ท่าอากาศยานเชียงใหม่เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะหลั่งไหลขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ล่าสุดจำนวนผู้โดยสารทำสถิติสูงสุด กว่า 33,000 คนต่อวัน เตือนผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมาสนามบิน เนื่องจากการจราจรโดยรอบติดขัดซึ่งอาจทำให้ตกเครื่องได้
นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2559 เป็นต้นมา มีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) เฉลี่ยวันละ 28,000-31,000 คน ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ย วันละ 26,000 คน ทำให้เกิดความคับคั่งของผู้โดยสารในบางช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินเข้าและออกติดกันหลายเที่ยวบิน และล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 มีผู้โดยสารมาใช้บริการสูงกว่า 33,000 คน ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดดำเนินการมา และในช่วงปลายปีนี้ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวันในโอกาสเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก ทชม.จึงได้เตรียมพร้อมรองรับด้านต่างๆ ประกอบด้วย
ด้านการตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจค้นปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น โดยเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติงานด้วยความสุภาพและปฏิบัติตามขั้นตอนงานอย่างเคร่งครัด สุ่มตรวจบุคคล และสัมภาระตามระดับมาตรการและมาตรฐานการปฏิบัติงาน เพื่อมิให้มีวัตถุอันตรายหรือวัตถุต้องห้ามผ่านขึ้นบนอากาศยานโดยเด็ดขาด
ด้านการรักษาความปลอดภัย จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เพื่องานตระเวนระงับเหตุ โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ จัดชุดตรวจผสม เพิ่มความถี่ในการตรวจตระเวนตามพื้นที่ต่างๆ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสภาพความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เขตการบิน ตลอดจนสินค้าที่จะผ่านเข้าพื้นที่เขตการบิน เพื่อมิให้มีวัตถุอันตรายหรือวัตถุต้องห้ามผ่านเข้าในพื้นที่เขตการบินโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังทำการสุ่มตรวจรถยนต์บริเวณทางเข้าก่อนเข้าถึงหน้าอาคารผู้โดยสาร ทั้งภายในตัวรถและใต้ท้องรถ รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจพื้นที่ด้วยกล้องวงจรปิด สังเกตและเฝ้าระวังผู้ที่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย ขณะเดียวกันยังได้รับการสนับสนุนจากสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ นำสุนัขตำรวจมาสุ่มตรวจกระเป๋าและสัมภาระของผู้โดยสาร เพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายอีกด้วย ทั้งนี้ หากผู้ใดประสบเหตุหรือพบเห็นสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย ทชม.หมายเลขโทรศัพท์ 0 5392 2205 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านการจัดการจราจร จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรเพื่อให้รถยนต์สามารถเข้า-ออก บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสารได้อย่างสะดวก กวดขันมิให้มีการจอดรถยนต์ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด โดยอนุญาตให้หยุดเฉพาะเพื่อรับ-ส่ง เท่านั้น รวมทั้งกวดขันให้รถบัสสามารถจอดได้เฉพาะบริเวณที่กำหนด และดูแลมิให้มีรถยนต์ประเภทอื่นเข้าจอดในที่จอดรถบัส
ด้านการอำนวยความสะดวก ทชม.ได้จัดเตรียมความพร้อมและดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยเฉพาะการดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องน้ำและพื้นที่สาธารณะ รวมถึงเพิ่มจำนวนรถเข็นกระเป๋าและพนักงานจัดเก็บให้เพียงพอต่อการให้บริการ นอกจากนี้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 และวันที่ 1 มกราคม 2560 ได้จัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อลดความเครียดให้กับผู้โดยสารที่รอใช้บริการ รวมทั้งแจกน้ำดื่มเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ด้วย ทั้งนี้ หากผู้โดยสารมีข้อสอบถามหรือข้อขัดข้องใดที่ต้องการความช่วยเหลือ รวมทั้งประสานงานในเรื่องต่างๆ สามารถติดต่อโดยตรงที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ได้ตลอดเวลาให้บริการ หรือติดต่อทางโทรศัพท์ได้ที่หมายเลข 0 5392 2100
ด้านการปฏิบัติการในเขตการบิน กำหนดให้เพิ่มรอบการตรวจวัสดุแปลกปลอมในเขตการบิน (FOD) รวมทั้งนกและสัตว์อันตรายในเขตการบิน ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2559 - 3 มกราคม 2560 จากการตรวจปกติ 4 รอบต่อวัน เป็น 10 รอบต่อวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 น. - 02.00 น.ของวันถัดไป โดยเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2559
ด้านการแพทย์ มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง และนอกเวลาสามารถตามตัวแพทย์และปรึกษาได้ทุกเวลา ทั้งนี้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่หน่วยงาน หรือสถานประกอบการต่างๆ อาจได้รับอนุญาตให้ปล่อยโคมลอยได้ตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ สายการบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศได้ยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 44 เที่ยวบิน เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวน 25 เที่ยวบิน และมีการเพิ่มเที่ยวบินภายในประเทศในวันที่ 1-2 มกราคม 2560 จำนวน 6 เที่ยวบิน อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าว การจราจรบริเวณโดยรอบ ทชม. อาจคับคั่งกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้เดินทาง ดังนั้นจึงขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมายังสนามบินเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษด้วย
**********************
ส่วนกิจการพิเศษและมวลชนสัมพันธ์ ทชม.-ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น