มูลนิธิพระรัตนตรัย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร จัดโครงการฉลองพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร 11
พฤษภาคม 2555 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน
อาจารย์คีรินทร์
หินคง กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ แจ้งว่า มูลนิธิพระรัตนตรัย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
กำหนดจัดโครงการฉลองพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เฉลิมพระเกียรติภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่
ณ พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ในระหว่างวันที่ 11-20 พฤษภาคม 2555 หลักการและเหตุผล เนื่องจากปีพุทธศักราช
2555 เป็นปีที่พระพุทธศาสนา ซึ่งมีกำเนิดจากพระบรมศาสดาได้เผยแผ่แก่ชาวโลก
และได้ถือปฏิบัติมาถึง 2,600 ปี พุทธศาสนิกชนทั่วโลกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
จึงพร้อมใจกันจัดเฉลิมฉลอง พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
และเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา
60 พรรษา
จังหวัดเชียงใหม่ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนา
มีภาษาล้านนาเป็นภาษาท้องถิ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านประเพณีวัฒนธรรม ชาวเชียงใหม่ได้สั่งสมวัฒนธรรมประเพณีสืบทอดมาจากบรรพบุรุษอย่างต่อเนื่อง
โดยส่วนใหญ่มีความผูกพันกับพุทธศาสนา และความเชื่อดั้งเดิม ในโอกาสมหามงคลนี้ มูลนิธิพระรัตนตรัยในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จึงร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ คณะสงฆ์จังหวัด
ตลอดถึงส่วนราชการ และภาคเอกชน จัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารี ในชื่อ “โครงการเฉลิมฉลอง พุทธชยันตี
2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ถวายเป็นพุทธบูชา
และเฉลิมพระเกียรติ”
ทั้งนี้ มูลนิธิพระรัตนตรัย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร มีพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานมูลนิธิฯ
และประธานฝ่ายสงฆ์จัดงานพุทธชยันตี วัตถุประสงค์การจัดงาน
เพื่อเฉลิมฉลองถวายเป็นพุทธบูชา 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนในภาคเหนือ
เห็นคุณประโยชน์ของหลักธรรมในพระพุทธศาสนา และนำไปสู่การประพฤติปฏิบัติด้วยการงดชั่วทำดี
และทำจิตใจให้ผ่องใส และเพื่อส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าว่าด้วยหลักฐานแรกเริ่มพระพุทธศาสนาในดินแดนเอเชียอาคเนย์
โดยมีเนื้อหาเชื่อมโยงมายังพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่
วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2555 เวลา 17.00 น.
จะมีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้วบนคชาธาร (หลังช้าง)
จากอนุสาวรีย์สามกษัตริย์เข้าไปสู่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร มีขบวนกองทหารเกียรติยศ กองตำรวจในชุดเต็มยศ
ขบวนอัญเชิญธงพุทธชยันตี กังสดาลนำเสียง สตรีในชุดล้านนาโปรยดอกไม้ ขบวนกลองล้านนา
ขบวนเจ้าภาพร่วมอัญเชิญเครื่องสักการะ เสลี่ยงอัญเชิญพระแก้วมรกตโบราณ
พระพุทธชยันตีพระคันธารราฐ พระไภษัชยคุรุไวทูรยประภาตถาคต และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ฯลฯ เมื่อเข้าสู่บริเวณวัดพระสิงห์วรมหาวิหารแล้ว เวลา 18.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงมณฑลพิธี และเป็นประธานในพิธีเปิดงานครั้งนี้
สำหรับกิจกรรมตลอด 10 วัน ประกอบด้วย การแสดงตนเป็นพุทธมามกะของเยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่ การปฏิบัติธรรมของประชาชน การสวดชัยมงคล
และธรรมนิยามของพระสงฆ์ 108 รูป
การเผยแผ่ธรรมะทางสื่อมวลชนทั่วภาคเหนือ กิจกรรมเสริมสร้างศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา การสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้วจากศรีลังกา) การสมโภชพระธาตุ
และพิธีเวียนเทียน โดยทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00
น. เปิดให้สักการะพระทันตธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) และเวลา 19.00 น.
มีเจริญพระพุทธมนต์ ฟังเทศนาธรรม โดยทุกวันจะมีรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี
ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้มีเกียรติ เป็นประธานในพิธี จนกระทั่งเสร็จงาน.
++++++++++++++++++
ข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น