All online

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ข่าว ; เครือกัซซันบุกฮ่องกง ทำตลาดจีนต่อเนื่อง

กัซซันกรุ๊ป นำทีมเข้าร่วมงาน Roadshow ทำการตลาดต่อเนื่องที่ฮ่องกง เพื่อดึงนักกอล์ฟชาวฮ่องกง มาเก๊า และจีน เข้าใช้บริการมากขึ้นในปี 2562 ตามศักยภาพและความต้องการของตลาดที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  แผนกเอเชียตะวันออก และสำนักงานฮ่องกง ได้จัดงาน Amazing Thailand Roadshow 2019 Hong Kong  ขึ้นที่ The Ballroom One, MIRA Hotel Hong Kong เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวและดึงนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง มาเก๊าและจีน ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในปี 2019 โดยผู้จัดงานได้เชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากไทยในฐานะผู้ขาย (Sellers) และผู้ประกอบการท่องเที่ยวของฮ่องกงในฐานะผู้ซื้อ (Buyers) ให้ได้มีการพบปะเจรจาการค้า นำเสนอสินค้าและบริการต่างๆของไทยทุกภูมิภาค เพื่อผลักดันให้เกิดการซื้อขายการบริการด้านการท่องเที่ยวต่อกัน
ในโอกาสนี้ สนามกอล์ฟและรีสอร์ทในเครือกัซซัน นำโดย นายสุพชฌาย์ เสวตไอยาราม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ขายจากภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ - ลำพูน โดยนำเสนอแพคเกจกอล์ฟแบบ Stay & Play ซึ่งเป็นทั้งการพักและเล่นกอล์ฟ ทั้งนี้เนื่องจากมีการศึกษาข้อมูลโดย Mastercard และ ททท.สำนักงานฮ่องกง แสดงให้เห็นว่าคนฮ่องกงชื่นชอบการท่องเที่ยว โดยมีอัตราการท่องเที่ยวโตขึ้นเป็น 90% ในปี 2017 ซึ่งคนฮ่องกงจะมีอัตราการเดินทางท่องเที่ยวอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี มีอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อทริปประมาณ 10,800 ฮ่องกงดอลล่าร์ หรือประมาณ 47,500 บาท อยู่ในอันดับที่ 6 ของทวีปเอเชีย และจากอัตราค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปนี้ สนามกอล์ฟและรีสอร์ทในเครือกัซซันกรุ๊ปจึงได้มุ่งเน้นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ประกอบกับปัจจุบันมีการเดินทางที่สะดวกสบาย โดยมีเส้นทางบินตรงระหว่าง ฮ่องกง - เชียงใหม่ ทุกวัน จำนวน 3 สายการบิน คือ สายการบิน Cathay Dragon Airline สายการบิน Hong Kong Express และสายการบิน  Air Asia ยิ่งจะเป็นการเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง และเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดกอล์ฟให้กับสนามกอล์ฟในเครือกัซซันทั้ง 3 สนามคือ กัซซันเลกาซี่ กอล์ฟคลับ กัซซันพาโนรามา กอล์ฟคลับ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน และ กัซซันขุนตานกอล์ฟแอนด์รีสอร์ท อ.แม่ทา จ.ลำพูน ในปี 2562 ที่จะถึงนี้อีกด้วย

*********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น