All online

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

ข่าว ; ผวจ.เชียงใหม่ ต้อนรับผู้แทนเขตพิเศษคัน ประเทศญี่ปุ่น กระชับความสัมพันธ์ระดับท้องถิ่น


กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น นำคณะผู้แทนจังหวัดเขตพิเศษคันไซในเขตอาณาจักรของ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือและขยายความร่วมมือ           ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 23 เม.ย.55 ที่ห้องประชุม 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายมานพชัย  วงศ์ภักดี  กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น นำคณะผู้แทนจังหวัดที่เป็นหัวหน้าองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นเขตพิเศษคันไซในเขตอาณาจักรของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา เข้าพบ ม.ล.ปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายคาซึโอะ ชิบาตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ร่วมให้การต้อนรับ  เพื่อประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแสวงหาลู่ทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน และเพื่อนำไปสู่การขยายและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงและประชาชนในระดับท้องถิ่นของประเทศทั้งสองให้มีความใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในปี 2555 เป็นปีที่ครบรอบ 125 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ปัจจุบันมีพลเมืองชาวญี่ปุ่น มาพำนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 9 จังหวัดที่อยู่ใจเขตกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ประมาณ 3,600 คนเศษ มีบริษัทของญี่ปุ่นมาลงทุนในประเทศไทย ทั้งบริษัทขนาดใหญ่ และ SMEs กว่า 6,000 บริษัท ในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 30-40 เป็นนักลงทุนจากเมืองคันไซ นครโอซากา

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การมาเยือนของหัวหน้าองค์กรบริหารท้องถิ่นของเมืองคันไซ  เป็นการเริ่มต้นในมิติที่ดีและน่าปลื้มใจของชาวเชียงใหม่และชาวไทย ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนในระดับท้องถิ่นมากขึ้น รวมถึงจะส่งผลต่อความร่วมมือทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า      การลงทุน การท่องเที่ยวและการศึกษา   ส่วนในด้านการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของ   นักลงทุนต่างชาตินั้น ขณะนี้รัฐบาลไทย ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อบริหารจัดการกับปัญหาอุทกภัยไม้ให่เกิดซ้ำ    ขึ้นอีก เพื่อสร้างความมั่นใจนักลงทุนโดยเฉพาะผู้ประกอบการและนักลงทุนจากญี่ปุ่น
...........................................................
ส.ปชส.เชียงใหม่ ภาพ/ข่าว

ข่าว ; รองนายกรัฐมนตรี ประชุม VDO conference ติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง


รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม VDO conference กับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามผลการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2555 โดยเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งขณะนี้มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว 48 จังหวัด

วันนี้ (23 เม.ย.55) เวลา 10.00 น. นายยงยุทธ  วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2555 ผ่านระบบ VDO conference กับผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการทุกจังหวัดทั่วประเทศ

รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยนำเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด (50 ล้านบาท) มาใช้ในการแก้ไขปัญหาโดยยึดการดำเนินงานตามระเบียบกระทรวงการคลังอย่างเคร่งครัด หากพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และงบประมาณไม่เพียงพอให้ประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอรับการสนับสนุนงบกลางจากคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร พร้อมขอให้จังหวัดถือว่าการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและการช่วยเหลือผู้ประสบ   ภัยแล้งเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้กลไกการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาคม และชุมชน เพื่อให้ผู้ประสบภัยแล้งได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและทั่วถึง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว 48 จังหวัด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ได้กำหนดมาตรการเร่งด่วนให้จังหวัดดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ที่มุ่งเน้นการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตรให้เพียงพอต่อการใช้งาน ส่งเสริมการจ้างแรงงานในหมู่บ้านเพื่อสร้างรายได้และป้องกันการอพยพ วางแผนป้องกันโรคระบาดและเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในฤดูร้อน รวมทั้งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างรวดเร็วและทั่วถึง พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด วางแผนกิจกรรมการใช้น้ำให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำต้นทุน เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้วิกฤตภัยแล้งไม่รุนแรงและขยายวงกว้าง

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม VDO Conference กับผู้บริหารระดับสูง  หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล        ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 14 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอดอยหล่อ จอมทอง แม่แจ่ม สันกำแพง สะเมิง แม่ออน ฝาง ดอยเต่า อมก๋อย ฮอด แม่ริม   เวียงแหง พร้าว ไชยปราการ โดยการประปาส่วนภูมิภาคได้ให้ความช่วยเหลือบริการน้ำฟรีตั้งแต่เวลา  11.00 15.00 น.ทุกวัน เริ่มตั้งแต่มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งเพียงไม่กี่อำเภอ ส่วน กฟผ.ก็เข้าไปช่วยเหลือในบางพื้นที่เช่นกันรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือแล้ว  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เน้นย้ำขอความร่วมมือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมมือกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง สำหรับประชาชนขอความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับสถานการณ์น้ำโดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในเกณฑ์ที่เพียงพอกับการสนับสนุนการเกษตรในช่วงฤดูแล้งนี้ โดยเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 142 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 53% ของความจุเขื่อน มีการปล่อยน้ำลงเสริมในลำน้ำปิงประมาณ 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำปิงอยู่ที่ 1.25 เมตร พื้นที่รับน้ำเพื่อการเกษตรที่รับน้ำจากลำน้ำปิงจากจังหวัดเชียงใหม่จนถึงจังหวัดลำพูนไม่มีปัญหาการ      ขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด

ในส่วนของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 121 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 46% ของความจุเขื่อน คาดว่าจะสามารถนำไปบริหารน้ำในช่วงฤดูแล้งนี้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และคาดว่าสิ้นฤดูฝนนี้จะมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 200 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 79% ของความจุเขื่อน ซึ่งจะทำให้การเพาะปลูกพืชฤดูถัดไปจะไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำเช่นกัน
...........................................................
ส.ปชส.เชียงใหม่ ภาพ/ข่าว

ข่าว ; หอการค้าเชียงใหม่ จับมือ ป.ป.ท. ต้านคอร์รัปชั่น สร้างสรรค์สังคมไทย


หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จัดเสวนาและลงนามบันทึกความร่วมมือ   ร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่น ร่วมสร้างสรรค์สังคมไทย ดำรงและสืบสานเจตนารมณ์อดีตประธานสภาหอการค้าไทย

ที่อาคารเอนกประสงค์ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่  ม.ล.ปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการเสวนา ร่วมต้านคอร์รัปชั่น ร่วมสร้างสรรค์สังคมไทย  และบรรยายพิเศษ ถ่ายทอดประสบการณ์การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในชีวิตราชการ การเสวนาดังกล่าวหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่  ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ท. จัดขึ้น เพื่อหวังกระตุ้นและสร้างจิตสำนึกของความเป็นไทย ค่านิยม เพื่อการต่อต้านและป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องร่วมมือกันและมีส่วนร่วมอย่างสำคัญและบูรณาการในการดำเนินการร่วมกันเพื่อขจัดปัญหานี้ ให้หมดไปจากสังคมไทย   โดยหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นแกนกลางของภาคเอกชนและผู้ประกอบการ     เป็นองค์กรเจ้าภาพหลัก  มุ่งดำรงและสานต่อเจตนารมณ์ของ นายดุสิต นนทนาคร อดีตประธานสภาหอการค้าไทย ที่ได้เริ่มต้นประกาศให้มีการต่อต้านการคอร์รัปชั่นของภาคเอกชน ที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน      ที่ทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างจริงจังและจริงใจด้วย จึงจะสามารถขจัดปัญหาคอร์รัปชั่นของประเทศไทยให้บรรเทาเบาบางลงและหมดไปในที่สุด และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและสายตาของนานาประเทศที่มีต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย

โอกาสนี้ นายณรงค์  คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่  และนายเพิ่มพูน   พึ่งประสิทธิ์  รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือการต่อต้านคอร์รัปชั่น ร่วมสร้างสรรค์สังคมไทย โดยมี ม.ล.ปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นสักขีพยาน และจะมีการขับเคลื่อนการต่อต้านการคอร์รัปชั่นในจังหวัดเชียงใหม่ ให้บังเกิดเป็นรูปธรรมต่อไป
...........................................................

ข่าว ; ประปาส่วนภูมิภาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง


ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค กำชับให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขาทุกแห่ง ดำเนินแผนป้องกันและ    ลดพื้นที่เสี่ยงจากปัญหาภัยแล้ง

นายกิตติ  วิภาสวงศ์ ผู้อำนวยการการประปาส่วนภูมิภาคเขต 9 เปิดเผยว่า นางรัตนา  กิจวรรณ  ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ได้กำชับให้การประปาส่วนภูมิภาคในสังกัดทั้ง 27 แห่ง ให้ดำเนินแผนปฏิบัติการ 3 ด้าน เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงที่เกิดจากปัญหาภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ด้านแหล่งน้ำดิบ ด้านการผลิตและจ่ายน้ำ และด้านการช่วยเหลือประชาชน  ดังนี้

ด้านแหล่งน้ำดิบ ให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขา ปรับปรุงและพัฒนาสระเก็บน้ำให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยมีการขุดลอกตะกอนดิน ตะกอนทรายที่ทับถมบริเวณปากทางเข้ารางชักน้ำดิบ บริเวณท่อทางดูดน้ำแรงต่ำ และมีการทำฝายกั้นน้ำเพื่อที่จะยกระดับน้ำดิบให้สามารถสูบน้ำดิบไปใช้ผลิตน้ำประปาได้

ด้านการผลิตและจ่ายน้ำ ให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขาตรวจสอบสภาพเครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์   ต่าง ๆ ให้มีความพร้อมและเพียงพอต่อการใช้งาน และเพิ่มมาตรการผลิตและจ่ายน้ำประปาให้เข้มงวด โดยเพิ่มปริมาณคลอรีนตามความเหมาะสม สำหรับการประปาส่วนภูมิภาคสาขาที่มีศักยภาพในการเพิ่มกำลังผลิตให้พิจารณาเพิ่มกำลังผลิตอีก ส่วนการประปาส่วนภูมิภาคสาขาที่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบให้ปรับแผนการผลิตและจ่ายน้ำประปาเป็นเวลากรณีจำเป็น

ด้านการช่วยเหลือประชาชน ให้การประปาส่วนภูมิภาคเขต 9 และการประปาส่วนภูมิภาคสาขา พร้อมบริการจ่ายน้ำฟรีเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งหากหน่วยงานใดต้องการ รับน้ำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ขอให้มีหนังสือพร้อมกับแจ้งหมายเลขทะเบียนรถที่จะมารับน้ำด้วย เพื่อเป็นการป้องกันการรับน้ำไปจำหน่าย
...........................................................

วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

ข่าว ; คุณยายวัย 97 ที่ชุมชนหนองหอย จ.เชียงใหม่ ร่างกายยังแข็งแรง


ฮือฮา แม่อุ้ย วัย 97 ปี เดินตลาดนัดในเมืองเชียงใหม่ หาซื้อผักพื้นบ้านไปแกงเอง เพิ่งได้รางวัลผู้สูงอายุพิเศษดีเด่นของเทศบาล แนะลูกหลานกินผักเมืองให้มาก ห่างไกลสิ่งเสพติด อายุจะยืนยาว ตั้งเป้าจะอยู่เกิน 100 ปี แต่เงินเก็บก็ไม่เหลือแล้ว ได้รับเงินผู้สูงอายุเพียงเดือนละพันบาท

ที่ตลาดนัดวันศุกร์ชุมชนใจแก้ว ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้าหลากหลาย มีทั้งของกินของใช้ อาหารสด ผักต่างๆ โดยเฉพาะผักพื้นบ้านปลอดสารพิษจากชาวบ้าน อ.แม่ทา จ.ลำพูน ก็ถูกนำมาวางขายให้ชาวเมืองได้จับจ่ายซื้อไปปรุงอาหาร ขณะที่แผงขายผักของ น.ส.หญิง มีชาวบ้านรุมซื้อผักแซงดา ผักเสี้ยว ผักสำหรับแกงแค ยอดฟักทอง และเห็ดต่าง ๆ อยู่นั้น ก็พบแม่อุ้ยคนหนึ่งถือไม้เท้าเดินมาถามหา ผักฮ้วน แม่ค้าบอกว่าหมดแล้ว และมีคนถามว่าแม่อุ้ยอายุเท่าไร คำตอบที่ทุกคนตะลึงก็คือ อุ้ยอายุ 97 ปี อีก 3 ปีจะครบ 100 แล้วนา ชอบมาซื้อผักพื้นบ้านไปปรุงอาหารเองเป็นประจำ สอบถามทราบชื่ออุ้ยฟองจันทร์ ปัญญารัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 45/2 ต.วัดเกต (หลังตลาดหนองหอย) อ.เมืองเชียงใหม่ เกิดวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2459 จะครบ 97 ปีเต็มปลายปีนี้

นางฟองจันทร์ ปัญญารัตน์ หรืออุ้ยจันทร์ เล่าว่า เดิมเป็นคน อ.จอมทอง เกิดใกล้วัดพระธาตุศรีจอมทอง (ทิศเหนือ) แม่ชื่อตุ่น พ่อชื่อใจ ปัญญาวงค์ เป็นตำรวจ มีพี่น้อง 4 คนชาย 2 หญิง 2 ตายหมดแล้วเหลือแต่อุ้ยจันทร์ เมื่อ 80 ปีก่อนเดินเท้าจากจอมทองเข้ามาหางานทำในเมืองกับแม่ โดยมาเป็นคนงานตำข้าวอยู่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค ต่อมาแต่งงานกับนายแว่น ปัญญารัตน์ (ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ.2502) มีลูก 2 คน คือนายสมนึก ปัญญารัตน์ อายุ 78 ปี เป็นนักดนตรียังรับจ้างเล่นดนตรีอยู่ในเมืองเชียงใหม่ และนางอัมพร พงษ์เจริญ อายุ 74 ปี (สามีคือนายเสรี พงษ์เจริญ ทำงานสรรพสามิต ถึงแก่กรรมแล้ว) ปัจจุบันอุ้ยจันทร์อาศัยอยู่กับนางอัมพร แต่ชอบทำกับข้าวเอง เป็นพวกน้ำพริก ผักต้ม ไม่กินเนื้อสัตว์ กินปลาแทน
 
แม่อุ้ยจันทร์ ปัญญารัตน์ แนะนำลูกหลานคนรุ่นใหม่ว่า ควรกินอาหารพื้นเมือง ผักพื้นเมือง เว้นเนื้อสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่ กินผักปลา น้ำพริกหนุ่มน้ำพริกตาแดง นอกจากมีรสชาติดีแล้วทำให้ไม่เจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆด้วย นอกจากนั้นควรงดเว้นสิ่งเสพติดทั้งหลายที่ทำลายสุขภาพ สำหรับสุขภาพของอุ้ยจันทร์ปัจจุบันแข็งแรงดี สามารถเดินจากบ้านไปขึ้นรถหน้าตลาดเพื่อไปหาญาติพี่น้องที่ข่วงสิงห์โดยลำพังได้ และเดินจากบ้านมาตลาดนัดไปกลับราว 1 กม.ได้สบายมาก และเมื่อต้นเดือนเมษายนนี้ไปได้ประกวดสุขภาพผู้สูงอายุของเทศบาลตำบลช้างเผือก ก็ได้รับรางวัลที่หนึ่งพิเศษ ได้เงินรางวัล 1,000 บาท อุ้ยจันทร์บอกว่า อายุยืนก็ดีไปอย่าง แต่เงินที่จะใช้จ่ายไม่เหลือแล้วขายที่บ้านย่านหลังวัดข่วงสิงห์ได้เงินมา 3 ล้านบาทปัจจุบันก็ใช้จ่ายยังชีพจนหมดลงไป คงมีเงินผู้สูงอายุที่ทางราชการช่วยเหลือเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งก็ได้ไม่ค่อยตรงเวลา ส่วนงานประเพณีสงกรานต์ที่ผ่านมา อุ้ยจันทร์บอกว่าไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปวัด และหลังสงกรานต์ก็มีคนมาดำหัวกันมาก ต่างอยากจะอายุยืนเหมือนอุ้ย แต่อุ้ยว่าอายุยืนต้องมาพร้อมกับสุขภาพแข็งแรง ไม่ใช่นอนอยู่บนเตียงเท่านั้น

วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2555

ข่าว ; เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นำ “น้ำหวาน” ช้างแสนรู้ ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจัดขบวนรถแห่ประชาสัมพันธ์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ นำโดย ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อม น้องน้ำหวานช้างแสนรู้ และสาวสวย Brand Ambassador บริเวณคูเมืองเชียงใหม่ เริ่มจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ไปตามถนนเชียงใหม่-หางดง ผ่านหน้าโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ และจอดจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ณ บริเวณหน้าหอสมุดแห่งชาติ

บรรยากาศการเล่นน้ำเป็นไปด้วยความสนุกสนาน โดยทีมงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ร่วมเล่นน้ำกับนักท่องเที่ยวที่ขับขี่รถผ่านไปมาด้านหน้าหอสมุดแห่งชาติ บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่  และน้องน้ำหวาน”  ช้างแสนรู้ เพศเมีย วัย 8 ปี ที่ใช้งวงจับปืนฉีดน้ำเล่นน้ำกับนักท่องเที่ยว เป็นที่สนุกสนาน ซึ่งหากนักท่องเที่ยวที่อยากจะสัมผัสความน่ารักนี้ก็สามารถแวะเวียนมาเล่นน้ำสงกรานต์กับช้างแสนรู้ได้ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ระหว่างวันที่ 13-16 เมษายน 2555 เวลา 18.00 น.

นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 13-16 เมษายน นี้  เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้จัดงาน ม่วนอ๊กม่วนใจ๋ สืบสานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง แอ่วเจียงใหม่ไนท์ซาฟารีจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวแต่งกายชุดพื้นเมือง มีการสรงน้ำพระ กาดหมั้วครัวฮอม การแสดงพื้นเมือง ชมการทำผลิตภัณฑ์พื้นบ้านจากชุมชน และชมพิธีสุมาลาโทษรดน้ำดำหัว ดร.เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ในวันที่ 16 เมษายน 2555 ซึ่งขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมในพิธีในวันดังกล่าว

ทั้งนี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้แต่งกายชุดพื้นเมือง รับส่วนลด 50 บาท วันที่ 13-15 เมษายน และคนเกิดวันที่ 13-15 เมษายน เที่ยวฟรี 13-15 เมษายน  ส่วนคนที่เกิดเดือนเมษายน รับส่วนลด 50% สำหรับนั่งรถชมสัตว์ตลอดเดือนเมษายน 2555

ข่าว ; วันที่สามของการรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน

วันที่สามของการรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นผู้สูงอายุวัย 85 ปี ในขณะที่จำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุสะสม 40 ครั้ง บาดเจ็บรวม 44 ราย และการดำเนินการจับกุมผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรตามฐานความผิดหลัก 152 ครั้ง

เวลา 10.00 น. วันนี้ (14 เม.ย.55) ณ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2555 จังหวัดเชียงใหม่ นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ ฯ ครั้งที่ 4/2555 เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุมาวิเคราะห์เพื่อวางมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 3 มี 19 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 22 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คน อายุ 85 ปี เหตุเกิดเวลาประมาณ 20.00 น. สาเหตุจูงรถจักรยานข้ามถนนถูกรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนหน้าที่ว่าการอำเภอแม่แตง  ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล  และเมื่อจัดลำดับในระดับประเทศแล้ว สถิติการเกิดอุบัติเหตุของจังหวัดเชียงใหม่เป็นลำดับที่ 9 เรียงตามจำนวนผู้บาดเจ็บเป็นลำดับที่ 9 และเรียงตามจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นอันดับที่ 38 ของประเทศ

สำหรับผลการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 มีการตรวจจับผู้กระทำผิดฐาน 10 ความผิดหลัก จำนวน 152 ครั้ง ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงและประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ และรถปิคอัพ โดยเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดในวันที่สามเป็นถนนทางหลวงแผ่นดิน 9 ครั้ง และห้วงเวลาการเกิดเหตุมากที่สุดเป็นห้วงเวลา 16.00-20.00 . จำนวน 6 ครั้ง สถิติสะสม 3 วัน พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ เกิดอุบัติเหตุ รวม 40 ครั้ง บาดเจ็บ 44 ราย ตาย 1 ราย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ข้อสังเกตว่า กรณีผู้เสียชีวิต เป็นผู้สูงอายุวัย 85  ปี น่าจะเป็นอุทาหรณ์เพื่อให้สื่อมวลชน นำไปประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนว่าบุตรหลานหรือญาติ ไม่ควรปล่อยให้ผู้สูงอายุเดินทางโดยลำพังโดยเฉพาะในยามค่ำคืน พร้อมขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนง รวมถึงประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ว่าเป็นผู้ที่มีความประมาท ขาดน้ำใจ ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ทุกคนมีความตระหนักและร่วมมือกันในการรณรงค์เพื่อทำให้สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์ อย่างที่หลายฝ่ายร่วมมือกันดำเนินการอยู่ในขณะนี้กระทงตามประเพณีและท่องเที่ยวทางน้ำ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 สาขาเชียงใหม่ จึงได
...........................................................

ข่าว ; เชียงใหม่กำหนดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555

เชียงใหม่กำหนดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 เริ่มดำเนินการรับจำนำตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนเป็นต้นมา เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ติดต่อจำนำข้าวเปลือกได้ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.ทุกวัน

หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 เห็นชอบมาตรการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ระยะเวลารับจำนำวันที่ 1 มีนาคม 2555 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2555 และภาคใต้วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม2555 โดยให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รับฝากข้าวเปลือกและออก   ใบประทวนสินค้า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับจำนำประทวนสินค้าที่ อ.ต.ก. หรือ อคส. ออกให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อให้การรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 บรรลุตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล และให้ประโยชน์ตกถึงเกษตรกรอย่างแท้จริง จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 จำนวน 1 แห่ง โดยเริ่มดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือกตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2555 เวลา 08.00 18.00 น. จำนวน 1 จุด ได้แก่ หจก.เชียงใหม่อินเตอร์ไรซ์ เลขที่ 119 หมู่ 3 ตำบลสันปูเลย อำเภอ       ดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 ผู้ประสงค์จะจำนำข้าวเปลือกนาปรัง สามารถติดต่อ   ขอใบรับรองเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2555 ได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และขอหนังสือรับรองความเป็นลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินการจำนำข้าวเปลือก ณ จุดรับจำนำข้างต้น ทั้งนี้ จุดรับจำนำจะมีสัญลักษณ์ธงสีฟ้า “กขช.” มีป้ายประชาสัมพันธ์เป็นจุดรับจำนำที่ข้าวร่วมโครงการฯ กับหน่วยงาน อ.ต.ก. หรือ อคส. มีเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก. หรือ อคส. ตัวแทนข้าราชการ ตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับแต่งตั้งจากจังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยปฏิบัติงานอยู่ประจำจุดรับจำนำทุกวันตลอดระยะเวลาการรับจำนำในแต่ละวัน หากเกษตรกรนำข้าวเปลือกไปจำนำที่โรงสีหรือท่าข้าวซึ่งจังหวัดไม่ได้ประกาศให้เป็นจุดรับจำนำ จะไม่สามารถออก   ใบประทวนและเบิกจ่ายเงินกับ ธ.ก.ส. ได้ และหากพบเห็นการทุจริต สวมสิทธิ เอาเปรียบเกษตรกร หรือพบเห็นสถานที่ใดแจ้งว่าเปิดเป็นจุดรับจำนำนอกเหนือจากสถานที่ดังกล่าวข้างต้น ขอให้แจ้งที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5311-2613, 0-5311-2617  สำนักงานการค้าภายในจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์  0-5311-2659-61 ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สถานีตำรวจทุกแห่งในพื้นที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ หรือสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
...........................................................

ข่าว ; เชียงใหม่เพิ่มมาตรการความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์

จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันหยุดราชการต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะสถานที่สาธารณะควบคู่กับการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ปี 2555

นายชูชาติ  กีฬาแปง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการต่อเนื่องหลายวัน ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนารวมถึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ และร่วมกิจกรรมป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่เป็นจำนวนมาก จึงอาจมีผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสก่อเหตุสร้างสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ  แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญในพื้นที่โดยเฉพาะสถานที่สาธารณะที่ประชาชนรวมตัวกันหนาแน่น อาทิ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน หรือสถานที่จัดกิจกรรมฉลองเทศกาลสงกรานต์ โดยให้ดำเนินการควบคู่กับการอำนวยความสะดวก เพื่อมิให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก หรือส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว มีการจัดเตรียมแผนหรือมาตรการรองรับสถานการณ์และซักซ้อมการปฏิบัติ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและมีการจัดเทศกาลสงกรานต์เป็นประจำทุกปี รวมทั้งดำเนินมาตรการทางการข่าว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่อาจก่อเหตุกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันเหตุอย่างต่อเนื่อง

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในห้วงเทศกาลสงกรานต์หรือป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จังหวัดเชียงใหม่ในฐานะเจ้าบ้านได้ขอความร่วมมือสถานีวิทยุกระจายเสียงในพื้นที่ทุกแห่ง รณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือ  พี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน ร่วมต้อนรับแขกผู้มาเยือน อำนวยความสะดวกด้วยอัธยาศัยไมตรีตามวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม รักษาความสะอาด เก็บกวาดสิ่งปฏิกูลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย รวมทั้งช่วยเหลือทางราชการ สอดส่องดูแล รักษาความปลอดภัย ป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจเข้ามาฉวยโอกาสสร้างความเดือดร้อนให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อภาพพจน์ที่ดีงามของจังหวัดเชียงใหม่โดยรวม และที่สำคัญขอความร่วมมือเล่นน้ำสงกรานต์ตามขนบธรรมเนียมประเพณีล้านนา เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน รวมทั้งสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวซึ่งจะเป็นสื่อบุคคลในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่แก่ผู้อื่นต่อไปด้วย
...........................................................

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

ข่าว ; แม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท จัดงาน Thank You Agent and Press 2012

ฝ่ายขายและการตลาดพร้อมทีมงานบริหาร สนามแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท ได้จัดงาน Thank You Agent and Press 2012 เพื่อเป็นการขอบคุณบริษัททัวร์ และสื่อมวลชนผู้ให้การสนับสนุนในกิจกรรมต่างๆ ของสนามเป็นอย่างดี โดยได้จัดงานตีกอล์ฟเชื่อมความสัมพันธ์ และงานเลี้ยงขอบคุณ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2555 ณ สนามแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท

โดยในโอกาสนี้คุณเฉลิมพล ชูชาติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด สนามแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท ได้แจ้งข่าวให้ทราบว่า สนามฯได้มีการปรับปรุงในหลายๆส่วนในปีที่ผ่านมา อาทิ การปรับเปลี่ยนพันธ์หญ้าบนกรีน ซึ่งในช่วงโลซีซั่นของปีนี้ทางสนามมีจะการปรับเปลี่ยน อีกจำนวน 5 หลุม และสำหรับการขยายห้องอาหารคลับเฮ้าส์ การขยายห้องล็อคเกอร์ ขณะนี้ได้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการ

ซึ่งภายในงาน Thank You Agent and Press 2012 ได้มีผู้โชคดีคือ Mr.You Hyoung Sik จากบริษัท วิง ทราเวล จำกัด สามารถทำโฮอินวัล ได้ในหลุม 2 พาร์ 3 ระยะ 169 หลา และคุณภาณุเมศ  ตันรักษา สื่อมวลชนจากสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ผู้โชคดีรางวัล Lucky Draw ได้รับรางวัลถุงกอล์ฟ

ข่าว ; เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ชื่อลูกเสือขาว “ฮ้องขวัญ,ปั๋นปอน”

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีตัดสินการตั้งชื่อลูกเสือขาว โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และสื่อมวลชนร่วมคัดเลือก

ดร.ศราวุฒิ  ศรีศกุน ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า กิจกรรมการตั้งชื่อลูกเสือโคร่งขาวของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีผู้สนใจจากทั่วประเทศไทย ได้ส่งรายชื่อเข้ามาจำนวนกว่า 700 รายชื่อ  ทั้งนี้ชื่อที่จะได้รับการคัดเลือก จะต้องเป็นชื่อที่สื่อความหมายถึงความเป็นล้านนา เนื่องจากลูกเสือโคร่งขาวทั้งสองตัวนี้เกิดที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ในดินแดนล้านนา

สำหรับชื่อที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นชื่อของลูกเสือโคร่งขาว คือ ฮ้องขวัญ,ปั๋นปอนซึ่งคณะกรรมการได้ลงความเห็นว่าเป็นชื่อที่สื่อถึงวัฒนธรรมประเพณีของชาวล้านนา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันดีงามที่ควรค่าในการรักษาและเผยแพร่ให้ชาวไทยในทุกภาคส่วนได้รู้จัก ที่สำคัญ การ ปั๋นปอนเป็นวัฒนธรรมของชาวเหนือ ชาวล้านนา ที่เป็นการแสดงออกถึงความเมตตาของผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีต่อผู้น้อย โดยการให้พรในประเพณีรดน้ำดำหัว ในเทศกาลวันสงกรานต์     โดยผู้โชคดีที่ตั้งชื่อคือ  นางสาวพัลลภา ขำพ่วง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 233/7  หมู่บ้านรวมโชคเพลส  ถนนวงแหวนรอบกลาง  อ.เมือง จ.เชียงใหม่   ซึ่งจะได้รับบัตรเข้าชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีฟรี  พร้อมผู้ติดตาม จำนวน 2 คน ฟรี 1 ปี พร้อม Gife Vourcher สำหรับการรับประทานอาหารร้านยีราฟ มูลค่า 5,000 บาท

ภายหลังการตัดสินการตั้งชื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ ดร.ศราวุฒิ  ศรีศกุน ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับนักท่องเที่ยวและช้างแสนรู้ น้องน้ำหวานที่นำกระบวยตักน้ำใส่มือของพ่อเมืองเชียงใหม่และผู้นำของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สร้างความประทับใจและสนุกสนานแก่นักท่องเที่ยวและผู้ที่พบเห็น

ข่าว ; ผวจ.เชียงใหม่ ติดตามการขุดลอกลำน้ำขานแก้ปัญหาน้ำท่วมอำเภอสันป่าตอง

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  ลงพื้นที่อำเภอสันป่าตอง ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ที่ได้รับมอบหมายภารกิจให้ทำการขุดลอกแหล่งน้ำเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยตามนโยบายรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

ม.ล.ปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  พร้อมด้วยประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ และสื่อมวลชนหลายแขนง  ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชากองทัพไทย ซึ่งได้รับมอบหมายภารกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลให้ทำการขุดลอกแหล่งน้ำเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย พื้นที่ต้นน้ำ    กลางน้ำและปลายน้ำ โดยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการขุดลอกรวมจำนวน 33 โครงการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจเยี่ยมการขุดลอกลำน้ำขาน ที่ตำบลท่าวังพร้าว อำเภอสันป่าตอง ซึ่งดำเนินการขุดลอกโดยกองพันพัฒนาที่ 3 ลำน้ำขานเป็นลำน้ำสาขาที่สำคัญของลำน้ำปิง ความยาว 32 กิโลเมตร ไหลผ่านพื้นที่ตำบลน้ำบ่อหลวง ตำบลบ้านแม และตำบลท่าวังพร้าว สภาพปัจจุบันตื้นเขิน มีฝายทดน้ำตลอดนลำน้ำ 8 ฝาย โดยหน่วยทหารพัฒนา จะเข้าทำการขุดลอกทั้งหน้าฝายและหลังฝาย เป็นระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2555 หรือก่อนฤดูฝนที่จะถึงนี้ การขุดลอกดังกล่าวจะเป็นการเปิดทางน้ำให้ไหลลงสู่ลำน้ำปิงเป็นแนวตรง มีการปรับระดับท้องน้ำ ปรับสันดอนบริเวณกลางน้ำ เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านสะดวก และไม่กัดเซาะ ตลิ่งทั้งสองข้าง ขณะนี้ได้ดำเนินการขุดลอกไปกว่าร้อยละ 67 แล้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยทหารทุกนายที่ได้ตั้งใจทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต้นน้ำ รวมทั้งขอบคุณประชาชนในพื้นที่ที่ได้เป็นกำลังใจและให้ความร่วมมือกับทางราชการในการร่วมกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอย่างดี

ข่าว ; ทีมวิจัยคณะวิทย์ มช. รับรองน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ เล่นสงกรานต์ได้

คูเมืองเชียงใหม่เป็นแหล่งน้ำที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสงกรานต์กันมากที่สุดเมื่อเทียบกับแหล่งน้ำอื่นๆ เนื่องจากมีชัยภูมิที่เหมาะสม การคมนาคมสะดวก คูเมืองมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมที่สามารถเดินติดต่อถึงกัน  ถนนหนทางรอบคูเมืองใหญ่โตกว้างขวาง มีร่มไม้เป็นระยะๆ ทำให้ร่มรื่น เย็นสบาย นอกจากนั้นปูชนียสถานรอบคูเมืองยังทำให้มองดูขลัง น่าเลื่อมใส เทศบาลนครเชียงใหม่เองก็พยายามตกแต่งรอบคูเมืองให้ดูดี  สะอาดสะอ้านเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์มาโดยตลอด แต่สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งซึ่งจะมองข้ามไปไม่ได้ทีเดียวก็คือคุณภาพน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ ซึ่งต้องมีคุณภาพดีและปลอดภัยเพื่อให้นักท่องเที่ยวสบายใจในการนำน้ำในคูเมืองมาสาดเล่นกันในช่วงเทศกาลนี้

ในปีนี้ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ระบายน้ำจากคลองชลประทานลงสู่คูเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2555 เพื่อผันน้ำในคูเมืองเดิมๆ ซึ่งมีคุณภาพไม่ดีนักให้ออกไปยังแม่น้ำปิง ซึ่งก็ทำให้คุณภาพน้ำดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้นในคูเมืองทั้ง 4 ด้าน ยังมีน้ำพุ และกังหันชัยพัฒนาเปิดตลอดทำให้ออกซิเจนสามารถละลายลงไปในน้ำได้มากขึ้น  ช่วยทำให้คุณภาพน้ำดีขึ้นอีกทางหนึ่ง

ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย รองศาสาตราจารย์ ดร.ยุวดี   พีรพรพิศาล ร่วมกับ คณาจารย์สาขาวิชาจุลชีววิทยาและนักศึกษาในห้องปฏิบัติการวิจัยสาหร่ายประยุกต์ได้ทำการตรวจคุณภาพน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่เทศบาลนครเชียงใหม่ยังไม่ผันน้ำเข้าสู่คูเมือง และตรวจมาเป็นระยะจนถึงใกล้วันสงกรานต์ พบว่า คุณภาพน้ำในคูเมืองทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านประตูเชียงใหม่ ประตูสวนดอก ประตูช้างเผือก และประตูท่าแพ  ก่อนที่เทศบาลนครเชียงใหม่จะผันน้ำลงสู่คูเมืองมีคุณภาพปานกลางถึงไม่ดี  แต่เมื่อเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ผันน้ำลงสู่คูเมืองแล้ว น้ำมีคุณภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีรายละเอียดดังนี้

ในวันที่ 6 เมษายน 2555 คุณภาพน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ด้านประตูเชียงใหม่และประตูท่าแพดีขึ้น โดยจัดอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งถือว่าน่าพอใจมาก ส่วนทางด้านประตูสวนดอกและประตูช้างเผือกคุณภาพน้ำยังไม่ดีขึ้นมากนัก แต่ในการศึกษาคุณภาพน้ำในวันที่ 10 เมษายน 2555 คุณภาพน้ำในคูเมืองด้านประตูสวนดอกและประตูช้างเผือกดีขึ้นจนอยู่ในระดับปานกลางเช่นเดียวกับอีก 2 ด้านและเทศบาลนครเชียงใหม่ก็ยังจะผันน้ำเข้าสู่คูเมืองจนถึงวันสงกรานต์ ดังนั้นนับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2555 เป็นต้นไป จนถึงเทศกาลสงกรานต์น้ำในคูเมืองเชียงใหม่ ทั้ง 4 ด้านจะมีคุณภาพดีขึ้นทั้งทางกายภาพ เคมีและชีวภาพ

สำหรับโคลิฟอร์มแบคทีเรียรวมซึ่งเป็นแบคทีเรียในระบบทางด้านอาหารและในสภาพอื่นๆ พบว่าน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ทั้ง 4 ด้านอยู่ในระดับปลอดภัย โดยมีค่าไม่เกิน 5,000 MPN ต่อ 100 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นค่าที่ยอมรับได้สำหรับแหล่งน้ำทั่วไป

โดยภาพรวมแล้วคุณภาพน้ำด้านประตูท่าแพจะดีที่สุด รองลงมาคือ ประตูเชียงใหม่  ประตูสวนดอกและประตูช้างเผือก  คาดว่าในวันใกล้เทศกาลสงกรานต์  คุณภาพน้ำจะดีขึ้นเรื่อยๆ  เนื่องจากมีการระบายน้ำจากคลองชลประทานลงสู่คูเมืองเชียงใหม่ ตลอดเวลา  เป็นการไล่น้ำไม่ดีออกไปและเติมน้ำที่ดีเข้ามาในคูเมือง มีผลให้คุณภาพน้ำในคูเมืองดีขึ้น  โดยสรุปแล้วเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์คุณภาพน้ำในคูเมืองทั้ง  4 ด้าน จะอยู่ในระดับปานกลาง  และแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหารมีปริมาณน้อย  นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ได้อย่างปลอดภัยแต่ก็ไม่ควรให้น้ำเข้าตาหรือเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารจะดีที่สุด

ข่าว ; เชียงใหม่เริ่มการเตรียมงานจัดแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 41

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง เตรียมออกประกาศจังหวัดเชียงใหม่ แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 41 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพปลายปีนี้

นายชูโชค  ทองตาล่วง  ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่  10 เมษายน 2555 นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชิญผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 5 คลังจังหวัดเชียงใหม่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ และผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่  เข้าร่วมหารือที่ห้องทำงานศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่  เพื่อพิจารณาร่างประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 41  ตรวจสอบ แก้ไข เพิ่มเติม รายชื่อคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ตามที่ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่  ได้ยกร่าง ซึ่งมีทั้งหมด 20 คณะ ให้มีความเหมาะสม ถูกต้อง และครบถ้วนสมบูรณ์ให้มากที่สุด เพื่อจะได้นำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พิจารณาลงนามแต่งตั้งต่อไป หลังจากนั้น จังหวัดจะได้มีการเชิญประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขัน โดยเร็ว เพื่อวางแผน และกำหนดกรอบการดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากจังหวัด ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และหากที่ประชุมเห็นว่ายังขาดหรือรายชื่อคณะกรรมการในแต่ละฝ่ายยังไม่ครบถ้วนก็สามารถแต่งตั้งเพิ่มเติมในภายหลัง

จังหวัดเชียงใหม่  ได้รับเกียรติจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 41  ระหว่างวันที่ 9-19 ธันวาคม 2555 และเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 31 ต่อจากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติอีกด้วย

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

ข่าว ; Mae Jo Golf Club 3 Club Member Challenge 2012

แม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท กำหนดจัดกิจกรรมการแข่งขันกอล์ฟเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก ในรายการ MaeJo Golf  3 Club Member Challenge 2012 ในวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555 เวลา 13.00 น. ค่าลงทะเบียนร่วมการแข่งขัน สมาชิก 1,250 บาท แขกของสมาชิก 1,500 บาท โดยได้รวมกรีนฟี แคดดี้ งานเลี้ยงอาหารเย็นพร้อมเครื่องดื่มและของที่ระลึก

นอกจากนั้น สำหรับนักกอล์ฟที่สนใจสมัครเป็นสมาชิกสนามแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์รีสอร์ท นอกจากท่านจะได้รับสิทธิตีกอล์ฟในราคาสุดพิเศษแล้วยังสามารถรับสิทธิพิเศษอื่นๆอีกมากมาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-5335-4431-2 หรือที่ E-mail:info@maejogolfclub.com

Mae Jo Golf Club 3 Club Member Challenge 2012. Sunday April 29th, 2012. T – Off Time Start 1 pm.
Registration Fee for Member: 1,250 THB.
Registration Fee for Guest Member: 1,500 THB.
* including Green Fee, Caddie Fee, Dinner Party, Draft Bear and Souvenir
For more information please contact Pro shop Staff or Tel. 0 5335 4431 E-mail:info@maejogolfclub.com

ภาพข่าว ; กอล์ฟการกุศล “ร่วมน้ำใจเพื่อพลศึกษา”


ดร.ณัฐ อินทราปาน  เปิดงานกอล์ฟการกุศล ร่วมน้ำใจเพื่อพลศึกษา ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และร่วมถ่ายภาพก่อนออกรอบ ณ. สนามกอล์ฟเมืองแก้ว เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2555

ข่าว ; จังหวัดเชียงใหม่เชิญชวนร่วมพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ

จังหวัดเชียงใหม่เชิญชวนปวงชนชาวไทยร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์และไว้ทุกข์งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ระหว่างวันที่ 8 10 เมษายน 2555 โดยจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับอำเมืองและอำเภอแม่ออน กำหนดสถานที่ถวายดอกไม้จันทน์ ณ วัดสวนดอก (พระอารามหลวง) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 9 เมษายน 2555 เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ส่วนอีก 23 อำเภอ กำหนดสถานที่ถวายดอกไม้จันทน์แล้วเช่นกัน

นายวรการ  ยกยิ่ง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า รัฐบาลกำหนดจัดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ระหว่างวันที่ 8 10 เมษายน 2555 โดยให้ทุกจังหวัด/อำเภอ จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่าง ๆ ในส่วนภูมิภาคในวันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2555 เวลา 16.00 น. พร้อมกันกับส่วนกลาง ซึ่งจัดขึ้น ณ พระเมรุ ท้องสนามหลวง ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2555 เห็นชอบเรื่องการกำหนดวันหยุดและการไว้ทุกข์งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ โดยในห้วงระหว่างวันที่ 8 10 เมษายน 2555 เชิญชวนประชาชนร่วมไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วัน ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และสถานศึกษาทุกแห่งลดธงครึ่งเสา     ขอความร่วมมือสถานบริการต่าง ๆ ให้งดหรือลดการแสดงเพื่อความบันเทิง และขอความร่วมมือสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ควบคุมดูแลรายการที่ออกอากาศให้เหมาะสม ส่วนวันที่ 9 เมษายน 2555 กำหนดให้เป็นวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี และถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่าน จังหวัดเชียงใหม่จึงขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติ ครม. ดังกล่าว และเชิญชวนประชาชนชาวเชียงใหม่ร่วมไว้ทุกข์ระหว่างวันที่ 8 10 เมษายน 2555 ในส่วนของวันที่ 9 เมษายน 2555 จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสถานที่ที่เหมาะสมในการถวายดอกไม้จันทน์ไว้ทุกอำเภอ ส่วนในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ร่วมกับอำเภอเมืองเชียงใหม่ และ อำเภอแม่ออน  กำหนดจัดขึ้น ณ วัดสวนดอก (พระอารามหลวง) เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยมีหม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี ซึ่งจะมีการแสดงโขนหน้าไฟ สมโภชงานออกพระเมรุของนักศึกษาวิทยาลัยนาฎศิลป์เชียงใหม่ด้วย

สำหรับอีก 23 อำเภอกำหนดสถานที่ถวายดอกไม้จันทน์ ดังนี้ 1. วัดแม่อายหลวง หมู่ที่ 5 บ้านแม่อายหลวง อำเภอแม่อาย 2. วัดจันทร์ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านจันทน์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา 3. วัดกู่  บ้านสันหนอง  หมู่ที่ 3  ตำบลช่างเคิ่ง  อำเภอแม่แจ่ม 4. วัดช่อแล หมู่ที่ 1 ตำบลช่อแล อำเภอแม่แตง 5. วัดสหกรณ์แปลง 2 หมู่ที่ 6 ตำบลเขื่อนผาก อำเภอพร้าว 6. วัดพระธาตุดอยสะเก็ด ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด 7. วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร  หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง 8. วัดอินทราราม  หมู่ที่ 7 ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว 9. สนามกีฬาอำเภอฝาง หมู่ที่ 3 ตำบลเวียง อำเภอฝาง 10. วัดป่าไม้แดง หมู่ที่ 9 ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ11. วัดห้วยเกี๋ยง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย 12.  วัดรังษีสุทาราม  หมู่ที่ 2 ตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง 13. วัดสะเมิง หมู่ที่ 3 ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง 14. วัดสันติสุข  หมู่ที่ 7 ตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า  15.  วัดหนองตอง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองตอง อำเภอหางดง 16.  วัดอินทราราม (แม่ทัง) หมู่ที่ 5 บ้านแม่ทัง ตำบลหางดง อำเภอฮอด 17. วัดพระนอนปาเก็ดถี่   หมู่ที่ 4 ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี 18. วัดแสนทอง หมู่ที่ 9 ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย  19.  วัดลัฎฐิวัน (พระนอนขอนตาล) หมู่ที่ 3 ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม 20. วัดร้องวัวแดง อำเภอสันกำแพง  21. วัดโขงขาว ตำบลสองแคว อำเภอดอยหล่อ 22.วัดป่าเจริญธรรม  หมู่ที่ 15 ตำบลยุหว่า อำเภอสันป่าตอง 23. วัดกองลม  ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง

ดังนั้นจึงขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในวันดังกล่าวโดยพร้อมกัน 
...........................................................

ข่าว ; ชาวอินเดียยกหมู่บ้านมาดูงานเศรษฐกิจพอเพียงที่เชียงใหม่

นายทองสุข พระบาง พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ในวันที่ 4 เมษายน 2555 เวลา 09.30 น. เอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย และคณะผู้แทนจาหมู่บ้านชาวไทผาเก รัฐอัสสัม สาธารณรัฐอินเดียว ประมาณ 20 คน จะเดินทางมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับศึกษาดูงานหมู่บ้านเสรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดได้กำหนดให้คณะดูงานที่หมู่บ้านป่าสักน้อย หมู่ที่ 3 ต.แม่ปูคา อ.สันกำแพง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบล่าสุดของจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับการรับรองจากนายโชคดี อมรวัฒน์ นายอำเภอสันกำแพง และพระครูวิมลญาณประยุต เจ้าคณะอำเภอสันกำแพง ว่าเป็นหมู่บ้านที่มีการนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างได้ผล และประชาชนมีความสมานสามัคคีเป็นอย่างดี

ผู้สื่อข่าวรุดไปหมู่บ้านดังกล่าวพบนายศรีทน ก๋ามะโน ผู้ใหญ่บ้านป่าสันน้อย หมู่ 3 ต.แม่ปูคา ได้รับการเปิดเผยว่า ทางหมู่บ้านได้รับหนังสือจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแล้ว และกำลังเตรียมการต้อนรับคณะผู้แทนจากหมู่บ้านไทผาเก จากอินเดีย ซึ่งได้รับทราบข้อมูลว่าเป็นหมู่บ้านชาวพุทธที่มีความคล้ายคลึงกับบ้านป่าสักน้อยมาก การมาดูงานครั้งนี้ ก็จะดูสภาพแวดล้อม การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ การจัดทำคุ้ม(ป๊อก)บ้าน การปลูกพืชผักสวนครัว ริมรั้วริมถนน การทำของที่ระลึกไม้จักสาน ทำข้าวแคบข้าวแต๋น ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีความชำนาญมานับร้อยปีแล้ว พร้อมกับดูงานที่วัดป่าสักน้อย ซึ่งเป็นศูนย์รวมของชาวบ้าน ดูงานกิจกรรมเยาวชน กลุ่มรอยยิ้ม ที่รวมตัวกันเก็บขยะในหมู่บ้านเป็นประจำ เป็นต้น

หมู่บ้านป่าสักน้อย เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบของจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2554 มีนายศรีทน ก๋ามะโน เป็นผู้ใหญ่บ้าน อดีตเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสักน้อย เมื่อลาสิกขาออกมาสมัครเป็นสมาชิกสภาเทศบาล เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาเทศบาล และรองนายกเทศมนตรีมาแล้ว เมื่อตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านว่างจึงลงสมัคร และนำชาวบ้านพัฒนาหมู่บ้านเช่นในอดีตที่เคยเป็นเจ้าอาวาสอีกครั้ง สมัยนั้นเป็นหมู่บ้านตัวอย่างของจังหวัดเชียงใหม่มาก่อนแล้ว.

ข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

ข่าว ; ชาวดอยสะเก็ดประกอบพิธีมหาพุทธภิเษกพระกริ่งสิงห์ 1 ชนะมารครั้งใหญ่

ชาวตลาดใหญ่ดอยสะเก็ด กำหนดประกอบพิธีมหาพุทธภิเษกใหญ่พระกริ่งสิงห์ 1 ชนะมารครั้งใหญ่ ได้ฤกษ์ดีจันทร์ที่ 9 เมษายน นิมนต์เกจิอาจารย์ทั่วลานนาร่วมปลุกเสก พร้อมวัตถุมงคลอื่นๆ 14 รายการ รายได้เพื่อสร้างวิหารหลวงที่ค้างคาอยู่ให้สำเร็จ ขณะนี้มีคนจองจำนวนมาก ถือเป็นสิริมงคลรับปีใหม่เมือง

ที่วัดสุนทรศิริ หรือวัดแม่ก๊ะ ต.ตลาดใหญ่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่พระอธิการชูชาติ สุธัมโม เจ้าอาวาสพร้อมคณะกรรรมการ และศรัทธาวัดได้ตระเตรียมงานใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 เมษายนนี้ โดยจะเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกพระกริ่งชนะมาร และวัตถุมงคลอื่นๆ พร้อมกับอาราธนานิมนต์พระเกจิดังๆทั่วลานนามาประกอบพิธี ทั้งนี้เพื่อหารายได้สมทบการก่อสร้างวิหารหลวง ที่ค้างคามาตั้งแต่ปี 2548 ให้แล้วเสร็จ ซึ่งเจ้าอาวาสได้กล่าวว่า วัดแม่ก๊ะใต้มีอายุถึงปัจจุบัน 330 ปีแล้ว เมื่อปี 2548 ได้รื้อวิหารเดิมอายุ 150 ปีที่ชำรุดทรุดโทรมแล้วสร้างขึ้นใหม่ การก่อสร้างขณะนี้คืบหน้าไปกว่า 70% ใช้งบประมาณไปแล้ว 7 ล้านบาทยังขาดอีกราว 3 ล้านบาท

คณะสงฆ์ คณะกรรมการวัดสุนทรศิริ และศรัทธาชาวบ้านแม่ก๊ะจึงได้ประชุมหารือกัน เห็นควรจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นพิเศษรุ่นเดียว และครั้งเดียวโดยสร้างพระสิงห์ 1 รุ่นสิงห์ชนะมาร พร้อมวัตถุมงคลอื่นๆ รวม 14 รายการ ซึ่งมีพิธีเททองหล่อ และพิธีบวงสรวงเทพเทวาเมื่อวันที่ 26  ตุลาคม 2554 เวลา 17.09 น. มีพระครูสิริศีลสังวร (ครูบาน้อย เตชปัญโญ) วัดศรีดอนมูล อ.สารภี เป็นเจ้าพิธีปลุกเสกเททอง พร้อมกำหนดพิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ครั้งแรก ในวันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2555 เวลา 19.09 น. ที่จะถึงนี้ โดยถือเป็นฤกษ์พิธีดีคณาจารย์ดัง ส่วนวัตถุมงคลที่สร้างก็มีจำนวนจำกัด เพื่อให้ได้ทุนทรัพย์มาสร้างวิหารหลวงให้แล้วเสร็จ ก็จะสมปรารถนาแล้ว

สำหรับพระคณาจารย์ที่นิมนต์ร่วมพิธีนั่งปรกมหาพุทธาภิเษกครั้งนี้ ประกอบด้วย พระโพธิรังษี เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ครูบาน้อย เตชปัญโญ วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ (อธิษฐานจิตให้) พระครูประภัศร์ธรรมรังษี (ครูบาจันทรังษี) วัดกู่เต้า อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และพระคณาจารย์ชื่อดังจากภาคอีสาน หลังเสร็จพิธีสามารถรับวัตถุมงคลได้ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน เป็นวัตถุมงคลต้อนรับปีใหม่เมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ทันที

วัตถุมงคลที่สร้างประกอบด้วย พระสิงห์ 1 รุ่นสิงห์ชนะมาร มีเนื้อทองเหลืองขนาดจิ๋วตอกโค้ดพร้อมกล่อง สร้าง 399 องค์บูชาองค์ละเพียง 69 บาท ขนาดจิ๋วตอกโค้ดเหลี่ยมสแตนเลสลวดลายสวยงาม สร้าง 299 องค์ ๆ 109 บาท ขนาดจิ๋วเหลี่ยมทองไมคอน สร้าง 99 องค์ๆ 159 บาท พระกริ่งสิงห์ 1 เนื้อนวะ เนื้อโลหะเก้าชนิด หลอมรวมกัน สร้าง 299 องค์ๆ ลพ 259 บาท พระกริ่งสิงห์ 1 เนื้อเงินแท้ สร้างจำนวน 19 องค์ๆ ละ 999 บาท  พระบูชาหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว สร้างจำนวน 99 องค์ๆ 1,099 บาท พระบูชาหน้าตักกว้าง 10 นิ้ว สร้าง 9 องค์ๆ ละ 1,999 บาท ตะกรุดจำปา 4 ต้น สร้างจำนวน 299 ดอกๆ ละ 199 บาท ตะกรุด 9 กุ่ม สร้างจำนวน 299 ดอกๆละ 299 บาท ตะกรุดโทน สร้างจำนวน 299 ดอกๆละ 199 บาท ตะกรุดลูกปืน สร้างจำนวน 299 ดอกๆ 199 บาท

ส่วนพระบูชาพระสิงห์ 1 เนื้อหินหยก หน้าตักกว้าง 3 นิ้ว สร้าง 59 องค์ๆ ละ 2,299 บาท พระสิงห์ 1 เนื้อหินหยกหน้าตัก 5 นิ้ว สร้าง 35 องค์ๆ ละ 5,009 บาท และพระสิงห์ 1 เนื้อหินหยก หน้าตัก 9 นิ้วสวยที่สุด สร้างเพียง 9 องค์ บูชาเพื่อร่วมสร้างวิหารองค์ละ 15,999 บาท พระบูชาหน้าตักกว้าง 10 นิ้ว จะมีเนื้อสีเขียวหยก และสีขาว และสีดำ และหินอินเดีย ท่านั่งขัดสมาธิเพชร ปางสมาธินั่งบนฐานบัวสองชั้น ติดต่อบริจาคสร้างวิหารได้ที่เจ้าอาวาสวัดสุนทรศิริ (แม่ก๊ะใต้) โทร. 084-1720370 หรือโอนเงินเข้าบัญชี ธ.กรุงเพพ สาขาดอยสะเก็ด 486-031183-8 แล้วแฟกซ์สำเนาส่งไปที่ 053-840062 เพื่อทางวัดจะได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้ต่อไป.

ข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

ข่าว ; ความคืบหน้าการตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนเชียงใหม่ซื้อยาซูโดเอฟิดรีนมากผิดปกติ

สาธารณสุขจังหวัดร่วมกับ อย. ตำรวจ และปปส. เข้าตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนย่านช้างเผือก พบว่ามีการสั่งยาซูโดเอฟริดีนเดี่ยวมากว่า 2 แสนเม็ด ตรวจหลักฐานมีการสั่งยา แต่ไม่มีการรับ และจ่ายเงิน พบเจ้าหน้าที่จัดซื้อเป็นคนดำเนินการ กำลังสอบสวนเชื่อมโยงกับขวดยาที่พบทิ้งกองขยะที่สันกำแพง เผยตั้งแต่นี้ไป ห้ามครอบครองยาซูโด ถือมีความผิด แม้คลินิก และร้านขายยยาต้องรับอนุญาตก่อน

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นพ.วัฒนา  กาญจนกามล สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน อบ. ตำรวจ และ ปปส.ภาค 5 ได้ประชุมหารือถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบยาซูโดเอฟริดีนในโรงพยาบาลที่ต้องสงสัย และเปิดเผยว่าวันนี้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้ไปตรวจสอบที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้รายงานแก่ อย.ไปเมื่อกลางเดือนที่แล้วว่า รพ.ดังกล่าวมีความผิดปกติในการรายงานใช้ยาซูโดเอฟริดีนเดี่ยว ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2554 มีการสั่งซื้อยา 60,000 เม็ด แต่การรายงานต้องรายงานไปที่ อย. เป็นรายงานเท็จ และมีการสั่งปรับไป 20,000 บาท วันนี้ อย.จึงเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งพบว่า 2 ปีที่ผ่านมา 2553-54 มีการสั่งซื้อยาทั้งสิ้น 210,000 เม็ด

แต่จาการสอบสวนขั้นต้นพบว่ามีผู้แอบอ้างชื่อรพ.ดังกล่าว สั่งซื้อยาไปที่ อย. แต่ยาไม่ได้ส่งมาถึงที่ รพ. มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างได้แอบอ้างในการสั่งซื้อยา ขณะนี้ อย.กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจึงได้ดำเนินการไปตามระเบียบ คือ ได้ไปแจ้งความที่ สภ.ช้างเผือก เพื่อให้ลงบันทึกประจำวันรับทราบ จะได้มอบพนักงานสืบสวนให้สืบสวนเชื่อมโยงต่อไป อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทาง เจ้าหน้าที่ ปปส. สอบสวนได้เชื่อมโยงไปที่ขวดยาที่พบที่สันกำแพง ก่อนหน้านี้สงสัยว่า อาจเป็นล็อตเดียวกันที่จัดส่งมา รพ.แห่งนี้  มีประมาณ 180 ขวด ๆ ละ500 เม็ดรวมประมาณ 90,000 เม็ด โดย 20,000 เม็ด เป็นซูโดเดี่ยว ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 อยู่แล้ว การจำหน่าย ครอบครองต้องได้รับอนุญาตจาก อย.ให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้มีไว้ครอบครอง และใช้กับผู้ป่วยตามระเบียบการใช้วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ผู้ที่เกี่ยวข้องรับว่าเป็นผู้ที่สั่งซื้อมาโดยไม่ได้เป็นลายเซ็นของผู้อำนวยการ รพ.แห่งนี้ เป็นความผิดฐานมีไว้ครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต และยาสองแสนกว่าเม็ดก็ไม่ได้นำมาใช้ในโรงพยาบาลแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบว่า ไอ้โม่ง ผู้สั่งซื้อยาได้โอนเงินเองโดยไม่ผ่านระบบโรงพยาบาล เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างของโรงพยาบาลนั่นเอง ซึ่งตามระเบียบจะต้องมีใบอนุญาตไว้ในครอบครองในเบื้องต้น พบมีหนึ่งคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง อย.ได้แจ้งความไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุว่าผู้บริหารโรงพยาบาลมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเชิงลึกต่อไป สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่ากรณีที่เกิดขึ้น เป็นยาที่หายไปจากระบบโดยไม่มีของกลาง ไม่มีในบัญชียาในโรงพยาบาลดังกล่าว มีเพียงตัวหนังสือการจ่ายเงิน และโรงพยาบาลไม่มีบันทึกการรับยา ดังนั้นจึงต้องสอบสวนต่อไปว่า มีการส่งยาลักษณะนี้ไปที่ใดบ้างซึ่งซูโดเดี่ยวมีไม่กี่แห่ง เพราะต้องมีใบอนุญาตให้ครอบครองตามระบบก่อน ขณะนี้ กระทรวงสาสุขได้ประกาศให้ซูโดเดี่ยวและผสม เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้แบบผสมไม่อยู่ในระบบนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2555 เป็นต้นไป ทั้งสองชนิดจะถูกประกาศวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 รวมไปด้วย ผู้ใดมีในครอบครองต้องส่งคืนให้หมด ขณะนี้ได้แจ้งระงับใช้ยาทั้งสองชนิดนี้ในร้านขายยา และคลินิก ต่อไปการจะใช้ต้องขออนุญาตเป็นผู้ครอบครองก่อน จึงนำไปใช้ได้  มิฉะนั้นต้องส่งคืนให้หมด.


ข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ตุลพาพันธ์พงศ์

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2555

ข่าว ; พสกนิกรชาวเชียงใหม่พร้อมใจถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

วันที่ 2 เมษายน 2555 เป็นวันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเมื่อ 09.00 น.วันนี้ (2 เม.ย.55) ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลต่างประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคม ชมรม สโมสร มูลนิธิ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชนทุกหมู่เหล่า พร้อมใจกันประกอบพิธีลงนามถวายพระพร และเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภาพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมถวายพระเกียรติคุณ ที่ทรงมีคุณูปการต่อชาวไทยเสมอมา

พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการที่ทรงพระราชวิระยะอุตสาหะบำเพ็ญ ล้วนเป็นไปเพื่อความอยู่ดีมีสุขและบังเกิดความร่มเย็นแก่พสกนิกรทั่วหน้า ทรงพระกรุณาพระราชทานโครงการและทรงอุปถัมภ์โครงการมากมายหลายด้าน ทั้งด้านการพัฒนาสังคม การต่างประเทศ การสาธารณสุข  การศาสนา เทคโนโลยี่สารสนเทศ โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ทรงสนับสนุนให้อนุรักษ์ สืบทอดและเผยแพร่ทั้งด้านดนตรีไทย การช่างไทย นาฏศิลป์ไทย งานพิพิธภะณฑ์ ประวัติศาตร์และโบราณสถาน ภาษาและวรรณกรรมไทย รวมทั้งทรงมีคุณูปการต่อเหล่าศิลปินและศิลปวัฒนธรรมไทย จนคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พลเอกเปรม  ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้มีมติให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์มรดกไทย

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาคุณต่อจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ได้เสด็จทรงประกอบพิธีเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2554 ทรงเยี่ยมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และยังทรงพระกรุณา เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นประจำทุกปี เหล่านี้ล้วนจารึกอยู่ในหัวใจของพสกนิกรชาวเชียงใหม่ทุกหมู่เหล่าเสมอมา