ที่โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ นำทีมงานจัดการประชุม ในหัวข้อ การเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคราชการและเอกชนพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูนเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก
นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ ได้รับความช่วยเหลือจากทุกองค์กรเป็นอย่างดี ในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจีนในด้านต่างๆ ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายและยังเป็นการส่งเสริมมิตรภาพที่ต่อกันของไทยและจีนอีกด้วย ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทางสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ ก็ได้พยายามดำเนินการทุกวิถีทางเพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย รวมทั้งช่วยเหลือแก้ไขปัญหา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว และได้รับความสนใจจากหลายฝ่ายเป็นอย่างมากที่อยากให้มีการจัดประชุมต่อเนื่องในครั้งนี้
กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ ได้รายงานสถานการณ์ที่ผ่านมาว่า เมื่อปี 2561 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทย 10.5 ล้านคน โดยมาภาคเหนือ 2 ล้านคน มีนักศึกษาจีนเรียนอยู่ในประเทศไทย 40,000 คน โดยอยู่ในภาคเหนือ 7,000 คน สำหรับชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ สามารถแยกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 5 กลุ่มคือ กลุ่มที่มาท่องเที่ยว ทำธุรกิจและพำนักระยะยาว กลุ่มนักศึกษาหรือครูสอนภาษา กลุ่มเรือสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออกรวมทั้งลูกเรือ กลุ่มชาวจีนจากสามเหลี่ยมทองคำที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย และกลุ่มที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการไหวเวียนอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ทำให้ยากต่อการดูแลบริหารจัดการเพราะมีความซับซ้อน อย่างไรก็ตาม สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้เน้นเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ กล่าวถึงปัญหาของนักท่องเที่ยวจีนว่า บางคนเป็นการออกนอกประเทศครั้งแรก ยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันปัญหาและไม่มีการซื้อประกันภัย เมื่อเกิดปัญหาจึงยากต่อการช่วยเหลือแม้ทางสถานกงสุลจะมีกงสุล 3 คน รับผิดชอบ รวมถึงอาสาสมัครช่วยประสานงานรวมประมาณ 20 คน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ โดยสาเหตุหลักของปัญหามาจากเรื่องภาษา ทั้งนี้ ในรอบครึ่งปีแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตในพื้นที่จำนวน 13 คน ได้รับบาดเจ็บ 106 คน อย่างไรก็ตาม จำนวนนี้ยังถือว่าน้อยหากเทียบกับประเทศอื่นอีกหลายๆประเทศ ทั้งนี้ สำหรับประเภทของปัญหาที่เกิดกับนักท่องเที่ยวจีน สามารถแยกออกได้คือ
ปัญหาต่อมาเรื่องความขัดแย้งระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้ให้บริการ เช่น บริษัทนำเที่ยวไม่ทำตามสัญญาที่กำหนด การใช้บริการสถานที่ต่างๆโดยเฉพาะในสถานบันเทิงแล้วถูกคิดราคาแพง รวมทั้งการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ โดยในรอบครึ่งปีแรกได้รับการร้องเรียนแล้ว 60 ครั้ง เป็นการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 100 %
ปัญหาอันดับที่ 3 คือเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดที่มีชายแดนขนาดใหญ่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เชียงราย ตากที่อำเภอแม่สอด โดยที่เชียงใหม่และแม่ฮ่องสอนมีบ้างเล็กน้อย พฤติกรรมคือมองค์กรผิดกฎหมายหลอกลวงชาวจีนเข้ามาทั้งเพื่อการท่องเที่ยว การลงทุนหรือมาเล่นการพนัน บางครั้งมีการทำร้ายร่างกายบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะถูกยึดหนังสือเดินทางทำให้การให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเกิดเหตุได้รับการร้องเรียน 32 เรื่อง และมีผู้เสียชีวิต 5 คน
ปัญหาที่ 4 เรื่องคดีอาญาทั่วไป เช่นการจี้ ปล้น หลอกลวง ยาเสพติด ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกประเทศ และส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นตามแนวชายแดนเช่นกัน ทั้งนี้ยังรวมถึงกลุ่มคนจีนด้วยกันเองและกลุ่มคนจีนจากไต้หวันที่เข้ามาก่อเหตุ ในรอบครึ่งปีแรกได้รับการร้องเรียน 45 เรื่อง
และปัญหาอันดับที่ 5 คือความล่าช้าในการดำเนินการผ่านเข้าเมือง ทั้งท่าอากาศยาน ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ซึ่งเท่าที่เห็นทุกฝ่ายต่างก็ให้ความสำคัญ แต่บางครั้งที่ได้รับการร้องเรียนคือในช่วงเวลาดึก เจ้าหน้าที่มีน้อย นักท่องเที่ยวมักจะได้รับคำแนะนำจากบุคคลบางกลุ่มให้ไปใช้ช่องทางด่วนพิเศษ โดยให้มีการจ่ายเงินสำหรับผู้ดำเนินการ โดยในรอบครึ่งปีได้รับการร้องเรียน 23 เรื่อง
*****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น