นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระยะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว โดยหลายพื้นที่มีฝนตกกระจาย โดยเฉพาะภาคใต้และภาคตะวันออกมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น จากอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนฟ้าคะนองกระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ และในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2559 ทั่วทุกภาคของประเทศจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำมีความเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนัก ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก โดยตรวจสอบท่อ ทางระบายน้ำในเขตเมืองมิให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ รวมถึงตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวให้มีความมั่นคงแข็งแรง จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย สำหรับพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร ในระยะนี้จะมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้เข้ามาเสริม ทำให้มีฝนตกตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงเย็นในแต่ละวัน และจะมีลักษณะเช่นนี้ไปอีกระยะหนึ่ง โดยจะมีฝนตกหนักเป็นบางแห่ง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังเส้นทาง จัดเจ้าหน้าที่ดูแลตามจุดที่มีน้ำท่วมขัง เพื่ออำนวยความสะดวกในการจราจรแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วให้บริการซ่อมรถและลากจูงกรณีรถจอดเสียกีดขวางเส้นทางจราจร
อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน และมีฝนตกในหลายพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่ฝนตกบริเวณใต้เขื่อน จึงไม่สามารถเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อน โดยเฉพาะเขื่อนหลัก 4 แห่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่าปริมาณน้ำที่ระบายออก เพื่อสนับสนุนการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ ทำให้ไม่เพียงพอต่อการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร อีกทั้งมีแนวโน้มเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงระหว่างปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2559 จึงขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด สำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภค รวมถึงให้เกษตรกรติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมวางแผนการเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำในพื้นที่ เพื่อมิให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
******************
ประชาสัมพันธ์ ปภ. - ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น