วันที่ 27 มิถุนายน 2560 ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่ พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งใช้บังคับมานานแล้วพบปัญหาข้อขัดข้องที่เป็นอุปสรรคต่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการในการให้บริการของหน่วยบริการ ส่งผลกระทบต่อการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชนและผู้รับบริการโดยรวม จึงมีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน และการสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรค
ทั้งนี้ กรณีมีการกล่าวถึงการแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่ารัฐบาลจะให้ผู้ป่วยช่วยจ่ายหรือออกค่ารักษาพยาบาลเองเป็นการลิดรอนสิทธิการเข้าถึงในการรักษาของประชาชน ซึ่งเรื่องนี้การ “ร่วมจ่าย” ค่ารักษาพยาบาลเป็นหลักการเดิมที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 มาตรา 5 วรรค 2 “คณะกรรมการอาจกำหนดให้บุคคลที่เข้ารับการบริการสาธารณสุขต้องร่วมจ่ายค่าบริการในอัตราที่กำหนดให้แก่หน่วยบริการในแต่ละครั้งที่เข้ารับการบริการ เว้นแต่ผู้ยากไร้หรือบุคคลอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไม่ต้องจ่ายค่าบริการ” ดังจะเห็นได้จากการร่วมจ่าย 30 บาท ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (เดิมชื่อโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค) อีกทั้งนานาชาติก็ใช้หลักการเดียวกันเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. ...ที่กำลังดำเนินการอยู่นั้น เจตนารมณ์และเนื้อหาการปรับปรุงปราศจากการปรับปรุง เรื่องการร่วมจ่าย ไม่ได้มีการลิดรอนสิทธิการเข้าถึงในการรักษาของประชาชน ขอให้ประชาชนวางใจได้ โดยทางกระทรวงสาธารณสุขจะคงรักษาหลักการสำคัญเหล่านี้ไว้ นอกจากนี้หน่วยบริการไม่ได้ต้องการผลกำไร แต่ขอเพียงงบประมาณเพียงพอต่อการให้การดูแลรักษาอย่างได้มาตรฐานเท่านั้น
*********************
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่-ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น