ครั้งแรกของเจลีกที่ลงนามความร่วมมือพัฒนาเยาวชนไทยสู่ฟุตบอลอาชีพกับภาครัฐ กกท.บินจับมือสโมสรแรกกับ คอนซาโดเลซัปโปโร เพื่อนำร่องเด็กจากโครงการศูนย์บ่มเพาะไปเก็บตัวและทดสอบฝีเท้า หากเข้าตาพร้อมเซ็นตั้งแต่เด็ก พร้อมเปิดตลาดท่องเที่ยวหลังยุควิกฤตโควิด
ที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้บริหารของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยนายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา สส.จังหวัดปัตตานี และที่ปรึกษาโครงการมาจูจายา โบลา นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย นางนิตยา เกิดจันทึก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมและเข้าพบ มร.โคมาดะ โทชิฮิโร รองผู้ว่าการจังหวัดฮอกไกโด ณ ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโด เพื่อร่วมกันพิจารณาเรื่องของกรอบความร่วมมือในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและกีฬาระหว่างประเทศไทยกับญี่ปุ่น โดยเฉพาะในจังหวัดฮอกไกโดและเมืองซับโปโรที่คนไทยรู้จัก อีกทั้งคนญี่ปุ่นก็รู้จักประเทศไทยดีขึ้นทั้งจากการท่องเที่ยวและนักฟุตบอลฝีเท้าดี อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์
จากนั้น ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่าง กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย กับสโมสรคอนซาโดเลซัปโปโร ในเรื่องของการพัฒนาเยาวชนจากโครงการศูนย์บ่มเพาะนักกีฬาฟุตบอลเยาวชนชั้นเลิศ Football Excellent Center เพื่อไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ (Youth Elite Development Program) ที่จะนำนักเตะเยาวชนจากโครงการเข้าแคมป์และทดสอบฝีเท้า ณ สโมสรแห่งนี้ ในช่วงเดือนกรกฎาคม
นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะตัวแทนกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐของไทยกับภาคเอกชน ผ่านทางสโมสรคอนซาโดเลซัปโปโร ที่เรามีความมุ่งหวังด้านการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยไปสู่การสร้างรายได้ในระบบฟุตบอลอาชีพ อีกทั้งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน ที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายหลังวิกฤตโควิดในกลุ่มของนักท่องเที่ยวเชิงกีฬา
ขณะที่ นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในนามการกีฬาแห่งประเทศไทย มีความยินดีที่ได้ทำบันทึกข้อตกลงในการพัฒนานักฟุตบอลเยาวชนไทยไปสู่ความเป็นอาชีพ เพราะเป็นวัตถุประสงค์หลักในการทำโครงการบ่มเพาะนักกีฬาฟุตบอลเยาวชนชั้นเลิศนี้ ก็เพื่อจะส่งต่อเข้าสู่ฟุตบอลอาชีพ โดยเฉพาะการสร้างโอกาสในเวทีเจลีก ที่สามารถฝึกฝนทั้งวินัยและฝีเท้า นำไปสู่รายได้ที่สูง ซึ่งทาง กกท.พร้อมที่จะผลักดันนักฟุตบอลคุณภาพของเมืองไทยออกไปสู่เวทีมาตรฐานอย่างเจลีกเพิ่มมากขึ้น และจะมีการนำเอาเยาวชนไทยที่ได้คัดเลือกไว้แล้ว มาเข้าแคมป์พร้อมกับทดสอบฝีเท้า ให้กับทีมสตาฟของสโมสรคอนซาโดเลซัปโปโรพิจารณา ในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ หากฝีเท้าอยู่ในระดับเป็นที่น่าพอใจและต้องการเซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพ ทาง กกท.ก็จะเป็นผู้ช่วยในการประสานงานให้
ทางด้าน มร.ฮิโรคาซึ มิกามิ ประธานสโมสรคอนซาโดเลซัปโปโร กล่าวว่า ในการลงนามครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกของฟุตบอลเจลีก ที่มีการลงนามความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ซึ่งสโมสรมีความภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติในครั้งนี้ และมั่นใจว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะพัฒนาเยาวชนให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยและญี่ปุ่นทั้งด้านกีฬาและการท่องเที่ยว โดยสโมสรพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่
สำหรับโครงการศูนย์บ่มเพาะนักกีฬาฟุตบอลเยาวชนชั้นเลิศ Football Excellent Center ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 โดยคัดเลือกเยาวชนฝีเท้าดีจากการแข่งขันฟุตบอลยูธลีก เข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันตั้งแต่อายุ 13 ปี และมีการเก็บตัวต่อเนื่องตลอดทุกปี รวมถึงการไปเข้าแคมป์ในต่างประเทศที่สโมสรโบรุสเชีย ดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอมัน จนปัจจุบันนี้เด็กหลายคนในโครงการสามารถพัฒนาฝีเท้าข้ามไปเล่นในรุ่นอายุที่สูงขึ้น เช่น ชนภัช บัวพันธ์ ที่แบกอายุไปเล่นเป็นตัวหลักของชุดรองแชมป์ซีเกมส์ที่เวียดนามครั้งล่าสุด
**************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น