ภาพข่าว ; นักศึกษามหาวิทยาลัยพายัพชนะเลิศการแข่งขันระดับชาติ รางวัลบุรฉัตรไชยากร ครั้งที่ 1

นักศึกษามหาวิทยาลัยพายัพชนะเลิศการแข่งขันตอบคำถามระดับชาติ รางวัลบุรฉัตรไชยากร ครั้งที่ 1 ด้านการท่องเที่ยว การโรงแรมและธุรกิจการบิน "รถไฟ เรือบิน โรงแรม ท่องเที่ยว...สร้างสรรค์อย่างไรให้ยั่งยืน" ทีม HTM & IHM PYU ประกอบด้วย นายณัฐชัย บูรณะวิมลวรรณ นายพุทธิชัย ป้องโรคา นักศึกษาสาขาวิชาการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว คณะบริหาร ธุรกิจ และนางสาวจริยา ทองสุทธิรินรดี นักศึกษา สาขาวิชา International Hospitality Management - IHM วิทยาลัยนานาชาติ ณ ศูนย์ศึกษาการจัดการการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2554 โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากทั่วประเทศ 176 ทีม จาก 60 กว่าสถาบันการศึกษา และมีผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้มากกว่า 1,400 คน

ข่าว ; ผลการแข่งขันกอล์ฟ The Singha Maejo Open Autumn 2011

ผลการแข่งขันกอล์ฟรายการ The Singha Maejo Open Autumn 2011 ณ แม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท เมื่อวันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2554 โดยคิดแต้มต่อด้วยระบบ 36 System และคิดคะแนนด้วยระบบ Stableford 

ชนะเลิศ โอเวอร์ออล โลกรอส สุดสยาม จันทราทิตย์ 36-36-72 (2) 36 ไฟลท์ เอ (0-9) ชนะเลิศ สมศักดิ์ อาสาราช 38-36-74 (4) 34 รองชนะเลิศอันดับ 1 ทัศนพัฒน์ พวกเจริญ 36-38-74 (4) 34 รองชนะเลิศอันดัน 2 ชาญวิทย์ แต้ประจิตร 38-37-75 (3) 33 ไฟลท์ บี (10-18) ชนะเลิศ ชินกฤต ไกรทัศน์ 42-39-81 (12) 27 รองชนะเลิศอันดับ 1 Dong Hoan Kim 36-47-83 (11) 27 รองชนะเลิศอันดับ 2 อภิวัฒน์ 41-40-81 (10) 27

ไฟลท์ ซี (19-27) ชนะเลิศ ธีธัช ธรรมธิกุล 48-42-90 (19) 18 รองชนะเลิศอันดับ 1 ศรศักดิ์ อินทะกันต์ 46-45-91 (20) 17 รองชนะเลิศอันดับ 2 สุขุม 46-47-93 (20) 17

ไฟลท์ ดี (28-36) ชนะเลิศ ไพลิน รอยอินทรัตน์ 49-50-99 (28) 9 รองชนะเลิศอันดับ 1 Anders Leiderth 58-53-111 (28X 9 รองชนะเลิศอันดับ 2 Yoshino Tsugao 51-55-106 (28) 9

ทั้งนี้ สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ คุณอติพล  ตันติวิท กรรมการผู้จัดการ และ คุณอติพงษ์  ตันติวิท รองกรรมการผู้จัดการ สนามแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ทได้ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลิศ ซึ่งสำหรับผู้ชนะเลิศทุกไฟลท์พร้อมผู้โชคดีจากการจับฉลากคือ คณาวุฒิ  เปลี่ยนเกิด จะได้เดินทางไปท่องเที่ยวเล่นกอล์ฟเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ที่สนามกอล์ฟ ล็อคปาล์ม กอล์ฟคลับ จ.ภูเก็ต ระหว่าง 14-16 ตุลาคม 2554 นี้ โดยแม่โจ้กล์อฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท สนับสนุนตั๋วเครื่องบินไป กลับ ที่พัก และค่าบริการสนามกอล์ฟ

ข่าว ; เปิดบริการศูนย์แพทย์แผนไทย คณะแพทยศาสตร์ มช.

สายวันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2554 ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานเปิดศูนย์การแพทย์แผน ไทย และการแพทย์ผสมผสาน ของคณะแพยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 55 ถ.สามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ เยื้อง น.ส.พ.ไทยนิวส์ โดยมี ศ.ดร.พงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ อธิการบดีฯ รศ.นพ.นิเวศน์ นนทจิต คณบดีคณะแพทย์ พร้อมแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีคับคั่ง

ศูนย์การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ผสมผสาน (TTCM) แห่งนี้ มีอาคารอำนวยการรูปทรงโบราณที่สวยงามปรับปรุงจากของเดิมที่สร้างเมื่อ 100 ปีก่อน บนเนื้อที่ 1 ไร่ 27 ตร.ว. เดิมเป็นคุ้มของพระอนุรัฐนฤผดุง (ล้อม นมะหุต) ต่อมาครอบครัวท่านได้บริจาคที่ดิน ดังกล่าว พร้อมเรือนไม้โบราณ 2 ชั้นให้แก่คณะแพทย์ฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ต่อมา พ.ศ. 2553 คณะแพทย์ฯได้ปรับปรุงเรือนโบราณ และก่อสร้างอาคารใหม่เพิ่ม 2 หลังในรูปแบบเดียวกัน

ศูนย์แห่งนี้ เมื่อเปิดแล้วจะให้บริการ 3 ด้านคือด้านการเรียนการสอน ด้านการวิจัย และด้านการบริการ โดยด้านแรกเปิดสอนตามหลักสูตรผู้ช่วยแพทย์แผนไทย (การนวดแบบสวนดอก) จำนวน 330 ชม. หลักสูตรการนวดตอดเส้นเพื่อสุขภาพ จำนวน 20 ชม.(โดยใช้ค้อนไม้ตอกผ่านลิ่มซึ่งทำจากงาช้างลงสู่ตำแหน่งต่างๆของร่ายกาย หลักสูตรการดูแลมารดาหลังคลอด(แผนไทย) หลักสูตรการผสมผสานการกดจุดแผนจีนกับการนวดแผนไทย และหลักสูตรการฝังเข็มและสมุนไพรจีนรักษาโรคหลอดเลือดสมอง ด้านการวิจัย TTCM สนับสนุนให้คณาจารย์สร้างสรรค์งาน วิจัยการแพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือก เช่น เภสัชวิทยา พิษวิทยาของสมุนไพร ศึกษาประสิทธิผลของการฝังเข็ม และการใช้สมุนไพรรักษาโรค เป็นต้น

ด้านการให้บริการ TTCM ให้บริการผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีน และการแพทย์ทางเลือก มีคลินิกเวชกรรมตรวจรักษาโรคทั่วไป การนวดแบบสวนดอก พร้อมประคบ ดูแลมารดาหลังคลอด อบสมุนไพรไทย ส่วนการแพทยแผนจีนมีวินิจฉัยแบบแพทย์แผนจีน การฝังเข็ม การรับยาสมุนไพรจีน เป็นต้น ผู้สนใจสอบถามรายละเอียด 053-949899, 053-945003

บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์ - ภาพ/ข่าว

รายงาน ; จากงานกล้วยไม้เอเชียแปซิฟิก 4 สู่งาน...วันเกษตรแม่โจ้ “ทำดีเพื่อพ่อ” 2554

        เป็นเวลา 20 ปีพอดี ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เมื่อครั้งยังเป็นชื่อสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกชื่อ “กล้วยไม้เอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 4” หรือ Apoc 4 ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2535 ซึ่งครั้งนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯเป็นองค์ประธานทรงเปิดงาน และมีพระราชเสาวนีย์กับอธิการบดีฯ รวมทั้ง ศ.ดร.ระพี สาคริก พล.ท.แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา (ยศในขณะนั้น) และ ผศ.ดร.จำเนียร ยศราช เลขานุการคณะกรรมการจัดงานครั้งนั้น ถึงเรื่องกล้วยไม้ไทย ซึ่งมีความสวยงามนับวันจะสูญหายไป ขอให้มีการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ไทย...

                ผศ.ดร.จำเนียร ยศราช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ฟื้นความทรงจำครั้งนั้นว่า งานกล้วยไม้เอเชียแปซิฟิกครั้งที่ 4 จัดได้ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯมาทรงเป็นประธาน และได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่นักวิชาการ(มีประชุมวิชา การนานาชาติ)จากทั่วโลก ผู้ประกอบการ เจ้าของฟาร์มกล้วยไม้ นักท่องเที่ยว และผู้สนใจเข้าชมงานตลอด 7 วันนับล้านคน จากความสำเร็จดังกล่าว มหาวิทยาลัยได้รับแนวพระราชดำริให้อนุรักษ์ และรวบรวมพันธุ์กล้วยไม้มาไว้ในอุทยานกล้วยไม้ไทย และต่อมาได้จัดตั้งโครงการ “คืนกล้วยไม้ไทยสู่ไพรพฤกษ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” มาจนถึงปัจจุบัน

                ตำนานแห่งกล้วยใม้ไทยได้กลายเป็นศาสตร์แห่งการบ่มเพาะเรียนรู้ และพัฒนาขยายพันธุ์อย่างกว้างขวาง นำชื่อเสียงมาสู่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เช่นเดียวกับศาสตร์เกษตรด้านอื่น ๆ ครอบคลุมทั้งด้านการวิจัย การศึกษาอบรม การบริการสังคม ไม่ว่าจะด้านพืชไร่ พืชสวน การบริหารจัดการ วิศวกรรมเกษตร การแปรรูป เป็นต้น ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาทำให้แม่โจ้มุ่งสู่วิสัยทัศน์การเป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำด้านการเกษตรระดับนานาชาติ พร้อมกับน้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และการเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นกษัตริย์นักเกษตรไทยที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกมาศึกษา ฝึกอบรม และเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

                ใน วโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ 84 พรรษา พ.ศ. 2554 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จึงรวบรวมความสำเร็จจากงานศึกษาวิจัย และบริการสังคมมาดจัดงานวันเกษตรแม่โจ้ 2554 ซึ่งกำหนดขึ้นระหว่างวันที่  1–11  ธันวาคม ภายในมหาวิทยาลัยฯ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด “พระชนมพรรษา 84 แม่โจ้สามัคคี ทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดิน”

                ผศ.ดร.จำเนียร ยศราช กล่าวว่า ในฐานะที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งการเกษตร และชีวิต ซึ่งครบองค์ประกอบทั้ง 4 ด้านเสมือนปัจจัยสี่ในความหมายแห่งพระพุทธองค์ ชีวิต คือการเกษตรเกี่ยวข้องกับการ ดำรงชีวิต มีอาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย ชีวิตคือประเพณีและวัฒนธรรม การอยู่ร่วมกันในสังคม ชีวิตคือโลกแห่งความเป็นจริงที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ดี และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และชีวิตคือธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของทุกคน

                จริง ๆ แล้วมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สถาปนามาเป็นปีที่ 77 แล้วในปัจจุบัน ได้ผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้สังคมหลายหมื่นคน รวมทั้งยังให้บริการวิชาการสู่ชุมชนทั่วประเทศ และเป็นแหล่งศึกษาดูงานของเกษตรกร และผู้สนใจตลอดเวลา ทั้งด้านไม้ดอกไม้ประดับ กล้วยไม้ ลำไย  ปุ๋ย  เกษตรอินทรีย์  เทคโนโลยีการเกษตรทั้งพืช  สัตว์บกสัตว์น้ำ  สัตว์ปีก รวมถึงการแปรรูปผลผลิตภัณฑ์เกษตรอย่างหลากหลาย

                งานวันเกษตรแม่โจ้ 2554 ภายใต้แนวคิด “พระชนมพรรษา 84 แม่โจ้สามัคคี ทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดิน” ปีนี้คณะกรรมการจัดงานมีเป้าหมายทั้งงานด้านวิชาการ และกิจกรรมสังคม โดยเฉพาะการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  “กษัตริย์นักเกษตรไทย”  มีการบรรยายพิเศษโดยผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ อาทิ ศ.ดร.ระพี สาคริก ดร.สุเมธ  ตันติเวชกุล และนายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ งานประเพณีสี่จอบแห่งชาติ ครั้งที่ 29  (5–9 ธันวาคม 2554) มีการแข่งขันกีฬาทักษะเกษตรหลากหลายโดยนักศึกษาจากสถาบันที่มีการเรียนการสอนด้านเกษตรทั่วประเทศมาร่วม การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเกษตรไทย การแสดงสาธิตและจำหน่ายพันธุ์พืช ไม้ผล ไม้ดอก  พืชผักคุณภาพดีมาตรฐานสากล พิพิธภัณฑ์เกษตรไทยแบบมีชีวิตบนพื้นที่กว่า 30 ไร่

                กิจกรรมการแสดงและประกวด ชมฐานเรียนรู้เกษตรและแปลงสาธิตการเกษตร การแสดงและประกวดกล้วยไม้ไทยที่แม่โจ้ประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยง ไม้ดอกไม้ประดับ และสวนหย่อมระดับประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานฯ การแสดงและประกวดสัตว์เลี้ยงและสัตว์เศรษฐกิจ  ปลาไทยสวยงาม สุนัข แมว  โคนมโคเนื้อ แปลงสาธิตแสดงเทคโนโลยีพืชผลทางการเกษตรจากหน่วยงาน และบริษัทชั้นนำของประเทศ แปลงสาธิตไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผล พืชไร่ ลำไยคุณภาพครบวงจร สมุนไพรอินทรีย์  ข้าวอินทรีย์ เป็นต้น

                นอกจากนั้นยังมีการแสดงเผยแพร่นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น นวัตกรรมและอุปกรณ์เทคโนโลยีการเกษตรรถฟอร์มูล่าประหยัดน้ำมัน  เครื่องบดสับหั่นย่อยกิ่งไม้ เครื่องอบแห้งคลื่นไมโครเวฟ เครื่องขุดมันฝรั่ง  ระบบไบโอรีแอคเตอร์แบบจมชั่วคราว ฯลฯ นวัตกรรมเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานรูปแบบต่าง ๆ อาทิ เตาชีวมวล กังหันพลังงานลม เทคโนโลยีการแปรรูปผลผลิตเกษตรและอาหารห้องรมซัลเฟอร์ลำไยสด และปุ๋ยหมักวิธีวิศวกรรมแม่โจ้ เ
                ด้านภาคบันเทิง มีบริการท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศแม่โจ้ Unseen Thailand at Maejo  ทุกคืนพบศิลปินชื่อดัง เช่น  บิว  กัลยาณี  เจียมสกุล   หงา  คาราวาน  ชายเมืองสิงห์  โดยมีวงแม่โจ้แบนด์บรรเลง  การประกวด Miss Maejo Agro tourism นางงามขวัญใจชาวเกษตร  บริเวณงานมีสินค้าพื้นเมือง และสินค้าชุมชนจากทุกภาคทั่วประเทศ  ภาคกลางวันมีการฝึกอบรมอาชีพเสริมรายได้ฟรีแก่ผู้สนใจ เช่น การจัดดอกไม้  การแปรรูปอาหาร เครื่องดื่มสมุนไพร  งานครั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหอการค้า  สภา อุตสาหกรรม และบริษัทชั้นนำของประเทศ เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือเบทาโกร เครือสหฟาร์ม มาออกร้านแสดงสินค้า และผลิตภัณฑ์ตลอดงาน เตรียมตัวไปร่วมงานวันเกษตรแม่โจ้ 1-11 ธันวาคม ศกนี้ หรือสอบถามรายละเอียดที่  053-873971-2 หรือเว็บไซต์ www.mju.ac.th

                                                                                                                                                                บุณย์ มหาฤทธิ์ /รายงาน

ข่าว ; MJGR Golf Tournament On Saturday September 17th 2011

Venue : The Singha Mae Jo Open Autumn 2011

Date : On Saturday September 17^th 2011
Time : Shotgun Start at 12.00 pm
Registration Fee : 1,800 THB per person inclusive 18 holes Green Fee, Caddie Fee, Food and Beverage, Souvenir, Prizes and Trophies.
Format of play : 18 Holes Stroke Play
Handicap System : System 36
Scoring System : Stableford
Flight :
Flight A Handicap 0 - 9
Flight B Handicap 10 - 18
Flight C Handicap 19 - 27
Flight D Handicap 28 - 36
Over All Low Gross
Rules :
Use R & A and Local Rules.
All drivers and club grooves are permitted.
Tee Off Marker :
Men : White, Women : Red
Differen Putting Balls are permitted

Contact : Mae Jo Golf Club

112 Moo 7 Ban Sriboonruang Pahpai Sansia, Chiang Mai 50210 Thailand
Tel.+66 (0) 53 354431-2 Fax +66 (0) 53 354433

Website   http://www.maejogolfclub.com

E-mail   info@maejogolfclub.com   (For more information or make reservation)

ข่าว ; ราชภัฏเชียงใหม่สัมมนา ภาษาและภูมิปัญญาไทยในเอกสารโบราณ และบรรยายภาษาและวัฒนธรรมสวีเดน

ผศ.ดร.อรพินทร์ ศิริบุญมา คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ กล่าวว่า ภาษาและภูมิปัญญาไทยนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ถือเป็นมรดกล้ำค่าและได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนาน ซึ่งนักวิชาการหลากหลายสาขาวิชา รวมทั้งผู้สนใจได้ทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับภาษาและภูมิปัญญาไทยในเอกสารโบราณ

ดังนั้น นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ชั้นปีที่ 4 หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จึงได้จัดการสัมมนาวิชาการเรื่อง “ภาษาและภูมิปัญญาไทย ในเอกสารโบราณ” ขึ้น ในวันพุธที่ 28 กันยายน 2554 เวลา 08.00-12.00 น. ณ ห้องเอื้องคำ อาคารราชภัฏเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เพื่อนำเสนอเผยแพร่องค์ความรู้ของนักวิชาการด้านภาษาและภูมิปัญญาไทยจากเอกสารโบราณ พร้อมส่งเสริมกระตุ้นให้มีการสืบสานและต่อยอดองค์ความรู้ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดทางวิชาการเกี่ยวกับภาษาและภูมิปัญญาไทย

ภายในงานมีการบรรยายเรื่อง “การจัดทำฐานข้อมูลเอกสารโบราณ” โดย อาจารย์ดิเรก อินจันทร์ ศูนย์ข้อมูลลุ่มน้ำโขงและสาละวินศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ การบรรยายเรื่อง “ภาษาและภูมิปัญญาไทยในเอกสารโบราณ : มุมมองของนักมานุษยวิทยา” โดย รศ.อรุณรัตน์ วิเชียรเขียว ภาคีสมาชิก สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสถาน ประเภทประวัติศาสตร์ สาขาโบราณคดี และที่ปรึกษาศูนย์ใบลานศึกษา สถาบันล้านนาศึกษา สถาบันภาษาศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และการบรรยายเรื่อง “การต่อยอดอนาคต กำหนดปัจจุบัน สืบสานอดีต ด้วยเอกสารโบราณ” โดย ผศ.เรณู  อรรฐาเมศร์ ที่ปรึกษาศูนย์ประสานงานเครือข่ายงานวิจัยภาคเหนือ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย นักศึกษา นักวิชาการ นักวิจัย ผู้แทนจากองค์กรต่างๆ และผู้สนใจด้านภาษาและภูมิปัญญาไทยจากสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน จำนวนทั้งสิ้นกว่า 120 คน ซึ่งคาดว่า           ภายหลังการสัมมนาจะทำให้องค์ความรู้ทางภาษาและภูมิปัญญาไทยได้รับการกระตุ้นให้มีการส่งเสริม            อนุรักษ์ สืบสานในคงอยู่ในสังคมไทย เกิดแนวคิดทางด้านภาษาและภูมิปัญญาไทยเพื่อนำไปศึกษาค้นคว้าให้ก้าวหน้าต่อไป 

ทางด้าน ผศ.สุชานาฎ  สิตานุรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อเป็นการบริการวิชาการแก่สังคมและส่งเสริมกิจกรรมการฝึกทักษะทางด้านภาษาต่างประเทศ ศูนย์ภาษา สถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม จึงได้จัดการบรรยาย “Swedish Cultural Heritage and the Language Teaching and Learning” (ภาษาและวัฒนธรรมของประเทศสวีเดน และกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ) ขึ้น ในวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2554 เวลา 08.00 – 11.00 น. ณ ห้องเอื้องคำ อาคารราชภัฏเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ โดยมี Ms.Kajsa  Higgins จาก Linnaeus University , Sweden เป็นวิทยากร

สำหรับนักศึกษา อาจารย์ บุคลากร และผู้สนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 26 กันยายน 2554 ณ ศูนย์ภาษา ชั้น 4 อาคารราชภัฏเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-885867-8

ข่าว ; มท.1 และคณะขึ้นเชียงใหม่ ให้นโยบายฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น 24 ก.ย.54

นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.) เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2554 นี้ อบจ.เชียงใหม่ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดจัดประชุมชี้แจงเรื่องนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแนวทางรัฐบาลต่อการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้กับข้าราชการฝ่ายปกครอง ผู้บริหาร และสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ และผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบลใน 16 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 1,500 คน ณ ห้องแกรนด์ภูคำ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโยบาย และแนวทางการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของรัฐบาล เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนำนโยบาย และแนวทางการพัฒนาท้องถิ่นไปขับเคลื่อนตามภารกิจ และอำนาจหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพเกิด และประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่

การประชุมชี้แจงนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแนวทางรัฐบาลต่อการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในวันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2554 เวลา 09.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ กล่าวรายงานจากนั้นนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวเปิดงานและมอบนโยบายยุทธศาสตร์ และแนวทางรัฐบาลต่อการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจบแล้วนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง บรรยายเรื่องนโยบายและยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคบ่ายเวลา 13.00 น. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บรรยายเรื่องการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานในการป้องกันภัยพิบัติ และนายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นบรรยายเรื่อง นโยบายและแนวทางการบริหารจัดการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของกรมปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ 2555 แล้วเปิดให้ที่ประชุมซักถาม-อภิปราย พร้อมกับปิดการประชุม

ภาพ/ข่าว โดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

ข่าว ; ซู อควาเรียม เตรียมจัดการแสดงชุดใหม่สุดอลังการ มหัศจรรย์ดินแดนใต้น้ำ

ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว (High Season) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 นี้ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม เตรียมจัดโชว์สุดอลังการ “มหัศจรรย์ดินแดนใต้น้ำ” เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับนักท่องเที่ยว และรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ที่กำลังจะมาถึง

นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ รองประธานกรรมการเชียงใหม่ ซู อควาเรียมเปิดเผยว่า ในช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึง คือตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2554 นี้ เชียงใหม่ ซู อควาเรียมได้จัดโชว์ชุดพิเศษสุดอลังการ คือการแสดงระบำใต้น้ำ The Synchronize Swimming โดยการนำนักกีฬาระบำใต้น้ำที่มึความสามารถระดับโอลิมปิกมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม ในชื่อชุดการแสดง “มหัศจรรย์ดินแดนใต้น้ำ” ซึ่งในครั้งนี้เป็นการสร้างเรื่องราวของเจ้าหญิงใต้สมุทร มาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสายน้ำภายในอุโมงค์ใต้น้ำที่มีความยาวที่สุดในโลก โดยคาดหวังว่าจะต้องสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้ชมอย่างแน่นอน

นอกจากนั้น เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ยังได้เตรียมโครงการเพิ่มส่วนจัดแสดงนิทรรศการจำลองระบบนิเวศของป่าชายเลนและสัตว์น้ำที่สมบูรณ์แบบเป็นแห่งแรกในภาคเหนือ ซึ่งจะเป็นการรวบรวมพันธุ์ไม้และสัตว์น้ำจากป่าชายเลนมาจัดแสดงไว้ภายใน  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาที่อยู่ห่างไกล ได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์จริง นับเป็นการย่นระยะทางที่อยู่ห่างไกลกว่า 1,000 กม. จากภาคเหนือไปสู่พื้นที่ภาคใต้ ทำให้เยาวชนได้สัมผัสบรรยากาศเหมือนจริงได้โดยไม่ต้องเดินทางไกลถึงทะเลจริง ทั้งนี้ กิจกรรมทั้ง 2 โครงการนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ ที่ 1 ตุลาคม 2554 นี้อย่างแน่นอน

ข่าว ; เปิดตัวร้านก๋วยเตี๋ยวอนามัยกว่า 200 ร้าน ในงานมหกรรมก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ ชมรมก๋วยเตี๋ยวอนามัยจังหวัดเชียงใหม่ ระดมร้านก๋วยเตี๋ยว อนามัยชื่อดังทั้งจังหวัดเชียงใหม่กว่า 50 ร้าน ออกงาน“มหกรรมก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ สะอาด อร่อย รวมพลคนรักเส้น” ลดกระหน่ำ ทุกร้าน ชามละ 15 บาท ในวันที่ 23 กันยายน 2554 เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ณ อาคารบิ๊กซีอารีน่า ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีดอนจั่น

นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง ก๋วยเตี๋ยวอนามัย ว่า ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่คนไทยนิยมกันเป็นเวลานาน มีความหลากหลายในการเลือกบริโภค ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจานด่วนที่ราคาถูกและมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน

ปัจจุบันทั่วประเทศมีร้านอาหารและแผงลอยประมาณ 166,460 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นร้านจำหน่ายก๋วยเตี๋ยวถึง 75,000 แห่ง จังหวัดเชียงใหม่มีร้านก๋วยเตี๋ยวที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องประมาณ 1,000 ร้าน และที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนและแผงลอยอีกมากมายไม่ต่ำกว่าหลายพันร้านทั้งจังหวัด จากการเฝ้าระวัง สถานการณ์ความปลอดภัยด้านอาหาร ก๋วยเตี๋ยวส่วนใหญ่ ยังใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารอันตราย เช่น ในเส้นก๋วยเตี๋ยวใช้สารกันเสียชนิดเบนโซอิก เส้นมาตรฐาน 22% ผักที่ใช้เป็นส่วนผสมมีสารเคมีกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อน 4-11% เครื่องปรุง อาทิ น้ำส้มสายชูไม่มาตรฐาน 26% พบสารอิลปาท็อกซินในพริกป่นและถั่วลิสง 19% สารพิษทุกชนิดหารสะสมมากจะทำให้เกิดมะเร็งตับได้ จึงต้องมีมาตรฐาน “ก๋วยเตี๋ยวอนามัย” เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความร่วมมือที่ดียิ่งจากภาคเอกชนซึ่งเป็นผู้ประกอบการ ได้จัดตั้งเป็น “ชมรมก๋วยเตี๋ยว อนามัย จังหวัดเชียงใหม่” มาช่วยดำเนินการขยายเครือข่ายร้านก๋วยเตี๋ยวอนามัย ทั้งด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สำรวจประสานงาน พัฒนาร้านและร่วมเฝ้าระวังและที่สำคัญคือ เมื่อเป็นชมรมทำให้มีอำนาจต่อรองกับผู้ขายอุปกรณ์ วัตถุดิบ ในการทำก๋วยเตี๋ยวให้สามรถซื้อได้ราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งปัจจุบัน คุณอดิศร เสกสรรวิริยะ จากร้านอ๋องทิพย์รส สาขาคลองชลประทาน กาดต้นพะยอม เป็นประธาน“ชมรมก๋วยเตี๋ยว อนามัย จังหวัดเชียงใหม่” และเป็นหัวเรี่ยว หัวแรง ในการจัดมหกรรมก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ สะอาด อร่อย รวมพลคนรักเส้น ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และเครือข่ายอื่นๆ

ข่าว ; เขื่อนแม่กวงน้ำเริ่มจะเต็ม คาดอีก 8 วันหากฝนยังคงตกต่อเนื่องต้องเร่งระบายน้ำ

ด่วน เขื่อนแม่กวงอั้นไม่ไหวแล้ว ปริมาณน้ำไหลเข้าวัน 2-4 ล้าน ลบ.ม. อีกแค่ 13 ล้านคิวจะล้นสปิลเวย์สันเขื่อนไหวท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อน ผอ.จัดสรรน้ำฯ ขีดเส้นอีก 8 วันหากฝนยังตกต่อเนื่อง รับมือไม่ไหวต้องปล่อยทิ้ง ขณะที่ศูนย์อุตุเหนือออกคำเตือน ฝนกระจายทั่วเหนือ เตือนระวังบางพื้นที่ตกหนัก

เมื่อสายวันที่ 12 กันยายน 2554 นายวัธนา กีรกจินดา ผอ.บริหารจัดสรรน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา  อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมเป็นต้นมามีฝนตกต่อเนื่อง และน้ำไหลเข้าเขื่อนจนถึงขณะนี้กว่า 150 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเหลืออีก 13 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้นน้ำก็จะเต็มเขื่อน และล้นสันเขื่อนหรือสปิลเวย์ลงไปท้ายเขื่อน จะมีผลกระทบต่อประชาชน และไร่นาเรือกสวนเกษตรกร ซึ่งการบริหารจัดการน้ำได้เร่งพร่องน้ำลงไปเพื่อหวังจะให้เหลือเก็บกัก 70% แต่ก็ทำไม่ได้เต็มที่ เนื่องจากฝนนอกเขื่อน และน้ำท้ายเขื่อนมีปริมาณมาก เกรงส่งผลกระทบรุนแรง จึงหาช่องทางระบายลงวันละ 2 ล้าน ลบ.ม. แต่ปรากฏว่ามีน้ำไหลเข้าเขื่อนตลอดเวลาวันละ 2.5 ล้าน ลบ.ม. บางวันมากถึง 4 ล้าน ลบ.ม.

“ขณะนี้จึงถือว่าใกล้วิกฤต ต้องรีบพร่องน้ำลงไปให้มากที่สุด และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน วันใดถ้าฝนตกมากก็ต้องหยุด และพร่องน้ำลงผ่านคลองชลประทานซ้าย-ขวาแทนลงลำน้ำแม่กวง เรื่องนี้เราพยายามหาช่องว่างอยู่ แต่ฝนก็มีทุกวัน” นายวัธนา กีรกจินดา กล่าวว่า น้ำทุกหยดถ้าปล่อยลงไปมีผลกระทบ เราต้องหยุดปล่อย จะต้องป้องกันไม่ให้เต็มเขื่อนก่อนแล้วล้นสปิลเวย์ลงไป จะเกิดผลเสียหายมากกว่า ทั้งนี้หากคำนวณปริมาณน้ำที่ไหลเข้าแต่ละวัน กับปริมาณน้ำที่เก็บกักได้อีกราว 13 ล้าน ลบ.ม. จึงมีเวลาอีก 8 วันถึงวันที่ 20 กันยายนนี้เท่านั้น ถ้าไม่สามารถพร่องน้ำลงท้ายเขื่อนได้ น้ำก็จะล้นสปิลเวย์แน่นอน เพราะขณะนี้ระดับความสูงสันเขื่อนเหลืออีก 1.20 เมตรเท่านั้นน้ำจะไหลลงเอง

ทางด้าน นายจรูญ เลาหเลิศชัย ผอ.อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้ออกประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ  ฉบับที่ 1 (21/2554) เวลา 07.00 น.วันจันทร์ที่ผ่านมาเรื่อง  ฝนตกหนักถึงหนักมากว่า  ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์  จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล ผ่านระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ตลอดจนสอบถามและติดตามสภาพอากาศได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-277919 และ 053-922365 กับ  www.cmmet.tmd.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง  สำหรับวันที่ 12-13 กันยายน ภาคเหนือตอนบน ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

รายงานพิเศษ สมโภชวัดโชติกุนสุวรรณาราม (หมู่บุ่น)

สมโภชวัดโชติกุนสุวรรณาราม (หมู่บุ่น)

หล่อพระสิงห์ไปประดิษฐานเมืองจีน

มุทิตาสักการะ 62 ปี พระเทพวรสิทธาจารย์

ด้วยผลงานการเผยแผ่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา อบรมสั่งสอนประชาชน สนับสนุนการศึกษาพระสงฆ์สามเณร พร้อมทั้งปฏิปทาในการมุ่งพัฒนายกฐานะวัดเก่าวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์จำพรรษาจำนวนมาก ตลอดถึงการมีวัตรปฏิบัติอันงดงาม  งานปกครองคณะสงฆ์ในภาค 7 สามจังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอนอย่างเอาใจใส่ลงไปถึงการส่งเสริมคุณธรรมเยาวชนอย่างต่อเนื่อง...

ทำให้สังคมทั่วไปรู้จักพระเดชพระคุณพระเทพวรสิทธาจารย์ หรือพระอาจารย์มหาธงชัย สุวณฺณสิริ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ตำแหน่งการปกครองทางคณะสงฆ์เป็นรองเจ้าคณะภาค 7 เป็นพระนักปฏิบัติ และนักพัฒนาอันโดดเด่น จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่คณะสงฆ์ ลงไปจนถึงส่วนราชการต่าง ๆ และศรัทธาประชาชน ครูบาอาจารย์ นักเรียนนักศึกษาเป็นอันมาก

ดังนั้นในวาระโอกาสอันเป็นมงคลครบรอบอายุ 62 ปี 42 พรรษา ของพระเดชพระคุณเทพวรสิทธาจารย์ ในปี 2554 คณะสงฆ์ ส่วนราชการ ศิษยานุศิษย์ และศรัทธาสาธุชนจึงพร้อมใจกันจัดงานมุทิตาสักการะ พิธีอบรมสมโภชพร้อมประกาศการยกฐานะวัดร้างวัดหมูบุ่น เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา พิธีหล่อพระพุทธรูปสิงห์ 1 พิธีสวดสะเดาะนพเคราะห์ และพิธีไถ่ชีวิตโคกระบือถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา พ.ศ. 2554 โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน ณ วัดโชติกุนสุวรรณาราม (วัดหมูบุ่น) ร้าง ซึ่งตั้งอยู่ในเวียงเก่าเจ็ดลินเชิงดอยสุเทพ หลังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ถนนห้วยแก้ว อำเภอเมืองเชียงใหม่โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เป็นประธานพิธีสงฆ์

พระครูสังฆรักษ์ณัฐถากร ณัฐกโร ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์ แจ้งกำหนดการ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน เวลา  11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลสามเณร 63 รูป เวลา 13.00 น. ฟังเทศน์ธรรมสัญจรกลุ่มหนุ่มสาวดอยสุเทพ โดยท่านเจ้าคุณสุวรรณเมธี เวลา 15.00 น. พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เดินทางมาถึงมลฑลพิธี จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย ไหว้พระและให้ศีล พระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร รองเจ้าคณะภาค 7 ถวายดอกไม้เทียนแพ สักการะท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ และกล่าวถวายรายงาน การยกวัดร้างวัดโชติกุนสุวรรณราม (หมูบุ่น)ให้มีพระสงฆ์จำพรรษา

จากนั้นสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นประธานในพิธีเททองหล่อพระสิงห์ 1 หน้าตักกว้าง 3 ศอกหรือ 60 นิ้ว เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐ์ฐาน ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อด้วยพิธีบรรจุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระปางเลย์ไลลิยะกะ พระสงฆ์สวดมนต์ทักษิณานุปทานอุทิศกษัตริย์ลัวะ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ อดีตเจ้าอาวาสวัดหมูบุ่น มีทอดผ้าไตรทักษิณา จำนวน 15 ไตร  และถวายไทยทาน เสร็จแล้วเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กล่าวสัมโมทนียคถา  พระสงฆ์อนุโมทนา เป็นเสร็จพิธี

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2554 เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารพระสงฆ์สามเณร ส่วนการประกอบพิธีสวดนพเคราะห์ และอบรมสมโภชพระเลย์ไลลิยะกะถวายพระเดชพระคุณพระเทพวรสิทธาจารย์ อายุวัฒนมงคลครบรอบ 62 ปี 42 พรรษา ณ วัดโชติกุลสุวรรณราม (หมูบุ่น) เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. โดยพระเดชพระคุณพระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานมีพระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 7 รูปที่หนึ่งร่วมพิธี โดยเจ้าคณะภาค 7 จะจุดเทียนชัยมงคล พระเทพวรสิทธาจารย์  จุดเทียนน้ำพระพุทธมนต์ทั้ง 9  เล่ม เจริญพรพุทธมนต์เสร็จ เจ้าภาพถวายจตุปัจจัยไทยทาน  พระเดชพระคุณพระวิสุทธิวงศาจารย์   เจ้าคณะภาค ๗  กล่าวสัมโมทนียคถา พระสงฆ์อนุโมทนา

เวลา 19.30 น. มีพิธีอบรมสมโภชจุดเทียนขัน 5 โกฐาก โดยพระครูสังฆรักษ์ณัฏฐากรณ์ (ตัวแทนหลวงพ่อ) ครูบาไกรราช  รตนวณฺโณ วัดหนองเงือก เลขานุการเจ้าคณะอำเภอป่าซาง ยื่นโยงโองการขัน 5 โกฐาก พระสงฆ์วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร 39 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เวลา 21.00 น. มีแสดงพระธรรมเทศนาผูกที่ 1 โดยพระบุญปั๋นวัดแม่โป่ง พระธรรมเทศนาผูกที่ 2 โดย พระครูอาทรวิสุทธิคุณ วัดหนองตอง พระธรรมเทศนาผูกที่ 3 โดยพระมหาสกุล  มหาวีโรวัดชัยศรีภูมิ สวดเบิกเนตรโดยคณะสงฆ์วัดศรีโสดา (พระอารามหลวง) พระธรรมเทศนาผูกที่ 4 โดยพระมหาเชน วัดท่าใหม่อิ พระธรรมเทศนาผูกที่ 5 โดยพระรัฐภูมิ วัดดอยสุเทพ พระธรรมเทศนาผูกที่ 6 โดยพระบัณฑิตา วัดบ่อสร้าง พระธรรมเทศนาผูกที่ 7 โดยสามเณรไมค์  วัดน้ำโจ้ พระธรรมเทศนาผูกที่ 8 โดยสามเณรรติพงษ์ สมหนุน วัดศรีบุญเรือง เวลา 04.00 น.วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน สวดไขตาพระเจ้าถวายข้าวมธุปายาส เสร็จแล้วร่วมกันตักบาตร ถวายภัตตาหารเช้าพระภิกษุสงฆ์สามเณร 

สำหรับวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป มีกิจกรรมบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพิธีสืบชะตาและไถ่ชีวิต โค–กระบือ มีนายปรีชา  สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธาน หลังรับศีลและจุดเทียนมหามงคลชัยมงคล พระเทพวรสิทธาจารย์จุดเทียนชัยมงคล อาจารย์อารธนาพระปริตร พระสงฆ์มหาเถระเจริญพระพุทธมนต์สืบชะตา

จากนั้นประธานในพิธี และคณะประกอบพิธีถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ กล่าวคำถวายราชสดุดี–เพลงสรรเสริญพระบารมี ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่กล่าวรายงาน ประธานในพิธีประกอบพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือมอบเอกสารบัตรโค-กระบือแก่เกษตรกร พระเทพวรสิทธาจารย์ประกอบพิธีไถ่ชีวิตโค–กระบือ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ผู้รับ โค–กระบือ นำมาลัยคล้องเขา โค–กระบือที่จะนำไปเลี้ยง เสร็จแล้วคณะศรัทธาประชาชนร่วมกันทอดถวายผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดโชติกุนสุวรรณาราม หลังจากประธานฝ่ายสงฆ์พิจารณาผ้าป่า และอนุโมทนาแล้วมีการถวายภัตตาหารเพล และร่วมกันรับประทานอาหารกลางวันเป็นเสร็จงาน เชิญชวนศร้ทธาประชาชน ศิษยานุศิษย์ร่วมงานตามกำหนดการดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน.

                                                                                                                                                บุณย์ มหาฤทธิ์ /รายงาน