โดยก่อนหน้านี้ ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ (LIV Golf Investments) บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อพัฒนาวงการกอล์ฟอาชีพในระดับโลก ได้ประกาศแต่งตั้ง “ฉลามขาว” เกรก นอร์แมน ยอดโปรกอล์ฟระดับตำนานชาวออสเตรเลียน ให้ดำรงตำแหน่งประธานบริหารของบริษัท และประกาศความร่วมมือกับเอเชียนทัวร์ จัดการแข่งขันรายการระดับโลกประจำปี 10 รายการ เป็นเวลา 10 ปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ และ เอเชียนทัวร์ ได้เปิดตัวซีรีส์การแข่งขันภายใต้ชื่อ “ดิ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์” ซึ่งจะบรรจุในโปรแกรมการแข่งขันของเอเชียนทัวร์ ฤดูกาล 2022-2023 ประเดิมรายการแรกที่ประเทศไทยในเดือนมีนาคมนี้ ตามด้วยประเทศอังกฤษ, เกาหลีใต้, เวียดนาม, ประเทศในตะวันออกกลาง, จีน, สิงคโปร์ และฮ่องกง โดยแต่ละรายการจะมีเงินรางวัลรวมตั้งแต่ 1.5 – 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 50-66 ล้านบาท
นอกจากการเปิดตัวซีรีส์การแข่งขันและโลโก้ใหม่แล้ว ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ ยังเพิ่มเงินลงทุนสนับสนุนเอเชียนทัวร์จากเดิม 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 300 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย ถือเป็นการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการกอล์ฟอาชีพ เพื่อจัดการแข่งขัน 10 รายการใหญ่ทุกฤดูกาลตลอดระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างกระแสความตื่นตัวในวงการกอล์ฟที่มากขึ้นทั้งในเรื่องของแฟนกีฬากอล์ฟ โอกาสทางธุรกิจของผู้สนับสนุน รวมทั้งช่วยสร้างความมั่นคง ยั่งยืน ให้แก่วงการกอล์ฟอาชีพ หลังจากที่ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากและความไม่แน่นอนที่ผ่านมา
โช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและประธานบริหารของเอเชียนทัวร์ เผยว่า “เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของเอเชียนทัวร์ การแข่งขัน ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ เป็นรายการใหม่ระดับชั้นนำ ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในภูมิภาคนี้ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์แห่งการเจริญเติบโตของเอเชียนทัวร์ รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางการตลาดยุคใหม่อย่าง ลิฟ กอล์ฟ อินเวเสต์เมนต์ และ เกร็ก นอร์แมน ซีอีโอของลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ ที่สำคัญคือ ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ จะเข้ามารวมในโปรแกรมการแข่งขันเอเชียนทัวร์ซึ่งมีการชิงชัยรวม 25 รายการตลอดฤดูกาล และคาดว่าจะทำสถิติเงินรางวัลรวมสูงสุดด้วย โดยซีรีส์การแข่งขันทั้ง 10 รายการของ ดิ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ จะถ่ายทอดสดไปทั่วโลกเพื่อดึงดูดแฟนกีฬากอล์ฟและโปรกอล์ฟระดับแนวหน้าของโลก”
ด้าน เกร็ก นอร์แมน กล่าวว่า “เรากำลังวางแผนทำให้เอเชียนทัวร์เป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ที่ทรงพลังในเวทีกอล์ฟโลก ตลอดช่วงเวลา 40 ปีในฐานะนักกอล์ฟอาชีพ ผมได้เห็นหลายภาคส่วนของโลกที่ได้ประโยชน์มหาศาลจากกีฬากอล์ฟ จากการเติบโตและการพัฒนาของวงการกีฬากอล์ฟ และตอนนี้เรามีโอกาสทำเช่นนั้นในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และตะวันออกกลาง ด้วยแพลตฟอร์มการลงทุนครั้งสำคัญนี้ ซึ่งทุกคนจะได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นนักกอล์ฟอาชีพ นักกอล์ฟสมัครเล่น กอล์ฟระดับรากหญ้า แฟนกีฬากอล์ฟ ภาคเศรษฐกิจ ชุมชน และผู้ร่วมสนับสนุนต่างๆ ผมมั่นใจมากว่าอนาคตวงการกอล์ฟเอเชียจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ 10 รายการในฤดูกาล 2022-2023 จะประเดิมแข่งขันรายการแรกที่ สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคม 2565 ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 49.5 ล้านบาท ต่อด้วยกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่สนามเซนจูเรียน คลับ ระหว่างวันที่ 9-12 มิถุนายน ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังจะจัดการแข่งขันที่เกาหลีใต้, เวียดนาม และอินโดนีเซีย จากนั้นจะย้ายสังเวียนไปยังตะวันออกกลาง และมาปิดท้ายซีรีส์ที่ประเทศจีน, สิงคโปร์ และฮ่องกง
การประกาศโปรแกรมแข่งขัน ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ มีขึ้นก่อนเอเชียนทัวร์ เปิดฉากฤดูกาลใหม่ในศึก พีเอฟไอ ซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นแนล พาวเวอร์ บาย ซอฟต์แบงก์ อินเวสต์เมนท์แอดไวเซอร์ส ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้ดวลวงสวิงไปแล้วระหว่างวันที่ 3-6 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สนามรอยัล กรีนส์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ โดยมียอดโปรกอล์ฟ 6 คนจาก 20 อันดับแรกของโลกร่วมชิงชัย รวมถึงดัสติน จอห์นสัน แชมป์สองสมัยปี 2019 และ2021 และไบรสัน เดอแชมโบ สองโปรกอล์ฟชื่อดังชาวอเมริกัน พร้อมด้วยบรรดายอดฝีมือจากเอเชียนทัวร์อีกกว่า 50 คน ซึ่งทำให้การแข่งขันรายการนี้เป็นเวทีประลองฝีมือที่แกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอเชียนทัวร์ แต่รายการนี้ไม่ได้เป็นหนึ่งในรายการแข่งขันของ ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์
ทางด้าน คิม จูฮยุง โปรกอล์ฟวัย 19 ปีชาวเกาหลีใต้ ดีกรีมือหนึ่งเอเชียนทัวร์ฤดูกาล 2020-2021 กล่าวว่า “ผมโชคดีที่เริ่มต้นการเป็นนักกอล์ฟอาชีพได้อย่างดีมาก และเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เอเชียนทัวร์กำลังก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่สดใส แบบนี้ถือเป็นโบนัสที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม รวมถึงนักกอล์ฟเอเชียนทัวร์คนอื่นๆด้วย”
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการแข่งขัน ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ และรายการเอเชียนทัวร์ ในฤดูกาลนี้ จะมีการประกาศให้ทราบในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป
เกี่ยวกับ เอเชียน ทัวร์
เอเชียน ทัวร์ เป็นองค์การจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพในเอเชีย และนับเป็นผู้พัฒนาวงการกอล์ฟอาชีพที่สำคัญในภูมิภาคนี้ ช่วยสร้างอาชีพให้กับมวลหมู่สมาชิก และมุ่งมั่นพัฒนาวงการกอล์ฟ ด้วยการเป็นสมาชิกกับองค์กรกอล์ฟระดับโลกอย่าง พีจีเอทัวร์ ทำให้เอเชียน ทัวร์ เป็นองค์กรเดียวในภูมิภาคนี้ที่สามารถจัดการแข่งขันร่วมกับพีจีเอทัวร์ได้ การจัดอันดับเงินรางวัลสะสมของเอเชียน ทัวร์ ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีการให้คะแนนเพื่อสะสมเข้าสู่การจัดอันดับโลก นอกจากนี้ยังเป็นองค์กรร่วมของ R&A องค์กรด้านกฎกติกาการแข่งขันกอล์ฟ และมี โรเล็กซ์ เป็นผู้จับเวลาในการแข่งขัน มีพันธมิตรธุรกิจ อย่าง Habitat for Humanity ซึ่งเป็นองค์กรที่เน้นเรื่องการพัฒนาความความยั่งยืน มี Titleist เป็นเว็บไซต์ พาร์เนอร์ และมี Footjoy เป็นผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ สำนักงานของเอเชียน ทัวร์ ตั้งอยู่ที่เกาะเซ็นโตซ่า ประเทศสิงคโปร์ โดยมี เซ็นโตซ่า กอล์ฟ คลับ เป็นหนึ่งในเครือข่ายธุรกิจที่สำคัญด้านอสังหาริมทรัพย์ของเอเชียน ทัวร์ นอกจากนี้ยังมีสำนักงาน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ มาเลเซีย อีกด้วย
เกี่ยวกับ บริษัท ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์
บริษัท ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ (LIV Golf Investments) ก่อตั้งขึ้นใหม่ เป็นกลุ่มบริษัทที่มีสำนักงานในประเทศสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และเอเชีย มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์รวมของธุรกิจกอล์ฟอาชีพในระดับโลกให้ดีขึ้น และให้การสนับสนุนผู้ถือหุ้นเพื่อเปิดประตูสู่ช่องทางธุรกิจใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้รับความสนใจ โดยมี เกร็ก นอร์แมน ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัทเป็นคนแรก และมี PIF กองทุนชั้นนำระดับโลกในเรื่องการบริหารความมั่งคั่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
**************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น