นายระพีศักดิ์ มาลัยรุ่งสกุล ผู้อำนวยการสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวทางสื่อออนไลน์ว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงใหม่สูงเป็นอันดับ 1 โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นการอ้างอิงจาก application : Air visual ที่บอกว่า เชียงใหม่ค่า AQI สูงที่สุดในโลก โดยใช้ค่ามาตรฐาน AQI เป็นค่ามาตรฐานของ US EPA ในการคำนวณค่าดัชนีมลพิษทางอากาศ ประกอบด้วย 5 ตัว ได้แก่ O3 NO2 SO2 CO และ PM 2.5 ซึ่งคิดค่ามาตรฐาน PM 2.5 ที่ 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่มาตรฐานประเทศไทยโดยกรมควบคุมมลพิษ คิดค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ค่า AQI ที่ปรากฏมีตัวเลขที่สูง ซึ่งเป็นการนำเสนอผลที่ไม่ครบถ้วนทุกสถานีตรวจวัด และรวมกับเครื่องตรวจวัดอื่นที่ไม่ระบุหน่วยงาน
นอกจากนั้น เมื่อนำข้อมูลค่า PM 2.5 เมื่อวานนี้ 6 มีนาคม 2561 มาเปรียบเทียบระหว่าง สถานี ต. ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ กับ สถานี อ.แม่สอด จ.ตาก จะเห็นได้ว่าค่า PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของสถานี อ.แม่สอด จ.ตาก มีค่า 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีค่า PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ที่ 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ไม่ปรากฏใน app Air visual จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นว่าความจริงแล้วค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัด เชียงใหม่ไม่ได้สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ตามที่กล่าวอ้างในการจัดลำดับของ application : Air visual และเมื่อพิจารณาในวันนี้ 7 มีนาคม 2561 เวลา 11.38 น. พบว่าการรายงานจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในลำดับที่ 5 แต่จากแผนที่ใน app Air visual ค่า PM 2.5 พบว่าที่จังหวัดตากมีค่าอยู่ที่ 228 ขึ้นเป็นสีม่วง ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดเชียงใหม่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้กำชับการใช้มาตรการเข้มงวดเรื่องการเผาในพื้นที่และมีการติดตามผลตลอดเวลา เพื่อให้คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ได้ใช้การวัดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) โดยเป็นการวัดจากกรมควบคุมมลพิษที่รับรองว่าเป็นค่าที่ถูกต้อง และเป็นดัชนีคุณภาพอากาศในแบบสากลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ ซึ่งจะมีการรายงานสภาพอากาศ แบบ Real Time ในแบบรายชั่วโมง และเฉลี่ย 24 ชั่วโมง โดยในบางช่วงเวลาก็อาจจะมีเกินบ้าง แต่จะคิดในแบบค่าเฉลี่ยรวมตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงหรือเป็นแหล่งที่มาไม่ชัดเจน ซึ่งผู้ที่นำไปเผยแพร่ต่ออาจเข้าข่ายการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดได้ โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศย้อนหลังได้ที่ แฟนเพจเฟสบุ๊ค “อากาศบ้านเฮา”
ทางด้านนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน และบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ที่ได้ช่วยกันทุ่มเทกำลังกายกำลังใจปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ และขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ ป้องกันตนเองจากภาวะหมอกควัน โดยขอความร่วมมือจากชาวบ้านในแต่ละชุมชนช่วยกันฉีดน้ำ รดน้ำต้นไม้บริเวณบ้านและที่อยู่อาศัยของตนเอง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ รวมทั้งงดเผาในพื้นที่หาของป่า ขออย่าทำการจุดไฟเผาป่าเพื่อเกิดความสะดวกให้พื้นป่าโล่ง เดินสะดวก หรือให้แสงสว่างในการเดินทางในเวลากลางคืน ซึ่งการเกิดไฟป่านั้นจะสร้างความเสียหายต่อการทำลายพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ ตลอดจน ก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันเป็นวงกว้าง โดยจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดอีกด้วย
******************
ส.ปชส.เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น