เชียงใหม่พบนักเรียนป่วยร่วม 30 คนจากการสัมผัสแมลงก้นกระดก ซึ่งมักบินมาเล่นไฟตามบ้านเรือนในช่วงฤดูฝนเพราะมีพิษร้ายแรง เพียงแค่ปัดหรือสัมผัสก็เกิดแผลพุพองและถ้าโดนตาก็เสี่ยงตาบอดได้
นายแพทย์ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า จากการเฝ้าระวังของงานระบาดวิทยา ฝ่ายควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พบนักเรียนจากโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 28 คนซึ่งพักอยู่หอพักเดียวกัน มีอาการผื่นแดง แผลพุพอง ปวดแสบปวดร้อนตามแขนขา ลำตัว โดยจากการค้นหาสาเหตุได้พบแมลงก้นกระดกบริเวณตู้เก็บของและนอนของนักเรียน จึงคาดว่าอาการเจ็บป่วยดังกล่าวเกิดจากการโดนพิษของแมลงก้นกระดก หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าด้วงปีกสั้นหรือแมลงน้ำกรด ซึ่งเป็นแมลงขนาดเล็ก ความยาวของลำตัวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร ส่วนหัวมีสีดำ ปีกสีน้ำเงินเข้มขนาดเล็กและส่วนท้องมีสีส้ม แมลงชนิดนี้มักจะงอส่วนท้ายเมื่อเกาะอยู่กับพื้น จึงมักเรียกว่าแมลงก้นกระดก ทั้งนี้สามารถพบได้ทั่วโลกมากกว่า 600 สายพันธุ์โดยเฉพาะในเขตร้อนชื้น มักอาศัยบริเวณพงหญ้าที่มีความชื้น ชอบออกมาเล่นไฟและแสงสว่างตามบ้านเรือน โดยเฉพาะจะมีมากในช่วงปลายฤดูฝน
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า แมลงก้นกระดกชนิดนี้จะปล่อยสาร Pederin ออกมาทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังของผู้ที่สัมผัส ซึ่งจะทำให้เริ่มเกิดผื่นและอาการแสบ เมื่อผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมงหลังการสัมผัสจะเกิดเป็นผื่นแดงชัดเจน หรือรอยไหม้ลักษณะเป็นทางยาว บางรายจะเกิดบริเวณซอกรอยพับที่ประกบกัน ร่วมกับตุ่มน้ำพองและตุ่มหนองใน 2-3 วัน ต่อมาผื่นหรือแผลจะตกสะเก็ดและหายเองภายใน 7-10 วัน เมื่อแผลหายแล้วอาจทิ้งรอยดำไว้ระยะหนึ่งแต่มักไม่เกิดแผลเป็น อาจจะมีบางคนที่แผลไม่หายแล้วยังมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมทำให้ผื่นหายช้าลง นอกจากนี้อาจลุกลามจนมีโอกาสเกิดแผลเป็นอีกทั้งยังมีอาการข้างเคียง ทั้งมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดข้อ หรืออาการคลื่นไส้อาเจียน ยิ่งหากเข้าตาก็อาจทำให้ตาบอดได้
สำหรับข้อควรปฏิบัติเบื้องต้นหากสัมผัสถูกตัวแมลงก้นกระดกควรรีบล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำสบู่ จากนั้นให้ประคบเย็นในบริเวณที่โดนสัมผัส พร้อมสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนัง ซึ่งหากเกิดเพียงรอยเล็กก็จะสามารถหายได้ใน 2-3 วัน แต่ถ้ารอยเป็นวงกว้างหรือเป็นแผลไหม้ ควรทำการประคบด้วยน้ำเกลือครั้งละ 5-10 นาที วันละ 3-4 ครั้ง จนแผลแห้ง หากเกิดแผลพุพองเป็นหนองควรไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
ทางด้านคำแนะในการป้องกันแมลงก้นกระดกคือ ไม่ควรจับตัวแมลงมาเล่น หลีกเลี่ยงการปัดหรือบีบตัวแมลงที่มาเกาะตามตัว ควรใช้วิธีเป่าแมลงให้หลุดออกไปเองโดยไม่สัมผัสโดนตัว ก่อนนอนควรปัดที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม เพื่อป้องกัน รวมทั้งควรปิดประตูตู้เสื้อผ้า ประตูและหน้าต่างห้องนอนให้มิดชิดทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนในช่วงกลางคืนควรเปิดไฟเฉพาะเท่าที่จำเป็นโดยเฉพาะควรปิดไฟห้องนอน เพื่อป้องกันแมลงก้นกระดกที่ชอบออกมาเล่นแสงไฟตามบ้านเรือน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กล่าวในที่สุด
****************
ประชาสัมพันธ์ สสจ.เชียงใหม่ – ข่าว
ภาพประกอบจาก http://share.psu.ac.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น