ค่ำวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2559 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ” ที่ลานข่วงประตูท่าแพ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีแขกผู้มีเกียรติร่วมงานจำนวนมาก เช่น กงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ รองกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ตัวแทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมพิธีเปิดอย่างคับคั่ง
โดยในการเปิดงานได้มีการร่วมกันจุดผางปะตี๊ด และร่วมยืนสงบนิ่งเพื่อแสดงความไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก่อนที่ผู้ร่วมพิธีทั้งหมดจะร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อเป็นการเริ่มประเพณียี่เป็งของเมืองเชียงใหม่อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่องาน "ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ" ประจำปี 2559
สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆในปีนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกับทางหลายองค์กรในจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้น โดยเน้นถึงการส่งเสริมและการสืบสานวัฒนธรรมของท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ พิธีบวงสรวงศาลพระภูมิ, เจดีย์ขาว, ขอขมาแม่น้ำปิง ในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ณ สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ และท่าน้ำศรีโขง นอกจากนี้ยังมีการประกวดกระทงฝีมือใบตอง ในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ณ สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ การประกวดกระทงลอยน้ำประดับเมือง ในวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2559 ณ บริเวณคูเมือง การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ ในวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ณ ข่วงประตูท่าแพ - สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ การประดับตกแต่งเมือง ในวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2559 และการจัดทำท่าแพสำหรับลอยกระทงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิง จำนวนทั้งสิ้น 11 จุด
ขณะที่บรรยากาศการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเที่ยวชมงานเทศกาลลอยกระทงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บริเวณลานประตูท่าแพที่ได้มีการจัดพิธีเปิดในวันนี้ ซึ่งในบริเวณดังกล่าวได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจการจุดผางปะตี๊ด แปรอักษรเป็นคำว่า "we ♡ King" และ "ยี่เป็งเชียงใหม่" ซึ่งได้รับความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เฝ้าชมแวะเวียนกันมาถ่ายภาพและร่วมชมการแสดงในพิธีเปิดที่บริเวณดังกล่าวอย่างคับคั่ง
*******************
ปชส.เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น