จากกรณีปรากฏข่าวนักกอล์ฟอาชีพอาวุโส ไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬากอล์ฟ ในกีฬาอาวุโสแห่งชาติครั้งที่ 6 "เมืองโอ่งเกมส์" ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23-25 เมษายน 2567 ณ สนามกอล์ฟภาณุรังษี ค่ายบุรฉัตร จ.ราชบุรี และนักกีฬารายดังกล่าวมีรายชื่อได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันระดับสมัครเล่นรายการนั้นด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดบรรดาผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนักกอล์ฟอาชีพอาวุโส ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม รวมทั้งขุดหารายละเอียดของนักกอล์ฟรายนี้กันอย่างกว้างขวาง จนสามารถรู้ตัวเรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุด มีการพบชื่อนักกอล์ฟคนดังกล่าว เข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟอาชีพอาวุโส รายการ ARTITAYA SENIOR CHAMPIONSHIP 2024 ซึ่งสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย จัดแข่งขันระหว่างวันที่ 15 -17 พฤษภาคม 2567 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 บาท ณ สนามกอล์ฟ อาทิตยา กอล์ฟแอนด์รีสอร์ท จ.นครนายก แต่ได้ร่วมแข่งขันเพียง 2 วันเพราะคะแนนไม่เพียงพอที่จะผ่านการตัดตัว
จากหลักฐานยังสามารถสืบได้ว่า นักกอล์ฟรายดังกล่าวนี้ได้เข้าสอบเพื่อเป็นสมาชิกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สนามกอล์ฟวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท คลอง 14 อ.องครักษ์ จ.นครนายก ก่อนที่จะมีการแข่งขัน กีฬาอาวุโสแห่งชาติครั้งที่ 6 "เมืองโอ่งเกมส์" ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23-25 เมษายน 2567
ทั้งนี้ แม้ว่าระเบียบการแข่งขันกีฬากอล์ฟ กีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 6 (พ.ศ.2567) "เมืองโอ่งเกมส์" ณ จังหวัดราชบุรี ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ระบุคุณสมบัติของผู้เข้าแข่งขันไว้ในข้อ 6.3 ไว้ว่า "ผู้เข้าแข่งขันต้องมีสถานภาพเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นตามข้อบังคับว่าด้วยสถานภาพสมัครเล่นที่ R&A Rules Limited และ สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ รับรองเท่านั้น"
ประกอบกับ ข้อ 13 เรื่องการประท้วง ระบุในข้อ 13.2 ว่า "การประท้วงคุณสมบัตินักกีฬาประท้วงได้ตลอดเวลา การประท้วงต้องเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้จัดการหรือผู้ฝึกสอนนักกีฬาเป็นผู้ลงนามในหนังสือพร้อมด้วยวางเงินประกัน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) เงินนี้จะคืนให้เมื่อการประท้วงเป็นผล ถ้าไม่เป็นผลจะริบเงินเป็นทุนส่งเสริมกีฬาของจังหวัดเจ้าภาพ" (ความจริงน่าจะเป็นข้อ 13.1 เพราะเป็นย่อหน้าแรก และข้อ 13.1 ไม่มี)
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้น่าจะแบ่งปัญหาออกเป็น 2 เรื่องคือ การกระทำผิดระเบียบ กับการประท้วง
ในการกระทำผิดระเบียบการแข่งขันกรณีนักกีฬาที่ไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการแข่งขัน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเจตนาและองค์ประกอบแห่งความผิดครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะมีการประท้วงหรือไม่ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นจากการกระทำผิดระเบียบได้
ส่วนการประท้วง ผู้ที่จะยื่นประท้วงต้องมีข้อมูลเรื่องคุณสมบัติของผู้เข้าแข่งขันรายนี้ว่าผิดระเบียบเท่านั้นที่จะสามารถยื่นได้ แต่กรณีนี้ ในช่วงเวลาก่อนการแข่งขัน ระหว่างแข่งขัน หรือเสร็จสิ้นการแข่งขันแล้ว ไม่มีผู้ผู้เกี่ยวข้องคนใดรู้หรือมีข้อมูลว่ามีนักกีฬาคนใดขาดคุณสมบัติ จึงไม่มีการประท้วงเกิดขึ้น ต่อเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน จึงมีผู้ไปพบข้อมูลดังกล่าวและนำมาถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์กัน นำไปสู่การขุดคุ้ยข้อมูลนำมาแชร์กันเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยังมีผู้เสนอว่าควรจะสอบสวนเอาผิดกับจังหวัดต้นสังกัดที่ส่งนักกีฬารายนี้เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในโอกาสต่อไป หรือหากไม่สามารถดำเนินการในกรณีนี้ได้ ก็ควรจะออกระเบียบให้รัดกุมเพื่อเป็นการป้องกัน โดยการเพิ่มบทลงโทษแก่ต้นสังกัดหากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น
สุดท้ายแล้ว กรณีนี้ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบชี้แจงหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งควรจะประกอบด้วย 3 ฝ่ายคือ ฝ่ายแรก ตัวนักกีฬาเอง ฝ่ายที่สอง จังหวัดต้นสังกัดที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน และฝ่ายที่สาม สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพต้นสังกัดที่นักกีฬารายนี้เป็นสมาชิก
อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว
https://www.blockdit.com/posts/66470bfedae0356e9b32dade
*********************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น