สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุ “นกเตน” ทำให้เกิดน้ำท่วมสร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร ที่อยู่อาศัย และสาธารณูปโภค มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนไม่น้อยกว่า 7 จังหวัด ซึ่งล่าสุดศูนย์อุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังและสลายตัวไปในวันนี้
อิทธิพลจากการที่พายุโซนร้อน “นกเตน” ในทะเลจีนใต้ ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่มีฝนตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 จนถึงขณะนี้ก็ยังคงตกต่อเนื่องเพียงแต่ปริมาณน้ำฝนน้อยลง ส่งผลให้เกิดอุทกภัยขึ้นใน 7 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เริ่มจากจังหวัดแพร่ น่าน พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และล่าสุดคือลำพูน ที่กำลังได้รับน้ำจากเชียงใหม่ในวันที่ 3 สิงหาคม 2554 นี้ ทั้งที่พายุดังกล่าวได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ พัดผ่านลำปาง เชียงใหม่เข้าแม่ฮ่องสอน สลายตัวในเขตพม่าไปตั้งแต่วันก่อนแล้วก็ตาม แต่ผลพวงจากฝนตกหนักและต่อเนื่องยังคงมีน้ำท่วมขัง และต้องระวังน้ำเหนือไหลบ่าลงมาสมทบอีก โดยภาพรวมเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ปริมาณน้ำในลำนำปิง วัง ยม และปายมีระดับสูง เอ่อเข้าท่วมหลายพื้นที่ ส่วนน้ำน่าน น้ำลาว ยังปกติ
สถานการณ์โดยทั่วไป ตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันจันทร์ที่ 1 ส.ค.54 เกิดน้ำท่วมหลายจุดในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด แม่ออน และสันกำแพง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสายต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ลำน้ำแม่ออน และลำน้ำแม่ปูคา เพิ่มสูงขึ้นมาก จนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ของเทศบาลตำบลสันกำแพง และเทศบาลเมืองต้นเปา รวมทั้งท่วมพื้นที่การเกษตรอีกเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนต้องเคลื่อนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ ขณะที่ทางการเร่งเข้าให้การช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการแจกจ่ายกระสอบทรายไปวางเป็นแนวกั้น และช่วยขนย้ายทรัพย์สิน ด้านโรงเรียนหลายแห่งใน ต.แม่คือ ต.ปูคา ต้องปิดลงกะทันหัน
นอกจากนั้น ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องยังได้ส่งผลให้น้ำในอ่างเก็บน้ำแม่ออน ต.ออนเหนือ อ.แม่ออน เพิ่มสูงขึ้นเกินระดับ ต้องระบายออกบางส่วน ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าสู่พื้นที่อำเภอสันกำแพงอีกครั้ง เช่น บริเวณศูนย์ออกกำลังกายและศูนย์อาหารของเทศบาลตำบลสันกำแพง หรือโรงเรียนสันกำแพง ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำอำเภอ ที่ต้องประกาศเลิกเรียนให้นักเรียนกลับบ้านก่อนเวลา นายบำเพ็ญ บินไทสงค์ นายอำเภอสันกำแพง กล่าวว่า เกือบทุกตำบลของอำเภอสันกำแพงเกิดน้ำท่วม เพราะสภาพพื้นที่เป็นลักษณะที่ลุ่มรองรับน้ำที่ไหลลงมาจากทั้งแม่ออน และดอยสะเก็ด ผ่านลำน้ำสายต่างๆ ประกอบกับมีฝนตกหนักในพื้นที่จึงเกิดน้ำท่วมขังขึ้น โดย ต.สันกำแพง เป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมมากที่สุด ส่วนความเสียหายทั้งหมดเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจและเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยด่วนแล้ว โดยเฉพาะที่บ้านโฮม บ้านแม่ปูคา และบ้านน้อย น้ำแม่ปูคาได้เอ่อท่วมสองฝั่งเป็นบริเวณกว้าง
วันเดียวกันมีข่าวลือว่าจะมีการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่ออน เพราะเกรงว่าอ่างน้ำใกล้แตกแล้ว ว่าที่ร้อยตรีสมัย คำชมภู นายอำเภอแม่ออน ชี้แจงว่า ประชาชาอย่าหวาดวิตกจนเกินไปเพราะได้มีการประสานไปยังหน่วยงานชลประทานที่ดูแลอ่างเก็บน้ำแม่ออนแล้ว พบว่าน้ำเต็มอ่างเก็บน้ำจริง แต่น้ำที่ไหลออกเป็นน้ำล้นสปิลเวย์ ทางอ่างเก็บน้ำแม่ออนไม่ได้ระบายน้ำออกแต่อย่างใด ต้องรอดูปริมาณฝนที่ตกลงมา และหากจะปล่อยน้ำ ก็จะประสานพื้นที่ล่วงหน้า น้ำที่ท่วมในพื้นที่เป็นน้ำป่าไม่ใช่น้ำจากอ่างเก็บน้ำ อย่างไรก็ตามล่าสุดน้ำที่ไหลลงจากแม่ออนเข้าท่วมหลายตำบลของ อ.สันกำแพงเป็นบริเวณกว้างกว่าเดิม และระดับน้ำสูงขึ้น หลายแห่งไม่สามารถสัญจรไปมาได้ มีบางหมุ่บ้านคนติดอยู่ และไม่มีข้าวกิน ซึ่งเมื่อค่ำวันที่ 1 ส.ค. เทศบาลตำบลสันกำแพง และ อบต.สันกำแพงได้พยายามหาเรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือ ทราบว่าทาง อบจ.เชียงใหม่จะจัดส่งไปช่วยเช้าวันที่ 2 ส.ค. ส่วน อ.แม่ออน มีน้ำท่วม 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.ห้วยแก้ว ต.ออนเหนือ 9”ออนกลาง ต.แม่ทา และ ต.ทาเหนือ
ด้านตัวเมืองเชียงใหม่ มีน้ำท่วมขังหลายจุด เพราะรับทั้งน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ไหลลงมาทั้งทางขุนช่างเคี่ยน ถนนห้วยแก้ว และสุเทพตั้งแต่คืนวันที่ 31 ก.ค. นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีได้สั่งให้ทุกแขวงประสานกันช่วยเหลือ นำเครื่องสูบน้ำไปเร่งระบายน้ำออกจากชุมชนลงคลองแม่ข่า และแม่น้ำปิง โดยเฉพาะที่หน้าวิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่น้ำสูงกว่า 30 ซม.ต้องประกาศหยุดเรียนในวันจันทร์ ขณะเดียวกันปริมาณน้ำแม่ปิง ก็เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบนแจ้งว่า ยังไม่เข้าสู่ระดับวิกฤติ แต่จะต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยยอมรับว่าอาจจะมีน้ำที่ผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ล้นตลิ่งเข้าท่วมเล็กน้อยในบางจุดที่เป็นที่ลุ่ม ระดับน้ำที่วัดได้สถานี P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย เวลา 00.00 น.วันที่ 2 ส.ค.วัดได้ 3.23 เมตร ปริมาณน้ำ 291 ลบ.ม./วินาที และที่สะพานนวรัฐ P1 ซึ่งมีประชาชนไปเฝ้าชมการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตั้งแต่ตอนบ่ายอย่างคึกคัก วัดได้ 3.50 เมตร ปริมาณน้ำ 406 ลบ.ม./วินาที และสูงขึ้นเป็น 3.74 เมตร ก่อนเที่ยงวันที่ 2 ส.ค.54
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรี แจ้งว่า เทศบาลได้ให้ผู้รับเหมานำทรายมาลงไว้ที่แขวงกาวิละ (สุสานบ้านเด่น) โดยได้รับความช่วยเหลือจาก มทบ.33 จัดกำลังทหารออกมาช่วยบรรจุกระสอบทราย เพื่อจะนำไปเรียงตามแนวริมฝั่งแม่น้ำปิง และจุดเสี่ยงที่น้ำอาจล้นตลิ่ง แต่จากรายงานของศูนย์อุทกวิทยามั่นใจว่าน้ำจะไม่ทะลักเข้าเมือง อย่างไรก็ตามกรณีน้ำท่วมขังในตัวเมืองมาก เพราะปริมาณฝนมีมาก และระบายไม่ทันเมื่อนำสูบน้ำไปช่วยก็พบท่อระบายน้ำส่วนใหญ่มีขยะ ถุงพลาสติกอุดตันจำนวนมาก อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ส.ค. ที่สะพานนวรัฐระดับน้ำวัดได้ 3.74 เมตร ปริมาณน้ำ 458 ลบ.ม. ซึ่งเป็นจุดสูงสุด และมีแนวโน้มว่าระดับน้ำจะค่อย ๆ ลดลง เพราะน้ำเหนือมีน้อยลงแล้วโดยสถานีแม่แต วัดได้ 3.12 เมตร ปริมาณน้ำลดลงจาก 282 ลบ.ม.เมื่อหนึ่ง ชม.ก่อนหน้าเหลือ 278 ลบ.ม.
การเดินรถไฟสายเหนือ ก็ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักในครั้งนี้ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม โดยขบวนรถทั้งขาขึ้น และขาล่องต้องยกเลิกขบวนรถไฟทั้งหมดที่จะออกจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ ตั้งแต่ 31 ก.ค.54 ไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเกิดน้ำท่วมทางรถไฟที่ อ.ลอง จ.แพร่ และต่อมาเกิดดินถล่มทับทางรถไฟที่ จ.ลำปาง เมื่อสายวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวสอบถามนางรดาวรรณ เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วรถไฟ แจ้งว่าเวลา 09.00 น.มีขบวนรถไฟฟรีจากเชียงใหม่ถูกปล่อยไปหนึ่งขบวน รับผู้โดยสารช่วงสั้น ๆ จากเชียงใหม่ถึงลำปางเท่านั้น แต่รถด่วนช่วงเลา 17.55 น.ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะวิ่งได้ตามปกติหรือไม่ โดยล่าสุด เมื่อบ่ายวันที่ 2 ส.ค.54 ได้รับแจ้งจากนายสีลรัตน์ ดีวาจา นายสถานีรถไฟเชียงใหม่ว่า จะเปิดให้บริการเดินรถไฟได้แล้ว โดยเริ่มจากรถด่วนนครพิงค์ ซึ่งจะออกจากเชียงใหม่ในเวลา 17.55 น. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วไว้แล้วหรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมให้สอบถามที่ 053-245364 หรือ 053-244795 ได้ตลอดเวลา
ทางด้านว่าที่ ร.ต.ปรีชา จินต์ธนาวัฒน์ เวรพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งสภาพอากาศเมื่อสายวันที่ 2 ส.ค.ว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงจากทะเลอันดามันพัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคเหนือมีปริมาณและ การกระจายของฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากสภาวะน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และน้ำล้นตลิ่งในช่วงระยะสัปดาห์นี้ พยากรณ์อากาศวันที่ 2-3 ส.ค. ภาคเหนือตอนบน มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝน/ฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยถึงปานกลางกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กิโลเมตร/ชั่วโมง ว่าที่ ร.ต.ปรีชา กล่าวด้วยว่า ที่มีการออกข่าวเรื่องพายุหมุยฟ้าในทะเลจีนก่อตัวขึ้น และเกรงจะพัดเข้าสู่ประเทศไทยนั้น ขอประชาชนอย่าได้กังวล เนื่องจากแนวพัดของพายุดังกล่าวมุ่งขึ้นไปทางไต้หวัน และญี่ปุ่น แสดงว่าพายุลูกนี้จะไม่มีผลกระทบใด ๆต่อประเทศไทยแน่นอน
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้เกิดน้ำท่วมและท่วมขังหลายอำเภอ โดยพบว่า ที่ อ.ดอยสะเก็ด 5 หมู่บ้าน ที่ ต.เชิงดอย มีน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร ฝายขนาดเล็กได้ขาดเสียหาย ที่ ต.ป่าเมี่ยง และพบว่าคอสะพานขาด 1 แห่งเส้นทางเชียงใหม่ –เชียงรายกิโลเมตรที่ 32 บ้านแม่หวาน น้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร ระยะทางกว่า 50 เมตร เนื่องจากน้ำจากน้ำแม่กวงเอ่อล้นท่วม โดยเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เป็นเส้นทางเดินรถสำคัญ ซึ่งต้องเร่งคลี่คลายโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชน ซึ่งพื้นที่ได้เร่งแก้ไขแล้ว
ส่วนที่ อ.แม่ออน น้ำป่าได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและเทือกสวนไร่นา โดยเฉพาะที่ ต.ทาเหนือ คอสะพานขาด ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำสะพานแบริ่งไปประกอบให้ใช้เป็นการชั่วคราว อ.สันกำแพงน้ำท่วมหลายพื้นที่เช่นกันเนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งบ้านต้นเปาแหล่งผลิตกระดาษสาเศรษฐกิจสำคัญ ขณะเดียวกันในเขตพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ มีน้ำท่วมขังหลายตำบลเพราะระบายไม่ทัน ถนนหลายสายรถเล็กผ่านไม่ได้ นอกจากนั้นที่บ้านม้งดอยปุยเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ มีเหตุดินสไลด์ด้วย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมทั้งเขตเทศบาลนครเชียงใหม่หลายชุมชนเกิดน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ผวจ.กล่าวว่า ได้สั่งการทุกภาคส่วน ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชน เน้นเด็กและคนชราเป็นอันดับแรก
ในขณะที่นายคมสัน สุวรรณอำพา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้กว่า 10 อำเภอประสบปัญหาน้ำท่วม แต่หลังจากที่ฝนเริ่มหยุดก็ทำให้สถานกาณรณ์ดีขึ้น เบื้องต้นทราบว่าพายุได้เคลื่อนตัวผ่านไปแล้วขณะที่พายุฟ้ามุ่ยอีกลูกหนึ่งไม่ได้เข้ามา ขณะนี้แต่ละพื้นที่ได้เริ่มช่วยเหลือประชาชนเต็มที่แล้วทั้งที่ อ.ดอยสะเก็ด สันทราย แม่ริม สันกำแพง แม่ออน สารภี พร้าว สะเมิง อ.เมือง ฮอด แม่แจ่ม กัลยานิวัฒนา แต่ยังไม่มีเหตุรุนแรงมากในพื้นที่ใด ยกเว้นมีบางแห่งสะพานขาดและดินสไลด์เกิดขึ้นเพราะมีปริมาณฝนมากกว่า 100 มม. ก็ต้องเฝ้าจับตาตลอด 24 ชม.เพราะระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักเริ่มสูงขึ้นอาจจะเกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วมหนักขึ้นอีกเช่น น้ำแม่แจ่ม น้ำออน น้ำทา แม่น้ำกวง โดยบางพื้นที่ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ส่งเรือท้องแบนพร้อมถุงยังชีพออกแจกจ่ายให้ประชาชนผู้ประสบภัยแล้วเช่นในพื้นที่อำเภอแม่ออน และพื้นที่ที่มีการร้องขอ
ที่ อ.แม่ออน เช้าวันที่ 2 ส.ค. เจ้าหน้าที่ได้อพยพสัตวเลี้ยงและโคขึ้นไปอยู่พื้นที่ปลอดภัย หลังมีกระแสข่าวลือว่าเรื่องการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่ออน ทั้งที่ ว่าที่ร้อยตรีสมัย คำชมภู นายอำเภอชี้แจงแล้วว่าเป็นเพียงน้ำล้นสปิลเวย์ ขณะที่เทศบาล และ อบต.ในพื้นที่ได้ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย และที่ติดค้างในบ้านตั้งแต่ค่ำวันที่ผ่านมา โดยจัดทำข้าวกล่องอาหารด่วนและน้ำดื่มเข้าไปช่วย จนถึงตอนเช้าวันอังคาร ที่ถนนสายเชียงใหม่-น้ำพุร้อน กม. 5-6 ตั้งแต่หมู่บ้านเอื้ออาทรสันกำแพงไป มีชาวบ้านมารอรับข้าวกล่องจำนวนมาก นายทวีศักดิ์ ขัติวงษ์ นายก อบต.สันกำแพง กำลังรอเรือท้องแบนจาก อบจ.เชียงใหม่ เพื่อจัดส่งข้าวกล่องไปช่วยชาวบ้านที่ติดอยู่หลายหมู่บ้านประมาณ 500 คน ต่อมาเวลา 10.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่ และคณะเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยในท้องที่ อ.สันกำแพง และแม่ออน โดยนำสิ่งของจำเป็นไปช่วยเหลือเบื้องต้น
ทางด้านจังหวัดลำพูนอาจจะประสบปัญหาน้ำท่วมต่อจากเชียงใหม่ในระยะต่อจากนี้ นายทวีศักดิ์ ขัติวงษ์ นายก อบต.สันกำแพง กล่าวว่า ระดับน้ำที่แม่ออน และดอยสะเก็ดเริ่มลดลงแล้ว แต่น้ำทั้งหมวดที่ไหลมาจากสองอำเภอ สายแม่ออนเมื่อท่วมเขตเทศบาลสันกำแพง แล้วก็ไหลบ่าต่อไปยังหมู่บ้านที่อยู่ทิศใต้และตะวันตกของอำเภอ โดยมีถนนสายน้ำพุร้อนตัดขวางอยู่ ทำให้น้ำเอ่อท่วมทั้งบ้านเรือน และไร่นาหลายพันไร่ ปริมาณน้ำที่ลดจากที่อื่นก็จะมาเพิ่มสูงขึ้นจุดนี้ จากนั้นเมื่อระบายหรือล้นถนนลงสู่เขต ต.บวกค้าง และ ต.ป่าบง ไชยสถานก็จะไหลเข้าสู่ อ.บ้านธิ และ อ.เมืองลำพูน คาดว่าคืนวันเดียวกันนี้น้ำจะเข้าท่วมเขตลำพูน ซึ่งชาวลำพูนจะต้องเตรียมรับสถานการณ์ไว้ให้พร้อม
(ขอบคุณข้อมูลข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ฯ นสพ.ไทยนิวส์)
(ขอบคุณข้อมูลข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ฯ นสพ.ไทยนิวส์)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น