สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ร่วมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2554 World No Tobacco Day 2011 ภายใต้แนวคิด “พิทักษ์สิทธิตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่” และ “คนเจียงใหม่ บ่เอาควันบุหรี่” 31 พฤษภาคม 2554 นี้
นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2554 ของจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดจัดในวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 ณ ข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ของคนเจียงใหม่ “คนเจียงใหม่ บ่เอาควันบุหรี่” และปล่อยขบวนรณรงค์ในเวลา 09.00 ภายใต้คำขวัญคำขวัญ “พิทักษ์สิทธิตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่” ซึ่งจะมีการเผยแพร่ความรู้เรื่อง โทษ พิษภัย และผลกระทบจากการสูบบุหรี่ อันตรายของการได้รับควันบุหรี่มือสองโดยเฉพาะในที่สาธารณะ ประชาสัมพันธ์ในโรงเรียนให้กลุ่มเด็กเยาวชน มีค่านิยมที่ถูกต้องเกี่ยวกับบุหรี่ มีการรับรู้และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ถูกต้อง
ในปีนี้ เครือข่ายครูนักรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยและโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ 27 แห่ง ชมรมจักรยานวันอาทิตย์ ชมรมเวสป้า ชมรมรถบิ๊กไบท์ และหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมกันรณรงค์ กว่า 1,500 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนทั้งในและนอกสถานศึกษาได้ตระหนักถึงพิษภัยบุหรี่ รวมทั้งมีส่วนร่วมในการปกป้องพิทักษ์สิทธิ์ตนเองจากภัยบุหรี่ ทั้งจากในสถานศึกษาและชุมชน เพื่อให้เกิดกระแสสังคมจังหวัดเชียงใหม่ ให้ตื่นตัวที่จะมุ่งรับรู้ และพิทักษ์สิทธิของตนเองในการได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย กำหนดเขตปลอดบุหรี่ และร่วมกันเป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดการบังคับใช้อย่างจริงจัง
จากสถิติปี 2554 พบว่า ประชากรโลก 5 ล้านคนเสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคปอด และโรคอื่นที่สำคัญอีกมากมาย ซึ่ง 1 ใน 4 เป็นเด็กเล็ก ที่เสียชีวิตเนื่องจากได้รับควันบุหรี่จากคนรอบข้างหรือควันบุหรี่มือสอง และนอกจากนี้ยังทำให้โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้มีอาการกำเริบ ในผู้หญิงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ส่วนในเด็กมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือดขาว และเสี่ยงเป็นเนื้องอกในสมอง ภัยจากบุหรี่ก่อให้เกิดความสูญเสียกับชีวิต อีกทั้งยังสร้างภาระโรคที่ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเยาวชน อายุระหว่าง 11-24 ปี มีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก 1,500,000 คน ในปี 2550 เป็น 1,700,000 คน ในปี 2552 และพบว่ามีผู้ที่เสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่เฉลี่ยวันละ 142 คน หรือ ชั่วโมงละ 6 คน ที่สำคัญ มีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดจำนวนมากที่เป็นบุคคลใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่โดยที่ตนเองไม่สูบหรือเรียกว่า “ผู้สูบบุหรี่มือสอง” มีจำนวนสัดส่วนการป่วยสูงถึงร้อยละ 25 เช่น สามี ภรรยา และเพื่อนร่วมงาน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอให้ประชาชนช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ใกล้ชิดที่สูบบุหรี่ให้เลิกสูบ และสอดส่องดูแลบุตรหลานวัยรุ่นไม่ให้เป็นผู้สูบบุหรี่หน้าใหม่เพิ่มขึ้น สำหรับผู้ต้องการเลิกบุหรี่สามารถโทรสายด่วนเลิกบุหรี่ หมายเลข 1600
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น