รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม
VDO conference กับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามผลการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ปี 2555 โดยเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
ซึ่งขณะนี้มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว
48 จังหวัด
วันนี้ (23 เม.ย.55) เวลา 10.00 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ปี 2555 ผ่านระบบ VDO conference กับผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการทุกจังหวัดทั่วประเทศ
รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง
โดยนำเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด (50 ล้านบาท)
มาใช้ในการแก้ไขปัญหาโดยยึดการดำเนินงานตามระเบียบกระทรวงการคลังอย่างเคร่งครัด
หากพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และงบประมาณไม่เพียงพอให้ประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอรับการสนับสนุนงบกลางจากคณะรัฐมนตรี
เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร พร้อมขอให้จังหวัดถือว่าการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและการช่วยเหลือผู้ประสบ
ภัยแล้งเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้กลไกการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ภาคประชาคม และชุมชน เพื่อให้ผู้ประสบภัยแล้งได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและทั่วถึง
อย่างไรก็ตาม
ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว 48 จังหวัด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งระดับจังหวัด
อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ได้กำหนดมาตรการเร่งด่วนให้จังหวัดดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ที่มุ่งเน้นการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตรให้เพียงพอต่อการใช้งาน ส่งเสริมการจ้างแรงงานในหมู่บ้านเพื่อสร้างรายได้และป้องกันการอพยพ
วางแผนป้องกันโรคระบาดและเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในฤดูร้อน รวมทั้งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด วางแผนกิจกรรมการใช้น้ำให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำต้นทุน
เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้วิกฤตภัยแล้งไม่รุนแรงและขยายวงกว้าง
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม VDO Conference กับผู้บริหารระดับสูง
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า
ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 14 อำเภอ ประกอบด้วย
อำเภอดอยหล่อ จอมทอง แม่แจ่ม สันกำแพง สะเมิง แม่ออน ฝาง ดอยเต่า อมก๋อย ฮอด
แม่ริม เวียงแหง พร้าว ไชยปราการ โดยการประปาส่วนภูมิภาคได้ให้ความช่วยเหลือบริการน้ำฟรีตั้งแต่เวลา 11.00 – 15.00 น.ทุกวัน
เริ่มตั้งแต่มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งเพียงไม่กี่อำเภอ ส่วน
กฟผ.ก็เข้าไปช่วยเหลือในบางพื้นที่เช่นกันรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือแล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เน้นย้ำขอความร่วมมือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ได้ร่วมมือกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง สำหรับประชาชนขอความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับสถานการณ์น้ำโดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในเกณฑ์ที่เพียงพอกับการสนับสนุนการเกษตรในช่วงฤดูแล้งนี้
โดยเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 142 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น
53% ของความจุเขื่อน มีการปล่อยน้ำลงเสริมในลำน้ำปิงประมาณ 5
ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำปิงอยู่ที่ 1.25 เมตร
พื้นที่รับน้ำเพื่อการเกษตรที่รับน้ำจากลำน้ำปิงจากจังหวัดเชียงใหม่จนถึงจังหวัดลำพูนไม่มีปัญหาการ ขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด
ในส่วนของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ
121 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 46% ของความจุเขื่อน คาดว่าจะสามารถนำไปบริหารน้ำในช่วงฤดูแล้งนี้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
และคาดว่าสิ้นฤดูฝนนี้จะมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 200 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 79% ของความจุเขื่อน
ซึ่งจะทำให้การเพาะปลูกพืชฤดูถัดไปจะไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำเช่นกัน
...........................................................
ส.ปชส.เชียงใหม่ ภาพ/ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น