All online

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ข่าว ; นักศึกษา มช. กว่า 17,000 คน ร่วมใจเดินขึ้นดอย นมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ

 เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  7 รอบ สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัย เชียงใหม่ จัดกิจกรรมต้อนรับนักศึกษาใหม่ สืบสานตำนานประเพณีลูกช้างขึ้นดอย 54” นำนักศึกษาใหม่เดินขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ ศูนย์รวมศรัทธาของชาวเชียงใหม่ พร้อมสืบสานประเพณีอันดีงามมากว่า 47 ปี รวมพลังกายและกำลังใจของเหล่าลูกช้าง มช. ในวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2554

ศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพให้กับสังคมมาเป็นเวลายาวนานซึ่งได้สร้างความผูกพันรักใคร่ในสถาบัน และความภาคภูมิใจที่ได้มาเป็นลูกหลานชาวเชียงใหม่ เพื่อความภาคภูมิใจที่ได้มาศึกษา และเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อนักศึกษา จึงมีการจัดกิจกรรมนำนักศึกษาใหม่ไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์ที่เคารพนับถือคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยใน พ..2507 เป็นต้นมา จนถือเป็นประเพณีและเอกลักษณ์อันดีงามที่ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยในปีนี้จะได้จัดขึ้นอีกครั้งเป็นครั้งที่ 47 พร้อมกับพัฒนาการสู่ปีที่ 47 ของมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ กอปรกับในปี 2554 เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ ประเพณีนำนักศึกษาใหม่เดินขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ หรือ “สืบสานตำนานประเพณีลูกช้างขึ้นดอยปี 2554” จึงได้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ โดยจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2554

ด้าน รองศาสตราจารย์ นพ.อำนาจ อยู่สุข รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพนักศึกษาและกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเพณีลูกช้างขึ้นดอยในทุกๆ ปี จะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก สำหรับปีนี้ จะมีลูกช้าง มช. เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 17,000 คน โดยเป็นนักศึกษาใหม่ จากทั้ง 21 คณะและบัณฑิตวิทยาลัย ประมาณ 7,000 คน รวมทั้งนักศึกษาปัจจุบัน และนักศึกษาเก่าที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วอีกกว่า 10,000 คน เพื่อมาร่วมเป็นกำลังใจให้แก่น้องใหม่เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

สำหรับกิจกรรมจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2554 โดยเวลาประมาณ 05.00 น. นักศึกษาแต่ละคณะจะมารวมกัน ณ จุดนัดหมายของแต่ละคณะ แล้วมาตั้งขบวนบริเวณลานพิธีด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากนั้นเวลา 06.19 น. จะมีการประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคล เวลา 07.07 น. เริ่มพิธีเปิดงาน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายกสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าวต้อนรับนักศึกษาใหม่ นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวรายงาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าวเปิดงาน  หลังจากนั้นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันลั่นฆ้อง ซึ่งถือว่าสืบสานตำนานประเพณีลูกช้างขึ้นดอย 54 ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ และเวลา 07.30 น. จะเริ่มออกขบวน

นายศีลวันต์ โสฬสลิขิต นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ประเพณีนำนักศึกษาใหม่เดินขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพในปีนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 7 รอบ โดยจะมีการอัญเชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ธันวาคม 54 อักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ซึ่งจะมีช้างทรงอัญเชิญตราสัญลักษณ์ฯ ในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้

ในส่วนของขบวนต่างๆ นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ให้รายละเอียดว่า ขบวนต่างๆ ในประเพณีลูกช้างขึ้นดอยได้ตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ เริ่มจากเสลี่ยงมหาวิทยาลัย ขบวนตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขบวนผู้บริหาร ต่อด้วยบัณฑิตศึกษา และขบวนนักศึกษาทั้ง 20 คณะ 1 วิทยาลัย ตามลำดับ ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร คณะศึกษาศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี คณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะการสื่อสารมวลชน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะวิจิตรศิลป์ โดยทุกขบวน จะพร้อมใจเดินจากประตูหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งจะมีพระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วเดินออกสู่ถนนห้วยแก้ว ประกอบพิธีสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยบริเวณเชิงดอยสุเทพ แล้วจึงมุ่งหน้าเดินทางไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ ซึ่งผู้ร่วมขบวนต่างพร้อมใจสวมชุดพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีอันงดงามของวัฒนธรรมล้านนา

ระหว่างทางเดินขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ นอกจากจะมีบรรยากาศของความสามัคคี ความสนุกสนาน และการรวมพลังกายกำลังใจของเหล่าลูกช้างแล้ว ปีนี้ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับน้องๆ ปี 1 โดยจะมีป้ายให้กำลังใจและข้อความที่สร้างความสนุกสนานตลอดเส้นทาง

ในด้านการดูแลความปลอดภัยของน้องใหม่ นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวว่า การที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของน้องๆ ในปีนี้ทางสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยได้เพิ่มจุดสวัสดิการและจุดพยาบาลทั้งสิ้นรวมเป็น 10 จุด เพื่อให้นักศึกษาได้พักดื่มน้ำ และปฐมพยาบาลสำหรับน้องๆ ที่เดินไม่ไหว ซึ่งทั้ง 10 จุด ได้แก่ จุดบริการวังบัวบาน ศาลาริมทาง น้ำตกมณฑาธาร วัดผาลาด ศูนย์ไฟป่า ศาลาชมวิว ที่พักริมทาง หอดูดาว ลานชมวิว และวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยทุกจุดจะมีเจ้าหน้าที่พยาบาล และรถพยาบาลของโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักศึกษาวิชาทหารที่จะคอยอำนวยความสะดวกในเรื่องการจราจร การรักษาความปลอดภัยให้กับนักศึกษาและผู้เข้าร่วมกิจกรรม

สำหรับการรณรงค์รับน้องปลอดเหล้า สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้มีมาตรการที่จะป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ได้ประสานงานกับสถานีตำรวจภูพิงค์ราชนิเวศน์ ศูนย์การจราจรตำรวจภูธรเชียงใหม่ และอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งจะมีการตรวจจับและปรับผู้ที่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาในเขตอุทยานฯ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
เมื่อเดินผ่านเส้นทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กว่า 13 กิโลเมตร ถึงพระบรมธาตุดอยสุเทพแล้ว เหล่าลูกช้างจะร่วมกันประกอบพิธีสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ รับโอวาทจากพระเถระผู้ใหญ่ ปฏิญาณตนเป็นนักศึกษาที่ดีและเป็นพลเมืองดีของประเทศ แล้วจึงเดินทางกลับสู่มหาวิทยาลัย เชียงใหม่

นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวในตอนท้ายว่า ในวันที่ 9 กรกฎาคม นี้ ซึ่งเป็นวันจัดกิจกรรมนำนักศึกษาใหม่เดินขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ จะมีนักศึกษาและผู้ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัด จึงขออภัยมายังผู้ใช้เส้นทางจากถนนห้วยแก้วถึงวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพในวันดังกล่าวด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น