ฮือฮา “แม่อุ้ย” วัย 97 ปี เดินตลาดนัดในเมืองเชียงใหม่
หาซื้อผักพื้นบ้านไปแกงเอง เพิ่งได้รางวัลผู้สูงอายุพิเศษดีเด่นของเทศบาล
แนะลูกหลานกินผักเมืองให้มาก ห่างไกลสิ่งเสพติด อายุจะยืนยาว ตั้งเป้าจะอยู่เกิน
100 ปี แต่เงินเก็บก็ไม่เหลือแล้ว ได้รับเงินผู้สูงอายุเพียงเดือนละพันบาท
ที่ตลาดนัดวันศุกร์ชุมชนใจแก้ว ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่
มีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้าหลากหลาย มีทั้งของกินของใช้ อาหารสด ผักต่างๆ
โดยเฉพาะผักพื้นบ้านปลอดสารพิษจากชาวบ้าน อ.แม่ทา จ.ลำพูน ก็ถูกนำมาวางขายให้ชาวเมืองได้จับจ่ายซื้อไปปรุงอาหาร
ขณะที่แผงขายผักของ น.ส.หญิง มีชาวบ้านรุมซื้อผักแซงดา ผักเสี้ยว ผักสำหรับแกงแค
ยอดฟักทอง และเห็ดต่าง ๆ อยู่นั้น ก็พบแม่อุ้ยคนหนึ่งถือไม้เท้าเดินมาถามหา “ผักฮ้วน” แม่ค้าบอกว่าหมดแล้ว และมีคนถามว่าแม่อุ้ยอายุเท่าไร คำตอบที่ทุกคนตะลึงก็คือ
“อุ้ยอายุ 97 ปี อีก 3 ปีจะครบ 100 แล้วนา” ชอบมาซื้อผักพื้นบ้านไปปรุงอาหารเองเป็นประจำ
สอบถามทราบชื่ออุ้ยฟองจันทร์ ปัญญารัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 45/2 ต.วัดเกต
(หลังตลาดหนองหอย) อ.เมืองเชียงใหม่ เกิดวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2459 จะครบ 97
ปีเต็มปลายปีนี้
นางฟองจันทร์
ปัญญารัตน์ หรืออุ้ยจันทร์ เล่าว่า เดิมเป็นคน อ.จอมทอง
เกิดใกล้วัดพระธาตุศรีจอมทอง (ทิศเหนือ) แม่ชื่อตุ่น พ่อชื่อใจ ปัญญาวงค์
เป็นตำรวจ มีพี่น้อง 4 คนชาย 2 หญิง 2 ตายหมดแล้วเหลือแต่อุ้ยจันทร์ เมื่อ 80
ปีก่อนเดินเท้าจากจอมทองเข้ามาหางานทำในเมืองกับแม่
โดยมาเป็นคนงานตำข้าวอยู่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค ต่อมาแต่งงานกับนายแว่น ปัญญารัตน์
(ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ.2502) มีลูก 2 คน คือนายสมนึก ปัญญารัตน์ อายุ
78 ปี เป็นนักดนตรียังรับจ้างเล่นดนตรีอยู่ในเมืองเชียงใหม่ และนางอัมพร พงษ์เจริญ อายุ 74
ปี (สามีคือนายเสรี
พงษ์เจริญ ทำงานสรรพสามิต ถึงแก่กรรมแล้ว)
ปัจจุบันอุ้ยจันทร์อาศัยอยู่กับนางอัมพร แต่ชอบทำกับข้าวเอง เป็นพวกน้ำพริก ผักต้ม
ไม่กินเนื้อสัตว์ กินปลาแทน
แม่อุ้ยจันทร์ ปัญญารัตน์ แนะนำลูกหลานคนรุ่นใหม่ว่า ควรกินอาหารพื้นเมือง
ผักพื้นเมือง เว้นเนื้อสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่ กินผักปลา น้ำพริกหนุ่มน้ำพริกตาแดง
นอกจากมีรสชาติดีแล้วทำให้ไม่เจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆด้วย นอกจากนั้นควรงดเว้นสิ่งเสพติดทั้งหลายที่ทำลายสุขภาพ
สำหรับสุขภาพของอุ้ยจันทร์ปัจจุบันแข็งแรงดี สามารถเดินจากบ้านไปขึ้นรถหน้าตลาดเพื่อไปหาญาติพี่น้องที่ข่วงสิงห์โดยลำพังได้
และเดินจากบ้านมาตลาดนัดไปกลับราว 1 กม.ได้สบายมาก
และเมื่อต้นเดือนเมษายนนี้ไปได้ประกวดสุขภาพผู้สูงอายุของเทศบาลตำบลช้างเผือก
ก็ได้รับรางวัลที่หนึ่งพิเศษ ได้เงินรางวัล 1,000 บาท อุ้ยจันทร์บอกว่า
อายุยืนก็ดีไปอย่าง
แต่เงินที่จะใช้จ่ายไม่เหลือแล้วขายที่บ้านย่านหลังวัดข่วงสิงห์ได้เงินมา 3
ล้านบาทปัจจุบันก็ใช้จ่ายยังชีพจนหมดลงไป
คงมีเงินผู้สูงอายุที่ทางราชการช่วยเหลือเดือนละ 1,000 บาท
ซึ่งก็ได้ไม่ค่อยตรงเวลา ส่วนงานประเพณีสงกรานต์ที่ผ่านมา อุ้ยจันทร์บอกว่าไม่ได้ไปเที่ยว
แต่ไปวัด และหลังสงกรานต์ก็มีคนมาดำหัวกันมาก ต่างอยากจะอายุยืนเหมือนอุ้ย
แต่อุ้ยว่าอายุยืนต้องมาพร้อมกับสุขภาพแข็งแรง ไม่ใช่นอนอยู่บนเตียงเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น