่วนราชการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยให้แก่บัณฑิตที่จะเดินทางมาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวมถึงผู้ปกครองและญาติที่มาร่วมแสดงความยินดี เพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่เข้าร่วมงาน

สำหรับบัณฑิตและญาติที่มีความประสงค์จะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรฯ สามารถสอบถามได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร พิธีพระราชทานปริญญาบัตรฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-885395-7 หรือทาง www.facebook.com/ congratulations2555

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; ปิดฉากพืชสวนโลก 2554 งานมหกรรมเฉลิมพระเกียรติ 3 พระบารมี ครั้งใหญ่ของแผ่นดิน

นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดร.ดู๊ค ฟาเบอร์ (Dr. Doeke C. Faber) ประธานสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ เอกอัครราชทูต ผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้สนับสนุน 
การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ปลื้มปิติและประทับใจกับความสำเร็จในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ 2554 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 3 พระบารมี อย่างยิ่งใหญ่และงดงาม ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา

จำนวนผู้เข้าชมงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ณ วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,200,000 คน  ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางมาเยี่ยมชมงานมหกรรมพืชสวนระดับโลกที่ประเทศไทยจัดขึ้นในครั้งนี้  ซึ่งจากยอดนักท่องเที่ยวดังกล่าวที่เข้าชมงาน


ทำให้มีเงินสะพัดมากกว่าหมื่นล้านบาทในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจบริการทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง รวมถึงกลุ่มธุรกิจการค้าและการจ้างงาน นับได้ว่าการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ 2554  ส่งผลดีต่อสังคม เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ข่าว ;กรีนบัส อั้นไม่อยู่ วอนภาครัฐเห็นใจ ต้นทุนน้ำมัน ค่าแรง ค่าอะไหล่เพิ่มกระทบหนัก

ผู้ประกอบการขนส่งผู้โดยสารรายใหญ่ กรีนบัส สุดทนกับต้นทุน และรายจ่ายพุ่งสูงพรวด ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง อะไหล่ และค่าแรงงานต้องปรับตามคำสั่งรัฐบาล รวมเดือนละกว่า 6.4 ล้านบาท ขณะที่รายได้มีแนวโน้มไม่เพิ่มแต่ต้องให้บริการผู้โดยสารทั่วภาคเหนือต่อไป วิงวอนไปยังรัฐบาลเร่งปรับราคาค่าโดยสาร ก.ม.ละ 45 สตางค์

จากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการขนส่ง คมนาคมคือดีเซลที่ จ.เชียงใหม่ลิตรละ 33.08 บาท ซึ่งสูงสุดเกินที่ผู้ประกอบการขนส่งผู้โดยสารจะต้านทานไหว ดังนั้น เมื่อบ่ายวันที่ 15 มีนาคม 2555 ที่บริษัทไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด หรือกรีนคอร์ป ผู้ให้บริการรถโดยสารกรีนบัสมีสัมปทนาทั่วภาคเหนือ นายสมชาย ทองคำคูณ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ และยังเป็นประธานฝ่ายโลจิสติกส์ของกลุ่มหอการค้าภาคเหนือตอนบน เปิดเผยว่า จากการปรับเพิ่มราคาน้ำมันดีเซล สูงขึ้นไปถึงลิตรละ 33.08 บาทนั้น ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจรถโดยสารประจำทาง โดยเฉพาะกรีนบัส ซึ่งต้องใช้น้ำมันเชื้อเพบิวกว่า 4 แสนลิตรต่อเดือน ในขณะที่ราคาค่าโดยสารที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง และกรมการขนส่งทางบกกำหนดค่าโดยสารไว้เดิมตอนน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ลิตรละ 24.71 บาท

ภาระอันหนักดังกล่าว จึงทำให้กรีนบัส และผู้ประกอบการรถโดยสารภาคเหนือ ต้องแบกรับส่วนต่างราคาค่าน้ำมันกว่าลิตรละ 8.37 บาท สำหรับกรีนบัสเองต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายน้ำมันฯ เดือนละ 3.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.6% ของรายได้ ในที่รัฐบาลกำหนดว่าตั้งแต่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไปจะต้องปรับค่าแรงงานขั้นต่ำตามนโยบายเพิ่มขึ้นไปอีก รวมแล้วที่จะต้องปรับทั้งเงินเดือน ค่าล่วงเวลา และค่าประกันสังคมเงินกองทุนทดแทน ไม่น้อยกว่าเดือนละ 1.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.2% ของรายได้ นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายเรื่องอะไหล่รถยนต์ ซึ่งต้องซ่อมบำรุงตลอดเวลา อะไหล่ก็ปรับราคาขึ้นไปก่อนหน้าแล้วอีกเดือนละ 1.2 ล้านบาท คิดเป็น 1% ของรายได้ เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกรีนบัส จะต้องจ่ายเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 6.4 ล้านบาทหรือ 15% ของรายได้  จึงถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤต

นายสมชาย ทองคำคูณ ผู้บริหารกรีนบัสหรือรถเมล์เขียว กล่าวว่า ในขณะนี้นี้บริษัทใช้อัตราค่าโดยสารตามราคาน้ำมันที่ทางราชการกำหนดที่ลิตรละ 23.524.71 บาท ต่อค่าโดยสาร 0.47 บาท/คน/กิโลเมตร ภาวะเช่นนี้ จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคมเห็นใจผู้ประกอบการ และอนุมัติให้มีการปรับราคาค่าโดยสาร ตามสถานการณ์ปัจจุบันขึ้นอีก  0.54 บาท/คน/กิโลเมตร หรือปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 0.07 บาท/คน/กิโลเมตร เฉลี่ยค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้น 100 กม. ไม่เกิน 10 บาท จากอัตราค่าโดยสารเดิมที่เก็บอยู่ ซึ่งจะทำให้งานบริการเป็นไปตามมาตรฐาน แต่หากให้ปรับอัตราค่าโดยสารน้อยกว่า 7% ก็จะมีผลให้งานบริการขนส่งผู้โดยสารต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งจะเห็นว่าผลกระทบเกิดขึ้นไม่เฉพาะแต่ผู้ประกอบการ แต่มีไปถึงผู้ใช้บริการด้วย

อย่างไรก็ตาม นายสมชาย ทองคำคูณ กล่าวว่า แม้ที่ผ่านมามีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่กรีนบัสก็ไม่ได้หยุดนิ่งมีการลงทุนปรับปรุงรถโดยสาร และงานบริการมาโดยตลอด แต่เมื่อมาถึงจุดวิกฤตเมื่อน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นเช่นนี้ จึงขอวิงวอนไปยังรัฐบาลให้เร่งช่วยพิจารณาปรังปรุงอัตราค่าโดยสารใหม่โดยเร็ว แต่ถ้ารัฐบาลยังชะลอการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารยืดออกไป บริษัทจำเป็นต้องลดเที่ยววิ่งในเส้นทางที่มีรายได้ต่ำกว่าต้นทุนลงให้เหมาะสม จะเห็นว่าปัจจุบันรถโดยสารหรือรถทัวร์บริการนักท่องเที่ยวต่างก็ปรับราคาค่าเช่าขึ้นทั้งสิ้น ยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการเดินทางมาก รถโดยสารประจำทางเดิมไม่พออยู่แล้ว เชื่อว่าทางราชการจะไม่สามารถจ้างรถโดยสารท่องเที่ยวมาเป็นรถเสริมช่วงเทศกาลได้ เรื่องนี้ขอเสนอให้รีบวางแผนจัดสรรรถโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารไว้แต่เนิ่น ๆ นอกจากนั้น ผู้บริหารกรีนบัสยังฝากไปถึงประชาชน และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์  ให้รีบวางแผนการเดินทางล่วงหน้าโดยการจองตั๋วไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด.

++++++++++++++++
ภาพ/ข่าว โดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

ข่าว ; ชาวพุทธนานาชาติร่วมบุญสร้างอุโบสถไม้สัก 19 ล้าน หลวงปู่อินทร์คำ

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2555 ที่วัดไชยสถาน ต.ป่าบง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ คณะศรัทธา และศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันเตรียมงานทำบุญอายุวัฒนมงคลครบ 7 รอบ 84 ปีหลวงพ่ออินทร์คำ อินทวัณโณ หรือพระครูวรวรรณาภรณ์ เจ้าอาวาสซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 17-18 มีนาคม 2555 พร้อมกับพิธีผูกพัทสีมา(ฝังลูกนิมิต) อุโบสถไม้สักทองหลังใหม่ พิธีเททองหล่อรูปเหมือนหลวงปู่อินทร์คำ ขนาดเท่าองค์จริงหน้าตักกว้าง 84 นิ้ว โส่วนอุโบสถสร้างทรงลานนาประยุกต์สองชั้นด้วยไม้สักทั้งหลัง ใช้ทุนทรัพย์กว่า 19 ล้านบาทดำเนินการ ทั้งนี้เป็นทุนทรัพย์ที่บริจาคโดยศิษยานุศิษย์ชาวพุทธจากนานาประเทศจากมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ลาว เวียดนาม กัมพูชา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย รัฐเนวาด้า อเมริกา และเมืองปาตัน อินโดนีเซีย เป็นต้น

หลวงพ่ออินทร์คำ อินทวัณโณ นอกจากเป็นเกจิอาจารย์ลานนาชื่อดังแล้ว ยังเป็นครูภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทย ปรุงยาสมุนไพรรักษาโรคกระดูก และข้อ ได้สร้างพระพุทธเจดีย์ 9 ยอด วิหารไม้สักทองสองชั้นหลังใหญ่ ศาลสมเด็จพระนเรศวร และอื่นๆ ขึ้นที่วัดไชยสถาน ล่าสุดคืออุโบสถที่แกะสลักลวดลายสวยงาม ดังกล่าว ซึ่งวันเสาร์ที่ 17 มีนาคม เวลา 09.39 น. จะมีพิธีเททองหล่อรูปเหมือน จากนั้นพระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์สืบชะตาหลวง ส่วนวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม เวลา 09.09 น.คณะศิษย์อัญเชิญผ้าไตรพระราชทานขึ้นหลังช้างมงคลน้อมถวายหลวงปู่ เวลา 10.09 น.พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 159 รูปเขริญพระพุทธมนต์ธรรมจักกัปวัตนสูตร เสร็จแล้วถวายผ้าป่าสามัคคี เวลา 13.30 น.ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา(ฝังลูกนิมิต)อุโบสถไม้สักทอง ร่วมทำบุญ/ออกโรงทาน สอบถามรายละเอียดที่วัด 053-423280 และ 084-0404722

++++++++++++++++
ภาพ/ข่าว โดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; ประธานพืชสวนระหว่างประเทศร่วมยินดีไทยจัดงานครั้งนี้สำเร็จเกินคาด

งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 นำโดย ดร. ดู๊ค ฟาเบอร์ (Dr.Doeke C. Faber) ประธานสมาคม           พืชสวนระหว่างประเทศ หรือ International Association of Horticultural Producers (AIPH) เดินทางเยือนประเทศไทย     เป็นประธานคณะกรรมการตัดสินกิตติมศักดิ์ รางวัลในกลุ่มสวนนานาชาตินอกอาคาร จำนวน 7 รางวัล จากทั้งหมด 28 สวน ได้แก่
สวนนานาชาติภายนอกอาคาร ประเภทสวนขนาดเล็ก (พื้นที่น้อยกว่า 750 ตารางเมตร)
1.รางวัลสุพรีม (Supreme Accolade for the International Outdoor Garden Exhibition) ได้แก่
สวน. แอฟริกาใต้ โดยประเทศ แอฟริกา แนวคิด โดดเด่นด้วยพรรณไม้ทะเลทรายของแอฟริกาใต้ เช่น ต้น Tree Aloe หญ้า Zebra และไม้เฉพาะถิ่นอีกมามาย
2.รางวัลพรีเมียม (Premier Accolade for the International Outdoor Garden Exhibition) ได้แก่

สวน ภูฏาน โดยประเทศภูฏาน        แนวคิด แสดงสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภูฏาน เรายกสิ่งสำคัญและสัญลักษณ์ประจำชาติภูฏานเกือบทั้งหมดมาแสดงไว้ในสวนให้ได้ชมและสักการะ เช่น พระศรีศากยมุณี ดอก Blue Poppy  ดอกไม้ประจำชาติ  นกประจำชาติ นก Raven ฯลฯ
3.รางวัลที่หนึ่ง (First Prize for the International Outdoor Garden Exhibition) ได้แก่

สวน  ลาว โดยประเทศลาว   แนวคิด ชื่นชมไม้โลงเลง ไม้ที่ใช้ทำงาช้างจากประเทศลาว หลากสีสันด้วยบานชื่นแคระ หนวดปลาดุกแคระ เป็นต้น
สวนนานาชาติภายนอกอาคาร ประเภทสวนขนาดใหญ่ (พื้นที่มากกว่า 750 ตารางเมตร)
4.รางวัลสุพรีม (Supreme Accolade for the International Outdoor Garden Exhibition) ได้แก่
สวน....ไทย.......... โดยองค์กร……สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย…......แนวคิด สวนสร้างแนวคิดเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน
5.รางวัลพรีเมียม (Premier Accolade for the International Outdoor Garden Exhibition) ได้แก่
สวน...อินเดีย..... โดยประเทศ อินเดีย แนวคิด สักการะพระพิฆเนศ พระอุมาเทวีร่มเย็นใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ สาละอินเดียและการเรียนรู้เรื่องสมุนไพรใน สวนสมุนไพรของอินเดีย
6.รางวัลที่หนึ่ง (First Prize for the International Outdoor Garden Exhibition) ได้แก่ สวน....ญี่ปุ่น...... โดยประเทศญี่ปุ่น   แนวคิด สัมผัสภูเขาไฟฟูจิจำลอง ชมดอกซากุระ (Prunus Cerasoides) ดอกเบญจมาศสีเหลืองสด
สวนนานาชาติภายนอกอาคาร ประเภทรางวัลพิเศษจากสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศ (AIPH)

7.รางวัลยอดเยี่ยมของงาน (Special Award from AIPH for Excellent International Outdoor Gardenได้แก่ สวน ไทย. โดยองค์กร สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย  แนวคิด  สวนสร้างแนวคิดเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน

ดร. ดู๊ค ฟาเบอร์ (Dr. Doeke C. Faber) ประธานสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ กล่าวสรุป ถึงผลการตัดสินรางวัล                    สวนนานาชาตินอกอาคารในครั้งนี้ว่า สวนนานาชาติของแต่ละประเทศที่จัดแสดงในครั้งนี้ ต่างมีความสวยงามในด้านการออกแบบ สถาปัตยกรรม มีความหลากหลายของพันธุ์ไม้ และสะท้อนแนวคิดการรักษาสิ่งแวดล้อม และเอกลักษณ์ของประเทศนั้นๆ รวมทั้งองค์ประกอบในการจัดสวนของแต่ละประเทศ ล้วนแล้วแต่เลือกใช้ต้นไม้ และวัสดุในการตกแต่งสวนได้อย่างมีคุณภาพ

สำหรับการจัดประกวดพืชสวนนานาชาติ ในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ในครั้งนี้ นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) กำหนดขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของการจัดงานมหกรรมพืชสวนระดับนานาชาติ และเพื่อเป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของทั้ง 3 พระองค์ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรทั้งโครงการพระราชดำริและโครงการส่วนพระองค์ ตามวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติฯ ใน 3 วโรกาสมหามงคล นั่นคือ           ในปี 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา  ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของสมาคมพืชสวนโลกระหว่างประเทศที่ได้มีส่วนร่วมในวโรกาสมหามงคลดังกล่าว 

นอกจากนั้นยังเป็นการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ด้านเกษตรกรรม  เทคโนโลยีด้านพืชสวนในทุกมิติ รวมถึงเทคโนโลยีด้านการเกษตร ในการอนุรักษ์พลังงานและลดภาวะโลกร้อน ทำให้ผู้เข้าชมเกิดมุมมองใหม่ สามารถนำไปพัฒนาในวิชาชีพการเกษตรให้ก้าวหน้าต่อไปได้  ถือได้ว่าการจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินคาด ทั้งด้านคุณภาพการจัดงานและปริมาณผู้เข้าชม

วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทความ ; แก้ปัญหาหมอกควันพิษไม่ยาก: ช่วยกันงดเผา แล้วสร้างรายได้จากเศษพืช

สาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาหมอกควันพิษในจังหวัดในภาคเหนือตอนบนทุกปีคือ การเผาป่าทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา ทั้งที่เป็นการทำไร่เลื่อนลอย การเผาป่าเพื่อเอาที่ และการหาของป่าของชภูเขา รวมไปถึงการเผาเศษวัชพืช และการเผาเศษพืชเหลือทิ้งทางการเกษตรของชาวพื้นราบ

เศษพืชเหลือทิ้งทางการเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ส่วนใหญ่เป็นเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ฟางข้าว และเศษใบไม้ วิธีการจัดการเศษพืชเหลือทิ้งทางการเกษตรโดยไม่ให้เผาทำลายมีสองวิธีคือ (1) นำไปอัดแท่งเป็นเชื้อเพลิงเขียวหรือเชื้อเพลิงชีวมวล และ (2) นำไปผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์

คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีองค์ความรู้ที่เหมาะสมที่จะใช้เป็นทางเลือกในการจัดการเศษพืชเหลือทิ้งทางการเกษตร นั่นคือ มีนวัตกรรมที่สามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ได้ปริมาณครั้งละมาก ๆ โดยการกองเป็นแถวยาว 100 – 200 เมตร และที่สำคัญคือไม่ต้องพลิกกลับกอง มีเคล็ดลับหัวใจอยู่ที่การรักษาระดับความชื้นกองปุ๋ย วิธีนี้เรียกว่า วิศวกรรมแม่โจ้ 1
               
ด้วยวิธีนี้ ผู้ที่สนใจจะนำเศษพืชมาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีราคา ก็เพียงแต่นำมูลสัตว์มาเข้ากระบวนการกับเศษพืชในสัดส่วน 4 ต่อ 1 โดยปริมาตร กองบนพื้นดินเป็นแถวยาวรูปสามเหลี่ยมบนบริเวณที่มีเศษพืช (ไม่ต้องขนไปขนมา) รายละเอียดวิธีการขึ้นกองปุ๋ยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.compost.mju.ac.th เมื่อขึ้นกองปุ๋ยแล้วก็ไม่ต้องทำอะไรอื่นอีกนอกจากคอยดูแลรักษาความชื้นทั้งภายนอกและภายใน โดยอาจขอความร่วมมือรถน้ำจาก อบต.หรือเทศบาลก็ได้ วิธีนี้ใช้เวลาเพียงสองเดือนก็แล้วเสร็จ

ความยาวกองปุ๋ยแบบนี้ยาว 4 เมตรจะให้ปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ 1 ตันมีมูลค่าในท้องตลาดสูงถึงตันละ 4,000 – 7,000 บาท และมีต้นทุนเป็นค่ามูลสัตว์เพียงตันละ 750 บาท

เกษตรกรที่นำเศษพืชปริมาณมากมาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์แบบไม่พลิกกลับกองแบบนี้ นอกจากจะสามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์แล้ว เมื่อนำไปใช้ปรับปรุงบำรุงดินเพาะปลูกจะทำให้ดินกลับมามีชีวิต คืนความอุดมสมบูรณ์ จนสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพงได้ และพบว่ามีกลุ่มเกษตรกรหลายแห่งถึงกับสามารถทำการเกษตรอินทรีย์ได้โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีเลยก็มี

หากเกษตรกรและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นวิกฤติเป็นโอกาส ก็สามารถสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนด้วยวิธีนี้ได้ไม่ยากนัก โดยงดการเผาเศษพืช แล้วนำมาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์วิธีใหม่ เพียงแค่นี้ก็ถือว่าได้มีส่วนช่วยลดปัญหาหมอกควันพิษแล้ว

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ใช้นวัตกรรมนี้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ในการศึกษาการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากกลุ่มเกษตรกร 7 แห่งใน 5 จังหวัดภาคเหนือตอนบนเพื่อต้านกับปัญหาการเผาทำลายเศษพืช และนอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการเปิดฐานเรียนรู้ 32 แห่งใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนอีกด้วย

มหาวิทยาลัยแม่โจ้เองได้ใช้องค์ความรู้นี้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเศษใบไม้ที่ฐานเรียนรู้ของมหาวิทยาลัย เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าชมฟรีตั้งแต่ปี 2547 โดยไม่เคยต้องเผาทำลายเศษใบไม้ ผู้ที่สนใจจะเข้าชมติดต่อได้ที่คณบดีคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50290


++++++++++++++
บทความโดย
ผศ.ธีระพงษ์ สว่างปัญญางกูร
มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ข่าว ; จังหวัดเชียงใหม่คัดเลือก “คนดีศรีเชียงใหม่” ประจำปี 2555

คณะกรรมการจริยธรรมประจำจังหวัดเชียงใหม่จัดโครงการคัดเลือก คนดีศรีเชียงใหม่ ประจำปี 2555 เพื่อยกย่องเชิดชูผู้ที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต มีความเสียสละ ทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่และเคร่งครัดในคุณธรรมจริยธรรม

หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการจริยธรรมประจำจังหวัดเชียงใหม่เห็นชอบกรอบความคิดเพื่อมุ่งส่งเสริมและยกย่องข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราว ฝ่ายพลเรือนที่ประพฤติ ปฏิบัติงานเป็นแบบอย่างให้ข้าราชการอื่นได้ประพฤติปฏิบัติตามและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านการดำรงตน การปฏิบัติตนให้เป็นที่ยอมรับกับบุคคลผู้เกี่ยวข้องทั้งในหน้าที่ราชการและสังคม กับการปฏิบัติงานที่เพียบพร้อมด้วยจรรยาบรรณข้าราชการ ปรากฏชัดเจนเป็นที่ยอมรับและมีผลงานโดดเด่น เป็นประโยชน์ยิ่งกับภารกิจข้าราชการที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงผลการปฏิบัติงาน ปฏิบัติตนส่งผลกับประชาชนที่รับบริการเป็นสำคัญ ดังนั้น จึงกำหนดจัดโครงการคัดเลือก คนดีศรีเชียงใหม่ ประจำปี 2555 ขึ้น เพื่อยกย่องเชิดชูผู้ที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต มีความเสียสละ ทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่และเคร่งครัดในคุณธรรมจริยธรรม เป็นการเสริมสร้างปลูกฝังจิตสำนึกด้านคุณธรรมจริยธรรมให้ผู้ปฏิบัติงานมีความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าของการประกอบคุณงามความดี เสริมสร้างและผลักดันให้ คนดีศรีเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักจดจำ เป็นรางวัลที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ภาคภูมิใจของผู้ได้รับ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมบทบาทภาคประชาชน และภาคีทางสังคมอื่น ๆ ให้ตระหนักถึงบทบาทและการมีส่วนร่วมในการป้องกันตรวจสอบและปราบปรามการทุจริต สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ว่ายังคงมีข้าราชการที่ดีทำหน้าที่    ปกปักษ์รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนจำนวนมาก รวมถึงเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นว่าผู้ที่ทำความดีย่อมมีผู้เห็นคุณค่าของคุณงามความดีนั้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การคัดเลือก คนดีศรีเชียงใหม่ ประจำปี 2555 จะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ และลูกจ้างชั่วคราวของหน่วยงานราชการสังกัดส่วนภูมิภาคในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ โดยผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นคนดีศรีเชียงใหม่จะได้รับเข็ม เชิดชูเกียรติ และเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติ กำหนดมอบรางวัลในวันที่ 1 ตุลาคม 2555 โดยผลที่คาดว่า  จะได้รับจากการจัดโครงการคือการส่งเสริมความคิดเชิงบวก ลดอคติต่อกัน และร่วมสร้างองค์กรให้เกิดความผาสุกอย่างยั่งยืน นอกจากนั้นยังเป็นการยกย่องผู้กระทำความดีและส่งเสริมการกระทำความดีทั้งต่อตนเองและสังคมด้วย
...........................................................

ข่าว ; กรมป่าไม้จัดประกวดป่าชุมชน ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้

กรมป่าไม้จัดประกวดป่าชุมชนตามโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2555 โดยเชิญชวนชุมชนที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดร่วมโครงการ โดยเปิดรับสมัครจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้

นายชูชาติ  กีฬาแปง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า  กรมป่าไม้ร่วมกับบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กำหนดจัดการประกวดป่าชุมชน ตามโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2555 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการป่าชุมชน ตลอดจนเพื่อเฟ้นหาป่าชุมชนที่มีแผนงาน ระบบ และ กระบวนการในการอนุรักษ์และพัฒนาป่าอย่างเข้มแข็ง โดยการมี   ส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน สามารถเป็นชุมชนตัวอย่างและศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนอื่นได้ โดยเปิด    รับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2555

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่     กล่าวว่า  คุณสมบัติของป่าชุมชนที่มีสิทธิสมัครต้องเป็นชุมชนที่สมาชิกมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ในท้องถิ่นโดยการจัดการป่าชุมชน  เป็นป่าชุมชนที่ได้รับการอนุมัติโครงการหรือเคยได้รับการอนุมัติโครงการจากกรมป่าไม้ ยังไม่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศของโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ส่วนป่าชุมชนที่เคยได้รับรางวัลจากโครงการคนรักษ์ป่า   ป่ารักชุมชนมีสิทธิสมัครเข้าประกวดในระดับที่สูงขึ้นเท่านั้น  สำหรับรางวัลแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้
รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ คนรักษ์ป่า ป่ารักษ์ชุมชน จำนวน 1 รางวัล         ชุมชนที่ชนะการประกวดจะได้รับถ้วยรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ เงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชน จำนวน 200,000 บาทและป้ายประกาศเกียรติคุณ ติดตั้ง ณ ป่าชุมชน
รางวัลป่าชุมชนดีเด่นระดับภาค คนรักษ์ป่า ป่ารักษ์ชุมชน จำนวน 4 รางวัล     ชุมชนที่ชนะการประกวดจะได้รับโล่เกียรติคุณรางวัลป่าชุมชนดีเด่นระดับภาค เงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชน รางวัลละ 100,000 บาทและป้ายประกาศเกียรติคุณ ติดตั้ง ณ ป่าชุมชน
รางวัลป่าชุมชนดีเด่นด้าน การพัฒนาสู่ความยั่งยืน จำนวน 1 รางวัล ชุมชนที่ชนะการประกวดจะได้รับโล่เกียรติคุณรางวัลป่าชุมชนดีเด่นด้าน การพัฒนาสู่ความยั่งยืน เงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชน จำนวน 100,000 บาทและป้ายประกาศเกียรติคุณ ติดตั้ง ณ ป่าชุมชน
รางวัลป่าชุมชนตัวอย่างระดับจังหวัด คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน จำนวน 68 รางวัล ชุมชนที่ชนะการประกวดจะได้รับโล่เกียรติคุณรางวัลป่าชุมชนตัวอย่างระดับจังหวัด เงินสนับสนุนการอนุรักษ์ป่าชุมชน รางวัลละ 25,000 บาทและป้ายประกาศเกียรติคุณ ติดตั้ง ณ ป่าชุมชน
รางวัลชมเชย คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน จำนวน 68 รางวัล โดยจะได้รับโล่เกียรติคุณรางวัลชมเชยและ เงินสนับสนุนการอนุรักษ์ป่าชุมชน รางวัลละ 10,000 บาท

จึงขอเชิญชวนชุมชนที่มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดสมัครเข้าร่วมประกวด โดยขอรับและยื่นใบสมัครได้ที่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 13 และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา ในเวลาราชการ หรือส่งทางไปรษณีย์ถึงกรมป่าไม้ เลขที่ 61 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพ ฯ 10900 ภายในวันที่ 30 เมษายน 2555 โดยถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ โดยมิต้องเสียค่าธรรมเนียมการสมัครแต่อย่างใด

...........................................................

ข่าว ; ประกวดตราสัญลักษณ์ เพลงและคำขวัญ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือ ครั้งที่ 62

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 (สพป.เชียงใหม่ เขต 1) จัดประกวดตราสัญลักษณ์ ผลงานเพลงและคำขวัญ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือ ครั้งที่ 62 ผู้สนใจส่งผลงานได้จนถึงวันที่ 30 มีนาคมนี้

นายชุมพล  รัตน์เลิศลบ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือ ครั้งที่ 62 ประจำปี 2555 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 23 พฤศจิกายน 2555 ณ  สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี  โดยมีกิจกรรมการแข่งขันทักษะทางวิชาการทุกกลุ่มสาระวิชาของนักเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา กว่า 100 กิจกรรม มีบุคลากรและนักเรียนของหน่วยงาน สพป. และ สพม. 52 หน่วยงาน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือร่วมงานกว่า 100,000 คน

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 กล่าวว่า  ขณะนี้ สพป.เชียงใหม่ เขต 1 ได้จัดประกวดตราสัญลักษณ์ (โลโก้)  ผลงานเพลง และคำขวัญขึ้น เพื่อเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์และใช้เป็นสัญลักษณ์ของงาน โดยเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และ ประชาชนทั่วไปส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 มีนาคม 2555 ณ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์    กลุ่มอำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่  50300  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-5311-2333 ต่อ 109 โทรสาร 0-5311-2677 ในวันและเวลาราชการ

...........................................................

ข่าว ; หมอชื่อดัง “สม อิศรภักดี” วัย 90 ปี แต่งหนังสือ “ผมเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2”

เปิดโฉมนักเขียนหมอชื่อดัง สม อิศรภักดี ทันตแพทย์ประจำในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ วัย 90 ปี  ใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่เชียงใหม่ บรรจงแต่งหนังสือชื่อ ผมเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เล่าความทรงจำในอดีตละเอียดยิบ เผยเป็นนักเขียนอาวุโสสุดที่มีความจำดีเลิศ

เมื่อสายวันที่ 10 มีนาคม 2555 ที่บ้านผ่อดอยใน(โป่งแยงใน) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ศาสตราจารย์ทันตแพทย์สม อิศรภักดี อายุ 90 ปี อดีตอาจารย์คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้เปิดตัวแต่งหนังสือเล่มแรกในชีวิตชื่อ ผมเกิดก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2  โดยมีหม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคล ราชินิกุลที่มาปักหลักสร้างบ้านอยู่ที่ อ.แม่ริมเช่นเดียวกัน ได้ให้เกียรติร่วมงาน มีนักเขียนดัง โดม วุฒิชัย จากขวัญเรือน และนิตยสารอื่นๆ รวมทั้งนักเขียนอีกหลายคนร่วมแสดงความยินดีคับคั่ง และที่สร้างสีสันในงานมี น.ส.วันจุฬา ศรลัมพ์ อดีตนางสาวเชียงใหม่ ผู้จัดการฝ่ายขายบิสิเนสปาร์ค ซึ่งเป็นหลานของนักเขียนอาวุโส เป็นพิธีกร

ศาสตราจารย์ทันตแพทย์สม อิศรภักดี เล่าเรื่องราวในอดีตตั้งแต่เกิดเมื่อ 6 มีนาคม 2466 ย่านชุมชนวัดบรมนิวาส กทม. เข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดบรมนิวาส และโรงเรียนวัดสระเกศ มัธยมที่โรงเรียนมัธยมหอวังจากนั้นเจ้าเตรียมอุดมศึกษาก่อนเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ และไปศึกษาต่อที่ควีนแลนด์ ประเทสออสเตรเลีย และโลมาลินด้า สหรัฐอเมริกา  กลับมาเป็นอาจารย์สอนคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬา เป็นเพื่อนรุ่นพี่ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองราชเลขาในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีนาถ รัชกาลที่ 7 จึงได้เป็นทันตแพทย์ประจำพระองค์จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ ต่อมาอพยพจาก กทม.มาพำนักเป็นการถาวรที่บ้านผ่อดอยใน ชุมชนโป่งแยง อ.แม่ริม เขียนเล่าประสบการณ์ในอดีตตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ลงในบล็อกกะซีน

ต่อมาโดม วุฒิชัย นักเขียนชื่อดังในขวัญเรือนแนะนำให้รวมเล่ม โดยศาสตราจารย์ทันตแพทย์สม กล่าวว่า ที่จริงตั้งใจจะเขียนเป็นหนังสืออนุสรณ์งานศพตนเอง แต่แม้วัยจะเลย 90 ปีมาแล้วก็ยังแข็งแรงอยู่ อาจเป็นเพราะตนมียีนในตัวแข็งแรงก็ได้ จึงไม่เจ็บไข้ได้ป่วย การเขียนหนังสือครั้งนี้เขียนด้วยตนเองล้วน ๆ เพราะความทรงจำในเหตุการณ์ต่างๆยังดีเยี่ยม สำหรับหนังสือ ผมเกิดก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2 รูปเล่มขนาด A5 พิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตา ตัวหนังสือเบอร์ 18 วางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปเล่มละ 140 บาท รายละเอียดสอบถาม จากนางพรรณา ชุ่มบัวทอง ซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.วันจุฬา และเป็นเลขานุการส่วนตัวของศาสตราจารย์ทันตแพทย์สม 081-9935757 และโดม วุฒิชัย 081-8460526

ข่าว ; พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร) นำครูสมาธิ เดินธุดงค์ขึ้นดอยอินทนนท์

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 มีนาคม 2555 ที่วัดเทพวิริยาจารย์ น้ำตกแม่กลาง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พระธรรมมงคลญาณ หรือหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร อายุ 93 ปี ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นำคณะศิษยานุศิษย์จากสถาบันพลังจิตตานุภาพ 29 รุ่น จำนวน 2,300 คน จากทั่วประเทศ รวมทั้งชาวแคนาดา และอเมริกาอีกกว่า 30 คน เดินธุดงค์จากวัดเทพเจติยาจารย์ขึ้นสู่ดอยอินทนนท์ ทางด้านทิศตะวันตกของน้ำตกแม่กลาง อันเป็นกิจกรรมหนึ่งในหลักสูตรครูสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพ ซึ่งรุ่นนี้มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ สถาบันพระปกเกล้า น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์  และเจสัน ยัง นักร้องหนุ่มชื่อดังมาปฏิบัติธรรม เดินธุดงค์ และนั่งสมาธิด้วย

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร กล่าวว่า การเรียนครูสมาธิใช้เวลา 6 เดือน และปฏิบัติสมาธิ 6 เดือน โดยต้องมาเดินธุดงค์ที่ดอยอินทนนท์ด้วยจึงจะครบหลักสูตร ซึ่งหลวงพ่อได้มาทำสมาธิที่ดอยอินทนนท์เมื่อปี 2529 จนกระทั่งหายจากอาพาธ และพบว่าบริเวณนี้เป็นที่สัปปายะเหมาะสมตามแนวทางของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตได้สอนไว้ โดยเฉพาะพุทธองค์ได้ทรงให้พระสงฆ์สาวกอยู่รุกขมูล การมาธุดงค์ก็คือการอยู่กับต้นไม้ เพื่อให้เข้าใจถึงธรรมชาติ ไม่ใช่มาเพื่อปิคนิกหรือพักผ่อน แต่มาทำจิตให้เป็นสมาธิ การทำสมาธิได้เป็นการสั่งสมพลังจิต ในครั้งนี้ประมาณว่าจะสามารถทำให้เกิดพลังจิตถึง 1 ล้านยูนิต ปกติคนเราใช้พลังจิตไปเพื่อการต่างๆ ร้อยละ 40 หากไม่เพิ่มเติมก็จะไม่เหลือพลังจิตอยู่เลย

สำหรับคณะครูสมาธิทั้ง 29 รุ่น ใช้เวลาเดินธุดงค์ขึ้นดอยอินทนนท์ตั้งแต่วันที่ 8-11 มีนาคม 2555 โดยมีชาว อ.จอมทองช่วยเป็นลูกหาบให้นับพันคน ที่พักแรมแต่ละจุดมีการเทศนาธรรม ไหว้พระสวดมนต์ และครั้งนี้เป็นการเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา และฉลองพุทธชยันติ 2,600 ปีพระพุทธเจ้า พร้อมกับการทำสมาธิแผ่เมตตาด้วย.

ภาพ/ข่าว โดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

ข่าว ; คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล หารายได้สมทบกองทุนหมอเจ้าฟ้า ประจำปี 2555

นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการแข่งขัน กอล์ฟการกุศล หารายได้สมทบกองทุนหมอเจ้าฟ้า ประจำปี 2555 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดขึ้น ณ สนามกอล์ฟ เดอะ รอยัล เชียงใหม่ กอล์ฟรีสอร์ท เพื่อหารายได้สมทบกองทุนหมอเจ้าฟ้าในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นกองทุนสนับสนุนให้อาจารย์แพทย์ได้ไปศึกษาอบรมวิทยาการชั้นสูงในแขนงวิชาต่างๆ นำความรู้ที่ได้รับกลับมาพัฒนาปรับปรุงวิชาการทางการแพทย์ และเป็นทุนแก่นักศึกษาแพทย์ที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้มีโอกาสศึกษาต่อในหลายสาขา ปรากฏว่ามีนักกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งขัน 2 รอบ กว่า 350 คน โดยมีรางวัลใหญ่ โฮล อิน วัน เป็นรถยนต์ 2 คันคือ หลุม 6 รถยนต์นิสสัน อัลเมรา 1 คัน และหลุม 11 รถเก๋งนิสสัน มาร์ช 1 คัน

วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; ชมรมนักกอล์ฟสื่อมวลชนล้านนาจัดการแข่งขันกอล์ฟเชื่อมความสามัคคีเนื่องในวันนักข่าวประจำปี 2555

ชมรมนักกอล์ฟสื่อมวลชนล้านนา ได้จัดการแข่งขันกอล์ฟเชื่อมความสามัคคีระหว่างสื่อมวลชนและแขกรับเชิญ เนื่องในวันนักข่าว 5 มีนาคม 2555 ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ได้จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2555 ณ สนามกอล์ฟแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ มีสมาชิกชมรมและแขกผู้มีเกียรติรับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันรวม 40 คน

ผลการแข่งขันประเภททีม ชิงถ้วยเกียรติยศ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างทีมสื่อโทรทัศน์ กับทีมสื่อวิทยุรวมกับสื่อสิ่งพิมพ์  ผลปรากฏว่าเสมอกันได้ครองถ้วยร่วมกัน ประเภทบุคคล แขกรับเชิญ ได้รับถ้วยเกียรติยศ ของชมรมนักกอล์ฟสื่อมวลชนล้านนา รางวัลชนะเลิศ โลเน็ต ประจญ ปรัชญ์สกุล 39-39-78 (9) 69 รองชนะเลิศอันดับ 1 ทวีพงศ์ หินคำ 41-43-84 (14) 70 รองชนะเลิศอันดับ 2  กิติกร เถินบุรินทร์ 43-44-87 (16) 71

ประเภทบุคคลสื่อมวลชน ชนะเลิศโอเวอร์ออล โลกรอส  ได้รับถ้วยเกียรติยศ นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ กกต.เชียงใหม่ ได้แก่ พยนต์ ยศสุพรหม 37-41-78 (7) 71 ไฟลท์ เอ ได้รับถ้วยเกียรติยศ นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ กกต.เชียงใหม่  ชนะเลิศ โลเน็ต ชาตรี หมื่นปราบ 39-43-82 (13) 69 รองชนะเลิศอันดับ 1 ชัชวาล วังธิยอง 37-41-78 (8) 70 รองชนะเลิศอันดับ 2 อัครพงษ์ ระบิน 42-39-81 (11) 70 
ไฟลท์ บี ได้รับถ้วยเกียรติยศ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย ชนะเลิศ อดิเทพ น่วมเจิม 43-46-89 (18) 71 รองชนะเลิศอันดับ 1 ภานุเมศ ตันรักษา 46-42-88 (16) 72 รองชนะเลิศอันดับ 2 อาคม ตันตระกูล 52-48-100 (25) 75

วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555

วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; พืชสวนโลกแจกรางวัลแก่ผู้โชคดีเป็นผู้เข้าชมคนที่ 2 ล้าน

พืชสวนโลก แจกตุ๊กตาน้องคูนยักษ์สูงเท่าคน ให้แก่ ผู้เข้าชมคนที่ 2 ล้าน พร้อม แจกน้องคูน ขนาด 80 ซม. อีก 70 ตัว ให้แก่ผู้ชมงานทุกวันตั้งแต่ 1-14 มีนาคม 2555

นายจิรากร โกศัยเศวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบตุ๊กตาน้องคูนยักษ์สูงเท่าคนจริง ขนาด 165 เซนติเมตร พร้อมบัตรกำนัลห้องพักโรงแรมสุดหรู และบัตรรับประทานอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ ให้แก่ นางสาววรรณวณัช อู่เจริญ จากจังหวัดระนอง ผู้ซื้อบัตรเข้าชมงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 คนที่ 2,000,000 พร้อมรับบัตรที่พักโรงแรมวีรันดา บัตรรับประทานอาหารจากโรงแรมโฟร์ซีซั่น รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท

และเพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนให้แก่ผู้เข้าชมงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ผู้จัดงานฯ จึงวางแผนแจกตุ๊กตาน้องคูน ขนาดกลาง 80 เซนติเมตร หรือ 32 นิ้ว รวม 70 ตัว ให้แก่ผู้เข้าชมงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ เพิ่มเติมอีก โดยผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ในทุกช่วงเวลา ทุกนาที มีสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดี (Lucky Minute) รับตุ๊กตาน้องคูนฟรี เป็นประจำทุกวัน วันละ 5 รอบ ทุก 2 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 09.00 น. จนถึง 19.00 น. ณ บริเวณจุดจำหน่ายบัตร งานมหกรรมพืชสวนโลกฯ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูล กิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.royalflora2011.com หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการข้อมูลงานพืชสวนโลกฯ 0-2610-2011 ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; การแข่งขันชมรมกอล์ฟสิงห์เชียงใหม่ ครั้งที่ 1 ปี 2555

ชมรมกอล์ฟสิงห์เชียงใหม่กำหนดจัดการแข่งขันกอล์ฟครั้งที่ 1 ประจำปี 2555 วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2555 นี้ที่สนามกอล์ฟลานนา

นายฤทธิรงค์ วาฤทธิ์ ประธานชมรมกอล์ฟสิงห์เชียงใหม่ แถลงว่า การแข่งขันกอล์ฟของชมรมกอล์ฟสิงห์เชียงใหม่ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2555 กำหนดจัดในวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2555 ณ สนามกอล์ฟศูนย์กีฬาลานนา เชียงใหม่  ช็อตกันสตาร์ท 2 รอบคือ รอบเช้าเวลา 06.30 น.สำหรับนักกอล์ฟจูเนียร์ และซีเนียร์ ส่วนรอบบ่ายเวลา 12.30 น.สำหรับนักกอล์ฟทั่วไป เพื่อเป็นการพบปะสังสรรค์และส่งเสริมนักกอล์ฟให้พัฒนาฝีมือสูงขึ้นจนถึงระดับอาชีพ

วิธีการแข่งขันเป็นแบบสโตรกเพลย์ 18 หลุม คิดคะแนนด้วยระบบแต้มต่อ แบ่งออกเป็น 4 ไฟลท์คือ  ไฟลท์ เอ 0-9 ไฟลท์ บี 10-18 ไฟลท์ ซี 19-24 และไฟลท์ ดี 25-36 นอกจากนั้นยังมีกลุ่มนักกอล์ฟอาวุโสหรือไฟลท์ซีเนียร์ และกลุ่มนักกอล์ฟสตรีหรือไฟลท์เลดี้ ส่วนนักกอล์ฟเยาวชนหรือจูเนียร์ยังแบ่งออกเป็น 4 รุ่นคือ อายุ 9-10 ปี อายุ 11-12 ปี อายุ 13-14 ปี และอายุ 15-18 ปี โดยผู้เข้าแข่งขันต้องเป็นสมาชิกชมรมเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้รับถ้วยรางวัล อัตราค่าสมัครเข้าแข่งขันประเภททั่วไปทีม 5 คนทีมละ 6,000 บาท หรือคนละ 12,000 บาท ส่วนประเภทซีเนียร์และจูเนียร์ ทีมละ 4,000 บาท หรือคนละ 800 บาท

นอกจากนั้น ยังมีโอกาสลุ้นรับรางวัลพิเศษ โฮล อิน วัน หลุม 4 และหลุม 16 ได้รับรถจักรยานยนต์จากโครงการหมู่บ้านพิมุกต์หลุมละ 1 คัน ส่วนหลุม 8 และหลุม 10 ได้รับเครื่องปรับอากาศจากบริษัท เชียงใหม่ พี เอส แอร์ จำกัด หลุมละ 1 เครื่อง พร้อมรางวัลจับฉลากในงานเลี้ยงมอบถ้วยรางวัลการแข่งขันอีกด้วย

ผู้สนใจเข้าร่วมแข่งขันติดต่อได้ที่ คุณศิริวรรณ นิ่มอร่าม โทร.085-0302524 คุณรุ่งทิวา จันทร์แสง โทร.081-8828851, 086-1177195,053-283444 โทรสาร 025-283363 หรือที่เลขานุการชมรม คุณพงษ์ศักดิ์ ทักษิณสุข โทรศัพท์หมายเลข 081-9922500 หรือโทรสาร 053-3089000 ภายในวันที่ 27 มีนาคม 2555

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; รมช.สาธารณสุขติดตามปัญหามลพิษหมอกควันภาคเหนือตอนบน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือตอนบนเพื่อนำเสนอรัฐบาล เตรียมเสนอของบประมาณเป็นกรณีพิเศษ 160 ล้านบาทอุดหนุนท้องถิ่น

บ่ายวันที่ 1 มี.ค.55 ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน  เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง ซึ่งในระยะนี้ได้เกิดปัญามลพิษหมอกควันมีค่าเกินมาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ ผู้สูงอายุและเด็ก พร้อมรับทราบแนวทางการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะของผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือตอนบนทั้ง 8 จังหวัด  เพื่อจะได้นำไปเสนอรัฐบาลในการช่วยเหลือและคลี่คลายปัญหามลพิษหมอกควันอย่างเร่งด่วนต่อไป

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า  สถานการณ์มลพิษหมอกควันในปีนี้ รุนแรงกว่าปีก่อนมาก ซึ่งแต่ละจังหวัด  ได้พยายามใช้มาตรการที่มีอยู่อย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหานี้ อย่างไรก็ตามจากการรับทราบปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานของแต่ละจังหวัด เห็นว่ารัฐบาลต้องสนับสนุนด้านงปประมาณเพื่อการนี้เป็นกรณีพิเศษ โดยตนจะได้นำเสนอต่อคระรัฐมนตรี ได้พิจารณาเห็นชอบจัดงบประมาณอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งของ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ยกเว้นองคืการบริหารส่วนจังหวัด จัดซื้อเครื่องโม่ย่อยสลายใบไม้เศษไม้และเศษวัชพืช พร้อมหินลับใบมีด จัดซื้อชุดดับไฟป่า และเป็นค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าตอบแทนหรือค่าเบี้ยเลี้ยงแก่จ้าหน้าที่และอาสาสมัคร เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน ในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 6 มีนาคม 2555

ข่าว ; เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีส่งท้ายงานพืชสวนโลก มอบส่วนลด 50 % นั่งรถชมสัตว์ 1-14 มีนาคม 2555

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดโปรโมชั่นใหม่ ส่งท้ายงานพืชสวนโลก มอบส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ นั่งรถชมสัตว์ Day Safari และ Night Safari วันนี้ – 14 มีนาคม 2554 พร้อมมอบโปรโมชั่นส่วนลดรับประทานอาหารต่อเนื่อง

ดร.ศราวุฒิ  ศรีศกุน ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  เปิดเผยว่า ในช่วงการจัดงานพืชสวนโลกที่ผ่านมา เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก  ส่วนหนึ่งอาจเนื่องจากกิจกรรมการให้บริการที่เพิ่มขึ้นของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งต้องยอมรับว่าร้านอาหารยีราฟ ร้านอาหารรูปแบบใหม่สำหรับคนรักสัตว์ เป็นอีกแม่เหล็กหนึ่งที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการมากขึ้น

และเพื่อเป็นการส่งท้ายการจัดงานพืชสวนโลกที่ใกล้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 มีนาคม 2555 นี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจึงได้จัดโปรโมชั่นเอาใจนักท่องเที่ยว โดยมอบส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ใช้บริการนั่งรถชมสัตว์ Day Safari และ Night Safari ทั้งนี้ สำหรับโปรโมชั่นรับประทานอาหารบุฟเฟ่ท์ร้านอาหารยีราฟยังคงจัดอย่างต่อเนื่อง กลางวัน 139 บาท และกลางคืน 149 บาท

จึงขอเชิญชวนร่วมสัมผัสความสนุกไปกับเหล่าสัตว์ป่าน้อยใหญ่ พร้อมกิจกรรมสร้างสรรค์อีกมากมาย ได้ทุกวันที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  ตั้งแต่เวลา 11.00 น. -22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 053-999000  หรือร้านอาหารยีราฟ สำรองทีนั่งได้ที่ 053-999040 

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ;วัดสวนดอก พระอารามหลวง ตักบาตรเป็งปุ๊ด รับปีใหม่ 2555

นายเยี่ยม กาวิละเวส ไวยาวัจกร วัดสวนดอกวรวิหาร พระอารามหลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ร่วมกับอาจารย์คีรินทร์ หินคง มจร.วิทยาเขตเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คณะสงฆ์ และคณะกรรมการวัดสวนดอกฯ นำโดยพระศรีสิทธิเมธี เจ้าอาวาส ได้จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรเป็งปุ๊ด ตามประเพณีเมืองเหนือขึ้นในกลางดึกของคืนวันอังคารต่อวันพุธขึ้น 15 ค่ำทุกครั้ง เพื่อถวายแด่พระมหาเถระอุปคุต ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชนโดยเฉพาะในภาคเหนือ โดยได้อัญเชิญพระอุปคุต 3 องค์ คือพระอุปคุตหินหยกอายุหลายร้อยปี ซึ่งมีเพียงองค์เดียวในโลก จากเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า พระอุปคุตจากวัดท่าตอน อ.แม่อาย และพระอุปคุตที่หล่อจากวัดสวนดอกฯ มาให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ

สำหรับปี พ.ศ. 2555 มีวันเป็งปุ๊ด (วันพระขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธ) 2 ครั้ง ๆ แรกวันพุธที่ 7 มีนาคม ซึ่งตรงกับวันมาฆะบูชา อันเป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนา เป็นวันจาตุรงคสันนิบาต มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4 คือ 1. วันนั้น เป็นวันมาฆปูรณมี คือวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำกลางเดือนมาฆะ จึงเรียกว่า มาฆบูชา 2. พระภิกษุ 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย (สาเหตุของการชุมนุม 3. พระภิกษุทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์ ประเภทฉฬภิญญา คือ ได้อภิญญญา 6 และ 4. พระภิกษุ เหล่านั้น ทั้งหมด ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง (เอหิภิกฺขุอุปสมฺปทา) วันเป็งปุ๊ดครั้งที่ 2 ตรงกับวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 อันเป็นวันลอยกระทง

วันเป็งปุ๊ดครั้งแรกของปีนี้ วัดสวนดอก พระอารามหลวง กำหนดจัดพิธีทำบุญเป็งปุ๊ดในวันอังคารที่ 6 มีนาคม 2555 เริ่มตั้งแต่เวลา 22.30 น. เป็นต้นไป เริ่มจากการสมาทานศีล ฟังเทศน์อานิสงส์ของการทำบุญกับพระอุปคุต ปีนี้เป็นการเทศน์สามธรรมาสน์ โดยพระราชธรรมวาที วัดประยุรวงศาวาส กทม. พระศรีสิทธิเมธี วัดสวนดอก พระอารามหลวง และพระมหานิคม มหาภินิกขมโน วัดท่าตอน พระอารามหลวง หลังจากเที่ยงคืนแล้ว จึงได้จะร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสามเณร 200 รูป ซึ่งประเพณีตักบาตรเป็งปุ๊ดนี้ พุทธศาสนิกชนชาวเหนือเชื่อว่า เป็นมงคลอันยิ่งใหญ่ ที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จและโชคลาภมหาศาล.
                                                ************


      อานิสงส์การตักบาตรวันเป็งปุ๊ด

        พิธีตักบาตรเที่ยงคืน เป็นการใส่บาตรด้วยเวลาที่ผิดแผกแตกต่างไปจากการทำบุญตักบาตรโดยทั่วไป ทำให้ดูเป็นเรื่องแปลกสำหรับผู้ที่ได้พบเห็น แต่สำหรับพุทธบริษัทในภาคเหนือแล้ว การตักบาตรในยามเที่ยงคืนในวัน "เป็งปุ๊ด" ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญทางศาสนา ที่สืบทอดปฏิบัติมาหลายร้อยปี

        ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน  หรือพิธีตักบาตรเป็งปุ๊ด  เป็นประเพณีของทางภาคเหนือ ในทุกปีที่มีวันขึ้น ๑๕ ค่ำที่ตรงกับวันพุธ โดยไม่เจาะจงว่าต้องอยู่ในเดือนใด  พระภิกษุสามเณร  จะออกบิณฑบาตในตอนเที่ยงคืน  โดยมีความแตกต่างของการนับเวลาคือ  ที่ จ.เชียงใหม่ จะตักบาตรคืนวันอังคารหลังเวลา ๐๐.๐๐ น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เข้าสู่วันพุธ  ในขณะที่  จ.เชียงราย  ลำปาง และแม่ฮ่องสอน จะใส่ตักบาตรในคืนวันพุธ เวลา ๒๔.๐๐ น. เป็นต้นไป

        ทั้งนี้ บางปีอาจมีครั้งเดียว หลายครั้งหรือไม่มีเลยก็ได้ เป็นประเพณีนิยมที่มีเฉพาะในภาคเหนือเท่านั้น

        สำหรับประวัติความเป็นมาของประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด แต่เข้าใจว่าทางภาคเหนือคงรับเอามาจากพม่าอีกต่อหนึ่ง พม่ามีความเชื่อว่า พระอุปคุตซึ่งเป็นภิกษุที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นองค์อุปัชฌาย์ เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เสด็จลงไปจำศีลภาวนาอยู่ ณ สะดือทะเล ในรอบ ๑ ปีจะขึ้นมาโปรดชาวเมืองก่อนเวลารุ่งอรุณ
        ชาวพม่ามักตื่นแต่ดึก เพื่อเตรียมอาหารไว้ใส่บาตรพระอุปคุต โดยมีคติความเชื่อว่า หากผู้ใดได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตแล้วจะได้บุญใหญ่หลวง เกิดโชคลาภ และความเป็นสิริมงคลในชีวิต  คติความเชื่อนี้จึงทำให้พุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ

        อานิสงส์ตักบาตรเป็งปุ๊ด

        ในประเทศไทยการใส่บาตรเที่ยงคืนนี้ชาวเหนือเชื่อกันว่าพระอุปคุตจะแปลงกายเป็นสามเณรออกมาโปรดสัตว์ ถ้าผู้ใดได้ ใส่บาตรกับพระอุปคุตแล้วบุคคลนั้นจะประสบแต่ความสุข ร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทอง ได้อานิสงส์แรง ดังนั้นเมื่อถึงวันเพ็ญตรงกับ วันพุธชาวเหนือทุกคนจะไปคอยใส่บาตรเป็นพิเศษ

+++++++++++++++++++

ขอบคุณข้อมูลข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์