ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชี้แจงว่า ตามที่มีข่าวส่งต่อกันในสังคมออนไลน์หลายแหล่งว่า ในช่วงระหว่างนี้หากใครต้องไปเข้ารับการรักษาพยาบาลหรือติดต่องานที่โรงพยาบาลสวนดอก หรือศูนย์ศรีพัฒน์ ขอให้สวมใส่หน้ากาก N95 ไปด้วย เพราะมีการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคหัด และโรคคางทูมนั้น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอแจ้งทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบว่า ข่าวดังกล่าวมีความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น กล่าวคือ ช่วงระยะเวลานี้มีการระบาดเพิ่มขึ้นของโรคหัดทั้งประเทศ ซึ่งทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ไม่เพียงแต่โรคหัดเท่านั้น แต่ยังมีโรคไข้หวัดใหญ่และโรคไข้เลือดออกอีกด้วย
สำหรับโรคหัด พบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 1-4 ปี รองลงมาคือ 20-29 ปี ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ป่วยโรคหัดที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลก็มีมากขึ้นจริง ตามอุบัติการณ์ของโรคทั้งประเทศ ไม่ได้อยู่ในภาวะเป็นโรคระบาดรุนแรงตามที่เป็นข่าลือต่อๆกัน และที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ รวมถึงศูนย์ศรีพัฒน์ ก็มีผู้ป่วยโรคหัดเข้ารับการรักษาตามสถานการณ์เช่นเดียวกัน ไม่ได้มีจำนวนมากกว่าการเกิดโรคทั้งประเทศอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด และที่สำคัญโรคหัดเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ผู้ป่วยด้วยโรคหลากหลายชนิดเข้ามารับการรักษาจำนวนมาก ประกอบกับในช่วงนี้สภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในสถานการณ์ที่มีปัญหาฝุ่นควันพิษ จึงขอเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคหัด และควรสวมหน้ากาก N-95 เวลาออกสู่ที่โล่งแจ้งหรือไปโรงพยาบาล ซึ่งจะสามารถช่วยป้องกันทั้งฝุ่นควันพิษและเชื้อโรคเข้าสู้ร่างกายได้ ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและได้เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคหัดมาเพื่อให้ได้ทราบด้วยแล้ว
*****************
ประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ -ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น