วันที่ 31 ธันวาคม 2559 เวลา 10.00 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 จังหวัดเชียงใหม่ ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามและเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเฝ้าระวัง 7 วันอันตราย โดยมีการสรุปสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2559 เกิดอุบัติเหตุ 30 ครั้ง มากกว่าปี 2559 จำนวน 16 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ (Admit) จำนวน 31 คน (ชาย 25 คน หญิง 6 คน) มากกว่าปี 2559 จำนวน 18 คน มีผู้เสียชีวิต 4 คน เป็นชายทั้งหมด จากพื้นที่อำเภอเชียงดาว แม่แตง แม่ริม และจอมทอง ส่วนประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุ คือ รถจักรยานยนต์ รถปิคอัพ และรถเก๋ง โดยมีสาเหตุหลักมาจากขับรถเร็วเกินกำหนด เมาสุรา และตัดหน้ากระชั้นชิด
สำหรับสถิติโดยสรุป 2 วันของการเฝ้าระวังอุบัติเหตุทางถนน จังหวัดเชียงใหม่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน มากกว่า ปี 2559 จำนวน 2 คน อุบัติเหตุสะสม 51 ครั้ง ผู้ได้รับบาดเจ็บ 52 คน ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในอำเภอที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยจะเกิดในหมู่บ้านชุมชนมากที่สุด และสาเหตุหลักมาจากเมาสุรา ทำให้สถิติโดยรวมสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากจังหวัดอุดรธานี
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า แม้จังหวัดเชียงใหม่จะมีคำสั่งพร้อมทั้งขอความร่วมมือในการเฝ้าระวัง อำนวยความสะดวก โดยเฉพาะ 5 ดอย และจุดท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงให้ใช้มาตรการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด โดยตั้งด่านตรวจ จุดตรวจบนถนนสายหลัก 49 จุด ใช้เจ้าหน้าที่ประจำจุด 1,483 คน ด่านตรวจชุมชน 2,066 แห่ง และจุดตรวจร่วมถนนสายรองและใช้กำลังอาสาสมัครร่วมปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง จึงได้สั่งให้นายอำเภอและผู้กำกับการตำรวจภูธรทุกแห่ง กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำท้องถิ่นให้เพิ่มความเข้มในการตรวจจับยานพาหนะและผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะวันส่งท้ายปี ขณะเดียวกันให้นำคำสั่ง คสช.ที่46/2558 มาใช้บังคับใช้อย่างเคร่งครัด
ทางด้านนายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยจะส่งเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์มาให้เชียงใหม่เพิ่มอีก 31 เครื่อง เพื่อจะได้กวดขันในการตรวจวัดโดยเฉพาะผู้ที่ดื่มตามร้านเหล้าตองข้างทาง และให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเร่งกวดขัน ตักเตือนและปรามผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงในชุมชนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
**********************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น