นับเป็นโอกาสและประสบการณ์ที่มีค่าที่สุดอีกครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้เป็น 1 ใน 9 ของผู้ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา (United States Department of State) โดยสถานกงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ให้เดินทางไปศึกษาดูงานตามโปรแกรม Voluntary Visitors Program (VolVis) “U.S. Presidential Election Watch” ภายใต้โครงการ International Visitors Leadership Program (IVLP) ซึ่ง IVLP นี้เขาก็จะมีโครงการย่อยเช่นนี้หลายโครงการ และในแต่ละปีจะมีคณะศึกษาดูงานด้านการศึกษาและวัฒนธรรมของสหรัฐอเมริกาจากทั่วโลก ประมาณ 5,000 คนต่อปี ส่วนคราวนี้ของเราถูกกำหนดเป็นโครงการเฉพาะคือ U.S. Federal Elections A Project for Thailand ระหว่าง 28 ตุลาคม - 7 พฤศจิกายน 2555
คณะศึกษาดูงานทั้ง 9 คน ซึ่งประกอบด้วย อาจารย์จากมหาวิทยาลัย กกต. และสื่อมวลชน เดินทางไปถึงสหรัฐอเมริกาที่เมือง BOSTON รัฐ MASSACHUSETTS วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ก่อนหน้าพายุเฮอริเคน Sandy จะพัดเข้าถล่มเมืองแถบนั้นเพียง 6-8 ชั่วโมง เพราะหลังจากนั้นไม่นานที่นั่นเครื่องบินไม่สามารถขึ้น-ลงได้ โดยพวกเราได้รับการต้อนรับจากทีมงานบริหารโครงการ ซึ่งประกอบด้วย Mr. Stoyko Stoykov Administrative Officer, Mr. George Capps Simultaneous Interpreter และ Mrs. Soontaree Davidson อีกหนึ่ง Simultaneous Interpreter คนแรกเป็นบัลแกเรียน คนที่สองเป็นอเมริกัน เข้าใจภาษาไทยน้อยกว่าคนไทยเล็กน้อย ส่วนคนที่ 3 เห็นชื่อแล้วก็คงทราบว่าเป็นคนไทย เข้าพักที่ The Boston Park Plaza Hotel & Towers อยากจะบอกว่าใครไม่จำเป็นอย่าไปพักโดยเฉพาะถ้าต้องออกเงินเอง ห้องธรรมดา 2 เตียง $ 270 เมื่อรวมภาษีเข้าไปก็ตกคืนละหมื่นบาท
ที่ Boston เราได้รับฟังการบรรยายสรุปจากนาย Fergus Cullen อดีตประธานพรรครีพลับลิกันประจำรัฐนิวแฮมเชียร์ อดีตประธานสภาของรัฐที่อายุน้อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา ผู้อำนวยการสถาบัน Fergus Cullen Communications ซึ่งเป็นองค์กรให้คำปรึกษาด้านการวิจัย การโฆษณาประชาสัมพันธ์และด้านกฎหมาย ส่วนพิธีเปิดโครงการและพบปะกับผู้รับผิดชอบโครงการจากกระทรวงการต่างประเทศ Mr. Mark Hilbert ก็ต้องยกเลิกไปเพราะไม่สามารถเดินทางมาจาก Woshington, DC ได้ ต้องสนทนาผ่านทางโทรศัพท์เข้ามาในห้องประชุมแทน เราได้ไปชม Massachusetts State House อาคารรัฐสภาของรัฐที่มีความเป็นมาและเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่และหลากหลาย ได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปจาก Mr. Trey Grayson ผู้อำนวยการ The Institute of Politics at Harvard University ซึ่งว่ากันว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดและค่าเล่าเรียนแพงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก คณะยังได้พบปะกับ Mr. David O'Brien แกนนำของกลุ่มรณรงค์ของพรรคเดโมแครท และได้พบกับกลุ่ม Tea Party ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เป็นทางเลือกใหม่สำหรับชาวอเมริกันที่ไม่ใช่แค่ 2 คือเดโมแครทกับรีพลับลิกัน ที่สำคัญที่นี่เราได้พบกับกงสุลใหญ่แห่งราชอาณาจักรไทย ณ เมืองบอสตัน Joseph A. Milano, Hon. Consul General ใช้เวลาสนทนาและรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับท่านบนดินแดนอธิปไตยของไทย ณ ที่นั้น ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยัง Washington, DC โดยรถยนต์ใช้เวลาเดินทางแรมคืน 10 ชั่วโมง เนื่องจากเครื่องบินและรถไฟไม่สามารถเดินทางได้
รุ่งเช้าวันใหม่คณะของพวกเรา 12 คนก็มาถึงเหมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาด้วยความอ่อนระโหย เก็บข้าวของเข้าที่พักโรงแรม Gorge Washington University Inn เรียบร้อยก็เป็นรายการเที่ยวรอบเมืองด้วยตัวเอง ตอนแรกตั้งใจว่าจะนั่งทำงานเขียนและตัดต่อข่าวของวันก่อนส่งมาเมืองไทย แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจไปดูบ้านดูเมืองเขาดีกว่า เพราะไม่รู้ชาตินี้จะได้มาอีกหรือเปล่า โดยพวกเราตัดสินใจไปเที่ยวชมพิพิธพันธ์ Smithsonian เดินทางไป-กลับโดยรถไฟใต้ดิน ซึ่งที่นั่นยังแยกเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อยอีก 14 พิพิธภัณฑ์ล้วนน่าสนใจทั้งนั้น พื้นที่กว้างยาวสุดลูกหูลูกตา ถ้าจะดูให้ครบทุกที่ทุกอาคารน่าจะใช้เวลาเป็นเดือน ที่สำคัญเปิดให้เข้าชมฟรี รอบบริเวณนั้นส่วนมากจะเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ ส่วนภาคบ่ายได้พบกับตัวแทนด้านการรณรงค์ของพรรคการเมืองใหญ่ทั้งสองพรรคคือ Sparky Zivin ของพรรครีพับลิกัน และ David Canter ของพรรคเดโมแครท ต่อด้วยการเที่ยวชมตามรายการที่เจ้าภาพจัดไว้ให้ เช่น ทำเนียบขาว อาคารัฐสภา และอื่นๆ รอบบริเวณนั้น ก่อนที่จะเข้าพบปะสนทนากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายการภาคบังคับ และเป็นเหตุผลสำคัญที่เราต้องถึง DC วันนี้ให้ได้ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม
พักค้างคืนที่วอชิงตัน ดีซี 1 คืน เราก็เดินทางต่อไปยังเมือง Madison รัฐ Wisconsin โดยการนั่งเครื่องบิน 2 ต่อ จาก Ronald Reagan Washington National Airport ซึ่งแม้คนส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นสนามบินของเมืองหลวงแต่ความจริงแล้วอยู่ในพื้นที่รัฐ Virginia บินไปลงที่ Detroit Metropolitan Wayne County Airport อยู่ในรัฐ Michigan ซึ่งเป็น 1 ในศูนย์กลางการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่กว้างใหญ่จนไม่สามารถมองเห็นอย่างอื่นนอกจากเครื่องบิน อาคารและส่วนประกอบของสนามบินหากเราเข้าไปอยู่ในนั้น เห็นว่าเนื้อที่รวมกว่า 10 ตารางไมล์ จากนั้นเราก็ต่อเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง ไปยังเมือง Madison รัฐ Wisconsin ซึ่งอยากจะบอกว่า ประทับใจที่นี่มากที่สุด อาจจะเนื่องจากเราอยู่นานที่สุด 4 คืน และมีความสงบมากทั้งที่เป็นเมืองหลวงของรัฐ ถนนหนทางโล่งจนหนุ่มๆเดินทางโดยสเก็ตบอร์ดตามถนนกลางเมืองได้อย่างสบาย
ณ เมือง Madison 4 วัน เราได้ไปชมการปราศรัยของประธานาธิบดี บารัค โอบามา พร้อมทีมผู้สมัคร ส.ว.และ ส.ส. ที่เมือง Milwaukee ในรัฐเดียวกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรยากาศที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนและไม่นึกว่าจะได้เห็นผู้คนนับหมื่นมาต่อคิวยาวเหยียดนานกว่า 3 ชั่วโมง ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น 1-2 องศาเซลเซียส เพื่อรอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการฟังปราศรัยในอาคาร โดยมีการแสดงคอนเสิร์ตย่อยของนักร้องสาวยอดนิยม Katy Perry ร่วมรายการ นอกจากนั้นเรายังได้สนทนากับผู้สมัคร ส.ส.พรรครีพับลิกัน Chad Lee ได้พบสนทนาเรื่องการลงทะเบียนและกลไกในการเลือกตั้ง กับผู้อำนวยการ League of Women Voters of Dane County จนถึงวันเลือกตั้งคือ 6 พฤศจิกายน 2555 เราก็ได้ไปดูการเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งภายใน Capitol Lakes Retirement Community Center โดยมีทีมงานตรวจสอบการเลือกตั้งจาก League of Women Voters of Dane County 2 คน นำโดย Mary TeSelle เป็นผู้นำพวกเราไปชม ก่อนจะเดินทางโดยรถยนต์ต่อไปยังเมือง Chicago รัฐ Illinois เพื่อติดตามและรับทราบผลการเลือกตั้ง ถึงชิคาโก เรามีเวลาว่างประมาณ 3 ชั่วโมงก็เลยพากันเดินชมเมืองท่ามกลางสายฝนและความหนาวเย็น ไปถึง Millennium Park ก่อนที่จะถูกจัดให้ไปดูการลุ้นผลการเลือกตั้ง ณ Schakowsky Congressional Campaign Election Night Party โดย Jan Schakowsky ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเดโมแครท แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่ารายการสุดท้ายซึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเดินทางมาประกาศชัยชนะและปราศรัยขอบคุณประชาชนที่เมืองชิคาโกและพวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้าไปร่วมรับฟังด้วยได้ถูกยกเลิกไป ไม่ทราบว่าเพราะฝนตกหรือเหตุผลใด พวกเราก็เลยกลับโรงแรมเพื่อมาส่งสัญญาณภาพสนทนากับทางเมืองไทย ในการการจัดกิจกรรมติดตามการเลือกตั้งที่มหาวิทยาลัยพายัพ พร้อมกับติดตามผลการเลือกตั้งทางโทรทัศน์เช่นเดียวกับหลายท่านในเมืองไทย
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 11 วัน ณ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทั้งนี้ ในการนำเสนอจะเป็นการเล่าตามที่ได้พบได้เห็นและได้สัมผัส ยังไม่ได้มีการสอดแทรกข้อคิดเห็นและความรู้สึกเข้าไปในแต่ละเหตุการณ์ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เนื้อที่มากกว่านี้หลายเท่าและหลายตอน หากมีผู้สนใจและโอกาสอำนวยก็จะหาช่องทางเผยแพร่ต่อไป
*****************
พยนต์ ยศสุพรหม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น