All online

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ของเชียงใหม่


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; การประกอบพิธีวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ประจำปี 255จังหวัดเชียงใหม่

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำเจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลต่างประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ทหาร ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการบำนาญ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคม ชมรม สโมสร พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา พร้อมพสกนิกรทุกหมู่เหล่าในจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบพิธีวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ประจำปี 2554 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งประกอบด้วยพิธีทางศาสนา พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และการถวายราชสดุดี

วันพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ตรงกับวันที่ 31 มีนาคม เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ซึ่งได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในการทำนุบำรุงบ้านเมือง ทั้งด้านการศาสนา การศึกษาและอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างมากมายตลอดเวลา 27 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์ได้ทรงสร้างสรรค์คุณประโยชน์อเนกอนันต์ อันเป็นรากฐานแห่งความเจริญวัฒนามาจนถึงปัจจุบัน

ครั้นเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตล่วงเลยถึงขณะนี้ พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์คือ "เงินถุงแดง" ที่ได้ทรงโปรดฯ พระราชทานไว้ ก็ได้ถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์แก่แผ่นดินในการกอบกู้เอกราชในดินแดนบางส่วน และรักษาอำนาจอธิปไตยไว้ได้จนทุกวันนี้ ประชาชนชาวไทยและรัฐบาลจึงพร้อมใจกันประดิษฐานพระราชานุสาวรีย์ของพระองค์ ไว้ ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ หน้าวัดราชนัดดาราม และในปี พ.ศ. 2541 ทางราชการได้มีการถวายพระราชสมัญญาว่า "พระมหาเจษฎาราชเจ้า" และได้มีการประกอบพิธีรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในวันที่ 31 มีนาคม คือ "วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า" มาจนถึงปัจจุบัน

ข่าว ; การจัดงานวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2554 ของจังหวัดเชียงใหม่


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; จังหวัดเชียงใหม่ทำพิธีมอบรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ระดับจังหวัด จำนวน คน ในการจัดงานวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 255

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประกอบพิธีวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2554 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย ประธานในพิธีถวายความเคารพ เปิดกรวยดอกไม้ และถวายเครื่องราชสักการะดอกไม้สด ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประธานฝ่ายสงฆ์อัญเชิญพระวรธรรมคติของสมเด็จพระสังฆราช ที่ประทานเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ต่อด้วยประธานอ่านสารของนายกรัฐมนตรีเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2554

ในโอกาสนี้ ได้มีพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ข้าราชการและลูกจ้างดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2553 จำนวน 8 คน ได้แก่ นายประสิทธิ์ นาคมูล นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 6 นางปรารถนา ลีนะศิริมากุล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลนครพิงค์ นางณิชพลัฏฐ์ ทองสมบูรณ์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแม่ออน นางอำไพ มณีวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 5 นายวิสูตร์ เจริญเมืองมูล นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอฝาง นางกรรณิกา ชะลอ นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ สถานีอนามัยแม่ฮัก อ.สันทราย นายธนา ต.เจริญ ลูกจ้างประจำ โรงพยาบาลสารภี และนายอนันต์ ชุ่มใจ พนักงานขับรถยนต์ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

ส่วนข้าราชการพลเรือนดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2553 จำนวน 4 คน ซึ่งจะได้รับเข็มเชิดชูเกียรติ (ครุฑทองคำ) ได้รับเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติ และบันทึกประวัติในหนังสือที่ระลึกข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี 2553 จะได้รับรางวัลจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 เมษายน 2553 ที่กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย นายสุเทพ ประพันธ์ศรี ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวัดร้องอ้อ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 1 นายแพทย์ชูพงศ์ แสงสว่าง นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลฝาง นายกฤษติกร บวรคุณานนท์ พนักงานพิมพ์ระดับ 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 1 และนายบุญเสริม ไคร้งาม พนักงานธุรการ โรงพยาบาลนครพิงค์

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; เชียงใหม่ยังคงจัดพิธีดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเปลี่ยนชื่อเป็นสระเกล้าดำหัว


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; จังหวัดเชียงใหม่ยังคงจัดงานดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัด ในงานประเพณีปีใหม่เมืองเชียงใหม่ปีนี้ โดยตั้งชื่อใหม่เป็น "สระเกล้าดำหัวป้อเมืองเจียงใหม่" สืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ล้านนา ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เช่นเดิม

รายงานข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดจัดงานสืบสานประเพณีปี๋ใหม่เมือง โดยจัดพิธี "สระเกล้าดำหัวป้อเมืองเจียงใหม่" วันที่ 15 เมษายน 2554 เพื่อสืบทอดประเพณีอันดีงามอวดสายตานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และ ชาวต่างประเทศ

นายวรการ ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่โดยหน่วยงานภาครัฐ และ เอกชน ได้ร่วมกันจัดพิธีรดน้ำดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 15 เมษายน เป็นประจำทุกปี โดยถือเป็นประเพณีอันดีงามที่ปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานจนเป็นที่กล่าวขวัญ และชื่นชมของ ผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อให้การจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงออกถึงความเป็นวัฒนธรรมประเพณี สงกรานต์ล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อกิจกรรมเป็นสระเกล้าดำหัวป้อเมืองเจียงใหม่กำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2554 ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีขบวนแห่จากสี่แยกกลางเวียงไปตามถนนราชดำเนิน ผ่านประตูท่าแพ จนถึงพุทธสถาน เลี้ยวขวาไปตามถนนเจริญประเทศ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีขบวนแห่เครื่องดำหัว หมากสุ่ม หมากเบ็ง ผลิตผล ผลิตภัณฑ์ของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน และประชาชน จาก 25 อำเภอและหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมงานประเพณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสำนักงานเชียงใหม่ กำหนดจัดงาน "ประเพณีสะรีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่" ระหว่างวันที่ 12 - 15 เมษายน 2554 ณ บริเวณทั่วเมืองเชียงใหม่ กิจกรรมภายในงานจะมีการจัดขบวนแห่และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ขี่รถถีบก๋างจ้อง รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ขนทรายเข้าวัด การแสดงพื้นเมือง การสาธิตศิลปะพื้นบ้าน การเล่นน้ำสงกรานต์ปี๋ใหม่เมืองรอบคูเมือง ถนนวัฒนธรรมคนเมืองอาหารนานาชาติ ทั้งนี้ โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0-5324-8604, 0-5324-8607 หรือ www.songkran.net

ทางด้านนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของเทศบาลนครเชียงใหม่ เตรียมพร้อมจัดงานประเพณีปีใหม่เมืองเชียงใหม่ ประจำปี 2554 ในระหว่างวันที่ 11 - 15 เมษายน 2554 โดยเน้นกิจกรรมส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีล้านนา การจัดงานในปีนี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด สืบสาน ต๋ามฮอย ย้อนรอย ปีใหม่เมืองโดยขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวให้งดดื่มเหล้า โดยเฉพาะบริเวณถนนรอบคูเมือง ถนนท่าแพและถนนราชดำเนิน ส่วนในเรื่องอื่น ๆ นั้นจะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและประชาชนห้ามใช้ เครื่องขยายเสียงเปิดเพลงหรือโฆษณาเหล้าเบียร์หรือจัดให้เป็นที่มั่วสุมของวัยรุ่น

ในส่วนของมาตรการรักษาความปลอดภัยจะมีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจและกำลังพลเทศกิจของเทศบาลนครเชียงใหม่ออกตรวจอย่างเข้มงวด โดยงานบรรเทาสาธารณภัยจะดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวตามจุดที่กำหนด โดยจะมีการปรับลดกิจกรรมที่ไม่ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมของล้านนาลง แล้วจะมีการเพิ่มกิจกรรมที่ส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของล้านนาให้มากขึ้น โดยขอความร่วมมือจากประชาชนร่วมแต่งกายด้วยผ้าพื้นเมืองและพูดภาษาคำเมืองตลอดช่วงการจัดงานด้วย

จังหวัดเชียงใหม่จึงขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศร่วมงานประเพณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ร่วมอนุรักษ์ประเพณีให้คงอยู่ต่อไป และเชิญชวนร่วม สระเกล้าดำหัวป้อเมืองเจียงใหม่ในวันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2554 ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

ข่าว ; สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 2 จัดค่ายนักเรียนจิตอาสา


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต จัดค่ายจิตอาสาสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมและปลูกฝังความเป็นประชาธิปไตยในกลุ่มเด็กนักเรียนแกนนำ

นายสุรพันธ์ โกยวาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา  ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 เป็นประธานเปิดการอบรมนักเรียน ตามโครงการค่ายจิตอาสาพัฒนาประชาธิปไตย  เด็กไทยทำดีเพื่อในหลวง ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริภาคเหนือ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งจัดขึ้นโดยวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกในนักเรียน ให้เกิดความสำนึกในการรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม โดยยึดแนวทางตามพระราชดำริบนวิถีเศรษฐกิจพอเพียงและวิถีประชาธิปไตย ตลอดจนแนวคิดในการพัฒนาตนเองสู่ชุมชนและประเทศชาติ  รวมทั้งให้นักเรียนได้รู้และเข้าใจถึงความสำคัญของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ในด้านเศรษฐกิจ และการค้าการลงทุน

การจัดค่ายจิตอาสาครั้งนี้มีนักเรียนระดับแกนนำชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2 จากโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแกนนำ 18 โรงเรียน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งการจัดกิจกรรมค่ายอาสาดังกล่าวนี้ได้สร้างความสนุกสนานและสร้างการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม โดย 1 ในนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ เด็กหญิงภานุมาศ ทาโปปิน นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองไคร้ ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จะนำความรู้ที่ได้รับไปขยายผลให้เพื่อนๆในโรงเรียน ได้นำแนวทางตามพระราชดำริบนวิถีเศรษฐกิจพอเพียง และวิถีประชาธิปไตยไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ข่าว ; ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่เตือนเกษตรกรไม่ควรเพิ่มปุ๋ยยูเรียให้นาปรังเมื่อเห็นข้าวเหลือง ช่วงอากาศเย็นผิดปกติ


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ออกโรงเตือนเกษตรกรอย่าอัดปุ๋ยยูเรียให้กับข้าวนาปรังเมื่อเห็นว่าใบและต้นข้าวเหลืองซึ่งเป็นปัญหามาจากสภาวะอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติในช่วงนี้ มิฉะนั้นจะทำให้ข้าวอ่อนแอ อายุการเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น และยังจะส่งผลให้เพลี้ยระบาดได้

นายสถาพร กาญจนพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ (สันป่าตอง) กล่าวว่า จากการที่ได้เกิดสภาพอากาศหนาวผิดฤดูขึ้นในระยะนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติซึ่งจะส่งผลกระทบต่อข้าวนาปรังคือ ในช่วงที่มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียสติดต่อกันหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ จะทำให้ข้าวจำศีล และหากอุณหภูมิลกต่ำลงถึงระดับ 11-12 องศาเซลเซียส จะทำให้ข้าวเหลืองเต็มพื้นที่ทำให้เกษตรกรหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาการของข้าวขาดปุ๋ย จึงได้เติมปุ๋ยยูเรียเข้าไปอย่างเต็มที่ซึ่งไม่เป็นผลดี แต่กลับจะส่งผลให้ข้าวอ่อนแอ อายุในการเก็บเกี่ยวเพิ่มออกไปอีก และอาจทำให้เพลี้ยกระโดดหลังขาวระบาดได้

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ กล่าวต่อไปว่า ปกติการทำฤดูนาปรังในภูมิภาคนี้ร้อยละ 80% ชาวนาจะปลูกข้าวเหนียวสันป่าตอง 1 ซึ่งเป็นข้าวไวแสงต่ำ ระยะเวลาเก็บเกี่ยว 120 วัน หากเผชิญสภาพอากาศหนาวเช่นนี้การผสมเกสรก็จะมีปัญหา และอาจทำให้ข้าวเป็นหมันคือออกรวงแต่เมล็ดข้าวส่วนใหญ่เป็นข้าวลีบ โดยปัญหาความเสียหายนี้จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาของอากาศที่หนาวเย็น อย่างไรก็ตาม ระยะนี้อยู่ในช่วงข้าวกำลังแตกกอจึงจะยังไม่เห็นผลกระทบ ทั้งนี้ หลังจากได้ออกไปตรวจนาข้าวของเกษตรกรที่อำเภอเชียงดาว พร้อมทั้งได้ประชุมชี้แจงเกษตรกรไปแล้วว่า ควรรอให้สภาพอากาศกลับเข้าสู้ปกติตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้ แล้วสภาพของข้าวก็จะกลับเข้าสู่ปกติเช่นกัน หากเกษตรกรมีปัญหาหรือข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5331-1334

ทางด้านสภาพอากาศนั้น ว่าที่ร้อยตรี ปรีชา จินต์ธนาวัฒน์ เวรพยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ชี้แจงว่า เช้าวันที่ 30 มีนาคม 2554 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงยังปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งทำให้บริเวณภาคเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นทั่วไปและมีลมแรง มีฝนเล็กน้อย ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 22-28 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดว่าอุณหภูมิจะคงตัวอยู่เช่นนี้อีก 1-2 วัน จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2554 จากนั้นจะกลับคืนสู่ฤดูร้อนตามปกติ

สำหรับผลการตรวจวัดอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันที่ 30 มีนาคม 2554 ปรากฏดังนี้ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 15.6 องศาฯ น้ำฝน 36.2 ม.ม. อ.เมืองเชียงราย 13.2 องศาฯ ฝน 35.7 ม.ม. อ.เมืองพะเยา 13.5 องศาฯ ฝน 30.1 ม.ม. อ.เมืองเชียงใหม่ 14.9 องศาฯ ฝน 24.1 ม.ม. อ.เมืองน่าน 13.2 องศาฯ ฝน 33.8 ม.ม. อ.เมืองน่าน 12.6 องศาฯ ฝน 29.2 ม.ม. อ.เมืองลำปาง 14.5 องศาฯ ฝน 22.0 ม.ม. อ.เมืองแพร่ 14.4 องศาฯ ฝน 32.9 ม.ม. อ.เมืองอุตรดิตถ์ 15.5 องศาฯ ฝน 37.8 ม.ม. อ.เมืองพิจิตร 15.5 องศาฯ ฝน 31.6 ม.ม. เขื่อนภูมิพล จ.ตาก 15.0 องศาฯ ฝน 33.9 ม.ม. ส่วนพื้นที่อำเภอรอบนอกของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ อ.เชียงดาว อุณหภูมิ 14.5 องศาฯ ฝน 32.5 ม.ม. อ.อมก๋อย ซึ่งอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาฯ อย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้วัดได้ 8.7 องศาฯ และมีฝนหนัก 65.0 ม.ม. ส่วนยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิ 3.4 องศาฯ ฝน 58.9 ม.ม. และดอยอ่างขาง 8.0 องศาฯ ฝน 66.2 ม.ม. สรุปค่าเฉลี่ยทั้งอุณหภูมิและฝนในระยะเดียวกันของปีนี้ผิดปกติจากปีก่อน ๆ คือทั้งอากาศหนาวกว่าและมีปริมาณน้ำฝนมากกว่า

ข่าว ; ม.พายัพ รับสมัคนักศึกษาตามโครงการพิเศษสำหรับผู้พิการ ปีการศึกษา 2554

ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; มหาวิทยาลัยพายัพ รับสมัครผู้พิการเข้าเป็นนักศึกษาตามโครงการพิเศษสำหรับผู้พิการ ประจำปีการศึกษา 2554 ในหลายสาขาวิชา โดยเปิดรับคนพิการทุกประเภท ทั้งทางการได้ยิน การมองเห็น ทางกาย และทางสมองหรือออทิสติกส์ ที่ความพิการไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้

อาจารย์ธนาภรณ์ พันธุ์จิรา ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์และการรับนักศึกษา มหาวิทยาลัยพายัพ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยพายัพตอบรับนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาในระดับอุดมศึกษาให้กับผู้พิการด้านต่าง   จึงได้จัดโครงการรับนักศึกษาพิการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยพายัพ ปีการศึกษา 2554 ในสาขาวิชาที่สามารถเข้าศึกษาต่อได้โดยความพิการไม่เป็นอุปสรรคในการศึกษา ซึ่งได้แก่สาขาวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเยอรมันเพื่อการท่องเที่ยว ภาษาและวัฒนธรรมจีน สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จิตวิทยา นิเทศศาสตร์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ การตลาด การจัดการระบบสารสนเทศ การบัญชี การเงินและการธนาคาร วิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร และดุริยศิลป์

ผู้สมัครเข้าศึกษาตามโครงการนี้ต้องมีสัญชาติไทย สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า มีคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.00 และมีบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งลักษณะความพิการที่สามารถเรียนร่วมกับนักศึกษาปกติได้คือ พิการทางการได้ยิน สูญเสียการได้ยินระดับน้อยใช้เครื่องช่วยฟัง พิการทางกายสามารถช่วยเหลือตนเองในการเคลื่อนไหวได้ พิการทางการมองเห็นระดับสายตาเลือนราง พิการทางสมองหรือออทิสติกส์ แต่สามารถติดต่อสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นได้ ควบคุมอารมณ์ได้ ช่วยเหลือตนเองได้ และต้องไม่เคยได้รับการอุดหนุนทางการศึกษาตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมจัดการศึกษาสำหรับคนพิการในหลักสูตรระดับปริญญาตรีมาก่อน สำหรับผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อ ยังมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาเพื่อผู้พิการจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาอีกด้วย

ผู้พิการที่สนใจสามารถสมัครทางไปรษณีย์ได้ตั้งแต่บัดนี้ - 29 เมษายน 2554 หรือสมัครด้วยตนเองตั้งแต่บัดนี้ - 9 พฤษภาคม 2554 สอบสัมภาษณ์ด้วยตัวเองวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 เวลา 08.30 - 16.00 . ศูนย์รับนักศึกษา อาคารศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้สิรินธร โดยจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ทางเว็บไซต์ www.payap.ac.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางโทรศัพท์ได้ที่หมายเลข 0-5385-1478 ต่อ 240 และ 241

ข่าว ; แจ้งสถานที่รับบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; รวมศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของ ช่วยน้ำท่วมภาคใต้
1. สำนักนายกรัฐมนตรี
          ชื่อบัญชี "กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี
          ธนาคารกรุงไทย สาขารทำเนียบรัฐบาล
          บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 067-0-06895-0
2. สภากาชาดไทย
          ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย" ธนาคารไทยพาณิชย์  สาขาสภากาชาดไทย บัญชีกระแสรายวัน หมายเลขบัญชี 045-304190- 6 โดยหลังบริจาคแล้วสามารถแฟกซ์ใบนำฝาก พร้อมชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์  ส่งถึงหัวหน้าฝ่ายการเงิน สำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย โทรสาร 0 2256 4069 หรือที่ finance@redcross.or.th
          หรือสามารถนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ไปบริจาคได้ที่สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ โทรศัพท์  0 2251 7614-5 โดยชุดธารน้ำใจสำหรับบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่ม 1 ชุดประกอบด้วย
          ข้าวสาร (5กก. )1 ถุง / ข้าวหอมมะลิกระป๋อง (150 กรัม) 6 กระป๋อง / บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (55 กรัม) 30 ซอง /  ปลากระป๋อง (155 กรัม) 6 กระป๋อง / ผักกาดดอง (140 กรัม) 6 กระป๋อง / ปลาราดพริก (155 กรัม) 6 กระป๋อง / น้ำพริก (50 กรัม) 2 กระปุก / ไก่ทอดกระเทียม (80 กรัม) 2 กระป๋อง / เครื่องดื่มช็อกโกแลตผงปรุงสําเร็จรูป 35 กรัม (1x 6 ซอง) 2 ห่อ / น้ำดื่ม 600cc. (1x 12 ขวด) 1 แพ็ค / ไฟฉายพร้อมถ่าน 1 กระบอก / เทียนไข (1x2 แท่ง) 1กล่อง / ไฟแช็ก 1 อัน / โลชั่นทากันยุง (40 กรัม) 1 ขวด / ยาชุดสามัญประจําบ้าน 1 ชุด / ยาแก้น้ำกัดเท้า (10 กรัม) 1 หลอด / เกลือไอโอดีน (500 กรัม) 1 ถุง/ ถุงดำใหญ่และเล็ก เพื่อใส่ขยะอย่างละ 6 ใบ
3. มูลนิธิสยามกัมมาจล ไทยพาณิชย์
          ชื่อบัญชี "มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์เพื่อผู้ประสบภัยภาคใต้"
          ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่111-3-91657-8 ฟรีค่าโอนข้ามเขต ลดภาษีได้
4. SpringNewsTV  : สปริงนิวส์
          ชื่อบัญชี "ร่วมมือร่วมใจเพื่อผู้ประสบภัย" ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนวิภาวดีรังสิต เลขที่ 196-0-75084-0  หรือบริจาคสิ่งของ น้ำดื่ม อาหารแห้ง (ขอของที่จำเป็นจริง ๆ) นำมาบริจาคได้ที่ สถานีฯ สปริงนิวส์ อาคารเล้าเป้งง้วน ชั้น 11 ถ.วิภาวดีรังสิต

5. อาสาดุสิต
          ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ อาสาดุสิต  http://arsadusit.com/891
6. สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส - เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ
          สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส - เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ จัดตั้ง "ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้" สำหรับผู้สนใจที่จะร่วมบริจาคสามารถบริจาคเงินและสิ่งของอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารทับวิภา สำนักงานใหญ่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เลขที่ 99 หมู่14 ถ.วิภาวดีรังสิต สอบถามเพิ่มเติมที่ โทรศัพท์  0-2265 5868 – 9
7. Thai PBS
          ThaiPBS เชิญบริจาคช่วยน้ำท่วมภาคใต้ บัญชี "มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย" ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศร์ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 020-2-53333-8
          หรือถ้าพี่น้องภาคใต้ ต้องการแจ้งขอความช่วยเหลือและปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ ติดต่อศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทีวีไทย ได้ที่ โทร.02-791-1113 หรือ 02-791-1385-7

ข้อมูลจาก hilight.kapook.com/view/57521

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจัดการแข่งขันกีฬา เวียงพิงค์เกมส์ ที่จังหวัดเชียงใหม่


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; นักกีฬาในหน่วยงานรับบริการและในสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจากทั่วประเทศ จำนวน 2,795 คน ร่วมการแข่งขันกีฬา เวียงพิงค์เกมส์ ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่าง 24-27 มีนาคม 2554

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2554 เวลา 18.00 น. นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬา เวียงพิงค์เกมส์ ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการบูรณาการกิจกรรมเพื่อการพัฒนาศักยภาพผู้รับบริการของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จากหน่วยงานในสังกัด 47 แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ได้แสดงออกถึงความสามารถด้านการกีฬาของตนให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม อีกทั้งยังเป็นการจำลองการใช้ชีวิตประจำวันซึ่งจะช่วยให้เกิดความรู้และทักษะชีวิต สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ และยังเป็นกระบวนการเตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีคุณค่า

การแข่งขันกีฬา เวียงพิงค์เกมส์ The Games of Spirit เป็นการแข่งขันกีฬา กองเชียร์ และการแข่งขันเกมส์เพื่อสร้างสรรค์ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาและความเอื้ออาทร ให้เกิดขึ้นกับผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งเด็ก เยาวชน คนพิการ คนไร้ที่พึ่ง และผู้สูงอายุ โดยจะเปิดโอกาสในการเรียนรู้การทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างความเข้าใจในการดำเนินชีวิตในสังคม มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก่อให้เกิดความเอื้ออาทร สร้างประกายแห่งความรู้สึกที่ดีงามให้เกิดขึ้น และเป็นการสร้างวิถีชีวิตใหม่ให้กับผู้รับบริการ

การแข่งขันกีฬา เวียงพิงค์เกมส์ ปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่หน่วยงานในสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ บูรณาการร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน ซึงผู้เข้าร่วมการแข่งขันประกอบด้วยผู้รับริการซึ่งเป็นผู้สูงอายุ คนพิการและไร้ที่พึ่งระดับ A และเจ้าหน้าที่สำนักบริการสวัสดิการสังคม 46 แห่ง จำนวน 1,300 คน และเด็ก เยาวชน จากหน่วยงานสังกัดสำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็ก สำนักคุ้มครองสวัสดิการหญิงและเด็ก 41 แห่ง จำนวน 1,495 คน รวมผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 2,795 คน ทำการแข่งขันระหว่าง 24-27 มีนาคม 2554 รวมระยะเวลา 4 วัน ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; เปิด สนง.อุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 3 เชียงใหม่ และสัมมนาการมีส่วนร่วมของชุมชนต่อทรัพยากรแร่


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานเปิดที่ทำการสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 3 เชียงใหม่ และเปิดการสัมมนาการมีส่วนร่วมของชุมชนต่อทรัพยากรแร่และการทำเหมืองแร่ ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550


นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดที่ทำการสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 3 เชียงใหม่ ณ เลขที่ 18 ถนนเชียงใหม่ ลำปาง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา และแม่ฮ่องสอน โดยมีภารกิจให้บริการทางวิชาการของอุตสาหกรรมแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐาน ส่งเสริม พัฒนา กำกับดูแลงานด้านธรณีวิทยาแหล่งแร่ วิศวกรรมเหมืองแร่ โลหกรรม เฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม และงานด้านโลจิสติกส์อุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้มีสถานประกอบการเหมืองแร่และเหมืองหินอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ 142 ราย


หลังจากนั้น นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง การมีส่วนร่วมของชุมชนต่อทรัพยากรแร่และการทำเหมืองแร่ ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนตามบทบัญญัติของกฎหมาย เป็นการทำความเข้าใจกับประชาชน ในการสร้างความเข้มแข็งด้านสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมอื่น ให้เป็นอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ที่ยั่งยืน ภายใต้ความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมตระหนักเป็นอย่างดีว่า บทบาทภารกิจการบริหารจัดการด้านแร่ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 3 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหน่วยงานส่วนภูมิภาค จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการกำกับดูแลและเฝ้าระวังผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญการบังคับใช้กฎหมายในเชิงบวกอย่างสร้างสรรค์ เป็นธรรม และต่อเนืองตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องบูรณาการกับหน่วยงานอื่น ทั้งในและนอกกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งภาคเอกชนเพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติให้มากที่สุด นอกจากนั้น ยังเป็นการสร้างความความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมายแก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งสร้างความรู้สึกและความตระหนักในความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ให้ได้รับหรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากการประกอบการ


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวด้วยว่า ในการขออนุญาต ขอต่อใบอนุญาตหรือขอประทานบัตรเหมืองแร่ทุกครั้งในขณะนี้ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่จะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรแร่อย่างคุ้มค่า และไม่สร้างปัญหากับสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมา กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้ดำเนินการส่งเสริมการมีส่วนร่วม และเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อมของประชาชน หน่วยงานท้องถิ่น และผู้ประกอบการในด้านการจัดการทรัพยากรแร่และสิ่งแวดล้อมเหมืองแร่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเครือข่ายภาคประชาชนทั้งสิ้น 220 เครือข่าย ใน 30 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งดำเนินการส่งเสริมอุตสาหกรรมแก่และอุตสาหกรรมพื้นฐานให้มีความรักผิดชอบต่อสังคม โดยกำหนดเป็นมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแร่ (CSR DPIM) ควบคู่ไปพร้อมกัน

ข่าว ; เปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการส่งเสริมผู้ประกอบการ OTOP ให้ได้มาตรฐานสำหรับผู้ประกอบการ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการส่งเสริมผู้ประกอบการโอทอปให้ได้มาตรฐานและผ่านการรับรอง เพื่อสนับสนุนด้านการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่จังหวัดเชียงใหม่


นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง “การพัฒนาคุณภาพสินค้า OTOP ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย อาหาร และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร ให้ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน” พร้อมทั้งพบปะกับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชน และบรรยายพิเศษ “บทบาทของกระทรวงอุตสาหกรรมในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP” ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ซึ่งงานดังกล่าวจัดโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ระหว่างวันที่ 25 – 26 มีนาคม 2554 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการ ให้สามารถยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ส่วนที่ยังไม่ได้รับการรับรอง ให้เข้าสู่มาตรฐานและผ่านการรับรองจากสถาบันต่างๆ โดยเฉพาะโครงการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ซึ่งจะเป็นหนทางสำคัญในด้านการตลาดโดยเฉพาะการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้อย่างกว้างขวาง นอกจากนั้น ประชาชนชาวไทยก็จะได้ใช้สินค้าที่ดี มีมาตรฐานด้วยเช่นกัน


ทางด้านนายชัยยง กฤตผลชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามที่ สมอ.ได้ดำเนินโครงการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เพื่อรองรับการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนในโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Tambon One Product: OTOP) โดยกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน 5 ประเภท ได้แก่ (1) อาหาร (2) เครื่องดื่ม (3) ผ้าและเครื่องแต่งกาย (4) ของใช้ ของตกแต่ง และของที่ระลึก (5) สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร จำนวน 1,448 มาตรฐาน และให้การรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนแก่ผู้ผลิตชุมชนแล้ว 44,332 ราย อย่างไรก็ตามยังมีผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ยังไม่ได้รับการรับรอง มผช. จึงได้จัดการสัมมนาครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้ตามที่มาตรฐานกำหนด ซึ่งถือเป็นบันไดไปสู่การได้รับการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP ห้าดาว และเป็นการเสริมสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล ในรูปแบบของการหยิบยกประเด็นปัญหาและจุดอ่อนในการไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนกำหนด โดยในการสัมมนา มีจุดประสงค์มุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ประเภทอาหาร และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร เพื่อให้ผู้ผลิตได้รับความรู้ มีความเข้าใจ และสามารถนำไปปฏิบัติได้ จึงได้จัดให้มีการบรรยาย และการสาธิตในขั้นตอนของการผลิตครบวงจร


การสัมมนาครั้งนี้เป็นความร่วมมือของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน มีผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนเข้าร่วมสัมมนารวม 700 คน และมีวิทยากรจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมวิทยาศาสตร์บริการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สถาบันอาหาร และหน่วยงานภาคเอกชน และได้จัดแสดงนิทรรศการจาก 4 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สถาบันอาหาร และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ


นอกจากการพัฒนาผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนดังกล่าวแล้ว สมอ. ได้พัฒนาผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ของเล่นไม้ในจังหวัดเชียงใหม่ให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ พัฒนาระบบการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของเล่น มอก.685-2540 จนกระทั่งได้รับใบอนุญาตและได้พัฒนาเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และการใช้พลังงานในการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ผลิตเหล่านี้ส่วนใหญ่จะผลิตเพื่อการส่งออก โดยวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ทำพิธีมอบใบอนุญาตทำผลิตภัณฑ์ของเล่น มอก.685-2540 แก่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ของเล่นในจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 8 รายด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; ชาวเหนือตกใจแผ่นดินไหวเขย่าตึก ต่างพากันหนีภัยลงสู่ที่โล่ง

ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; ท่ามกลางข่าวแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังอยู่ในกระแส ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.8 และ 4.8 ริกเตอร์ เมื่อก่อนเวลา 21 .00 น. ที่ผ่านมา มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศพม่า โดยที่จังหวัดเชียงใหม่รู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือน ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งต้องหนีจากตึกสูงลงมาอยู่ในที่โล่งเพื่อหลบภัย

เมื่อเวลา 20.25 น. และ 20.54 น.ที่ผ่านมา (วันที่ 24 มีนาคม 2554) ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวรู้สึกได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยในตึกสูงสามารถสัมผัสกับความสั่นสะเทือนค่อนข้างแรงนานเกือบ 30 วินาที และยังมีอาฟเตอร์ช๊อคสั้นๆ ตามมาเป็นระยะ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งเกิดความหวาดกลัว โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในตึกสูงต้องลงมาอยู่ในที่โล่งบนพื้นดิน สร้างความโกลาหลขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีปัญหาใดๆ

สำหรับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ รายงานจากสำนักงานสำรวจธรณีแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ USGS : The United States Geological Survey ระบุว่า สามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.8 และ 4.8 ริกเตอร์ ตามลำดับ มีศูนย์กลางอยู่ที่สหภาพพม่า บริเวณละติจูด 20.60 องศาเหนือ ลองติจูด 99.86 องศาตะวันออก ห่างจากจังหวัดเชียงรายไปทางทิศเหนือ 77 กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 220 กิโลเมตร เกิดขึ้นลึกลงไปในพื้นดินประมาณ 10.2 กิโลเมตร หรือ 6.3 ไมล์ ซึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่แม้จะสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนและสร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้ที่อยู่อาศัยบนตึก แต่ก็เป็นเพียงความหวาดกลัวในระยะสั้นเท่านั้น และไม่ปรากฏว่ามีรายงานความเสียหายใดๆ

ข่าว ; ประธานสงฆ์วัดในเครือวัดธรรมมงคลนำศิษย์ชาวไทยและต่างชาติปฏิบัติธุดงควัตร ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; พระธรรมญาณมงคล ประธานสงฆ์วัดในเครือวัดธรรมมงคล นำศิษย์ชาวไทยและต่างชาติกว่า 1,200 คน มาปฏิบัติธุดงควัตร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแผ่เมตตาช่วยผู้ประสบพิบัติภัยสึนามิในประเทศญี่ปุ่น บนยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

เช้าวันที่ 24 มีนาคม 2554 พระธรรมญาณมงคล หรือ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร และประธานสงฆ์วัดในเครือของวัดธรรมมงคลที่ประเทศแคนาดา ได้นำคณะศิษย์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,200 คน โดยศิษย์ต่างประเทศ จำนวน 52 คนส่วนใหญ่เป็นชาวแคนาดาและสหรัฐอเมริกา เดินทางถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อปฏิบัติธุดงควัตร บนยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ระหว่าง 24-27 มีนาคม 2554 ตามหลักสูตรครูสอนสมาธิของสถาบันพลังจิตตานุภาพ วัดธรรมมงคล ซึ่งเป็นรุ่นที่ 27 ในรอบ 12 ปี โดยทุกครั้งหลวงพ่อวิริยังค์จะนำลูกศิษย์เดินขึ้นจากวัดเทพเจติยาจารย์ ใกล้น้ำตกแม่กลางไปตามแนวขุนเขาและลำห้วย โดยพักค้างแรมในป่าตลอด 4 วัน 3 คน ระหว่างพักแรมก็จะอบรมสมาธิและสวดมนต์ภาวนา รวมทั้งสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนคณะศิษย์ชาวไทยที่ร่วมเดินทางครั้งนี้มีทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ และผู้บริหารระดับสูง เช่น ดร.วิษณุ เครืองาม ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และนายศิริธัช โรจนพฤกษ์

พระธรรมญาณมงคล เจริญพรว่า การปฏิบัติธุดงควัตรและเจริญสมาธิที่จัดขึ้นนี้ไม่ได้มีความแตกต่างจากกลุ่มอื่นแต่อย่างใด เพียงแต่จัดรวบรวมผู้คนมาปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นการเผยแพร่การเจริญสมาธิให้แพร่หลาย ให้สามารถควบคุมจิตใจลดอันตรายจากจิตใจที่นำไปสู่ความขัดแย้ง เมื่อจิตใจมีสมาธิก็นำไปสู่ความมุ่งมั่นสู่ความสงบ ความขัดแย้งที่รุนแรงก็จะเบาบางลง ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวญี่ปุ่นนั้นก็มีความเป็นไปได้ในเรื่องการแผ่พลังความสุข เนื่องจากพลังจิตที่แน่วแน่สามารถกระจายออกไปได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ซึ่งผลจากสมาธิและจิตใจที่แน่วแน่นี้ จะแผ่ความสุขไปสู่เพื่อนมนุษย์ได้เป็นบริเวณกว้างทั่วโลกเช่นกัน

พระธรรมญาณมงคล หรือหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร อายุ 92 ปี เกิดวันที่ 7 มกราคม 2463 ขณะนี้สุขภาพยังคงแข็งแรง สามารถเดินตามป่าเขาได้ ยกเว้นบางช่วงที่ลาดชันมากคณะศิษย์จะจัดทำเสลี่ยงให้ หลวงพ่อวิริยังค์ นับเป็นลูกศิษย์เพียงรูปเดียวที่เคยปฏิบัติใกล้ชิดหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ปรมาจารย์สายกัมมัฏฐาน และเป็นหนึ่งในพระมหาเถระอาวุโสที่เคยร่วมสมัยหลวงปู่มั่นที่ปัจจุบันเหลือเพียง 7 รูปเท่านั้น

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

ภาพข่าว ; เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม จัดงานวันท้องถิ่นไทย ประจำปี 2554



ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จัดงานวันท้องถิ่นไทย ประจำปี 2554 โดยมีกิจกรรมอย่างหลากหลาย ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

นายปรีชา  วรกุล นายกเทศมนตรีตำบลฟ้าฮ่าม  ได้จัดกิจกรรมตามโครงการจัดงานวันท้องถิ่นไทย ประจำปี  2554 โดยจัดพิธีถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จัดทำบอร์ดเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานของเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม และปลูกต้นไม้ ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชา หมู่ที่ 2 ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ภาพข่าว ; สนามกอล์ฟเมืองแก้วจัดกิจกรรมการกุศล For Japanese Tsunami Relief


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; เมื่อนวันที่ 20 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา สนามกอล์ฟเมืองแก้ว กรุงเทพมหานคร ได้จัดกิจกรรมกอล์ฟการกุศล เพื่อนำรายได้ของกรีนฟีทั้งหมด บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึนามิ ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนักกอล์ฟได้ให้การสนับสนุนโดยการร่วมออกรอบและบริจาคเงินเพิ่มเติมอย่างดี โดยยอดเงินทั้งหมดที่ได้จากค่ากรีนฟีและบริจาค รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 233,576.40 บาท
  
Muang Kaew Golf Course is pleased to announce having collected 233,576.40 THB for Japanese Tsunami Relief from our guests March 20th, 2011. Thank you for your generosity.

ข่าว ; Duriyasilp College Unite for Japan Charity Concert

ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; วิทยาลัยดุริยศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ กำหนัดจัดการแสดงคอนเสิร์ตการกุศล หารายได้ช่วยเหลือผู้ประสบพิบัติภัยแผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น
รายงานข่าวจากวิทยาลัยดุริยศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ กำหนดจัดการแสดงคอนเสิร์ตรายการพิเศษการกุศล รายการ Unite for Japan Charity Concert ในวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2554 เวลา 16.30 – 21.00 น. ณ ซิตี้ไลฟ์ การ์เด้น ถนนชมดอย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้เพื่อจัดหารายได้สมทบช่วยเหลือบรรเทาทุกข์สำหรับผู้ประสบพิบัติภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยภายในงานจะได้พบกับศิลปินนักดนตรีท้องถิ่นที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและประสบการณ์ มาบรรเลงขับกล่อมให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินที่ได้ร่วมกันสร้างกุศล
ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตการกุศลครั้งนี้ได้ที่ สำนักงานหนังสือซิตี้ไลฟ์ แมกกาซีน บีบลูม คอมฟี่ชอป ร้านชีสแอนด์เค้ก สมาคม วาย เอ็ม ซี เอ เชียงใหม่ หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางอีเมล knakarai@gmail.com หรือโทรศัพท์สอบถามภาษาอังกฤษ หมายเลข 088-4307484 (ENG) ส่วนภาษาญี่ปุ่น สอบถามที่หมายเลย 084-9499665 (Japan)




Unite for Japan Charity Concert. Saturday, April2, 2011 4:30PM - 9:00PM
Location: Citylife Garden (1 Chom Doi Rd.,T.Suthep) Entrance: 300 Baht
Enjoy an evening of performances by talented local musicians to help raise funds for the victims of the 3.11 Earthquake and Tsunami in NE Japan. All proceeds will be sent to Second Harvest Japan, an NGO providing emergency and long-term relief to the victims in the disaster areas.
Tickets are on sale at: + Citylife Magazine Office + b-bloom Coffee Shop (Hussadhisawee Rd.) + Chesse&Cake (Nimmana Haeminda soi5) + The YMCA of Chiangmai Or contact : knakarai@gmail.com 088-4307484 (ENG) 084-9499665 (Japan)
Present by Duriyasilp College of  Music, Payap University

ข่าว ; เชียงใหม่หามาตรการกำหนดพื้นที่รอบคูเมืองเป็นสงกรานต์ปลอดแอลกอฮอล์



ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; จังหวัดเชียงใหม่เตรียมกำหนดมาตรการลดความสูญเสียและผลกระทบ ตามโครงการเที่ยวสงกรานต์เชียงใหม่ ม่วนอก ม่วนใจ ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ หลังจากการดำเนินการที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

คณะอนุกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดเชียงใหม่ จัดการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการนำไปสู่การปฏิบัติ ในการลดความสูญเสียและผลกระทบจากเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ 2554 เที่ยวสงกรานต์เชียงใหม่ ม่วนอก ม่วนใจ ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ณ โรงแรมเมอร์เคียว เชียงใหม่ โดยที่ประชุมได้รับทราบตัวอย่างประกาศและนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งที่จังหวัดขอนแก่น สามารถดำเนินการอย่างได้ผลมาเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ในงานสงกรานต์ที่ถนนข้าวเหนียว โดยเฉพาะในปี 2553 ได้รับประกาศนียบัตรจากพิพิธภัณฑ์ริปลีส์ “เชื่อหรือไม่” พัทยา ประเทศไทย รับรองการจัดกิจกรรมคลื่นมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนถนนกว้าง 6 เมตร ยาว 1 กิโลเมตร ในงานเทศกาลสงกรานต์สนุก ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ นอกจากนั้นยังมีอีกหลายจังหวัดแม้จะไม่ใหญ่โตแต่ก็สามารถควบคุมให้ปลอดแอลกอฮอล์ได้จริง

สำหรับที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ผ่านมาไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายหรือมาตรการอย่างได้ผล เนื่องจากยังมีปัญหาข้อกฎหมาย เช่น การประกาศห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบคูเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ ก็สามารถบังคับใช้ได้เฉพาะในส่วนที่เป็นสวนสาธารณะเท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงบนถนนและทางเดิน ส่วนการจำหน่ายก็สามารถจับกุมได้กรณีกำลังซื้อขายอย่างชัดเจนซึ่งหน้า นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าจัดการได้อย่างทั่วถึงเนื่องจากมีข้อจำกัดในการปฏิบัติงาน เช่น ความยากลำบากการเดินทางเข้าในพื้นที่ การถูกสาดน้ำทำให้อุปกรณ์เสียหาย และการซื้อจากที่อื่นเข้ามาดื่มในพื้นที่

เบื้องต้นคณะอนุกรรมการกำหนดมาตรการหลักคือขอความร่วมมือจากประชาชน ส่วนการจับกุมดำเนินคดีจะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า โดยกฎหมายที่สามารถบังคับใช้ได้สำหรับผู้ขายมี 3 กรณีคือ ขายโดยไม่มีใบอนุญาต ขายนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด และขายให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ส่วนผู้ดื่มบังคับใช้กฎหมายได้ 2 กรณีคือ ผู้ดื่มที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และการดื่มในพื้นที่ประกาศห้ามดื่ม ทั้งนี้ ยังสามารถนำกฎหมายหลายฉบับมาดำเนินการกับผู้ฝ่าฝืนได้ เช่น พระราชบัญญัติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่มีโทษค่อนข้างเบาคือปรับ 500 บาท พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีโทษค่อนข้างหนักทั้งจำคุกและปรับแพง นอกจากนั้น ยังสามารถเอาผิดกรณีกีดขวางการจราจรตามกฎหมายจราจรได้ด้วย

ข่าว ; เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง รับการถวายสมณศักดิ์เป็นอัครพระกรรมฐานสูงสุดของพม่า


ศูนย์ข่าวจิ๊บจิ๊บ ; ศรัทธาชาวเชียงใหม่ต้อนรับพระธรรมมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองเดินทางกลับจากประเทศพม่า หลังจากได้รับสถาปนาเป็น พระอัคคา มหากัมมัตตานา จะริยา ซึ่งเป็นมหาเถระด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานใหญ่ โดยศิษยานุศิษย์ชาวจอมทองเตรียมจัดงานฉลองสมโภชตำแหน่งอย่างยิ่งใหญ่

คณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และคณะศรัทธาประชาชนจำนวนมาก ให้การต้อนรับเพื่อแสดงมุทิตาสักการะพระธรรมมังคลาจารย์ หรือ หลวงปู่ทอง สิริมังคโล เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางกลับจากสหภาพพม่า โดยมีนางนฤมล ปาลวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน ที่ห้องรับรองพิเศษท่าอากาศยานเชียงใหม่ หลังจากเดินทางไปรับการสถาปนาสมณศักดิ์เป็น พระอัคคา มหา กัมมัตตานา จะริยา (Agga Maha Kammatthana Cariya) หรือเป็นอัครพระกรรมฐานสูงสุดอีกรูปหนึ่งที่ชาวพม่ายกย่อง โดยรัฐบาลพม่าเป็นผู้ถวายตำแหน่งดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยในปีนี้มีพระเถระจากประเทศอินเดีย ศรีลังกา เวียดนาม เนปาล บังคลาเทศ อังกฤษ และไทย เข้ารับการถวายสมณศักดิ์ รวมทั้งสิ้น 10 รูป

ในขณะที่คณะศิษย์เปิดเผยว่า หลวงปู่ทอง สิริมังคโล เข้ารับสมณศักดิ์จากทางการพม่าที่พระเจดีย์อุปปตะสันติ นครเนปิดอว์ โดยมี พลเอกอาวุโส ตาน ฉ่วย ผู้นำรัฐบาลพม่า เป็นผู้ถวายสมณศักดิ์ และถวายภัตตาหารเพล  ซึ่งถือเป็นเกียรติสำหรับคณะสงฆ์ไทย เพราะสมณศักดิ์ดังกล่าวเป็นตำแหน่งสูงที่สุดที่รัฐบาลพม่าถวายแด่พระสงฆ์ต่างชาติ เพื่อสะท้อนถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศด้วย

พระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมังคโล) อายุ 88 ปี พรรษา 67 เกิดเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2466 อุปสมบทเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2487 ที่วัดบ้านแอ่น อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เข้าฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานจากสำนักวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ กรุงเทพฯ และสำนักมหาสีสยาดอ สาสนยิสสา กรุงย่างกุ้ง สหภาพพม่า จากนั้นกลับมาเปิดสำนักวิปัสสนากรรมฐานและสอนตลอดมา จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพระวิปัสสนาจารย์หนเหนือ กองการวิปัสสนาธุระ และได้ขยายสำนักสาขาปฏิบัติอีกหลายสำนักทั้งในและต่างประเทศ ในปี 2534 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ปี 2552 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมมังคลาจารย์ สำหรับพิธีฉลองสมโภชสมณศักดิ์เป็นพระอัครมหากัมมัฏฐานหรือพระมหาเถระฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานของพม่าครั้งนี้ คณะศิษยานุศิษย์ และอำเภอจอมทองเตรียมจัดพิธีถวายมุทิตาสักการะอย่างยิ่งใหญ่ในเร็ว ๆ นี้