All online

วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ข่าว ; แก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ไม่กระทบสิทธิหรือลิดรอนสิทธิ


สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ยืนยันมุ่งเน้นประโยชน์เพื่อประชาชน ไม่กระทบสิทธิหรือลิดรอนสิทธิใดๆ

ร้อยเอกภูรีวรรธน์  โชคเกิด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง การแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2545 ว่า ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2560 มีการจัดเวทีประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน 4 ภาค และเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของประชาชนตามที่เป็นข่าว รวมถึงเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 กลุ่มตัวแทนผู้ใช้บัตรทองในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ยุติการแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น

เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและให้ผู้ใช้บัตรทองจังหวัดเชียงใหม่คลายความกังวล จึงขอยืนยันว่า เจตนารมณ์ของการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ แก้ไขที่ระบบบริหารจัดการเพื่อให้มีความคล่องตัวและสามารถสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการมากขึ้น ประชาชนจะได้รับประโยชน์มากขึ้น ไม่กระทบสิทธิ ไม่ลิดรอนสิทธิ ใดๆ สำหรับประเด็นที่ผู้ใช้บัตรทองจังหวัดเชียงใหม่ มีความกังวลอยู่ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจ ดังนี้

ประเด็นแรก ความกังวลว่าประชาชนจะต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล 30-50 %  ขอชี้แจงว่าไม่มีการแก้ไข ยังคงตาม พ.ร.บ. เดิม
ประเด็นที่ 2 การขอให้เพิ่มอำนาจแก่ สปสช. ในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์รวม ซึ่งเดิมทำได้เพียง 4.9% เนื่องจากที่ผ่านมา คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)  ทักท้วงว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่มีระเบียบรองรับในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์รวม ไม่มีการแก้ไข ยังคงตาม พ.ร.บ. เดิม ให้มีการจัดซื้อร่วมยา/เวชภัณฑ์/อุปกรณ์การแพทย์ เหมือนเดิม เพียงแต่จะปรับระบบการจัดซื้อยาเพื่อให้เกิดระบบจัดซื้อร่วมที่มีธรรมาภิบาล มีความเท่าเทียมระหว่างสิทธิมากขึ้นและมีประสิทธิภาพ โดยให้มีคณะกรรมการร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีกระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนหลักในการประสานงาน เพื่อดำเนินการเรื่องการต่อรองราคา
ประเด็นที่ 3 การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพมาตรฐานบริการสาธารณสุข มีสัดส่วนผู้ให้บริการมากกว่าผู้รับบริการ ข้อเท็จจริงในการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีความไม่สมดุลในองค์ประกอบ จำนวนและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ โดยมีข้อทักท้วงจากหน่วยตรวจสอบ ในประเด็นการออกประกาศระเบียบ ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ จึงมีการปรับ เพิ่ม ลด ผู้เกี่ยวข้องหลักในด้านต่างๆทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น รวมทั้งผู้แทนภาคประชาชนด้วย เพื่อให้มีส่วนร่วมในการบริหารกองทุน รวมทั้งปรับปรุงองค์ประกอบตามบทบาทหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบัน ทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและการจ่ายเงินชดเชยค่าใช้จ่ายที่เป็นธรรมให้แก่หน่วยบริการ
ประเด็นสุดท้าย ความกังวลว่า การแยกเงินเดือนออกจากงบรายหัว จะทำให้เกิดปัญหาการกระจุกตัวของบุคลากรในเขตเมือง ชี้แจงว่า ประเภทและจำนวนบุคลากรของหน่วยบริการถูกกำหนดโดยกรอบอัตรากำลังคนที่คิดตามภาระงานระดับของโรงพยาบาล ซึ่งถูกกำหนดในระดับประเทศ ทำให้การกระจายตัวของบุคลากรดีขึ้นและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ  การแก้ไขประเด็นนี้จะทำให้สามารถประเมินความเพียงพอของเงินกองทุนต่อการบริการสาธารณสุขได้ รวมทั้งสะท้อนปัญหาหรือสถานการณ์ทางการเงินที่แท้จริงของหน่วยบริการภาครัฐได้  และยังส่งผลให้มีงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการจัดบริการสาธารณสุขแก่ประชาชนได้อย่างครอบคลุมและมีคุณภาพมากขึ้น

สำหรับเรื่องที่ไม่อยู่ใน 14 ประเด็นหลัก แต่เป็นเรื่องที่ภาคประชาชนให้ความสนใจและมีความเชื่อมโยงกัน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ชี้แจงดังนี้
ประเด็นที่ 1 ผู้มีสิทธิบัตรทอง ยังเหมือนเดิม คือ คนไทยทุกคนที่มีเลขประจำตัว 13 หลัก ซึ่งไม่มีสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลจากกฎหมายประกันสังคม หรือสิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ ไม่มีการแก้ไขประเด็นผู้มีสิทธิแต่อย่างใด
ประเด็นที่ 2 โรงพยาบาลรัฐยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค เหมือนเดิม ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่โดยตรงของโรงพยาบาลไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินที่ได้รับจัดสรร

ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ยืนยันว่า ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการแก้ไข พ.ร.บ. มากขึ้น โดยไม่กระทบสิทธิและไม่ลิดรอนสิทธิ ใดๆ

***************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น