วันที่ 1 มีนาคม 2560 ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานคณะทำงานรับฟังความคิดเห็น เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองจังหวัดเชียงใหม่ โดยในครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 1 มีกลุ่มข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานรัฐวิสาหกิจ หอการค้าจังหวัด กลุ่มองค์กรที่ทำงานร่วมกันกับส่วนราชการ เข้าร่วมประชุมกว่า 50 คน โดยได้ร่วมกันหารือและแสดงความคิดเห็นในการสร้างความสามัคคีปรองดองตามประเด็นที่กำหนด 10 เรื่อง ได้แก่ ด้านการเมือง ด้านความเหลื่อมล้ำการครอบครองที่ดินทำกินของเกษตรกรและการบริหารจัดการน้ำ ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ด้านสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณสุข ด้านสื่อสารมวลชน ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการต่างประเทศ ด้านการป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่น ด้านการปฏิรูป และด้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนทั้งประเทศมีความคิดร่วมกัน มีความสมัครสมานสามัคคีกัน ที่จะพัฒนาประเทศชาติในระยะยาว โดยในวันนี้สิ่งที่ต้องการคือประเด็นการปฏิรูปอย่างแท้จริงใน 10 ประเด็น ที่ทางคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ได้กำหนด หรือแนวทางให้ผู้เข้าร่วมเสนอความคิดเห็น เพื่อรวบรวมรายงานให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในชาติ และรวบรวมข้อคิดเห็นจากการนำเสนอให้คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง
การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นการสร้างความสามัคคีปรองดองในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ โดยทางภาครัฐมีหน้าที่รับฟังและจดบันทึกเพียงอย่าเดียว ซึ่งต่างก็หวังว่าการแสดงความคิดเห็นร่วมกันในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศ โดยจะสรุปเป็นครั้ง ๆ แล้วจะรวบรวมทั้งหมดให้เป็นภาพรวม ขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมมีการตอบรับเป็นอย่างดี โดยส่งรายชื่อกลับมาเป็นจำนวนมากเกินกว่ากรอบที่ตั้งไว้ 200 คน โดยมีเงื่อนเวลาที่จะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20-21 มีนาคมนี้ เนื่องจากไม่สามารถเพิ่มจำนวนครั้งได้ ทั้งนี้ การประชุมครั้งต่อไป เป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่น ได้แก่ กลุ่มสนับสนุนพรรคการเมือง กลุ่มทุนทางการเมือง กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น กลุ่มแกนนำมวลชนทางการเมือง ในวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2560 เวลา 09.00-11.30 น.
************
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่-ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น