มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนในภูมิภาคอาเซียน
ที่นอกจากจะวิจัยคิดค้นผลงานด้านพลังงานทดแทนเพื่อใช้ในประเทศแล้ว ยังส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน
และกลุ่มอาเซียน+3 อีกด้วย เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีพลังงานทดแทนของไทยให้ก้าวไกลและเป็นประโยชน์ต่อประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับโครงการด้านพลังงานทดแทนที่ดำเนินการในระดับภูมิภาคอาเซียนของสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกอบด้วย
โครงการความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการผลิตก๊าซชีวภาพในประเทศฟิลิปปินส์ เป็นโครงการที่
สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ร่วมมือกับ Alternaverde Corp. บริษัทตัวแทนจากประเทศฟิลิปปินส์
ซึ่งดำเนินกิจการเกี่ยวกับเทคโนโลยีปศุสัตว์ ทั้งเรื่องอาหารสัตว์ และยารักษาโรค
โดย Alternaverde Corp. เลือกใช้เทคโนโลยีก๊าซชีวภาพแบบ CMU-CD
(Chiangmai University Channel Digester) ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ออกแบบคิดค้นและเข้าไปสำรวจ ออกแบบ
และคอยตรวจสอบความถูกต้องของการก่อสร้าง พร้อมติดตั้งระบบก๊าซชีวภาพ
รวมถึงมีการอบรมการปฏิบัติงานเกี่ยวกับระบบก๊าซชีวภาพ
เพื่อให้เทคโนโลยีก๊าซชีวภาพเป็นที่แพร่หลายในประเทศฟิลิปปินส์ต่อไป
โครงการความร่วมมือกับคณะกรรมการองค์การพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืน
(SEDA) ประเทศมาเลเซีย
เป็นเรื่องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านก๊าซชีวภาพในโซนภาคตะวันออกของประเทศมาเลเซีย
โดยให้สถาบันฯ นำเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพเข้าไปติดตั้งและเป็นที่ปรึกษาให้ จำนวน 2
แห่ง ที่รัฐ Jahor และ Kuala Lumpur ซึ่งคาดว่าปีนี้จะดำเนินการติดตั้งระบบเพิ่มเติมอีก
4 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 5 เมกกะวัตต์
โครงการความร่วมมือกับกระทรวงพลังงานลาวและธนาคารโลก
(WORLD BANK) สร้าง “ไบโอแก๊ส” แห่งแรก
ของสปป.ลาว ซึ่งจากนโยบายการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากธนาคารโลก (WORLD
BANK) ให้การดำเนินงานโครงการสร้างไบโอแก๊สต้นแบบแห่งแรกของประเทศ
ภายใต้ชื่อโครงการ Detailed Project Reports for implementation of Biogas
based Power Generation Units at selected large pig farms โดย
UD ฟาร์ม ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงพลังงานและบ่อแร่
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ให้เข้าร่วมโครงการสร้างระบบก๊าซชีวภาพ โดยมี
สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นที่ปรึกษาและให้ความรู้ในการสร้างระบบก๊าซชีวภาพ
แบบ CMU-CD (Chiangmai University Channel Digester) ขนาด 2,500 ลูกบาศก์เมตร สามารถรองรับสุกรขุนได้ 20,000 ตัว
หรือ 5,000 แม่ รองรับน้ำเสียได้ 500 ลูกบาศก์เมตร
สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้สูงสุด 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ช่วยให้ฟาร์มแห่งนี้สามารถลดต้นทุนด้านพลังงาน
ช่วยให้การบำบัดน้ำเสียของฟาร์มมีประสิทธิภาพ
ลดปัญหากลิ่นเหม็นจากระบบบำบัดน้ำเสียแบบเดิม ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน ตอบโจทก์ความต้องการการนำกระแสไฟฟ้าที่ผลิตไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
และสร้างมูลค่าอย่างมหาศาลตลอดการประกอบกิจการ และฟาร์มแห่งนี้จะเป็นฟาร์มต้นแบบแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ในการเผยแพร่องค์ความรู้ระบบก๊าชชีวภาพให้แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน
โครงการความร่วมมือการส่งเสริมพลังงานทดแทนในประเทศพม่า
ระหว่าง บริษัท RED HORSE DAIRY INDUSTRIES LIMITED,
MYANMAR และสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกี่ยวกับการดำเนินงานด้านพลังงานทดแทน โดยการออกแบบระบบก๊าซชีวภาพขนาด
1,000 ลูกบาศก์เมตร
พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพจากมูลโคให้กับทางบริษัทฯ
สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ปริมาณ 140,250 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ณ
เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า และมีแนวทางที่จะพัฒนาพลังงานทดแทนอื่นๆ
เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป
*********************
ปชส.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ – ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น