All online

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

ข่าว ; เปิดงาน Glamour Shanghai Meet In Chiang Mai Promotion

เช้าวันที่ 26 กันยายน 2559 มีการเปิดงาน Glamour Shanghai Meet In Chiang Mai Promotion ซึ่งมหานครเซี่ยงไฮ้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้น ณ โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ โดยมี มาดาม Yin Yicui ประธานสภาประชาชน มหานครเซี่ยงไฮ้ และนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันเป็นประธานเปิดงาน โดยมีผู้แทนสถานกงสุล ส่วนราชการ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และแขกผู้มีเกียรติร่วมงานจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น เป็นกันเอง และสวยงามหลากหลาย
มาดาม Yin Yicui ประธานสภาประชาชน มหานครเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า ในช่วงเวลากว่า 40 ปีที่ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตขึ้น ทั้งสองประเทศก็ได้เกิดความร่วมมือในการอำนวยประโยชน์ระหว่างกัน จนกิจการหลายอย่างของทั้งสองประเทศประสบผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์ในด้านต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การเกษตร การศึกษา และการบริหารงานยุติธรรม ซึ่งได้ช่วยเสริมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างทั้งสองประเทศที่ได้ชื่อว่า "ไทยจีนใช่อื่นไกลพี่น้องกัน" นั้นให้เหนียวแน่นมากยิ่งขึ้นในทุกๆด้าน ส่งผลให้เกิดการไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิดในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งได้แสดงบทบาทสำคัญและน่าชื่นชมในการส่งเสริมความสนิทสนมกันระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
ประธานสภาประชาชน มหานครเซี่ยงไฮ้ กล่าวด้วยว่า จากการที่ภาพยนตร์จีนเรื่อง Lost In Thailand ได้นำเสนอลักษณะเฉพาะของไทยหลายอย่างให้กับผู้ชมชาวจีน เช่น อาหารไทยที่อร่อย วัดไทยที่งดงามสง่าและหลากหลาย ละครไทยที่หรูหราจับตา มวยไทยที่รุนแรงแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้รวมกันเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยโดยเฉพาะที่เชียงใหม่เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวต่างประเทศที่ชาวจีนนิยมมากที่สุด และประเทศจีนก็กลายเป็นแหล่งที่มาของนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุดในไทย ส่วนรายได้ต่างๆจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการพัฒนาของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ก็ได้สร้างผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศ
มาดาม Yin Yicui กล่าวอีกว่า มหานครเซี่ยงไฮ้และจังหวัดเชียงใหม่เป็นบ้านพี่เมืองน้องกันมานาน และต่างเป็นเมืองศูนย์กลางของดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (Yangtze) ของจีนและภาคเหนือของไทย ถือได้ว่าทั้งสองเมืองสามารถเป็นแนวหน้าและแสดงบทบาทเป็นตัวอย่างในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างกันให้ก้าวหน้าขึ้นไป ตามแผนพัฒนารวมของนครเซี่ยงไฮ้ในระหว่าง 2016 ถึง 2040 ฉบับร่างที่ได้ประกาศเมื่อเร็วๆนี้ เซี่ยงไฮ้วางแผนที่จะสร้างเมืองให้เป็นมหานครวัฒนธรรมและศูนย์กลางระดับสากลในด้านเศรษฐกิจ การเงิน การค้า การคมนาคม และนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จนพัฒนาเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองนวัตกรรม เมืองวัฒนธรรมและเมืองนิเวศน์ที่ผู้คนมุ่งหวังใฝ่ฝันได้ก่อนปี 2040
สำหรับงานประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ มหานครเซี่ยงไฮ้ได้นำเสนอภาพลักษณ์มนต์เสน่ห์ของนครเซี่ยงไฮ้ ที่ได้ผสมผสานกลมกลืนด้วยความดั้งเดิมและความทันสมัย ความเป็นเอกลักษณ์ทั้งภาคตะวันออกและตะวันตกมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชม เพื่อให้การจัดงานครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะช่วยให้ประชาชนชาวเชียงใหม่และภาคเหนือของไทยได้รับรู้เรื่องรวมเกี่ยวกับมหานครเซี่ยงไฮ้มากยิ่งขึ้น และเป็นแรงอุดหนุนให้โครงการความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมให้เพิ่มมากขึ้น มุ่งเข้าสู่ขั้นตอนปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมจนผลักดันความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องระหว่างทั้งสองฝ่ายให้พัฒนาต่อไป อีกทั้งกระชับความสัมพันธ์อย่างพี่น้องระหว่างประชาชนไทยและจีนให้สนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น
"มีคำโบราณของจีนกล่าวไว้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ห่างจากกันไกลหรือใกล้ ถ้ารู้ใจกัน ถึงห่างกันหมื่นลี้ก็ยังสามารถเป็นเพื่อนบ้านได้ จึงขอเชิญชวนและยินดีต้อนรับเพื่อนจากวงการต่างๆของเชียงใหม่ไปเยี่ยมเยือนที่นครเซี่ยงไฮ้ เพื่อเพิ่มความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างกัน รวมทั้งเรียนรู้ประสบการณ์ในการเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาร่วมกันอีกด้วย" ประธานสภาประชาชนมหานครเซี่ยงไฮ้กล่าวในที่สุด
ทางด้านนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่และมหานครเซี่ยงไฮ้มีการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกันมานานกว่า 15 ปี ทั้งสองเมืองมีความร่วมมือระหว่างกันในหลายหลายด้าน และได้มีการแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยี วัฒนธรรม การฝึกอบรมข้าราชการ โครงการแลกเปลี่ยนของเยาวชนและด้านอื่นๆ ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนในระดับท้องถิ่นระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเมื่อปี ค.ศ. 2013 ผู้แทนจากเชียงใหม่ได้เดินทางเยือนมหานครเซี่ยงไฮ้ และได้มอบพระพุทธรูป "สิงห์หนึ่งสองนคร" ไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และมหานครเซี่ยงไฮ้ โดยประดิษฐานไว้ ณ วัดหลงฮวา ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมครั้งสำคัญระหว่างทั้งสองเมือง
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 720 ปี มีศิลปวัฒนธรรมล้านนาอันเป็นเอกลักษณ์ มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย
เป็นศูนย์กลางการพัฒนาของภาคเหนือ ซึ่งมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการเกษตร การค้าการลงทุน การเงินการธนาคาร การแพทย์ และการศึกษา มีความพร้อมทั้งในด้านที่พัก สถานที่จัดประชุม และการเดินทางอันสะดวกสบาย ที่จะรองรับผู้มาเยือน และสำคัญที่สุดคือชาวเชียงใหม่มีอัธยาศัยไมตรีที่อบอุ่นแบบล้านนา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์และทำให้เชียงใหม่ได้รับการคัดเลือกเป็นเมืองที่น่าไปเยือนเป็นลำดับต้นๆ ของเอเชียและของโลกมาโดยตลอด
"ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวจีนรวมถึงจากมหานครเซี่ยงไฮ้มาเยือนจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เซี่ยงไฮ้เป็นมหานครที่มีความเจริญเป็นอย่างมาก มีศักยภาพด้านเทคโนโลยีและในหลายๆด้าน จะเห็นว่าทั้งจังหวัดเชียงใหม่และมหานครเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง ที่จะสามารถร่วมมือและเติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างลงตัว จึงขอแสดงความยินดีที่วันนี้จังหวัดเชียงใหม่และมหานครเซี่ยงไฮ้จะได้มีความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้นอีก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองเมืองจะกระชับความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้วให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ผ่านการแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และความร่วมมือในอีกหลายด้าน" ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวในที่สุด
**************
พยนต์ ยศสุพรหม - รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น