วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เวลา 09.30 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลต่างประเทศ ข้าราชการตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สมาคม ชมรม สโมสร และพสกนิกรชาวเชียงใหม่ ทุกหมู่เหล่า ร่วมกันประกอบพิธีลงนามถวายอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ณ บริเวณโถงด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่วิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลต่างประเทศ ข้าราชการตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สมาคม ชมรม สโมสร และพสกนิกรชาวเชียงใหม่ ทุกหมู่เหล่า ร่วมในพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
จากนั้น เวลา 18.00 น. ที่พุทธสถานเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้นำ 5 ศาสนา ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ อิสลาม คริสต์ พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันลงนามถวายอาลัย และประกอบพิธีทางศาสนาของแต่ละศาสนา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าชาวเชียงใหม่
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้ขอความร่วมมือสถานประกอบการ ร้านอาหาร สถานบันเทิงให้งดการแสดงเพื่อความบันเทิง หรือจัดงานรื่นเริงต่างๆ และขอให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม เป็นต้นไป ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดสถานที่บริเวณห้องโถงด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่, ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เพื่อให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป ได้แสดงความจงรักภักดี ลงนามถวายอาลัย เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. ทุกวัน
ขณะที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่จำหน่ายชุดดำให้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจน และอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภค หรือตรวจสอบพบว่าไม่มีการปิดป้ายแสดงราคา หรือฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่าย ต้องระวางโทษ ดังนี้ กรณีไม่ปิดป้ายแสดงสินค้าหรือบริการมีความผิดตามมาตรา 28(40) ต้องระวางโทษเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่าย ตามมาตรา 29 และ 31 ต้องระวางตามมาตรา 41 จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้บริโภคพบเห็นการไม่ปิดป้ายแสดงราคาหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรแจ้งที่สายด่วน 1569
********************
ส.ปชส.เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น