All online

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

ข่าว : โปรโมชั่นกอล์ฟสำหรับผู้ที่อยู่ในไทย ของซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่


สนามกอล์ฟ ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่ คันทรี คลับ แจ้งราคาโปรโมชั่นสำหรับคนไทยและผู้ที่พำนักในประเทศไทย สามารถมาใช้บริการของทางสนามในราคาพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ซึ่งราคาพิเศษดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาประกอบด้วย
ช่วงเวลาแรก เวลาปกติทั่วไป Day Golf  Lanna Green Season อัตราค่ากรีนฟีคนละ 1,000 บาท ค่าแคดดี้  300 บาท รวม 1,300 บาท จะได้รับคูปองค่าอาหารมูลค่า 100 บาทแถมฟรี หรือจะซื้อแพคเกจรวมกรีนฟี แคดดี้ และรถกอล์ฟ ราคา 1,500 บาท
ช่วงที่สอง เป็นกอล์ฟกลางคืน Night Golf  Twilight Fever เป็นรายการมา 6 จ่าย 5 คือการจ่ายค่าบริการ 5 คน จะสามารถเล่นได้ 6 คน หรือจะเปลี่ยนเป็นสะสมการเล่นครบ 5 ครั้ง สามารถมาเล่นฟรีได้ 1 ครั้ง โดยกอล์ฟกลางคืนเปิดบริการทุกวันหลังเวลา 14.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ ในอัตราค่ากรีนฟี 600 บาท แคดดี้ 300 บาท รวม 900 บาท หรือจะซื้อแพคเกจรวมกรีนฟี แคดดี้ และรถกอล์ฟในราคาเพียง 1,300 บาท ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองเวลาได้ที่แผนกการตลาด โทร. 053 - 298222 - 3 ต่อ 253
******************

ข่าว ; กิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนของท่าอากาศยานเชียงใหม่ช่วงวันหยุดยาว


ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จัดกิจกรรมต้อนรับผู้โดยสารที่เดินทางจากจีนเข้ามาท่องเที่ยวในช่วง Golden week ซึ่งเป็นวันหยุดยาว โดยคาดว่าในปี 2559 นี้จะมีผู้โดยสารจากจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่มากกว่า 1.3 ล้านคน
วันที่ 30 กันยายน 2559 นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหาร พนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผู้แทนสายการบินและส่วนราชการที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ร่วมกันให้การต้อนรับผู้โดยสารเที่ยวบินที่ CA707 ที่เดินทางมาจากเมืองหวู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องในโอกาส National Day Golden Week holiday ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดติดต่อของจีน ตั้งแต่วันที่ 1 - 9 ตุลาคม 2559 โดยในการต้อนรับครั้งนี้ได้แจกของที่ระลึกและจัดการแสดงฟ้อนรำแบบล้านนา ภายในห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทย
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่กล่าวว่า ปัจจุบันมีสายการบินที่ทำการบินตรงจากจีนมายังท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่จำนวนทั้งสิ้น 11 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย, ดราก้อนแอร์, ฮ่องกงเอ็กเพรส, ไชน่าอีสเทอร์น, แอร์ไชน่าสปริงแอร์ไลน์, จุนเหยาแอร์ไลน์, ไชน่าเซาเทอร์น, ชางดงแอร์ไลน์ และเสฉวนแอร์ไลน์ ทำการบินใน 11 เส้นทาง ได้แก่ ฮ่องกง, มาเก๊า, คุนหมิง, เซี่ยงไฮ้,ปักกิ่ง, หวู่ฮั่น, กวางโจว, ฉางชา, ฉงชิ่ง, หางโจว และ เฉินตู  ซึ่งนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม 2559 มีผู้โดยสารจากจีนเดินทางผ่านเข้าออกท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 889,044 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณร้อยละ 16 และคาดว่าตลอดทั้งปี 2559 จะมีจำนวนผู้โดยสารจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่เกินกว่า 1.3 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่ 2558 ประมาณร้อยละ 18
*********************
ปชส.ท่าอากาศยานเชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559

ข่าว : สรุปผลการปฏิบัติงานปี 2559 ของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ

ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.) สรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2559 พบกลุ่มขบวนการมีความพยายามลักลอบลำเลียงยาบ้าเข้าเขตไทย จำนวน 51,910,000 เม็ด สามารถจับกุมได้ในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 12,750,861 เม็ด คิดเป็นร้อยละ 24.56
พล.ต.สมพงษ์ แจ้งจำรัส ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.) เป็นประธานสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2559 (ตุลาคม 2558 – กันยายน 2559 ) ณ ห้องประชุมทองจัตุ กองกำลังผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดบริเวณแนวชายแดน และพื้นที่อำเภอตอนใน โดยผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.) กล่าวว่า ในห้วงตุลาคม 2558 – กันยายน 2559 ศป.ปส.ชน.ตรวจสอบข่าวสารพบว่า กลุ่มขบวนการยาเสพติดมีความพยายามลักลอบลำเลียงยาบ้าเข้าเขตไทย จำนวน 51,910,000 เม็ด สามารถจับกุมได้ในพื้นที่รับผิดชอบ ของ ศป.ปส.ชน. (21อำเภอ) จำนวน 12,750,861 เม็ด คิดเป็นร้อยละ 24.56 จากการประเมินสถานการณ์คาดว่ามีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในเขตไทย และหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่อีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เปรียบเทียบสถิติการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ 3 จังหวัด ระหว่างปีงบประมาณ 2558 ถึงปีงบประมาณ 2559 ของ ศป.ปส.ชน.พบว่าการจับกุมเฮโรอีนลดลง 61.1 % แต่การจับกุมไอซ์เพิ่มขึ้น 81.8 %
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ศป.ปส.ชน.ได้ดำเนินการค้นหาผู้เสพยาเสพติดด้วยการสุ่มตรวจปัสสาวะ ร่วมกับการบำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามผู้ผ่านการบำบัด รวมทั้งสิ้น 352 ครั้ง ช่วยลดจำนวนผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดมิให้หวนกลับมาเสพยาซ้ำได้ประมาณ 32.5 % ส่วนงานด้านการเสริมสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.) ดำเนินการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 3 ศูนย์ และร่วมกิจกรรมการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งตามโครงการหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน, โครงการประชารัฐร่วมใจฯ รวมทั้งสิ้น 913 ครั้ง สร้างหมู่บ้านให้มีความเข้มแข็งร่วมต่อต้านยาเสพติดได้ดีขึ้น 13 หมู่บ้าน
นอกจากนี้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.) ได้จัดกำลังช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ รวม 3,400 คน ร่วมปลูกป่า จำนวน 48 ครั้ง และสร้างฝายกักเก็บน้ำ จำนวน 53 ฝาย
******************

ภาพข่าว : ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต้อนรับนักมวยชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยโลก


รศ.นพ.อำนาจ อยู่สุข รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประธานคณะกรรมการดำเนินการจัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงชนะเลิศกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 7 พร้อมคณะกรรมการ ให้การต้อนรับทีมนักมวยจากประเทศรัสเซีย ที่เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่เป็นประเทศแรก ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ สำหรับการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงชนะเลิศกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 7 จะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 3-8 ตุลาคม 2559 ณ สนามมวยชั่วคราว หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
******************

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

ข่าว ; สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ลงนามความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับเมืองจิ่งอัน มหานครเซี่ยงไฮ้

วันที่ 26 กันยายน 2559 ที่โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ ได้มีพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ โดย ดร.บุญทา ชัยเลิศ นายกสมาคม กับ Shanghai Jing'an District Tourism Burea โดย Ms.Zhang Yu Party Secretary Director ทั้งนี้เพื่อเป็นการเชื่อมโยงและสนับสนุนส่งเสริมกันด้านการท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ระหว่างสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียใหม่กับเมืองจิ่งอัน มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ในนามของจังหวัดและมหานครเซี่ยงไฮ้ก็มีการลงนามเป็นเมืองพี่เมืองน้องกันมาก่อนแล้วหลายปี
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวเซี่ยงไฮ้เป็นนักท่องเที่ยวยุคใหม่ มีคุณภาพ และเดินทางมาเอง จึงอยากให้ชาวเชียงใหม่ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวเหล่านี้ที่จะมาช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของเชียงใหม่และประเทศไทยโดยร่วม ส่วนปัญหาอุปสรรคคือการที่มีคนไทยบางส่วนแสดงออกในเชิงรังเกียจพฤติกรรมของคนจีนที่มีความแตกต่างจากคนไทย และการปราบปรามการนำเที่ยวที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกอย่างกำลังมีแนวโน้มที่จะดำเนินไปด้วยดี และคนจีนเองก็เข้าใจในการปฏิบัติของทางการไทย เชื่อว่าในอนาคตนักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมาไทยเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว

ssssssss ภาพการสัมภาษณ์ ดร.บุญทา ชัยเลิศ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ sssssssss
Link
****************

ข่าว ; ขอเชิญเสนอชื่อนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดีเด่น ประจำปี 2559

สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกาศเชิญร่วมเสนอชื่อนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดีเด่น ประจำปี 2559 โดยส่วนงานในสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถส่งรายชื่อได้ที่งานทะเบียนประวัติและสารสนเทศบุคลากร กองบริหารงานบุคคล ภายในวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ส่วนองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถส่งรายชื่อได้ที่สมาคมนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียง ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2559
รายงานข่าวจากงานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แจ้งว่า สมาคมนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กำหนดให้ทุกส่วนงานในสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ องค์กร หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เสนอชื่อบุคคลที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเป็นนักศึกษาเก่าดีเด่นในสาขาต่างๆ ซึ่งจะเป็นการประกาศเกียรติคุณและเป็นแนวทางให้แก่นักศึกษาปัจจุบัน นักศึกษาเก่า ตลอดจนบุคลในสังคมได้ยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดี โดยการคัดเลือกพิจารณานักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแก่การประกาศเกียรติคุณ แบ่งออกเป็น 7 สาขา ได้แก่ สาขาวิชาการ สาขาบริหารองค์กรการศึกษา สาขาบริหารราชการ/รัฐกิจ สาขาบริหารธุรกิจ สาขาบริการสังคม สาขาส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และสาขาอื่นๆ
ทั้งนี้ สำหรับส่วนงานในสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถจัดทำข้อมูลรายละเอียดประวัติและผลงานในสาขาที่ต้องการเสนอที่ผ่านการพิจารณาจากส่วนงานแล้ว จัดส่งให้งานทะเบียนประวัติและสารสนเทศบุคลากร กองบริหารงานบุคคล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายในวันที่ 4 ตุลาคม 2559 เพื่อจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยสามารถดาวน์โหลดรายละเอียดแบบฟอร์มการเสนอชื่อได้ที่เว็บไซต์ hrmd.oop.cmu.ac.th/ข่าวประชาสัมพันธ์/งานทะเบียนประวัติฯ/เสนอชื่อนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดีเด่นประจำปี 2559 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ กองบริหารงานบุคคล สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร. 0-5394-1112
ทางด้านขององค์กรอื่นๆ หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถส่งแบบเสนอชื่อและหลักฐานที่เกี่ยวข้องซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาไปยังสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 130 ถนนนิมมานเหมินท์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2559 เพื่อจะได้พิจารณาคัดเลือกเป็นนักศึกษาเก่าดีเด่นประจำปี 2559 ต่อไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สมาคมนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร.0-5394-4632 และ 0-5321-6227
*********************
งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่-ข่าว

ข่าว ; เปิดงาน Glamour Shanghai Meet In Chiang Mai Promotion

เช้าวันที่ 26 กันยายน 2559 มีการเปิดงาน Glamour Shanghai Meet In Chiang Mai Promotion ซึ่งมหานครเซี่ยงไฮ้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้น ณ โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ โดยมี มาดาม Yin Yicui ประธานสภาประชาชน มหานครเซี่ยงไฮ้ และนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันเป็นประธานเปิดงาน โดยมีผู้แทนสถานกงสุล ส่วนราชการ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และแขกผู้มีเกียรติร่วมงานจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น เป็นกันเอง และสวยงามหลากหลาย
มาดาม Yin Yicui ประธานสภาประชาชน มหานครเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า ในช่วงเวลากว่า 40 ปีที่ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตขึ้น ทั้งสองประเทศก็ได้เกิดความร่วมมือในการอำนวยประโยชน์ระหว่างกัน จนกิจการหลายอย่างของทั้งสองประเทศประสบผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์ในด้านต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การเกษตร การศึกษา และการบริหารงานยุติธรรม ซึ่งได้ช่วยเสริมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างทั้งสองประเทศที่ได้ชื่อว่า "ไทยจีนใช่อื่นไกลพี่น้องกัน" นั้นให้เหนียวแน่นมากยิ่งขึ้นในทุกๆด้าน ส่งผลให้เกิดการไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิดในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งได้แสดงบทบาทสำคัญและน่าชื่นชมในการส่งเสริมความสนิทสนมกันระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
ประธานสภาประชาชน มหานครเซี่ยงไฮ้ กล่าวด้วยว่า จากการที่ภาพยนตร์จีนเรื่อง Lost In Thailand ได้นำเสนอลักษณะเฉพาะของไทยหลายอย่างให้กับผู้ชมชาวจีน เช่น อาหารไทยที่อร่อย วัดไทยที่งดงามสง่าและหลากหลาย ละครไทยที่หรูหราจับตา มวยไทยที่รุนแรงแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้รวมกันเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยโดยเฉพาะที่เชียงใหม่เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวต่างประเทศที่ชาวจีนนิยมมากที่สุด และประเทศจีนก็กลายเป็นแหล่งที่มาของนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุดในไทย ส่วนรายได้ต่างๆจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการพัฒนาของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ก็ได้สร้างผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศ
มาดาม Yin Yicui กล่าวอีกว่า มหานครเซี่ยงไฮ้และจังหวัดเชียงใหม่เป็นบ้านพี่เมืองน้องกันมานาน และต่างเป็นเมืองศูนย์กลางของดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (Yangtze) ของจีนและภาคเหนือของไทย ถือได้ว่าทั้งสองเมืองสามารถเป็นแนวหน้าและแสดงบทบาทเป็นตัวอย่างในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างกันให้ก้าวหน้าขึ้นไป ตามแผนพัฒนารวมของนครเซี่ยงไฮ้ในระหว่าง 2016 ถึง 2040 ฉบับร่างที่ได้ประกาศเมื่อเร็วๆนี้ เซี่ยงไฮ้วางแผนที่จะสร้างเมืองให้เป็นมหานครวัฒนธรรมและศูนย์กลางระดับสากลในด้านเศรษฐกิจ การเงิน การค้า การคมนาคม และนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จนพัฒนาเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองนวัตกรรม เมืองวัฒนธรรมและเมืองนิเวศน์ที่ผู้คนมุ่งหวังใฝ่ฝันได้ก่อนปี 2040
สำหรับงานประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ มหานครเซี่ยงไฮ้ได้นำเสนอภาพลักษณ์มนต์เสน่ห์ของนครเซี่ยงไฮ้ ที่ได้ผสมผสานกลมกลืนด้วยความดั้งเดิมและความทันสมัย ความเป็นเอกลักษณ์ทั้งภาคตะวันออกและตะวันตกมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชม เพื่อให้การจัดงานครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะช่วยให้ประชาชนชาวเชียงใหม่และภาคเหนือของไทยได้รับรู้เรื่องรวมเกี่ยวกับมหานครเซี่ยงไฮ้มากยิ่งขึ้น และเป็นแรงอุดหนุนให้โครงการความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมให้เพิ่มมากขึ้น มุ่งเข้าสู่ขั้นตอนปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมจนผลักดันความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องระหว่างทั้งสองฝ่ายให้พัฒนาต่อไป อีกทั้งกระชับความสัมพันธ์อย่างพี่น้องระหว่างประชาชนไทยและจีนให้สนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น
"มีคำโบราณของจีนกล่าวไว้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ห่างจากกันไกลหรือใกล้ ถ้ารู้ใจกัน ถึงห่างกันหมื่นลี้ก็ยังสามารถเป็นเพื่อนบ้านได้ จึงขอเชิญชวนและยินดีต้อนรับเพื่อนจากวงการต่างๆของเชียงใหม่ไปเยี่ยมเยือนที่นครเซี่ยงไฮ้ เพื่อเพิ่มความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างกัน รวมทั้งเรียนรู้ประสบการณ์ในการเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาร่วมกันอีกด้วย" ประธานสภาประชาชนมหานครเซี่ยงไฮ้กล่าวในที่สุด
ทางด้านนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่และมหานครเซี่ยงไฮ้มีการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกันมานานกว่า 15 ปี ทั้งสองเมืองมีความร่วมมือระหว่างกันในหลายหลายด้าน และได้มีการแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยี วัฒนธรรม การฝึกอบรมข้าราชการ โครงการแลกเปลี่ยนของเยาวชนและด้านอื่นๆ ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนในระดับท้องถิ่นระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเมื่อปี ค.ศ. 2013 ผู้แทนจากเชียงใหม่ได้เดินทางเยือนมหานครเซี่ยงไฮ้ และได้มอบพระพุทธรูป "สิงห์หนึ่งสองนคร" ไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และมหานครเซี่ยงไฮ้ โดยประดิษฐานไว้ ณ วัดหลงฮวา ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมครั้งสำคัญระหว่างทั้งสองเมือง
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 720 ปี มีศิลปวัฒนธรรมล้านนาอันเป็นเอกลักษณ์ มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย
เป็นศูนย์กลางการพัฒนาของภาคเหนือ ซึ่งมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการเกษตร การค้าการลงทุน การเงินการธนาคาร การแพทย์ และการศึกษา มีความพร้อมทั้งในด้านที่พัก สถานที่จัดประชุม และการเดินทางอันสะดวกสบาย ที่จะรองรับผู้มาเยือน และสำคัญที่สุดคือชาวเชียงใหม่มีอัธยาศัยไมตรีที่อบอุ่นแบบล้านนา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์และทำให้เชียงใหม่ได้รับการคัดเลือกเป็นเมืองที่น่าไปเยือนเป็นลำดับต้นๆ ของเอเชียและของโลกมาโดยตลอด
"ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวจีนรวมถึงจากมหานครเซี่ยงไฮ้มาเยือนจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เซี่ยงไฮ้เป็นมหานครที่มีความเจริญเป็นอย่างมาก มีศักยภาพด้านเทคโนโลยีและในหลายๆด้าน จะเห็นว่าทั้งจังหวัดเชียงใหม่และมหานครเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง ที่จะสามารถร่วมมือและเติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างลงตัว จึงขอแสดงความยินดีที่วันนี้จังหวัดเชียงใหม่และมหานครเซี่ยงไฮ้จะได้มีความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้นอีก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองเมืองจะกระชับความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้วให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ผ่านการแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และความร่วมมือในอีกหลายด้าน" ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวในที่สุด
**************
พยนต์ ยศสุพรหม - รายงาน

ภาพข่าว ; สมาคมนักศึกษาเก่าศึกษาศาสตร์ มช.ทอดผ้าป่าเงินล้านเพื่อการศึกษา

ผศ.อาคม ตันตระกูล นายกสมาคมนักศึกษาเก่าคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับคณะกรรมการดำเนินงานจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษา โดยมีท่านเจ้าคุณพระวิมลมุนี (นนทพันธ์ สมเงิน) เจ้าคณะอำเภอกัลยานิวัฒนา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ รศ.ดร.เกียรติสุดา ศรีสุข คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานที่ปรึกษา ทอดถวาย ณ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ได้เงินบริจาคกว่า 1 ล้านหกแสนบาท
*******************

ภาพข่าว ; ม.พายัพจัดกิจกรรมจิตอาสาถ่ายทอดความรู้พัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างสุขชุมชน

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ ร่วมกับบริษัท ไฮเวย์ จำกัด บริษัทในกลุ่มธนาคารทิสโก้ จัดกิจกรรมจิตอาสาถ่ายทอดองค์ความรู้ บำเพ็ญตนต่อสังคมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างสุขชุมชนให้แก่สมาชิกคริสตจักรเบธเอลและคนในชุมชน ด้วยการเผยแพร่ความรู้พร้อมสาธิต  “การทำน้ำยาล้างจาน”  โดยอาจารย์และนักศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยพายัพ รวมทั้งจัดการอบรมให้ความรู้เรื่อง “การออมเงิน” แก่ชุมชน เมื่อวันอาทิตย์ที่  25  กันยายน  2559  ณ คริสจักรเบธเอล ตำบลบ้านแป้น อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
*******************
สำนักสื่อสารองค์กร ม.พายัพ-ภาพ/ข่าว

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

ข่าว ; สนามแม่โจ้กำหนดจัดแข่งขัน Singha Mae Jo Open 2016 Wonderful Phuket

แม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท แอนด์สปา กำหนดจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ Singha Mae Jo Open 2016 Wonderful Phuket ในวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559 shot gun 12.00 น. เพื่อคัดเลือกผู้ชนะการแข่งขัน ทุกไฟล์ท และ 1 รางวัลสำหรับผู้โชคดี Lucky Draw ได้รับสิทธิ์บินไปท่องเที่ยวออกรอบพร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืน ที่สนามกอล์ฟ Red Mountain Phuket จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีรางวัลใหญ่สำหรับการแข่งขัน Hole In One เป็นรถยนต์ Nissan Almera มูลค่า 866,000 รวมทั้งยังมีโอกาสลุ้นรับของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับรูปแบบการแข่งขัน Singha Mae Jo Open 2016 Wonderful Phuket เป็นแบบสโตรกเพลย์ 18 หลุม ชายใช้หมุดสีขาวและหญิงใช้หมุดสีแดง ใช้ระบบ 36 System ในการคำนวณแต้มต่อเพื่อกำหนดไฟลท์ และใช้ระบบ Stroke Play ในการคำนวณแต้มต่อเพื่อคำนวณคะแนนเต็ตสกอร์ โดยแบ่งการแข่งขันพร้อมถ้วยรางวัลสำหรับชนะเลิศและรองชนะเลิศ Overall Low Gross, ไฟลท์ A แต้มต่อ 0-12, ไฟลท์ B แต้มต่อ 13-24, ไฟลท์ C แต้มต่อ 25-36, ไฟลท์ Lady แต้มต่อ 0-36
อัตราค่าสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ผู้สมัครทั่วไปคนละ 2,000 บาท แข่งขันรวมที่พักคนละ 2,500 บาท สมาชิกแม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท แอนด์สปา คนละ 1,600 บาท แข่งขันรวมที่พัก คนละ 2,100 บาท ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมการแข่งขันทางโทรศัพท์ได้ที่ 081-9193200 หรือ 053-354431-2
****************

ข่าว ; มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องการสรรหาอธิการบดี

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2559 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมพระยาศรีวิสารวาจา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการแถลงชี้แจงความจริงเกี่ยวกับการสรรหาอธิการบดี พร้อมกันนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ออกแถลงการตามมาความว่า
ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีผู้ร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กรณีการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้มีมติด้วยเสียงข้างมากให้เสนอชื่อ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีปัจจุบันที่จะครบวาระในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สืบต่อไปอีกวาระหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งในเรื่องคุณสมบัติของผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี การเข้าร่วมประชุมสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2559 ของรองศาสตราจารย์ นพ.สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี รักษาการในตำแหน่งนายกสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะกรรมการสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้งการลงมติของกรรมการสภามหาวิทยาลัยในการคัดเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2559 นั้น
มหาวิทยาลัยจึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นทั้งสามดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้บรรดาคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา นักศึกษาเก่า ผู้มีอุปการคุณต่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสาธารณชนทั่วไปได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้
ประเด็นแรก กรณีคุณสมบัติของผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยการสรรหาอธิการบดี  พ.ศ. 2554 ข้อ 5 กำหนดว่า อธิการบดีต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2551 และมีคุณสมบัติทั่วไปตามข้อ  15.1 รวมทั้งไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 17 แห่งข้อบังคับ ว่าด้วยชื่อตำแหน่ง คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และอำนาจและหน้าที่ของรองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี หัวหน้าส่วนงาน รองหัวหน้าส่วนงาน และตำแหน่งบริหารอื่น ในส่วนงานวิชาการและส่วนงานอื่น พ.ศ. 2554 โดยอนุโลม ซึ่งข้อ 17 (2) แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ว่าด้วยชื่อตำแหน่ง  คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งฯ   พ.ศ. 2554 กำหนดลักษณะต้องห้ามของผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี กล่าวคือ  เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองท้องถิ่น
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ซึ่งตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่โดยที่บทบัญญัติมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 บัญญัติว่า “ในกรณีที่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดกำหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง มิให้นำบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นมาใช้บังคับแก่ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา” ซึ่งถ้าไม่มีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญดังกล่าว ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์  นันทจิต จะต้องพ้นจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 แต่เนื่องจากมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีศักดิ์สูงสุดของประเทศ บัญญัติมิให้นำลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาใช้บังคับ  ดังนั้น ลักษณะต้องห้าม “เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ตามที่กำหนดในข้อบังคับของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีศักดิ์ทางกฎหมายเป็นอนุบัญญัติที่ออกตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2551 จึงไม่อาจนำมาใช้บังคับได้ ทำให้ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์  นันทจิต สามารถดำรงตำแหน่งอธิการบดีจนใกล้จะครบวาระ 4 ปี ดังที่กล่าวข้างต้น
มีปัญหาที่มีผู้สงสัยว่ากรณีศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต ที่จะครบวาระการดำรงอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้กำหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองไว้ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และได้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อว่าสมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรณีนี้จะได้รับการยกเว้นตามมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 มิให้นำลักษณะต้องห้ามตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยชื่อตำแหน่ง คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งฯ พ.ศ. 2554 มาใช้บังคับด้วยหรือไม่  ซึ่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกองกฎหมายของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า ต้องนำมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 มายกเว้นลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกัน  และที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2559 ได้พิจารณาเห็นว่าเป็นกรณีที่ต้องได้รับการยกเว้นตามความในมาตรา 41 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 โดยมิให้นำลักษณะต้องห้ามตามข้อบังคับฯ ว่าด้วยชื่อตำแหน่ง คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งฯ พ.ศ. 2554 ข้อ 17(2) “เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” มาใช้บังคับ จึงถือว่าศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 17 (2) แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ว่าด้วยชื่อตำแหน่ง  คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง  วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง  และอำนาจหน้าที่ของรองอธิการบดี  ผู้ช่วยอธิการบดี หัวหน้าส่วนงาน รองหัวหน้าส่วนงาน และตำแหน่งบริหารอื่น ในส่วนงานวิชาการและส่วนงานอื่น พ.ศ. 2554
ประเด็นที่ 2 การเข้าร่วมประชุมสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ของ รองศาสตราจารย์ นพ.สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี รักษาการในตำแหน่งนายกสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะกรรมการสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2559 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ขอชี้แจงตามลำดับเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
รองศาสตราจารย์ นพ.สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี นายกสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่คนเดิม ได้ครบวาระการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 และรักษาการในตำแหน่งนายกสมาคมฯ ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2559 เป็นต้นมา
นายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศจดทะเบียนแต่งตั้งคณะกรรมการสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขึ้นใหม่ทั้งชุดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559 โดยสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับแจ้งประกาศจดทะเบียนแต่งตั้งคณะกรรมการสมาคมฯ จากอำเภอเมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 เวลา 15.00 น. ตามหนังสือ ที่ ชม 0118/5227 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2559
สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีหนังสือ ที่ สก.มช. 025/2559 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ส่งถึงสำนักงานสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แจ้งว่าจังหวัดเชียงใหม่ได้พิจารณาอนุญาตให้จดทะเบียนการแต่งตั้งคณะกรรมการสมาคมฯ เรียบร้อยแล้ว จึงขอแจ้งการเปลี่ยนชื่อนายกสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็น นายซวง ชัยสุโรจน์ เพื่อเข้าร่วมประชุมสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในครั้งต่อไป ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน  จนถึงวันที่ 25 กรกฏาคม 2559 รองศาสตราจารย์ นพ.สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี จึงเป็นผู้รักษาการในตำแหน่งนายกสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ประเด็นที่ 3 การลงมติของที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2559 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การลงมติของที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยการประชุมและวิธีดำเนินงานของสภามหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551 กำหนดว่าการลงมติของสภามหาวิทยาลัยสามารถดำเนินการได้ทั้งวิธีเปิดเผยและวิธีลับ สำหรับการพิจารณาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2559 นายกสภามหาวิทยาลัย ประธานที่ประชุมเสนอว่า การพิจารณาชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในคราวที่ผ่านมา จะให้ที่ประชุมพิจารณาและลงมติโดยวิธีลับ  โดยการทำเครื่องหมายลงในบัตรลงมติที่ฝ่ายเลขานุการได้จัดเตรียมไว้ จึงเสนอที่ประชุมพิจารณาให้มีการลงมติโดยวิธีลับดังกล่าวเช่นเดียวกับคราวที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติให้พิจารณาชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยวิธีลับตามที่ประธานเสนอ การลงมติจึงเป็นไปตามข้อบังคับฯ ซึ่งเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนกรณีที่มีผู้กล่าวว่า มีเหตุอันควรสงสัยว่าเจ้าหน้าที่บางคนเปลี่ยนบัตรลงคะแนน หรือมีการเปิดดูบัตร เป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโดยสุจริต โดยไร้จรรยาบรรณ ซึ่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่ร่วมประชุมอยู่สามารถเป็นพยานได้ว่าไม่มีการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด  ทั้งนี้ การนับคะแนนและการรวมคะแนน ประธานที่ประชุมได้มอบหมายให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยจำนวนสามท่านเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อความโปร่งใสและป้องกันข้อครหา
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงขอแถลงการณ์ในประเด็นที่มีข้อสงสัยดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงโดยทั่วกัน
******************
ปชส.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - ข่าว/ภาพ

ข่าว ; จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิการายที่ 14 เป็นหญิงอายุ 45 ปี

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกาอีก 1 คน นับเป็นรายที่ 14 ชื่อนางธัญญา วงศ์ประสิทธ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/134 หมู่บ้านพัชรพร หมู่ 1 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย ทำงานอยู่ที่บริษัท  AIA ถนนมหิดล ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2559 ด้วยอาการมีผื่น ไข้ ปวดข้อ ตาแดง ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงใหม่รามเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 และทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่ามีผลเป็นบวกเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559
สำหรับประวัติการเสี่ยง เมื่อ 14 วันก่อนป่วยก็ได้ทำงานตามปกติที่สำนักงานในวันจันทร์-ศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ พักผ่อนอยู่ที่บ้าน เมื่อวันที่ 9-11 กันยายน 2559 ได้เดินทางไปเยี่ยมมารดาที่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 2 ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา และวันที่ 18 กันยายน 2559 เดินทางไปโรงเรียนเหมืองง่า จ.ลำพูน จากนั้นไปร่วมงานของบริษัทและไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
ทางด้านครอบครัวของผู้ป่วยอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือผู้ป่วย สามี และลูก 2 คน ซึ่งทุกคนไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด โดยสามีทำงานที่ samart telecom เจ็ดยอด ลูกคนโตอายุ 18 ปี เรียนที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยมัธยม คนเล็กอายุ 8 ปี เรียนที่โรงเรียนพิมานเด็ก
ส่วนด้านการป้องกันนั้น ขณะนี้ทีมสันทราย ได้ลงพื้นที่ในการทำประชาคม กำหนดพื้นที่ในการสำรวจทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง พ่นสารเคมี เก็บปัสสาวะในครอบครัว สำรวจหญิงมีครรภ์ในหมู่บ้านและตำบลเพื่อเฝ้าระวังและเก็บปัสสาวะส่งตรวจต่อไป ส่วนการดำเนินงานในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้ประสานกับเทศบาลนครเชียงใหม่เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังแล้ว
*****************

ภาพข่าว ; มช.ประชุมจัดสร้างพระพุทธรูปประจำศูนย์การศึกษา หริภุญไชย

รองศาสตราจารย์ นพ.อำนาจ อยู่สุข รองอธิการบดีฝ่ายบริการ พัฒนาสังคม ศิลปวัฒนธรรม และกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการจัดสร้างพระพุทธรูปประจำศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ "หริภุญไชย" จังหวัดลำพูน ครั้งที่ 1/ 2559 เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 ณ ห้องประเสริฐ รุจิรวงศ์ อาคารยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
*********************

ข่าว ; สวนสัตว์เชียงใหม่ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ กับวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มช.

ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่ วันที่ 23 กันยายน 2559 ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสวนสัตว์เชียงใหม่ กับวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิติพงษ์ ยอดมงคล คณบดี เป็นตัวแทนวิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการเป็นตัวแทนสวนสัตว์เชียงใหม่ ในสังกัดองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความร่วมมือทางวิชาการอันจะนำไปสู่ความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนบุคลากรและนักวิจัย ระหว่างวิทยาลัยฯ และสวนสัตว์เชียงใหม่ ในการวิจัย การฝึกงานสหกิจศึกษา และกิจกรรมอื่นๆ ทั้งในระดับปริญญาตรี มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตของมาหาวิทยาลัยฯ โดยสามารถนำผลการวิจัยและพัฒนาดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ต่อนักท่องเที่ยวและสวนสัตว์เชียงใหม่ รวมทั้งเพื่อวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่อไป
*********************
ปชส.สวนสัตว์เชียงใหม่-ข่าว/ภาพ

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

ภาพข่าว ; ม.พายัพจัดโต้วาทีเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบปีสหรัฐอเมริกา

มหาวิทยาลัยพายัพ ร่วมกับ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ จัดกิจกรรม Mock Political Debate เป็นการแข่งขันโต้วาทีเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดี ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2559 นี้ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับนักศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือ ในการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์และความรู้รอบตัวทางด้านการเมืองการปกครองอีกด้วย
****************
สำนักสื่อสารองค์กร ม.พายัพ - ภาพ/ข่าว

ข่าว ; ราชประชานุเคราะห์มอบสิ่งของพระราชทานแก่ผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดเชียงใหม่

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอแม่แจ่ม อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1,500 ชุด
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งมี พลตำรวจตรี อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร เลขาธิการมูลนิธิฯ และคณะ นำเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทานไปมอบให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ในอำเภอแม่แจ่ม จำนวน 1,000 ชุด ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าวสารอาหารแห้ง ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ณ หอประชุมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายประจวบ กันธิยะ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ นายอำเภอ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมมอบ เครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทานในครั้งนี้
โอกาสนี้ เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวกับราษฎรที่เข้ารับถุงยังชีพพระราชทานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบภัยธรรมชาติ และทรงให้นำสิ่งของพระราชทานมามอบให้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ยังความซาบซึ้งและปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณแก่ราษฎรเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2559 ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงสู่ลำน้ำแม่แจ่ม ส่งผลให้ระดับน้ำแม่แจ่มมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำแจ่ม จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดอุทกภัยและสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนของประชาชนรวมทั้งพื้นที่เกษตรกรรม เกิดดินเลื่อนไหลกีดขวางทางจราจรและต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มทับบ้านเรือนของประชาชน โดยมีพื้นที่ประสบภัยรวมทั้งหมด 5 ตำบล 42 หมู่บ้าน และประชาชนได้รับความเดือดร้อน 3,079 ครัวเรือน จำนวน 9,352 คน
วันเดียวกันในเวลาต่อมา คณะมูลนิธิฯ จากส่วนกลาง พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประสบอุทกภัย จำนวน 500 ครัวเรือน ในการได้รับเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทาน ในครั้งนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแก่พสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่อย่างหาที่สุดมิได้
โดยเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2559 ได้เกิดอุทกภัยขึ้นในพื้นที่อำเภอฮอด โดยมีพื้นที่ประสบภัยรวม 2 ตำบล 14 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 500 ครัวเรือน 1,750 คน ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ได้ส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง โดยมีพื้นที่ประสบภัยรวม 12 อำเภอ 36 ตำบล 194 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 15,669 ครัวเรือน 50,856 คน สิ่งสาธารณูปโภค บ้านเรือน ทรัพย์สิน ตลอดจนพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรได้รับความเสียหายไปจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้มีการนำสิ่งของได้แก่ถุงยังชีพเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นบางส่วนแก่ผู้ประสบภัยไปก่อนแล้ว
****************
ส.ปชส.เชียงใหม่ - ข่าว/ภาพ

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

TV Online ; งานพบปะกับมนต์เสน่ห์แห่งเซี่ยงไฮ้ : Glamour Shanghai Meeting

          มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน กำหนดจัดงาน พบปะกับมนต์เสน่ห์แห่งเซี่ยงไฮ้ (Glamour Shanghai Meeting) วันที่ 26 กันยายน 2559 นี้ เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมแชมกรี-ลา จังหวัดเชียงใหม่

Link TV Online
******************
พยนต์ ยศสุพรหม - รายงาน

ข่าว ; สาธารณสุขเชียงใหม่เฝ้าติดตามควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกาต่อเนื่อง

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เฝ้าติดตามควบคุมสถานการ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกาต่อเนื่อง พร้อมขอประชาชนช่วยกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายและยุงในบ้านตนเองทุก 7 วัน ตามมาตรการ 3 เก็บ 5 ส. ก็จะปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสซิการวมทั้งไข้เลือดออก
นายแพทย์ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังและการวิเคราะห์ทางระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าโรคไข้เลือดออก ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยตั้งแต่ วันที่ 3 มกราคม - 18 กันยายน 2559 จำนวน 3,824 ราย เสียชีวิต จำนวน 3 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 15-24 ปี รองลงมาคืออายุ อายุ 25-34 ปี และอายุ 10-14 ปี ตามลําดับ โดยอำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอแม่แตง อำเภอแม่วาง อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอเมือง และอำเภอสันกำแพง
ส่วนสถานการณ์ไวรัสซิกาล่าสุดในวันที่ 19 กันยายน 2559 จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกา จำนวน 13 ราย การจากตรวจหาซิกาในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งสิ้น 920 ราย มีผลเป็นบวก 13 ราย      เป็นบุคคลทั่วไป 10 ราย หญิงตั้งครรภ์ 3 ราย จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รับทราบวิธีการป้องกันตนเอง โดยข้อมูลจากการเฝ้าระวังในหญิงตั้งครรภ์ 3 คนที่ติดเชื้อไวรัสซิกาอยู่ในความดูแลของสูตินรีแพทย์ สำหรับผู้ป่วยที่พบรายล่าสุดตรวจเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 เป็นหญิง อายุ 24 ปี ซึ่งพักอาศัยในพื้นที่ตำบลท่าศาลา และทำงานในพื้นที่ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการตามมาตรการของกรมควบคุมโรคแล้ว ทั้งนี้ สำหรับอาการของผู้ป่วยที่พบติดเชื้อไวรัสซิกาทั้ง 13 ราย ส่วนใหญ่ มีไข้ ต่ำๆ ออกผื่น อาการดีขึ้น ภายใน 3 - 5 วัน รักษาแบบผู้ป่วยนอก ขณะนี้อาการเป็นปกติทุกราย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงมาตรการที่ทุกคนสามารถทำได้และได้ผลดีคือ การร่วมกันกำจัดลูกน้ำยุงลายโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนนี้ ซึ่งเป็นฤดูระบาดสูงสุดของโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ ตามมาตรการ 3 เก็บ  คือ “เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ” เพื่อป้องกัน  3 โรค คือ ไข้เลือดออก ไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา โดยทำอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ รวมถึงการป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด โดยใช้ยาทากันยุง นอนในมุ้ง หรือห้องที่มีมุ้งลวด ส่วนหญิงตั้งครรภ์แนะนำให้ทายากันยุงที่ทำจากสมุนไพร เช่นตะไคร้หอม ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อนั้นทารกที่คลอดไม่ได้มีศีรษะเล็กแต่กำเนิดทุกราย จึงไม่ควรกังวลมากเกินไป อย่างไรก็ตามควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการดูแลติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ 053-211048-50 ต่อ 111
******************
ประชาสัมพันธ์ สสจ.เชียงใหม่ - ข่าว/ภาพ

ข่าว ; ม.พายัพ จัดงานรับขวัญบุนนาค พร้อมประกวดเดือน – ดาวมหาวิทยาลัย

องค์การนักศึกษา ร่วมกับฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยพายัพ จัดกิจกรรมรับขวัญบุนนาคต้อนรับนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2559  ณ อาคารสายธารธรรม มหาวิทยาลัยพายัพ เขตแม่คาว
อาจารย์ทศพล บุญศิริ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษากล่าวว่า มหาวิทยาลัยพายัพจัดงานรับขวัญบุนนาคเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของการก่อตั้งมหาวิทยาลัย จึงถือเป็นประเพณีที่สืบเนื่องกันมา ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อต้อนรับนักศึกษาใหม่ที่มาเป็นดอกบุนนาคช่อใหม่ของมหาวิทยาลัย ด้วยความอบอุ่น งดงามด้วยวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของล้านนา และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างน้องใหม่คณะต่าง ๆ กับคณาจารย์และรุ่นพี่ที่จะใช้ชีวิตร่วมกันในระหว่างศึกษาที่สถาบันแห่งนี้ 
      ด้านนางสาวภาพงาม มหานนท์ นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยพายัพ กล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของการจัดงานว่า  ในปีนี้ทางองค์กรนักศึกษาได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อให้น้องใหม่ได้รับความอบอุ่นและความสนุกสนาน  ช่วงแรกของงานจะเป็นพิธีรับขวัญลูกบุนนาค ผูกข้อมือแสดงถึงสายสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน และพิธีจุดเทียนแสงสว่างแห่งปัญญา จากนั้นจะเป็นงานเลี้ยงขันโตกรับขวัญ  การบรรเลงดนตรีโฟล์คซองจากวิทยาลัยดุริยศิลป์ และการแสดงดนตรีจากวงดนตรีของนักศึกษาและศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยพายัพ รวมทั้งกิจกรรมที่เป็นที่สนใจที่สุดของงานอีกอย่างหนึ่งก็คือการประกวดดาว เดือน โดยในปีนี้ รางวัลชนะเลิศตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยพายัพได้แก่ นายวิชิตพล ผ่านเมือง (น้องพู) คณะนิติศาสตร์ ตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยพายัพได้แก่ นางสาววราพร บุญนุวงษ์ (น้องพลอย) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
*******************
สำนักสื่อสารองค์กร ม.พายัพ-ข่าว/ภาพ

ข่าว ; ผล TGA-SINGHA Junior Golf Ranking 2016-2017 สนามที่ 4

การแข่งขัน TGA-SINGHA Junior Golf Ranking 2016-2017 สนามที่ 4 จัดโดยสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภาคเหนือตอนบน เมื่อวันที่ 17-18 กันยายน 2559 ณ สนามกอล์ฟการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ผลการแข่งขันมีดังนี้
Class A อายุ 15-17 ปี ประเภทชาย ชนะเลิศได้แก่ คริส ชินพงศ์ 70-75-145 (+1) อันดับที่ 2 พัทธนันท์ บรูมินเหนทร์ 77-72-149 (+5) อันดับที่ 3 จอมกมล บุระคำ 78-77-155 (+11) อันดับที่ 4 พัฒนพงษ์ แสนบัวหลวง 82-79-161 (+17) อันดับที่ 5 ภูพิงค์ จาระนะ 80-81-161(+17)  ประเภทหญิง ชนะเลิศได้แก่ เมียวนา อุปนันไชย 78-81-159 (+15) อันดับที่ 2 เปมิกา พลเมืองดี 79-81-160 (+16) อันดับที่ 3 แพรว นนทรักส์ 80-88-168 (+24) อันดับที่ 4 ศุภนุช สงค์ประเสริฐ 88-89-177 (+33)
Class B อายุ 13-14 ปี ประเภทชาย ชนะเลิศได้แก่ พิริยศักดิ์ บุญญฐี 80-78-158 (+14) อันดับที่ 2 อัศเดชม์ ศรีอุทัยศิริวงศ์ 80-83-163 (+19) อันดับที่ 3 สุทธินนท์ ปัญโญ 80-85-165 (+21) อันดับที่ 4 ชาญจิติ กนกศักดิ์สกุล 85-82-167 (+23) อันดับที่ 5 ปัณณธร ช้อยจินดา 84-87-171 (+27) ประเภทหญิงชนะเลิศได้แก่ ปราง โชติบาง 91-86-177 (+33) อันดับที่ 2 พลอยชมพู ทองภู 92-93-185 (+41) อันดับที่ 3 พิศลยา รวยรื่น 95-95-190 (+46)
Class C อายุ 11-12 ปี ประเภทชาย ชนะเลิศได้แก่ อักเซล โม 86-84-170 (+26) อันดับที่ 2 นนทกร สิริจินดาพันธ์ 87-86-173 (+29) อันดับที่ 3 ศิระภพ ยะปาละ 80-93-173 (+29) อันดับที่ 4 เควิน ไรม์แมน 88-86-174 (+30) อันดับที่ 5 ธนทัศน์ สุขประเสริฐ 84-93-177 (+33) ประเภทหญิงชนะเลิศได้แก่ พิมพ์พิชชา ทิศเมือง 99-105-204 (+60)
Class D อายุ 9-10 ปี ประเภทชาย ชนะเลิศได้แก่ พีร์ นนทรักส์ 73-84-157 (+13) อันดับที่ 2 อิงตะวัน หวังรุ่งวิชัยศรี 91-87-178 (+34) อันดับที่ 3 ชิดตะวัน หวังรุ่งวิชัยศรี 90-95-185 (+41) อันดับที่ 4 โจนัส โม 93-93-186 (+42) อันดับที่ 5 ชนุต รักคิด 91-95-186 (+42) ประเภทหญิงชนะเลิศได้แก่ ศิริพิมลภัส คณาญาติ 84-81-165 (+21) อันดับที่ 2 ระวิประภา จบรัตน์ 103-94-197 (+53) อันดับที่ 3 อรนิชชา ชูชัยมงคล 115-106-221(+77)
Class E อายุ 7-8 ปี ประเภทชาย ชนะเลิศได้แก่ เทรเวอร์ โดนัลด์ คันนิงแฮม 95-84-179 (+35) อันดับที่ 2 ธิเบต อัตะบุษบ์ 104-100-204 (+60) อันดับที่ 3 จิรทีปต์ ทรัพย์เสนาะ 168-181-349 (+205) อันดับที่ 4 นยกร จันทนี 194-187-381 (+237) ประเภทหญิงชนะเลิศได้แก่ ธิรดา ปานทอง 100-97-197 (+53) อันดับที่ 2 ปราสิยา รามโยธิน 110-111-221 (+77)
Class F อายุ 5-6 ปี ประเภทชาย ชนะเลิศได้แก่ ณัฏฐ์ อินทร 108-108-216 (+72) ประเภทหญิงชนะเลิศได้แก่ กวินทิพย์ จ่าแก้ว 143-114-257 (+113)
สำหรับการแข่งขัน TGA-SINGHA Junior Golf Ranking 2016-2017 ครั้งต่อไปสนามที่ 5 กำหนดจัดในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 29-30 ตุลาคม 2559 ณ อินทนนท์กอล์ฟ แอนด์ เนเชอรัล รีสอร์ท จ.เชียงใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณจิตติพล รักษธรรม โทร.081-8813541 หรือที่สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ภาคเหนือตอนบน ชั้น 2 อาคารสตาร์โดมกอล์ฟคลับ ศูนย์ฝึกกีฬาพิมานทิพย์ กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ ผศ.ดร.สุรพล วงษ์สถิตย์ โทร 081-9804603 อ.พัชรินทร์ วงษ์สถิตย์ โทร.089-7553564
****************

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

ข่าว : สื่อมวลชนภาคเหนือของไทยศึกษาดูงานบริษัทผลิตสื่อครบวงจร ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 คณะศึกษาดูงานจากภาคเหนือของไทย ภายใต้การอำนวยการของสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ ซึ่งประกอบด้วยสื่อมวลชนและหน่วยงานประชาสัมพันธ์ภาครัฐจากพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย จำนวน 20 คน ได้เข้าศึกษาดูงานกลุ่มบริษัทเซี่ยงไฮ้มีเดียกรุ๊ป มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อศึกษาความเป็นมา กิจการที่ดำเนินการ การบริหารจัดการ และรายละเอียดต่างๆ โดยทางบริษัทได้มอบหมายให้ น.ส.คาเรน เจ้าหน้าที่องค์กรสัมพันธ์ ทำหน้าที่บรรยายสรุปและนำคณะเยี่ยมชมส่วนต่างๆ ภายในบริษัท
Shanghai Media Group หรือ SMG เป็นองค์กรสื่อและกลุ่มบริษัททางศิลปวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในระดับจังหวัดหัวเมืองของประเทศจีน ก่อตั้งเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2014 โดยอดีต Shanghai Media & Entertainment Group ร่วมกับ Radio and Television Shanghai และ Shanghai Media Group โดยมีผลงานที่สมบูรณ์ครบวงจรทางด้านของสื่อและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ The Oriental Pearl New Media Company หนึ่งในบริษัทในเครือของ SMG เป็นบริษัททางด้านศิลปวัฒนธรรมแห่งแรกที่มีมูลค่าทางการตลาดรวมกว่า 100,000 ล้านหยวนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ อีกทั้งมีมูลค่าการตลาดขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของบริษัทอินเทอร์เน็ตในจีน โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2015 SMG มีสินทรัพย์มากกว่า 61,000 ล้านหยวน และมีพนักงานประมาณ 17,200
ธุรกิจของ SMG ประกอบด้วย การดำเนินงานเครือข่ายวิทยุและโทรทัศน์, การส่งสัญญาณผ่านระบบต่างๆ, หนังสือพิมพ์และนิตยสาร, การผลิตและเผยแพร่ละครและภาพยนตร์, การบริการสื่อสารและแพร่ภาพและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต (OTT), บริการมัลติมีเดียด้วยระบบ streaming, IPTV, เกมระบบออนไลน์และคอนโซล, โฆษณา, ดิจิตอลชอปปิ้งและ e-commerce, ข้อมูลทางการเงินและบริการข้อมูลข่าวสาร, การฝึกอบรมศิลปะสำหรับเยาวชน, บริการผลิตรายการโทรทัศน์ครบวงจร, บริการถ่ายทอดสดความบันเทิง, การท่องเที่ยวและการลงทุนทางวัฒนธรรม เป็นต้น
SMG มีเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม 15 เครือข่าย มีวิทยุกระจายเสียง 13 ความถี่ มีทีวีดิจิตอลแบบบอกรับเป็นสมาชิก 15 ช่อง หนังสือพิมพ์และนิตยสาร 6 ฉบับ ในด้านเนื้อหา SMG ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศจีนในการผลิตรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ การ์ตูนและสารคดี โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับสื่อสมัยใหม่ ซึ่งจะเป็นสิ่งรองรับกับระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ที่มีการดำเนินงานผ่านสมาร์ทโฟน, บริการภาพและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต, บริการช่องทางผ่านเว็บพอร์ททัล แอพลิเคชั่นและบริการคลาวด์ SMG ยังมีดารายอดนิยมที่มีชื่อเสียงในด้านความบันเทิง, เป็นเจ้าของทีมงานละครชั้นนำ 9 คณะ โรงเรียนละครสัตว์ 1 แห่ง, โรงภาพยนตร์ 8 แห่ง นอกจากนี้ SMG ยังเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่มีชื่อเสียงหรือเป็นสัญลักษณ์ของนครเซี่ยงไฮ้ เช่น หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ Oriental Pearl TV Tower, Mercedes Benz Arena และศูนย์ประชุมนานาชาติ International Convention Center ส่วนในด้าน E-Commerce นั้น SMG ก็ยังเป็นแหล่งชอปปิ้งทางดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน โดยในปี 2014 มียอดขายถึง 8,500 ล้านหยวน นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้เข้าร่วมในการลงทุนทางวัฒนธรรม โดยถือหุ้น 20% ของ Shanghai Disney Resort และได้มีการร่วมทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนทางวัฒนธรรม ในที่นี้รวมถึง China Media Capital, Shanghai Culture Industrial Investment Fund และกองทุน LDVP Venture Capital Fund เป็นต้น
โดยผู้มีกิจธุระสามารถติดต่อกับทางบริษัทได้ที่ 298 Weihai Road,Shanghai,China,200041 หมายเลขโทรศัพท์ 6 21 22005899
******************

ข่าว ; ผู้ว่าเชียงใหม่ตรวจเยี่ยมราษฎรประสบอุทกภัย พร้อมสั่งเฝ้าระวังเกรงเกิดเหตุขึ้นอีก


บ่ายวันที่ 19 กันยายน 2559 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนผู้ประสบอุทกภัยจากสาธารณภัยที่มีฝนตกหนัก พร้อมดูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบสาธารณภัย ณ ศาลาประคมบ้านวาก หมู่ที่ 4  ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 59 ราย ต่อจากนั้นได้ลงตรวจพื้นที่ประสบอุทกภัย หมู่ 5 ต.ออนกลาง อ.แม่ออน และติดตามความเสียหายของสะพานบ้านแม่ตะไคร้ หมู่ 1 ต.แม่ทาเหนือ อ.แม่ออน จำนวน 2 แห่ง นอกยากนั้นยังได้ตรวจติดตามปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำแม่ตะไคร้ และติดตามความเสียหายสะพานบ้านม่อน หมู่ 1 ต.แม่ทา อ.แม่ออน พร้อมมอบแนวทางการปฏิบัติเพื่อรับมือกับสาธารณภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในขณะนี้ น้ำแม่ออนที่ไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอสันกำแพง ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแต่หลายพื้นที่ยังมีน้ำขัง ชาวบ้านต่างออกมาทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งเก็บซากไม้และผักตบชวาที่ไหลมากับน้ำแม่ออน เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลผ่านได้อย่างสะดวก โดยหมู่บ้านที่ประสบภัยในพื้นที่อำเภอสันกำแพงประกอบด้วยบ้านสันใต้ บ้านสันต้นบง บ้านน้อย ตำบลสันกำแพง  บ้านป่าไผ่ ตำบลแช่ช้าง และหลายพื้นที่ของตำบลร้องวัวแดง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสันกำแพง และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอสันกำแพง ได้นำรถแบ๊คโฮและรถเครนมาช่วยตักเศษไม้ ขยะ ตลอดจนผักตบชวา ที่ไหลมากับน้ำและติดค้างอยู่บริเวณสะพานข้ามลำน้ำแม่ออน ตั้งแต่บ้านน้อยลงไปถึงบ้านสันต้นบง ตำบลสันกำแพง เพื่อเปิดทางให้น้ำได้ไหลผ่านลงพื้นที่ท้ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากยังพบว่าบ้านเรือนราษฎรในบ้านสันต้นบง และบ้านน้อยยังมีน้ำขังอยู่ เนื่องจากบางจุดเป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้น้ำจากน้ำแม่ออน ยังไหลเข้าท่วมอยู่ อย่างไรก็ตามคาดว่าช่วงเย็นวันนี้เจ้าหน้าที่จะระบายน้ำออกจากจุดที่ยังมีน้ำท่วมขังได้ทั้งหมด ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการไปยังผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในอำเภอแม่ออน และอำเภอสันกำแพง ให้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าในพื้นที่จะไม่มีฝนตกลงมาแล้วแต่สภาพทั่วไปยังคงมีเมฆฝนปกคลุมอยู่
*****************
ส.ปชส.เชียงใหม่ - ข่าว/ภาพ

ข่าว ; ปัญญาชนไทยส่ง 10 นักชกสู้ศึกมวยมหาวิทยาลัยโลก 3-8 ต.ค.นี้ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


  นักกีฬามวยสากลทีมชาติไทย 10 คน เก็บตัวฝึกซ้อมแล้วที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมสู้ศึกการแข่งขันมวยสากลชิงชนะเลิศกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 3-8 ตุลาคม 2559 ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งจะมีการแข่งขันรวม 13 รุ่น ชาวเชียงใหม่และชาวไทยสามารถร่วมชมและเชียร์ติดขอบสนามได้ฟรี หรือชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน พิธีเปิด-พิธีปิด ทางช่องฟรีทีวีดิจิตอล นิวทีวี ช่อง 18 และทางเว็บไซต์การแข่งขันที่ http://wucbox2016.cmu.ac.th
  อีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงการแข่งขันมวยสากลชิงชนะเลิศกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 7 พ.ศ. 2559 (ค.ศ. 2016) (7th World University Boxing Championship 2016)  ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โดยคณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ได้รับมอบหมายจากสมาพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยโลก (FISU) ให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในนามจังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-8 ตุลาคม 2559 ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ล่าสุดนักกีฬามวยสากลทีมชาติไทย จำนวน 10 คนที่จะเข้าสู้ศึกครั้งนี้ได้เข้ารายงานตัวเพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  สำหรับนักกีฬามวยสากลทีมชาติไทยทั้ง 10 คน ประกอบด้วย ประเภทชาย 8 คน ได้แก่ รุ่นน้ำหนัก 46-49 กก. ฐิติศักดิ์ หอยทอง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 52 กก. ธเนศ องศ์จันทร์ต๊ะ จากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 56 กก. ยุทธพงศ์ ทองดี (ดัง ส.เพลินจิต) จากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตอุดรธานี รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กก. ทิวา จันทะคำภา จากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตอุดรธานี รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 64 กก. สมชาย วงศ์สุวรรณ์  จากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 69 กก. บรรจง สินศิริ จากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษ รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กก. วิชัย ศรีจันทร์ จากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 81 กก. จักรพงศ์ ยมโคตร จากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย ประเภทหญิง 2 คน ได้แก่ รุ่นน้ำหนัก 48-51กก. จุฑามาศ รักสัตย์ จากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม รุ่นน้ำหนัก 57- 60 กก. รัชฎาภรณ์ เสาร์ตอ จากวิทยาลัยทองสุข รวม 10 รุ่น
ขณะที่นายพีระ จันทร ผู้จัดการทีมมวยสากลทีมชาติไทย ได้เดินทางมาให้โอวาทและให้กำลังใจแก่ในกีฬาในการเก็บตัวครั้งนี้ พร้อมกล่าวว่า ทีมนักชกไทยมีความพร้อมประมาณ 70-80 % แล้ว เพราะนักกีฬาได้ซ้อมอย่างต่อเนื่องที่สมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะมีเวลาเก็บตัวอีกเพียงไม่นาน แต่ก็เชื่อว่าช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ทุกอย่างจะพร้อม ส่วนทางด้านเหรียญรางวัลนั้นสมาคมฯ มองว่ามีโอกาสได้ 2 เหรียญเป็นอย่างน้อย
  ทั้งนี้ผู้สนใจการแข่งขันครั้งนี้สามารถเข้าชมและเชียร์นักชกไทยในการแข่งขันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด พร้อมรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน พิธีเปิด และพิธีปิด ทางช่องฟรีทีวีดิจิตอล นิวทีวี ช่อง 18 และช่องทางเว็บไซต์การแข่งขันที่ http://wucbox2016.cmu.ac.th โดยจะเริ่มแข่งขันตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป
********************

ภาพข่าว ; มหาวิทยาลัยแม่โจ้ดูงานการออกนอกระบบที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


ผศ.อาคม ตันตระกูล ที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปแก่เจ้าหน้าที่สำนักงานสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เนื่องในโอกาสที่ได้เดินทางมาศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (KM) ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการออกนอกระบบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาพนักงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมพระยาศรีวิสารวาจา สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
********************

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559

มหกรรมการแสงสินค้า CHINA-ASEAN EXPO ครั้งที่ 13 เริ่มแล้ว โดยจะมีไปจนถึงวันที่ 14 กันยายน 2559 นี้

งานมหกรรมการแสดงสินค้า CHINA-ASEAN EXPO ครั้งที่ 13 ณ นครหนานหนิง มณฑลกว่างซี สาธรารณรัฐประชาชนจีนเริ่มต้นขึ้นแล้ววันนี้  ภายใต้ความร่วมมือของรัฐบาลประเทศอาเซียน 10 ประเทศ ซึ่งนับเป็นการพัฒนาความก้าวหน้าของเขตการค้าเสรีจีน อาเซียน ทำให้ความร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศกลุ่มอาเซียนเป็นรูปธรรมและใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยงานจะมุ่งเน้นช่วยเหลือวิสาหกิจในประเทศอาเซียน ให้สามารถขยายการตลาดในประเทศจีน กระตุ้นการลงทุนของประเทศอาเซียนและผลักดันวิสาหกิจของประเทศจีนให้ก้าวออกไปสู่ต่างประเทศ นอกจากนั้น ยังเป็นการสรรหาคู่ค้าในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่ธุรกิจระหว่างบุคคลหรือกลุ่ม การประชุมพบปะนักธุรกิจจีนและต่างประเทศ รวมทั้งได้มีการเพิ่มสิทธิพิเศษเพื่อดึงดูดผู้ประกอบการได้มาร่วมงานครั้งนี้
ขณะที่นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ กล่าวว่า งานมหกรรมการแสงสินค้าCHINA-ASEAN EXPO ครั้งที่ 13 นี้ เป็นความร่วมมือกันเพื่อบรรลุความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว โดยประเทศจีนยังคงสนับสนุนและยึดหลักการ ร่วมค้า ร่วมสร้าง ร่วมแบ่งปัน อีกทั้งผลักดันยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศอาเซียนให้ก้าวหน้า โดยเฉพาะมณฑลกวางซีและประเทศไทยมีอารยธรรม และภาษาจ้วงซึ่งเป็นภาษาชนเผ่าที่มีจำนวนมากในเมืองหนานหนิงก็คล้ายคลึงกับภาษาไทย ทำให้กว่างซีและประเทศไทยมีความผูกพันกันมาอย่างยาวนาน
สำหรับงานมหกรรมการแสงสินค้า CHINA-ASEAN EXPO ครั้งที่ 13 กำหนดจัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้านครหนานหนิง มณฑลกว่างซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 11-14 กันยายน 2559 นี้
********************

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559

ภาพข่าว ; ลงนามความร่วมมือสร้างความปรองดองโดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา


ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ประจำเดือน กันยายน 2559 พร้อมทั้งลงนาม MOU ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา "หมู่บ้านศีล 5" ระยะยาว พ.ศ 2558 - 2560 ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอกัลยณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2559
*****************

ข่าว ; สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ เป็นนกฟลามิงโกอีก 1 ตัว

นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ แจ้งว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 กันยายน 2559 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ได้มีสมาชิกใหม่เกิดขึ้นในสวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นลูกนกฟลามิงโก ได้รับการฟักออกมาลืมตาดูโลก 1 ตัว ขณะที่ยังคงมีไข่ที่กำลังฟักอยู่อีก 6 ฟอง ซึ่งคาดว่าจะฟักออกเป็นตัวมาอีกในเร็วๆนี้  โดยในปีนี้นกฟลามิงโกออกไข่แล้ว 7 ฟอง และปัจุบันสวนสัตว์เชียงใหม่มีนกฟลามิงโกทั้งสิ้น 35 ตัว เมื่อได้สมาชิกใหม่เพิ่มมาอีก 1ตัว รวมแล้วก็จะเป็น 36 ตัว ทั้งหมดได้รับการเลี้ยงดูอยู่ที่ส่วนจัดแสดงด้านใกล้ทางเข้าด้านหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยสมาชิกใหม่ล่าสุดตอนนี้ก็มีสุขภาพแข็งแรงดีสมบรูณ์ดี
ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่กล่าวว่า สำหรับนกฟลามิงโก เป็นนกที่มีมีถิ่นอาศัยในทวีปยุโรปจรดเอเชีย บริเวณทะเลเมดิเตอเรเนียน รวมทั้งในทวีปแอฟริกาและอินเดียตะวันตกเฉียงเหนือ มีลักษณะคอและขายาว ขนสีชมพู ขนปีกสีดำ ม่านตาสีเหลืองอ่อน ปากสีชมพู ปลายปากสีดำ ขา และนิ้วเท้าสีชมพู ในฤดูผสมพันธุ์สีจะสดและเข้มมาก ตัวเมียมีลักษณะคล้ายตัวผู้แต่มีขนาดเล็กกว่าและสีสดน้อยกว่า เท้าคล้ายกับเท้าเป็ด มีปาก และฟันคล้ายห่าน แต่ปากนกฟลามิงโกจะโค้งลง ฟันของนกฟลามิงโกสามารถกรองลูกไรหรืออาหารที่มีขนาดเล็กไว้ได้โดยไม่ต้องเปิดปาก มีเสียงร้องคล้ายกับเสียงห่าน ขณะที่ลูกนกมีลักษณะขนที่อ่อนนุ่มคล้ายปุยนุ่นสีเทา ม่านตาสีดำ ปากหนา ลักษณะขนปีกเป็นสีชมพูอ่อน ขา และเท้าขนาดใหญ่เป็นสีชมพู
นกฟลามิงโกจะเริ่มผสมพันธุ์เมื่ออายุได้ 6 ปี การผสมพันธุ์จะทำในฤดูหนาวและวางไข่บนพื้นดินตามชายฝั่ง โดยทำรังคล้ายตอไม้ด้วยดินเหนียว ตัวเมียจะวางไข่เพียงใบเดียว ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะผลัดกันกกไข่ ระยะเวลาฟักไข่ 28-32 วัน ท่านที่สนใจสามารถเข้าชมได้ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ทุกวัน หรือติดตามรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ http://www.chiangmaizoo.com
*****************

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559

ภาพข่าว ; อธิการบดี มช.ร่วมประชุม Russia-ASEAN University

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าร่วมการประชุม Russia-ASEAN University ซึ่งจัดขึ้นที่ Vladivostok, Russia ระหว่างวันที่  1-2 กันยายน 2559 ณ Far Eastern Federal University, Vladivostok, Russia โดยได้รับเกียรติให้เป็นผู้บรรยายในหัวข้อ Medical Education, Sports and Promotion of Healthy Life Style สำหรับการประชุมดังกล่าวนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดย Moscow State Institute of International Relations (MGIMO University) และ Far Eastern Federal University มีผู้นำสถาบันการศึกษา อธิการบดี และนักวิชาการ จากประเทศรัสเซีย และมหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียน หน่วยงานภาคธุรกิจ และผู้แทนจากสื่อต่างๆ เข้าร่วมงาน ซึ่งการประชุมนี้เป็นเวทีให้หน่วยงานการศึกษาของรัสเซียและภูมิภาคอาเซียน ได้เจรจาความร่วมมือทางวิชาการร่วมกันในด้านความมั่นคงในภูมิภาค เศรษฐกิจ การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมทั้งการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า
*****************

ประชาสัมพันธ์ มช.-ภาพ/ข่าว

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2559

ข่าว ; ผลการแข่งขันประพันธ์ร้อยกรองสด เนื่องในวันมหิดลประจำปี 2559

คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ได้จัดการแข่งขันประพันธ์บทร้อยกรองสด ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2559  มหิดลกรองแก้วแวววรรณ ครั้งที่ 9 “หมอเจ้าฟ้าในดวงใจ เทิดทูนไว้นิจนิรันดร์” เมื่อวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2559
ศาสตราจารย์ คลินิก นพ. วัฒนา นาวาเจริญ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เปิดเผยว่า คณะแพทยศาสตร์ฯ ได้จัดการแข่งขันประพันธ์บทร้อยกรอง เนื่องใน “วันมหิดล” มาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ อันเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์และการสาธารณสุขของไทยอย่างนานัปการ ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น  “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน และการสาธารณสุขของไทย” ดังนั้น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศส่งนักเรียนเข้าร่วมประกวด และในปีนี้มีเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 54 แห่ง โดยผู้ชนะการแข่งขัน ชนะเลิศการประกวดจะได้อ่านบทประพันธ์ของตนเองในพิธีเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระราชบิดาเนื่องในวันมหิดล ในวันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2559 ณ บริเวณชั้น 2 อาคารเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยผลการแข่งขันมีดังนี้
การแข่งขันประเภทกลอนแปด รางวัลชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทาน พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ นายอรรถพล โสตะพราหมณ์ นางสาวชญาพร นามวงศ์ โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ รางวัลที่ 2 ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 8,000 บาท ได้แก่ นายกรภัทร์ คาเชื้อ นางสาววรรณพร บุญเรศ โรงเรียนปรินส์รอยแยลวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลที่ 3 ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล  5,000 บาท ได้แก่ นางสาวศิริมา กรวดสูงเนิน นางสาวอภิรดา กาทอง โรงเรียนเทพนารี จังหวัดแพร่ รางวัลชมเชย ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัล 2,500 บาท ได้แก่ นายอนาวิล สุขเจริญ นางสาวจารุวรรณ ฟูโน โรงเรียนรังษีวิทยา จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลชมเชย นางสาววิมพ์วิภา ด้วงทอง นางสาวชนนีญา สิทธิราช โรงเรียนพร้าววิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่
ประเภทกาพย์ยานี 11 รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล  5,000  บาท ได้แก่ เด็กหญิงกัญญาวีร์ กลั่นนุรักษ์ เด็กหญิงธารสิริ ไพบูลย์วัฒนกุล โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลที่ 2 ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 4,000 บาท ได้แก่ เด็กชายนภดลสุวรรณศรี เด็กหญิงพนิดา วงศ์กาฬสินธุ์ โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล จังหวัดสกลนคร รางวัลที่ 3 ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 3,000 บาท ได้แก่ เด็กชายวัสสา ชาวคาเขต เด็กหญิงสิริไปรยา ธนะ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลชมเชย ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัล 1,000 บาท เด็กหญิงฐิติยา จันทร์กาบ เด็กหญิงนรินทร์ธร จานเก่า โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการเขลางค์นคร จังหวัดลำปาง รางวัลชมเชย เด็กหญิงปัทมา ประทุม เด็กหญิงสมใจ คงคาใส่ โรงเรียนสันทรายวิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่
ประเภทคร่าวฮ่ำ ชนะเลิศ ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 5,000 บาท ได้แก่ นางสาวฐิตาภรณ์ แก้วกาวิล ศูนย์การเรียนรู้ครูภูมิปัญญาไทยรุ่นที่ 7 รางวัลที่ 2 ได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 4,000 บาท ได้แก่ นายโชคชัย เมษแสน โรงเรียนเทพนารี จังหวัดแพร่ รางวัลที่ 3 โล่เกียรติยศ  พร้อมเงินรางวัล 3,000 บาท ได้แก่ นายกระจาย บุญยัง โรงเรียนสัมมาสิขาภูผาฟ้าน้า จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลชมเชย ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัล 1,000 บาท ได้แก่ นายปริญญา ยวดคาปา โรงเรียนธรรมราชศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลชมเชย นายอ้วน ขันทะวงศ์ โรงเรียนพญาลอวิทยาคม จังหวัดพะเยา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่งานบริหารทั่วไป คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-936141  
**********************
ประชาสัมพันธ์ คณะแพทย์ มช. - ข่าว/ภาพ

ข่าว ; เชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาแล้ว 9 คน สาธารณสุขย้ำต้องช่วยกันกำจัดลูกน้ำและยุงลาย

นายแพทย์ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ไวรัสซิกาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 2 กันยายน 2559 มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกาจากเดิมจำนวนทั้งหมด 7 คน และพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกาเพิ่มอีก 2 คนในวันที่ 1 กันยายน 2559 บริเวณพื้นที่ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ป่วยรายใหม่ล่าสุด 2 คนนี้ คนแรกเป็นเพศหญิง อายุ 18 ปี เริ่มป่วยวันที่ 27 สิงหาคม 2559 เข้ารับการตรวจด้วยอาการ ออกผื่น ตาแดง ปวดข้อ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 โดยทราบผลการตรวจว่าติดเชื้อไวรัสซิกาเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2559 ขณะนี้อาการหายเป็นปกติ คนที่ 2 เพศหญิง อายุ 74 ปี เริ่มป่วยวันที่ 31 สิงหาคม 2559 เข้ารับการตรวจวันเดียวกันด้วยอาการออกผื่น ตาแดง ทราบผลการตรวจวันที่ 1 กันยายน 2559 ขณะนี้หายเป็นปกติ
  ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (EOC) จังหวัดเชียงใหม่ได้ปฏิบัติการทั้งด้านควบคุมและสอบสวนเฝ้าระวังโรค โดยด้านการควบคุมโรค ได้กำหนดรัศมี 100 เมตร รอบบ้านผู้ป่วยเป็นพื้นที่เป้าหมายในการควบคุมโรค ดำเนินการกำจัดยุงตัวแก่ในพื้นที่รอบบ้านผู้ป่วยโดยการพ่นสารเคมี การสำรวจและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในบ้านและบริเวณโดยรอบ การติดตามอาการผู้สัมผัสโรคเป็นเวลา 14 วัน และแจกยาทากันยุง
ส่วนด้านการสอบสวนโรคและเฝ้าระวังโรค ได้เฝ้าระวังการติดเชื้อในหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายโดยการเจาะเลือดและเก็บปัสสาวะส่งตรวจ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม มีการค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมในสถานพยาบาล แจ้งสถานพยาบาลทุกแห่งเข้มงวดกับการรายงานผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้กับโรคติดเชื้อไวรัสซิกา พร้อมจัดทีมสูตินรีแพทย์และกุมารแพทย์เพื่อดูแลหากพบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสซิกา
สำหรับอาการของผู้ป่วยที่พบติดเชื้อไวรัสซิกานั้น ผู้ป่วยทั้ง 9 ราย ส่วนใหญ่ มีไข้ต่ำๆ ออกผื่น อาการดีขึ้นภายใน 3- 5 วัน รักษาแบบผู้ป่วยนอก ขณะนี้อาการหายเป็นปกติทุกรายแล้ว
นอกจากนี้ จากการเฝ้าระวังและการวิเคราะห์ทางระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกซึ่งขณะนี้มีการระบาดเพิ่มขึ้น โดยจำนวนผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 2 กันยายน 2559 มีจำนวน 2,933 คน เสียชีวิต จำนวน 2 คน ส่วนและอีก 1 คนที่เสียชีวิตพื้นที่อำเภอหางดง กำลังรอการวินิจฉัยจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและจะแจ้งผลการวินิจฉัยว่ามีสาเหตุมาจากโรไข้เลือดออกหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 25-34 ปี รองลงมาคืออายุ 15-24 ปี และอายุ 55-64 ปี ตามลําดับ โดยอำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอแม่แตง อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอแม่วาง อำเภอสันกำแพง และอำเภอสันทราย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กล่าวในตอนท้ายว่า การป้องกันโรคเหล่านี้ที่ดีที่สุดคือการกำจัดลูกน้ำและยุงลาย จึงขอให้ประชาชนถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านเรือน สถานที่ทำงาน พื้นที่สาธารณะต่างๆ เช่น โรงเรียน โรงเรือน ศาสนสถาน โรงธรรม โรงพยาบาล เป็นการตัดวงจรชีวิตของยุงลาย เพื่อเป็นการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิการวมทั้งโรคไข้เลือดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการสุ่มตรวจหาลูกน้ำยุงลายภายในบริเวณบ้าน หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-211048-50 ต่อ 111
*******************
ประชาสัมพันธ์ สสจ.เชียงใหม่ - ข่าว/ภาพ

ภาพข่าว ; ทีมงาน มช.เตรียมความพร้อมลงพื้นที่ตามโครงการจรรโลงศาสนา รักษาสุขภาพสงฆ์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อาคม ตันตระกูล ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการมูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้ปฏิบัติงานโครงการ “มช. ร่วมใจ จรรโลงศาสนา รักษาสุขภาพสงฆ์” เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางเข้าสู่พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยอุปกรณ์ เครื่องมือ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ในการออกหน่วยบริการตรวจสุขภาพอนามัย และการบริการทางด้านทันตกรรม ให้แก่พระสงฆ์และประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์  ณ ศาลาธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559
****************

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559

รายงาน ; เชียงใหม่ยิมคานา สวยงาม คลาสสิก สโมสรเพื่อมวลชนและสมาชิก

หากย้อนไปในอดีตเมื่อช่วงที่เกือบทุกคนบนโลกขณะนี้ยังไม่เกิด คือ 118 ปีที่ผ่านมา มีคณะฝรั่งจากประเทศอังกฤษ 14 คน ซี่งส่วนใหญ่เป็นผูู้บริหารสัมปทานป่าไม้ ของบริษัท บอมเบย์ เบอร์ม่า บริษัท บอร์เนียว ได้ซื้อที่ดิน 102 ไร่กลางเมืองเชียงใหม่ในราคา 2,500 รูปี (ไม่อาจเทียบเป็นค่าเงินไทยได้ชัดเจน) เพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ พบปะสังสรรค์ในกลุ่มพ่อค้าวาณิช และต่อมาในปี พ.ศ.2441 ได้มอบที่ดินดังกล่าวเพื่อเป็นของขวัญแก่ชาวเชียงใหม่ และสร้างสนามกอล์ฟ 9 หลุม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาได้มีการตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า "สโมสรเชียงใหม่ ยิมคานา" มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "The Chiang Mai Gymkhana club" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกีฬาทุกชนิดในภาคเหนือของไทย และเป็นที่พบปะสังสรรค์ของสมาชิกและครอบครัว ซึ่งคลับนี้เชื่อว่าเป็นคลับแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพียงแต่ไม่มีหลักฐานใดมาแสดงยืนยันถึงความเชื่อนี้
จุดเด่นของสโมสรเชียงใหม่ ยิมคานา คือต้นจามจุรีขนาดใหญ่ มีอายุกว่า 100 ปี อันถือเป็นสัญลักษณ์ของสโมสร ที่เคยได้รับความสนใจจากนักวิชาการทางการเกษตร ตลอดจนนักท่องเที่ยวเข้ามาชมความสวยงามของจามจุรีต้นนี้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะระยะ 10 ปีมานี้ มีคู่บ่าวสาวให้ความนิยมมาจัดงานแต่งงานบริเวณใต้ร่มจามจุรีแห่งนี้ รวมถึงใช้เป็นสถานที่บันทึกภาพเตรียมการแต่งงาน (Pre-wedding) แต่ละปีหลายสิบคู่
นับจากอดีตตั้งแต่เริ่มการก่อตั้ง การบริหารสโมสรแห่งนี้ก็ได้มีการผัดเปลี่ยนหมุนเวียนคณะกรรมการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่เข้ามาเป็นกรรมการ
จนถึงปัจจุบัน คณะกรรมการชุดล่าสุดที่ได้เข้ามาบริหารประกอบด้วย นายนิคม น้อยอ่ำ นายกสมาคมฯ นายรัศมี แก้ววิชิต กรรมการและเหรัญญิก นายดวงดี ดวงดอก กรรมการและเลขานุการ นายนาวิน เจือรัตนศิริกุล กรรมการ และ Mr.Dante Valdellon กรรมการ ซึ่งแนวทางการบริหารงานของคณะกรรมการชุดนี้คือ ต้องการให้สมาชิกและประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมของสโมสรให้มากที่สุด ให้สมกับการเป็นสโมสรของมวลชน มิใช่บริหารเพื่อแสวงหากำไร หรือมิใช่จะให้บริการเฉพาะสมาชิก ดังนั้น จึงได้มีมติกำหนดค่าบริการสำหรับกิจกรรมของสโมสรให้ถูกลง ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นกำลังของชาติในอนาคตและผู้สูงอายุที่ได้เคยสร้างสรรค์สังคมมาแล้วทั้งชีวิต ควรที่จะได้สิทธิพิเศษจากทางสโมสร โดยสรุปกิจกรรมในสมาคมสโมสรเชียงใหม่ ยิมคานา พร้อมอัตราค่าบริการดังนี้
สนามกอล์ฟ 9 หลุม 2 รอบ 18 หลุม พาร์ 72 ระยะ 5,818 หลา เปิดบริการทุกวัน คิดอัตราค่ากรีนฟีพร้อมแคดดี้ แขกของสมาชิก เยาวชน และประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป 9 หลุม 200 บาท 18 หลุม 350 บาท บุคคลทั่วไป 9 หลุม 200 บาท 18 หลุม 400 บาท
สนามเทนนิส เป็นสนามขนาดมาตรฐาน จำนวน 2 สนาม อัตราค่าบริการ สมาชิกสโมสร ฟรี แขกของสมาชิกชั่วโมงละ 80 บาท บุคคลทั่วไปชั่วโมงละ 120 บาท หากเล่นในเวลากลางคืนเพิ่มค่าไฟฟ้าชั่วโมงละ 40 บาท
สนามสคอซ เป็นสนามในร่ม จำนวน 1 สนาม อัตราค่าบริการ สมาชิกสโมสร ฟรี แขกของสมาชิกชั่วโมงละ 80 บาท บุคคลทั่วไปชั่วโมงละ 100 บาท
สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ 15 ช่องซ้อม เปิดบริการทุกวันเวลา 07.00-18.00 น. อัตราค่าบริการ ลูกใหม่ถาดละ 35 บาท (3 ถาด 100 บาท) ลูกเก่า ถาดละ 25 บาท (4 ถาด 100 บาท) ส่วนสนามซ้อมชิพ-พัต บริการฟรีสำหรับทุกคน
ห้องอาหาร ตั้งอยู่บนอาคารสโมสร เปิดบริการทุกวันเวลา 09.00-21.00 น. บริการอาหารไทย จีน ฝรั่ง และรับบริการจัดเลี้ยงภายในสถานที่ราคายุติธรรม และพิเศษช่วงนี้ ทุกวันอังคารและศุกร์ มีบริการคาราโอเกะฟรี
ของดี ของเก่า ของมีค่า คลาสสิก ราคาถูก มีมิตรไมตรีต่อผู้มาเยือน หากมีโอกาสแล้ว โดยเฉพาะนักกอล์ฟที่ยังไม่เคยสัมผัสสนามแห่งนี้ ต้องหาโอกาสไปลองสักครั้งกับสนามกอล์ฟยิมคานาแล้วจะมีความรู้สึกว่า ได้เล่นกอล์ฟย้อนไปบนสนามในอดีตเมื่อ 100 กว่าปี มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
*********************
พยนต์ ยศสุพรหม - รายงาน

รายงาน ; มหกรรม CHINA-ASEAN EXPO งานแสดงการค้า บนเส้นใยแห่งความสัมพันธ์

ถ้าจะเอ่ยถึงการค้าการขายแล้ว บนโลกใบนี้มีเกิดขึ้นทุกที่ อาจจะแตกต่างกันในรายละเอียดแต่จุดมุ่งหมายเดียวกันคือการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการโดยมีเงินเป็นตัวกลาง เช่นเดียวกับงานมหกรรม งานมหกรรม CHINA-ASEAN EXPO ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 ในระหว่าง 11-14 กันยายน 2559 ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
หยาง เยี่ยน เยี่ยน รองเลขาธิการมหกรรมแสดงสินค้า อาเซียน-เอกซ์โป กล่าวว่า งานมหกรรมแสดงสินค้าครั้งนี้ ยังเป็นการเฉลิมฉลองปีที่ 25 แห่งความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือน กรกฎาคม ค.ศ. 1991และนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2002 เป็นต้นมา จีนและอาเซียนก็ได้เริ่มต้นกระบวนการสร้างเขตการค้าเสรีอย่างเป็นทางการขึ้น ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคม 2003 งานประชุมผู้นำจีน-อาเซียนก็ได้เกิดขึ้น เป็นการยืนยันว่าจีนและไทยได้สร้างความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการแล้ว
ซึ่งหากย้อนไปในปี ค.ศ.1991 เมื่อคราวที่เริ่มสร้างความสัมพันธ์ยุทธศาสตร์คู่เจรจาจีน-อาเซียน มูลค่าทางการค้าขณะนั้นมีเพียง 7,960 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อมาถึงการจัดงานมหกรรม CHINA-ASEAN EXPO ครั้งแรก เมื่อปี 2004 มูลค่าทางการค้าได้เพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านดอลล่าร์ และเมื่อมาถึงปีที่ผ่านมา มูลค่าทางการค้าได้เพิ่มขึ้นเป็น 472,000 ล้านดอลล่าร์ หรือนับเป็น 59 เท่า จากปี 1991 ซึ่งเป็นปีเริ่มยุทธศาสตร์ทางการค้า
ที่สำคัญคือ ในปี พ.ศ.2558 เป็นปีที่ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตต่อกันครบรอบ 40 ปี อันเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของวัฒนธรรมไทย-จีน และจีนกับอาเซียน โดยในปีที่ผ่านมามีบุคลากรของจีนและอาเซียนเดินทางเข้าออกต่อกันมากถึง 18 ล้านคน มีนักเรียนจีนและอาเซียนเดินทางเข้าออกไปมาเพื่อการเรียนระหว่างกันเกินกว่า 180,000 คน มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย 8,000,000 คน โดยคาดว่าในปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยมากกว่า 12 ล้านคน มีนักเรียนจีนเรียนอยู่ในประเทศไทย 30,000 คน และมีนักเรียนไทยไปเรียนในประเทศจีน 20,000 คน
สำหรับงานมหกรรม CHINA-ASEAN EXPO เป็นงานระดับนานาชาติที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลอาเซียน 10 ประเทศ และกองเลขาธิการมหกรรมการแสดงสินค้า เป็นการพัฒนาความก้าวหน้าของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน จากสินค้าทางการค้าการลงทุน การบริการทางการค้า พัฒนาถึงการร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น การสร้างนิคมอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ การสร้างความร่วมมือทางการเงิน การอำนวยความสะดวกในการดำเนินศุลกากร และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอื่นๆ ทำให้ความร่วมมือจีน-อาเซียนดำเนินการเป็นรูปธรรมและใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ซึ่งในรอบ 12 ปีที่ผ่านมางานนี้มุ่งเน้นช่วยเหลือวิสาหกิจในประเทศกลุ่มอาเซียนและขยายการตลาดในประเทศจีน กระตุ้นการลงทุนของประเทศอาเซียน และผลักดันวิสาหกิจของประเทศจีนให้ก้าวออกไปสู่ต่างประเทศเพื่อโอกาสทางการค้า
ด้านความสัมพันธ์ของบุคลกรนั้น งาน CHINA-ASEAN EXPO 12 ครั้งที่ผ่านมา มีผู้นำระดับชาติของจีนและอาเซียนเข้าร่วมงาน 59 คน แขกผู้มีเกียรติระดับรัฐมนตรี 2,500 คน นักธุรกิจ 520,000 คน วิสาหกิจเข้าร่วม 250,000 แห่ง สมาคมการค้ากว่า 100 แห่ง และเมืองแห่งเสน่ห์เข้าร่วม 126 แห่ง ในส่วนของประเทศไทยเคยมีผู้เข้าร่วมงานได้แก่ อดีตนายกรัฐมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และผู้นำระดับชาติรวมทั้งรัฐมนตรีเข้าร่วมอีกหลายคน โดยในปีนี้คณะกรรมการจัดงานก็ได้เชิญผู้นำของประเทศและรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมงานด้วย
งานใช้หน้าอาเซียนครั้งนี้จะมีการจัดกิจกรรมที่สำคัญคือนิทรรศการ 25 ปีความร่วมมือจีน-อาเซียน และการร่วมมือเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อสร้างความสัมพันธ์ภายในประชาคมจีน-อาเซียนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมถึงนิทรรศการภาพถ่ายความสำเร็จของการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน เผยแพร่ลงในนิตยสารฉบับพิเศษจีน-อาเซียนเอ็กซ์โป ครบรอบ 25 ปี แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จใน 25 ปีแห่งความร่วมมือทั้งสองฝ่าย และความสำคัญของมหกรรมการแสดงสินค้า CHINA-ASEAN EXPO
เมื่อเดือนเมษายน 2558 CHINA-ASEAN ได้ก่อตั้งอุตสาหกรรมเครื่องยนต์ วัตถุดิบการก่อสร้างและอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆที่มีคุณภาพสูง เข้าร่วมช่วยเหลือธุรกิจทั้งจีนและไทยในการขยายตลาดให้ได้รับความสำเร็จทางการค้าอย่างยั่งยืน ซึ่งใน 12 ครั้งที่ผ่านมาประเทศไทยก็มีห้องนิทรรศการโดยเฉพาะถึง 9 ครั้ง จำนวนบูธแสดงสินค้า 1,934 ร้าน ธุรกิจเข้าร่วมงาน 1,247 แห่ง มีผู้ชมพิเศษ 3,226 คน เมืองที่ถือเป็นเมืองแห่งเสน่ห์ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการ เชียงราย ตรัง นครศรีธรรมราช และประเทศไทยยืนยันว่ากรุงเทพฯ จะเป็นเมืองแห่งเสน่ห์ในมหกรรมการแสดงสินค้าครั้งนี้
เมื่อคราวงานแสดงสินค้า CHINA-ASEAN EXPO ครั้งที่ 12 ได้ มีการประชุมครอบคลุมพื้นที่หลัก 143 ครั้ง ผลักดันให้เกิดความร่วมมือเรื่องสำคัญหลายประการ กลายเป็นความร่วมมือในการดำเนินงานที่สำคัญต่อเนื่องสืบมา สำหรับการประชุมครั้งนี้จะครอบคลุมพื้นที่ที่จะเกิดความร่วมมือหลายด้านประกอบด้วย
ด้านความร่วมมือส่งเสริมกำลังการผลิตระหว่างประเทศ ปีที่ผ่านมามหกรรม CHINA-ASEAN EXPO ได้จัดกิจกรรมความร่วมมือด้านศักยภาพการผลิตระหว่างประเทศ มีการเซ็นสัญญาโดยมีเนื้อหาทั้งสิ้น 34 ข้อ ปีนี้จะมีความร่วมมือด้านศักยภาพการผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งยังมีงานประชุมประเด็นสำคัญเพื่อประสานงานให้เกิดผลและการประชุมโต๊ะกลมด้านศักยภาพในการผลิตของกลุ่มประเทศที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีธุรกิจยานยนต์ประเทศจีน การสร้างถนนและสะพานธุรกิจด้านไฟฟ้า โดยมีมณฑลเข้าร่วมการประชุมหลายมณฑล
ด้านส่งเสริมความก้าวหน้าอาณาเขตรอบข้าง ด้านอาณาเขตติดต่อกับหัวเมืองต่างๆ เมืองเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างจีนกับประเทศในอาเซียน และเป็นเมืองที่ดำเนินบนพื้นฐานความร่วมมือมาก่อน การประชุมครั้งนี้ครอบคลุมเรื่องการคมนาคม อาทิ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ทางรถไฟ ท่าเรือ การขนส่ง ซึ่งได้จัดการเจรจาหารือขึ้นเพื่อให้จีนตอนใต้เป็นระเบียงเชื่อมเศรษฐกิจในด้านต่างๆและเป็นการสร้างความร่วมมือเครือข่ายกับเมืองท่าในอาเซียน
ด้านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกในเขตจีนและอาเซียน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาสำนักนายกรัฐมนตรีของจีนอนุมัติให้สร้างโครงการความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียน ในด้านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับด้านนำเข้าส่งออก โดยให้เมืองหนานหนิงเป็นศูนย์กลางระหว่างจีนกับอาเซียนเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายดังกล่าว อีกทั้งยังสามารถร่วมกันแบ่งปันข้อมูลข่าวสารทั้งด้านความร่วมมือด้านเทคนิคการบริการ ด้านการค้าการแลกเปลี่ยน ด้านมนุษย์สังคม ความร่วมมือทั้งหมดนี้จะเป็นเครือข่ายระหว่างประเทศที่เชื่อมโยงกันเพื่อพัฒนาเครือข่ายด้านเศรษฐกิจ เพื่อก้าวสู่ภาคธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า เครือข่ายด้านวัฒนธรรม ข่าวสาร ข้อมูล เทคโนโลยียุคใหม่ ฐานข้อมูลและเมืองอัจฉริยะทางปัญญาเป็นต้น ซึ่งจะได้ร่วมกันสร้างข้อมูลข่าวสารบนเส้นทางสายไหม และในปีนี้จะจัดการประชุมเกี่ยวกับด่านนำเข้าส่งออก การประชุมระดับสูงด้านธุรกิจเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างจีนกับอาเซียน
ด้านส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ CHINA-ASEAN EXPO จะเป็นตัวเร่งให้เกิดหลักการสองประเทศในเขตพื้นที่คู่พัฒนา โดยเป็นเวทีด้านการบริการ ในครั้งนี้จะมีการจัดมหกรรมอสังหาริมทรัพย์และสรรหาผู้ประกอบการในอาเซียน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือเพื่อยกระดับเขตพื้นที่พัฒนาและอสังหาริมทรัพย์
ด้านความร่วมมือในแต่ละพื้นที่ให้มีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น สำหรับงาน CHINA-ASEAN EXPO ครั้งนี้จะมีการตรวจสอบวัดผลด้านความร่วมมือจีนและอาเซียนด้านการเงิน ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านการเกษตร อุตสาหกรรมป่าไม้ อุตสาหกรรมเมืองแร่ สถิติอุตสาหกรรม และพาณิชยกรรมสิ่งแวดล้อม พลังงานไฟฟ้า วัฒนธรรมการศึกษา สาธารณสุข อุตุนิยมวิทยา และสื่อสารมวลชน
ด้านการลดอัตราความยากจน ที่ผ่านมาได้เปิดประชุมไปแล้ว 35 ครั้ง โดยจัดในเขตพื้นที่ต่างๆของจีน และได้ดำเนินการส่งเสริมแลกเปลี่ยนความร่วมมือในทุกด้าน
ลู่ทางการสรรหาผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการซื้อ การจัดให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมงานซึ่งเป็นหลักประกันสำคัญที่จะทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จ ในปีนี้ได้มีการเชิญผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการซื้อสูง อีกทั้งยังมีมาตรการเพิ่มลู่ทางการทำธุรกิจสำหรับผู้มีศักยภาพในประเทศจีนในอาเซียน และทั่วทุกมุมโลกมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย โดยในปีนี้มีงานสรรหาคู่ค้าในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานจับคู่ธุรกิจในประเทศอาเซียน งานจับคู่ธุรกิจระหว่างบุคคลหรือกลุ่ม การประชุมพบปะนักธุรกิจจีนและต่างประเทศเพื่อเป็นคู่ค้ากัน ทั้งหมดนี้เพื่อยกระดับเศรษฐกิจการค้าให้มีประสิทธิภาพ ทุกปีที่ผ่านมาได้มีการประสานงานกับสมาคมธุรกิจแห่งประเทศไทย สถาบันอุตสาหกรรมไทย สมาพันธ์หอการค้าไทยจีน สมาคมการค้าอุตสาหกรรมไทย สมาคมนักธุรกิจยุคใหม่ไทยจีน คณะกรรมการธุรกิจไทยจีน สมาคมกวางซีในประเทศไทย สมาคมนักธุรกิจไทยกวางซี สมาคมการค้าและอุตสาหกรรมอาเซียนจีน สมาคมนักธุรกิจไทยจีนเชียงใหม่เป็นต้น ทั้งนี้ โดยจัดให้ผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยได้เข้าร่วมงานนี้ เพื่อเลือกซื้อและร่วมเจรจาหารือพร้อมทั้งช่วยให้ธุรกิจในไทยสามารถค้นหาผู้ประกอบการในจีนเพื่อจะเป็นคู่ค้าต่อไป
การเพิ่มสิทธิพิเศษเพื่อเพิ่มการบริการให้ดึงดูดผู้ประกอบการมางานครั้งนี้ โดยในปีนี้จะมีการเพิ่มสิทธิพิเศษในการรับรางวัล ในขณะเดียวกันก็จะมีการปรับเปลี่ยนด้านการบริการ ไม่ว่าจะเป็นการบริการด้านการคมนาคม อาหาร ที่พักการ บริการภายในงาน เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสกิจกรรมในงานมากยิ่งขึ้น
การเพิ่มศักยภาพในการติดต่อสมาคมธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียนพร้อมทั้งทำความร่วมมือกับผู้ประกอบการ ในปีนี้ยังได้ติดต่อประสานงานกับทุกสมาคมธุรกิจในไทยเช่นเดิม โดยมีการเซ็นสัญญาความร่วมมือกับสมาคมและเซ็นสัญญาความร่วมมือกับผู้ประกอบการ พร้อมทั้งยังมีการประชาสัมพันธ์ในหลายรูปแบบเพื่อแนะนำให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมมือกันเพื่อพบหนทางแห่งความสำเร็จต่อไป
การเพิ่มขีดความสามารถในด้านการบริการ ศูนย์แสดงสินค้าเมืองหนานหนิงปีนี้เป็นศูนย์ที่สร้างใหม่ ซึ่งจะใช้ในการจัดแสดงสินค้าครั้งนี้ โดยได้เพิ่มพื้นที่ขึ้นมากกว่า 30,000 ตารางเมตร บูธหลักมีประมาณ 1,200 บูธ และบูธย่อย 5,800 บูธ โดยการเปิดงานจะใช้ชื่อว่า มนต์เสน่ห์แห่งนคร ศูนย์ข่าวก็จะย้ายไปอยู่ในบริเวณศูนย์แสดงสินค้าใหม่ด้วย โดยครั้งนี้จะมีศูนย์แสดงความร่วมมือทางด้านการเกษตร ศูนย์จัดแสดงระหว่างประเทศ การลงทุนด้านเศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียน ศูนย์แสดงสินค้าใหม่นี้ได้สร้างที่จอดรถ ศูนย์อาหาร พร้อมทั้งการบริการ ซึ่งศูนย์จัดแสดงสินค้าแห่งนี้มีรถไฟใต้ดินให้บริการ ซึ่งเป็นรถไฟใต้ดินที่เปิดให้ใช้บริการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และในปี 2018 ศูนย์แสดงสินค้าหนานหนิงยังจะมีการสร้างโรงแรม ตึกสำนักงานการบริการในด้านธุรกิจ เพื่อจะให้ศูนย์นี้เป็นศูนย์ที่ครบวงจร
ทางด้านนายหวาง ซิ่วเซิ่ง รองกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำเชียงใหม่ กล่าวว่า งาน CHINA-ASEAN EXPO ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันอย่างลึกซึ้งเพื่อให้บรรลุความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว สำหรับประเทศจีนยังคงสนับสนุนและยึดหลักการที่ว่า ร่วมค้า ร่วมสร้าง ร่วมแบ่งปัน อีกทั้งยังช่วยผลักดันยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศอาเซียนให้ก้าวหน้า พร้อมส่งเสริมตามแนวเส้นทางแต่ละประเทศ เพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจให้รุ่งเรืองเหมือนดังเช่นเส้นทางสายไหมในอดีตที่รุ่งเรือง มณฑลกวางซี ประเทศจีน ก็อยู่ติดกับอาณาเขตในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นหน้าต่างที่จะเปิดรับอาเซียนในประเทศจีน เป็นเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 และเป็นเส้นทางสายไหมสู่เศรษฐกิจที่รุ่งเรือง จึงเป็นประตูเปิดรับอันสำคัญ โดยเฉพาะมณฑลกวางซีและประเทศไทย มีแหล่งกำเนิดอารยธรรมมนุษย์ที่มีลักษณะพิเศษ โดยเฉพาะในประเทศไทยมีชาวจีนโพ้นทะเลจากกวางซีพำนักอยู่เป็นจำนวนค่อนข้างมาก ภาษาไทยและภาษาจ้วงในกวางซีก็มีความคล้ายคลึงกัน กวางซีและประเทศไทยถือว่ามีความผูกพันกันมายาวนาน จึงกำหนดให้มีการทำความร่วมมือในพื้นฐานแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไทยและจีนก็มีความสัมพันธ์กันในทุกด้านเป็นอย่างดีมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือในแต่ละพื้นที่ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ซึ่งมูลค่าทางการค้าทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2003 เพียง 11,700,000,000 ดอลลาร์ พอถึงปี 2015 เพิ่มเป็น 75,500,000,000 ดอลล่าร์ หรือเพิ่มจากเดิมถึงหกเท่า สำหรับมูลค่าการลงทุนที่ประเทศจีนมาลงทุนในไทยนับจากปี 2003 เป็นต้นมา มีมูลค่าการลงทุน 7.2 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2014 เพิ่มเป็น 1,000 ล้านดอลล่าร์ หรือเพิ่มจากเดิมถึง 15 เท่า ทั้งสองประเทศมียอดการลงทุนสะสมเกินกว่า 60,000 ล้านดอลล่าร์ ในปี 2015 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทย 8,000,000 คน มีนักเรียนต่างแดนทั้งสองประเทศร่วมกันเกินเกินกว่า 30,000 คน เริ่มจากปี 2004 เป็นต้นมา เมืองหนานหนิง มณฑลกวางซี ได้จัดมหกรรมแสดงสินค้า CHINA-ASEAN EXPO ขึ้น จึงเป็นนัยสำคัญของเวทีความร่วมมือที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างจีนและกลุ่มประเทศอาเซียน ในเดือนกันยายนนี้ประเทศจีนจะจัดงานนี้เป็นครั้งที่ 13 เพื่อให้ธุรกิจไทยและต่างประเทศได้นำสินค้ามาจัดแสดง อีกทั้งยังสามารถสรรหาคู่ค้าในการลงทุนได้ซึ่งนับได้ว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง
สำหรับงานมหกรรมการแสงสินค้า CHINA-ASEAN EXPO ครั้งที่ 13 กำหนดจัดขึ้น ณ นครหนานหนิง มณฑลกว่างซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 11-14 กันยายน 2559 โดยผู้ค้าชาวไทยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่เติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 02-5078376 หรือเข้าดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ที่ www.caexpo.org
*****************
พยนต์ ยศสุพรหม รายงาน