พญ.แพรลดา วงศ์ศิริเมธีกุล แพทย์ใช้ทุนสังกัดภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับทุนรางวัลเยาวชนสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ก็ได้เดินทางไปเพื่อศึกษางานวิจัยด้านการผ่าตัดที่ Massachusetts General Hospital, Harvard Medical School ซึ่งก่อนจะเดินทางไปก็ได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 เพื่อกราบถวายบังคมลาไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ นับว่าเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ในขณะนั้นพระองค์ได้ทรงถามเกี่ยวกับโครงการที่เราได้นำเสนอไป ว่าเราจะศึกษาเรื่องอะไร จึงได้ถวายรายงานว่าจะทำการศึกษาผู้ป่วยจำลอง แล้วพระองค์ได้ทรงถามต่อว่า เป็นคนหรือตุ๊กตา จึงได้ถวายคำอธิบายเกี่ยวกับการศึกษางานวิจัยโครงการฝึกทักษะผู้ป่วยจำลองในประเทศไทย เมื่อพระองค์ทรงทราบอย่างเข้าใจแล้วจึงได้พระราชทานพรก่อนที่ตนเองจะเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ทั้งนี้ สิ่งที่พระองค์ตรัสไว้ยังได้กึกก้องอยู่ในใจเสมอ และยังนึกถึงการทรงงานของพระองค์ในที่ต่าง ๆ ทั้งในถิ่นทุรกันดารห่างไกล ซึ่งพระองค์ได้ทรงงานหนัก โดยไม่ได้คำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อยพระวรกาย พระองค์เปรียบดังต้นแบบในการดำเนินชีวิต การทำงานเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ ทำให้ตนเองรู้สึกปลื้มปิติยิ่งนักที่ได้รับโอกาสเข้าเฝ้าครั้งนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ได้เดินทางมาศึกษาวิจัยในด้าน Simulation-based Medicine ณ Massachusetts General Hospital, Harvard Medical School เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมี Professor Roy Phitayakorn และ อ.มาโนช โชคแจ่มใส เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งเรื่องที่ทำการศึกษาในขณะนี้คือ OR Team Multidisciplinary Simulation รวมทั้งได้เรียนรู้การทำงานใน Learning Laboratory ซึ่งเป็น Simulation center ใช้ในการเรียนการสอน รวมทั้งวัดประเมินผลนักศึกษาแพทย์ แพทย์ประจำบ้าน อาจารย์แพทย์ รวมถึงบุคลากรด้านต่างๆ เช่น พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ เป็นต้น เรียนรู้การเขียนเหตุการณ์จำลอง (scenario) การจัดการเรียนการสอน การวัดประเมินผล และการนำผลงานมาเขียนเพื่อตีพิมพ์ นอกจากนั้นยังมีโอกาสได้ทำงานวิจัยทางการศึกษาร่วมกับ New England Journal of Medicine (NEJM) ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ชั้นนำของโลก ได้เรียนรู้เทคนิคการเก็บข้อมูล วิธีทางสถิติต่างๆ ในการทำวิจัย
การได้มาเรียนในต่างแดนเปรียบเสมือนการเปิดมุมมองใหม่ให้กับตัวเอง ได้เรียนรู้ทั้งในด้านวิชาการ และการใช้ชีวิต รู้จักการปรับตัวเข้าสู่สังคมและวัฒนธรรมใหม่ สิ่งที่ท้าทายคือการได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่ไม่เคยอยู่ในหลักสูตร เปิดกรอบความคิดและจินตนาการ นอกจากนั้นการได้เข้าร่วมงานประชุมในระดับนานาชาติ มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้คนจากทั่วโลก หลากหลายเชื้อชาติและศาสนา ในระยะเวลาอีก 6 เดือนที่ทำการศึกษาก่อนเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อนำเสนอในงานประชุม Prince Mahidol Award Conference 2018 ที่จะจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ในปลายเดือนมกราคม 2561 และมุ่งมั่นตั้งใจที่จะศึกษาให้ได้มากที่สุด พัฒนาฝึกฝนตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อนำกลับไปพัฒนาคณะและประเทศชาติต่อไป
********************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น