ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยและสอบถามไปยังมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ว่า การที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัล ทรัมพ์ มีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายการค้า “อเมริกามาก่อน” เพื่อรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจอเมริกานั้น จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติขณะนี้หรือไม่นั้น
เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ชี้แจงว่า สหรัฐอเมริกามีกฎหมายห้ามสำนักผู้แทนการค้าช่วยบริษัทบุหรี่อเมริกาส่งเสริมการขายยาสูบ หรือแทรกแซงนโยบาย หรือกฎหมายควบคุมยาสูบของประเทศอื่น ที่ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติ ขณะที่มีคำสั่งประธานาธิบดีคลินตัน ที่ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งรวมเจ้าหน้าที่สถานทูต แทรกแซงกฎหมายควบคุมการโฆษณายาสูบของประเทศอื่นที่ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ซึ่งทั้งกฎหมายปัจจุบันและร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่ได้มีบทบัญญัติเลือกปฏิบัติระหว่างบุหรี่นำเข้าและบุหรี่ของโรงงานยาสูบ ดังนั้น หากนายทรัมพ์ในฐานะประธานาธิบดี คิดจะแทรกแซงกฎหมายควบคุมยาสูบของประเทศอื่น ก็ต้องทั้งแก้กฎหมาย และยกเลิกประกาศประธานาธิบดีคลินตัน ซึ่งคงจะเป็นเรื่องและไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากในสหรัฐอเมริกาเองก็มีการต่อต้านบริษัทบุหรี่ เนื่องจากเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอเมริกาเสียชีวิตก่อนเวลาด้วยโรคจากการสูบบุหรี่มากถึงปีละ 480,000 คน
อีกประการหนึ่ง บริษัทบุหรี่ข้ามชาติ ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ทำธุรกิจในประเทศไทย ก็มีสำนักงานอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ใช่ธุรกิจสัญชาติอเมริกัน จึงไม่สามารถเรียกร้องให้รัฐบาลอเมริกาแทรกแซงร่างกฎหมายของประเทศอื่นได้ การแทรกแซงนโยบายหรือกฎหมายควบคุมยาสูบของไทยที่เป็นอยู่ จึงมาจากธุรกิจยาสูบข้ามชาติฟิลลิป มอร์ริสและสภาหอการค้าอเมริกาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเอกชนและไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสหรัฐแต่อย่างใด
************************
ปชส.มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่-ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น