ต่อมาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.00 น. ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะสตาร์โดม จำกัด ได้จัดประชุมพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ห้องประชุมสตาร์โดมกอล์ฟคลับ พร้อมเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้สาธารณชนได้รับทราบ แต่เมื่อถึงเวลาปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารอากาศจำนวนหนึ่งมาควบคุมพื้นที่ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการประชุม อ้างว่าเป็นพื้นที่ทหาร ต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบเสียก่อน แม้ว่าตัวแทน บริษัท เดอะสตาร์โดม จำกัด จะให้ข้อมูลชี้แจงแก่สื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุม ก็ยังได้รับการกีดกันจากทหารอากาศกองบิน 41 จนต้องแก้ไขปัญหาโดยการยกขบวนไปสัมภาษณ์หน้าประตูนอกพื้นที่ทหาร
ดร.พรรณวิภา กล่าวว่า บริษัท เดอะสตาร์โดม จำกัด ชนะการประมูลได้รับสิทธิ์ในการบริหารพื้นที่แห่งนี้ตั้งแต่ปี 2550 เป็นยะยะเวลา 30 ปี ไปสิ้นสุดในปี 2580 จึงได้ใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาทในการลงทุนก่อสร้างและปรับปรุง แล้วดำเนินกิจการสนามกอล์ฟและสนามไดรฟ์กอล์ฟรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องเรื่อยมา ต่อมาได้รับแจ้งจากทางกองทัพอากาศว่า สัญญาเดิม 30 ปีนั้นยาวนานเกินไป เกรงว่าจะมีปัญหาหรือข้อจำกัดบางประการ จึงขอให้ต่อสัญญาทุก 3 ปี และทุกสัญญาจะมีการปรับเพิ่มค่าเช่าขึ้นครั้งละ 5% ซึ่งทางบริษัทก็ยินยอมทำตาม โดยสัญญาล่าสุดที่ต่อไว้ในปี 2560-2563 ได้ครบกำหนดแล้ว ทางบริษัทฯ ได้รับแจ้งว่าขอปรับเปลี่ยนรายละเอียดสัญญาเช่าใหม่ โดยขอปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้น 500 % และยังมีการระบุเนื้อหาในสัญญาด้วยว่า สามารถยกเลิกหรือปรับแก้ไขรายละเอียดเมื่อใดก็ได้ รวมถึงสามารถตัดปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขพื้นที่เช่าอย่างไรก็ได้ ซึ่งส่วนนี้บริษัทมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ประกอบกับขณะนี้มีปัญหาการระบาดของไวรัส โควิด 19 ทำให้ผลประกอบการลดลงอย่างมาก ผู้ประกอบการทั้งหลายต่างก็อยู่ด้วยความยากลำบากในการประคับประคองกิจการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและสร้างความเดือดร้อนแก่พนักงานลูกจ้างและลูกค้า แม้ว่าจะมีควาพยายามในการเจรจาเพื่อขอความเห็นใจแต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งยังได้รับแจ้งว่าจะเปิดประมูลให้เอกชนรายใหม่เข้ามาบริหารแทน โดยยังคงให้สิทธิ์บริษัทสตาร์โดมเข้าร่วมประมูลใหม่ได้ ซึ่งกรณีนี้ไม่ทราบว่าทำได้อย่างไรเพราะสัญญาเดิมยังอยู่ถึงปี 2580
ต่อข้อถามที่ว่าจะมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานของรัฐ เช่น ศูนย์ดำรงธรรมหรือไม่นั้น ดร.พรรณวิภากล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบการเอกชนคงไม่อยากเป็นเรื่องเป็นความกับหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะหน่วยงานทหาร เพราะไม่อยากถูกรังแก ขณะนี้ก็ได้แต่ขอความเห็นใจ เพราะบริษัทต้องรับผิดชอบต่อพนักงานกว่า 300 คน ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจกำลังประสบปัญหา รัฐบาลโดยหลายหน่วยงานก็หาหนทางพยุงการประกอบการธุรกิจในทุกระดับไม่ให้เกิดปัญหาจนปิดกิจการ เพราะจะส่งผลให้เกิดผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ยังต้องรับผิดชอบกับลูกค้าอีกหลายกลุ่มและเป็นจำนวนมากที่ยังมีพันธะต่อกัน จึงขอยืนยันว่า บริษัท เดอะสตาร์โดม จำกัด จะไม่หนีไปไหน แต่จะยังคงเปิดดำเนินกิจการ ณ ที่แห่งนี้ต่อไป
ทางด้านฝ่ายทหารอากาศจากกองบิน 41 แม้จะมีตัวแทนระดับรองผู้บังคับการเดินทางมาสังเกตการณ์พร้อมกำลังพล รวมถึงสารวัตรทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่มีการให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการใดๆ บอกเพียงว่าไม่มีอำนาจในการให้ข่าว และดำเนินการไปตามหน้าที่ ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น