เนื่องจากวันที่ 4 เมษายน ของปีนี้ตรงกับ “วันชิงหมิง” คือวันเซ่นไหว้บรรพบุรุษและไว้อาลัยผู้ที่ล่วงลับไปของจีน สำหรับปีนี้วันชิงหมิงมีความหมายพิเศษอย่างยิ่ง เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในประเทศจีน โดยเฉพาะในเมืองอู่ฮั่นและเมืองต่างๆ ของมณฑลหูเป่ย และปัจจุบัน ได้เกิดการแพร่ระบาดไปในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกแล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด 19 เป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่างๆ ที่ทำงานในแนวหน้าจำนวนไม่น้อย ดังนั้น เพื่อแสดงความไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ต้องสละชีวิตในการต่อสู้กับโควิด-19 และพี่น้องชาวจีนที่เสียชีวิตจากโรคระบาดนี้ ทางการจีน จึงได้จัดกิจกรรมไว้อาลัยระดับชาติ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันชิงหมิงของปีนี้ โดยสถานที่ราชการและเอกชนทั่วประเทศจีน รวมถึงสถานทูตจีนและสถานกงสุลจีนประจำประเทศต่างๆ ได้ลดธงชาติลงครึ่งเสา พร้อมหยุดกิจกรรมบันเทิงในพื้นที่สาธารณะทั่วประเทศ
สำหรับ “วันชิงหมิง” (qing-ming, อักษรจีนตัวเต็ม: 清明節, อักษรจีนตัวย่อ: 清明节, พินอิน: Qīngmíngjié) หรือ เช็งเม้ง, เชงเม้ง (ตามสำเนียงแต้จิ๋ว) หรือ "เฉ่งเบ๋ง" (ในสำเนียงฮกเกี้ยน) "เช็ง" หรือ "เฉ่ง" หมายถึง สะอาด บริสุทธิ์ และ "เม้ง" หรือ "เบ๋ง" หมายถึง สว่าง รวมแล้วหมายความถึง ช่วงเวลาแห่งความแจ่มใส รื่นรมย์
ประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของชาวจีนในวันนี้คือ ไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยประเพณีนี้ได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื๊อ ที่เน้นเรื่องความกตัญญูเป็นสำคัญ
ขอบคุณภาพประกอบและข้อมูลจาก
http://thai.cri.cn
https://th.wikipedia.org
**************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น