โดยในช่วง High Season ของปี 2559 นี้ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานภาคี ได้กำหนดจัดงาน “อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Royal Park Rajapruek)” ขึ้น เพื่อเป็นการสืบสานต่อพระราชปณิธานแนวพระราชดำริ เผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ในระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2560 งาน “อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Royal Park Rajapruek)” นับเป็นการจัดงานเพื่อให้ประชาชนคนไทยได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เรียนรู้ ซาบซึ้งในพระจริยวัตร พระอัจฉริยภาพ หลักการทรงงานที่ประชาชนชาวไทยต้องนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปอย่างที่พ่อต้องการ
กิจกรรมที่น่าสนใจในงาน เริ่มจากไฮไลท์ที่ 1 นิทรรศการ “7 ทศวรรษ กษัตริย์นักพัฒนา” ณ หอคำหลวง นิทรรศการที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถ พระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ พระวิริยะอุตสาหะในการทรงงานเพื่อพสกนิกรของพระราชาผู้ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ชมวีดีทัศน์ประกอบเพลงในบทเพลงพระราชาผู้ทรงธรรมและบทเพลงคำสอนของพ่อที่แสดงให้ถึงการสนองงานตามแนวพระราชดำริ การพัฒนาการเกษตรบนพื้นที่สูงของมูลนิธิโครงการหลวง และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ซึ่งนิทรรศการนี้จะเปิดให้เข้าชมเพียงวันละ 6 รอบ
ไฮไลท์ที่ 2 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำคัญของงานนี้ ดิน น้ำ ป่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ณ สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ แสดงวิถีเกษตรของพ่อ “จากนภา ภูผา สู่มหานที” ไม่ว่าจะเป็น การจำลองป่าต้นน้ำ ป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง ฝายชะลอน้ำ การบำบัดน้ำเสียด้วยระบบพืชบำบัด แปลงรวบรวมพันธุ์หญ้าแฝก แปลงสาธิตสภาพดินที่มีปัญหาและวิธีการแก้ไข ระบบนิเวศน์ป่าชายเลน รวมทั้งโครงการเครือข่ายอ่างเก็บน้ำ (อ่างพวง) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากมาสู่อ่างที่ปริมาณน้อยกว่า เพื่อเฉลี่ยปริมาณน้ำและเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ เพื่อนำมาใช้ในการดูแลรักษาสวน โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ (GISTDA) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วม เช่น การเกี่ยวข้าวและสีข้าว การแสดง 3 ดำ มหัศจรรย์ ตามแนวพระราชดำริ การเลี้ยงปลาในกระชัง การปลูกพืช ผัก และไม้ผล Food bank สาธิตการทำหัตถกรรมจากเฮมพ์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์และผลผลิตทางการเกษตร สาธิตการทำเกษตรจากเกษตรกรตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จโดยการน้อมนำตามแนวพระราชดำริ และกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน ตลอดจนการจัดเสวนาทางด้านการเกษตร จากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของสำนักวิจัยและสำนักพัฒนา สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)
ไฮไลท์ที่ 3 เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของมูลนิธิโครงการหลวง ดั่งคำขวัญที่ว่า “โครงการหลวง ช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก” และชื่นชมพรรณไม้งามโครงการหลวง พร้อมลิ้มลองเมนูพิเศษจากร้านครัวโครงการหลวงด้วยวัตถุดิบที่สด สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ เมนูดี อร่อย ณ สวนมูลนิธิโครงการหลวง
ไฮไลท์ที่ 4 ล้านเหตุผลที่คนไทยรักในหลวง ร.9 ชมภาพแห่งความทรงจำเมื่อครั้งเสด็จประพาสจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งเรื่องเล่าสุดประทับใจของพสกนิกรผู้ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท และประมวลภาพกิจกรรมถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชของหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาตราบนิจนิรันดร์ ณ อาคารถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ไฮไลท์ที่ 5 ร่วมรังสรรค์ สร้างสังคมที่ดีผ่านหน่วยงานภาคี นิทรรศการจากองค์กรชั้นนำของประเทศที่ได้น้อมนำเอาโครงการในพระราชดำริด้านต่างๆ มาปรับใช้เพื่อประโยชน์ต่อสังคม รวมทั้งกิจกรรมการเรียนรู้ อาทิ ธ.ก.ส.กับความรู้การเกี่ยวข้าว เรื่องเล่าจากโตโยต้า โซลูน่า เลขไทย สู่โรงสีข้าวรัชมงคล ปลูกต้นไม้กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรียนรู้เรื่องธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ โดย ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกรุงไทย กิจกรรมแยกขยะ จัดสวนรีไซเคิลกับ ปตท. รวมทั้งสัปดาห์สินค้าจาก CP และสินค้าในเครือเบอร์ลี่ ยุคเกอร์
ไฮไลท์ที่ 6 ชมความสวยงามดอกทิวลิป ลิลลี่ คาร์เนชั่น บีโกเนีย พิทูเนีย บลูฮาวาย ดาเลีย เจอราเนียม ฯลฯ รวมถึงไม้ดอกเมืองหนาวอีกนับล้านดอกจากมูลนิธิโครงการหลวงและโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง พร้อมใจกันเบ่งบานงดงามเต็มสวนให้ได้ชื่นชมและประทับใจกันตลอด 90 วัน รวมทั้งเรือนกล้วยไม้ ที่จะสะพรั่งไปด้วยกล้วยไม้ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ผสม พบกับปะติมากรรม ต้นไม้ของพ่อ ที่ประดิษฐ์จากกล้วยไม้ออนซิเดียมสีเหลืองทั้งต้น ชมไม้ดอกเมืองหนาวโดดเด่นจากดอยสูงในเรือนไม้ดอกควบคุมอุณหภูมิ ที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอด 3 เดือน อุโมงค์ไม้ดอกสายรุ้งสุดแสนโรแมนติกยาวกว่า 70 เมตร สัมผัสดินแดนในฝันกับโฉมใหม่ของสวนเนเธอร์แลนด์ ชมดอกทิวลิปกว่าหมื่นต้นที่พร้อมบานสะพรั่งในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปิดท้ายด้วย สวนแห่งสีสันกับการผสมผสานของดอกไม้หลายหลากสีที่สวนพรมบุปผา
ไฮไลท์ที่ 7 อิ่มบุญ สุขใจ กับเส้นทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล สุขใจไปกับสวนสวยดอกไม้งาม แถมยังได้อิ่มบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานในสวนต่างๆ อาทิ พระพุทธรูปสมถะวิปัสนากรรมฐาน ณ ลานต้นพิธิ์แห่งความจงรักภักดี ที่ได้จากการหลอมใบโพธิ์ทองแดงที่พสกนิกรเขียนคำถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วงการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ 2549 “องค์พระพิฆเนศ ณ สวนประเทศอินเดีย” เทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเลิศ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง ขจัดอุปสรรคทั้งปวง กิจการทุกอย่างสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี “พระศรีศากยมุนี ณ สวนประเทศภูฏาน” พระพุทธรูปที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์ภูฏาน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2554 เด่นในเรื่องนำพาสันติภาพความสุขมาให้ และชะลอความชราของสรรพสัตว์ทั้งหมด “พระพุทธรูปปางมารวิชัย ณ สวนประเทศลาว” พระพุทธรูปไม้แกะสลัก นำพาความสงบสุขร่มเย็น ปราศจากศัตรู “พระอุปคุตปางสมาธิ หรือ พระบัวเข็ม ณ สวนสยามประเทศ” โดดเด่นด้านโชคลาภ คุ้มครองภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง ให้คุณทางทรัพย์สิน ร่ำรวยเงินทอง และ “พระศากยมุนีปางมารวิชัย ณ สวนประเทศเนปาล” เด่นในเรื่องการขจัดอุปสรรคและอันตรายทั้งปวง เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นที่เมืองปาทัน ประเทศเนปาล โดย สถานทูตเนปาลประจำประเทศไทย ได้นำมาประดิษฐาน เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558
ไฮไลท์ที่ 8 ตลาดสินค้าเกษตร จำหน่ายผลิตภัณฑ์และผลิตผลทางการเกษตร อาทิ เมล่อน องุ่น สตรอเบอรี่ เสาวรส เคพกูสเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ มะเขือเทศ ผักสลัด กาแฟ ชา สมุนไพร พันธุ์ไม้ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นผลผลิตของเกษตรกรบนพื้นที่สูง ที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตจนเกิดผลสำเร็จ
ไฮไลท์ที่ 9 กิจกรรมพิเศษและกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ อาทิ กิจกรรม 5 ธันวา กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี กิจกรรมเรียนรู้งานของพ่อในวันเด็กแห่งชาติ นิทรรศการภาพถ่ายด้วยรัก “10 ปี อุทยานหลวงราชพฤกษ์” ตลอดช่วงเดือนแห่งความรัก กิจกรรม Photo Spot สุดชิค พร้อมชมแสง สี ยามค่ำคืนของหอคำหลวงที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน นอกจากนี้ยังจะได้ชมเรือนร่มไม้ สวรรค์แห่งพันธุ์ไม้ร่มชื้น โดมไม้เขตร้อนชื้น แหล่งรวบรวมเฟิร์นโบราณ พรรณไม้หายาก สวนสมุนไพร จัดแสดงสมุนไพรที่รักษาโรคตามอาการ อาคารโลกแมลง สัมผัสความน่ารักของแมลงมีชีวิต อาทิ ตั๊กแตนใบไม้ ตั๊กแตนกิ่งไม้ ผีเสื้อ ฯลฯ
อัตราค่าเข้าชมงานอุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Royal Park Rajapruek) คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 70 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 150 บาท ข้าราชการ ผู้สูงอายุ นักเรียน นักศึกษา แสดงบัตรคนละ 70 บาท (มีบริการรถพ่วงชมสวนฟรี) ทั้งนี้ ยังมีบริการเช่าจักรยานคันละ 60 บาท/ครั้ง บริการเช่ารถกอล์ฟชั่วโมงละ 600 บาท และบริการห้องพักราคาพิเศษที่ราชพฤกษ์เพลส
งาน “อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Royal Park Rajapruek)” กำหนดจัดระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2560 วันจันทร์-พฤหัสบดี เปิดเวลา 08.00 – 18.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 08.00 – 19.00 น. ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 053-114110-5 หรือติดตามการอัพเดทกิจกรรมในงานได้ทางแฟนเพจ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์”
****************
ปชส.อุทยานหลวงราชพฤกษ์ - ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น