ในระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2554 นายเจมส์ ไวส์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทยและคณะ จะเดินทางมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลีย ในโอกาสจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 แห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับออสเตรเลีย ในปี พ.ศ.2555 ซึ่งในปีนี้ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ได้จัดทัวร์คอนเสิร์ต “HUCKY Eichelmann and ANTHONY Garcia Thailand Tour 2011” ระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน 2554 ในกรุงเทพฯ และอีก 9 จังหวัดทั่วประเทศ
เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับไทยนั้นพัฒนาขึ้นจากการติดต่อกันอย่างกว้างขวางและใกล้ชิด บนพื้นฐานความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกว่า 60 ปี ชาวออสเตรเลียและชาวไทยสานสัมพันธ์กันทั้งในด้านการปกครอง ธุรกิจ การศึกษา การท่องเที่ยว และศิลปะ สัมพันธภาพระหว่างสองประเทศนั้นไม่เพียงแต่อยู่ในกรุงเทพมหานครเท่านั้น ในระดับท้องถิ่นก็มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นผ่านหลากหลายโครงการ ซึ่งทัวร์คอนเสิร์ตกีตาร์ครั้งพิเศษนี้จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มพูนความร่วมมือเหล่านี้ในเชิงศิลปะ
ในการจัดแสดงทัวร์คอนเสิร์ตกีตาร์ครั้งนี้ เอกอัครราชทูตได้นำสองสุดยอดนักกีตาร์คลาสสิกของโลก ได้แก่ ฮัคกี้ ไอเคิลมานน์ ซึ่งพำนักอยู่ในเมืองไทย และ แอนโทนี่ การ์เซีย นักกีตาร์ชาวออสเตรเลีย มาแสดงร่วมกันในคอนเสิร์ตและเวิร์คช็อปทางดนตรี โดยการแสดงคอนเสิร์ตจะนำเสนอทั้งดนตรีคลาสสิก เพลงพื้นบ้าน เวิลด์มิวสิค เพลงจากประเทศไทย ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศ นอกจากนั้นยังมีการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาบรรเลง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษาด้วย
สำหรับการมาเยือนเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2554 นี้ เอกอัครราชทูต เจมส์ ไวส์ มองว่าเป็นความหลากหลายในความร่วมมือสู่ภูมิภาค กระชับความสัมพันธ์ ส่งเสริมมิตรภาพไทย-ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นอีกระดับ โดยในวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2554 จะไปเยี่ยมโรงเรียนแม่เหียะสามัคคี หมู่ 2 ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อมอบเงินสนับสนุนผ่านโครงการทุน Direct Aid Program ประจำปี 2010-2011 จำนวน 100,000 บาท เพื่อจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการเปิดประตูสู่โลกความรู้สากล เพื่อการพัฒนาการศึกษาระดับภูมิภาค จากนั้นคณะไปเยี่ยมสตูดิโอศิลปะ พบปะศิลปิน และภัณฑารักษ์ ณ Chiang Mai Art on Paper ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 17 ซึ่งศิลปินในกลุ่มนี้มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับออสเตรเลีย หนึ่งในนั้นคือ กิติก้อง ดิลกวัฒโนทัย ศิลปินภาพพิมพ์แนวหน้าของประเทศ ผศ.สมพร รอดบุญ ภัณฑารักษ์ชื่อดัง ผู้เคยจัดงานนิทรรศการศิลปะไทย-ออสเตรเลียมาแล้วหลายครั้ง
ต่อจากนั้นในวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2554 เวลา 13.00-14.00 น. เอกอัครราชทูต เจมส์ ไวส์ และคณะจะเข้าเยี่ยมมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) ซึ่งมี ดร.ริชาร์ด บาร์เบอร์ ชาวออสเตรเลียเป็นผู้อำนวยการ ตั้งอยู่เลขที่ 477 หมู่ 7 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาด้านวัฒนธรรม การศึกษา และชุมชนของไทย ภาคค่ำ เวลา 19.00 น. มีการจัดแสดงคอนเสิร์ตกีตาร์ ฮัคกี้ ไอเคิลมานน์ และแอนโทนี การ์เซีย ณ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย (มัธยม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่
สำหรับวันอาทิตย์ 21 สิงหาคม 2554 เวลา 09.00 น. คณะของเอกอัครราชทูต เจมส์ ไวส์ จะเข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์เชียงใหม่ เนื่องจากปีที่ผ่านมา ชาวไทยต่างร่วมยินดีกับการถือกำเนิดของ “ปรองดอง” ลูกโคอาล่า ซึ่งถือเป็นความสำคัญล่าสุดของสวนสัตว์เชียงใหม่ในการวิจัยและขยายพันธุ์โคอาล่า ที่ได้รับมาจากออสเตรเลีย 4 ตัว เมื่อปี 2549 ซึ่งครั้งนั้นประเทศไทยมอบช้าง 8 เชือกให้กับออสเตรเลีย ภายใต้ข้อตกลงแลกเปลี่ยนระหว่างสองประเทศ เพื่อการวิจัยและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ จนถึงวันนี้ครอบครัวโคอาล่าที่สวนสัตว์เชียงใหม่เติบโตมีสมาชิกเพิ่มเป็น 7 ตัว ขณะเดียวกันช้างไทยที่สวนสัตว์ทารองกา เมืองซิดนีย์ และสวนสัตว์เมลเบิร์น ก็ขยายครอบครัวเช่นกัน และเมื่อเร็วๆ นี้พังน้ำอ้อย ช้างไทยที่เมลเบิร์นกำลังตั้งท้องได้ 4 เดือนกำหนดตกลูกในต้นปี 2556
การเข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์เชียงใหม่ครั้งนี้ คณะท่านทูตจะพบกับฟูลล่า ไบรอัน ชิมป์สัน โคโค่ เคน เชียงม้วน และปรองดอง ครอบครัวโคอาล่าตัวแทนความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทย-ออสเตรเลีย ซึ่งจะครบรอบ 60 ปีในปีหน้า แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของสองประเทศเติบโตผลิช่อแห่งความงดงามขึ้น ณ จังหวัดเชียงใหม่นี่เอง
เป้าหมายสุดท้าย เอกอัครราชทูตออสเตรเลียและคณะจะไปเยี่ยมมูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก (Drop in Center) เลขที่ 9/2-3 ถนนระแกง ซอย 2 ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิเด็กด้อยโอกาสในเชียงใหม่ และบริเวณใกล้เคียงในภาคเหนือ อาทิ จัดที่พักอาศัยชั่วคราว ป้องกันเด็กจากธุรกิจทางเพศ ถูกเอาเปรียบและการค้ามนุษย์ โดยในช่วงปี 2553-2554 รัฐบาลออสเตรเลียสนับสนุนเงินผ่านโครงการทุนสนับสนุนโดยตรง เพื่อดูแลการศึกษาขั้นพื้นฐาน สุขภาพ และอาหารให้กับเด็กเร่ร่อน ด้อยโอกาส และไร้สัญชาติ จำนวน 20-30 คน ที่มีอายุระหว่าง 4-13 ปี การมาเยี่ยมมูลนิธิครั้งนี้จะทำให้ทราบถึงความก้าวหน้าของโครงการต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่ หลังจากนั้นเอกอัครราชทูตเจมส์ ไวส์ จะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในบ่ายวันเดียวกัน
(ข้อมูล-ภาพ โดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น