ผู้เข้าประมูลทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ร้องสื่อมวลชนเพื่อช่วยขอความเป็นธรรมอีกทางหนึ่ง กรณีเข้าร่วมประมูลทรัพย์สินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และมีชื่อชนะการประมูลแต่เมื่อหมดเวลากลับเกิดจอมืดระยะหนึ่ง ก่อนจะเปิดกลับมามีชื่อผู้อื่นชนะการประมูลไปด้วยวงเงินสูงกว่าเล็กน้อย
น.ส.ณัฐธยาน์ สร้างกุศลวงศ์ อายุ 41 ปี ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมทั้งนำหลักฐานดังกล่าวเข้าร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมต่อ นายสำเริง ไชยเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านทางสำนักงานธนารักษ์จังหวัดเชียงใหม่ และเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน กล่าวคือ
กรมธนารักษ์ ได้จัดให้มีการประมูลทรัพย์สิน ครั้งที่ 1/2564 ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเว็บไซต์ ระหว่างวันที่ 7-14 มิถุนายน 2564 โดยปิดการประมูลในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 12.00 น. และตนเองได้เข้าร่วมประมูลดังกล่าว 3 รายการ ด้วยการใช้อีเมลชื่อ jeerapa_ac@hotmail.com ซึ่งในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ชื่อของตนเองมีชื่ออยู่ในอันดับที่ 1 และควรจะชนะได้ทรัพย์สินที่ทำการประมูลทั้ง 3 รายการ ประกอบด้วย
รายการที่ 1 ทรัพย์รหัสเลขที่ 01645000077 บ้านเดี่ยว 1 หลัง พร้อมที่ดิน พื้นที่ ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ราคากลาง 1,600,000 บาท ซึ่งประมูลได้ในราคา 1,810,000 บาท ในเวลา 12.00 น.
รายการที่ 2 ทรัพย์รหัสเลขที่ 01645000073 บ้านเดี่ยว 1 หลัง พร้อมที่ดิน พื้นที่ ต.หนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ราคากลาง 2,000,000 บาท ซึ่งประมูลได้ในราคา 2,300,000 บาท ในเวลา 12.00 น.
รายการที่ 3 ทรัพย์รหัสเลขที่ 01634000076 ที่ดินว่างเปล่า 1 แปลง และบ้านเดี่ยว 2 หลัง พร้อมที่ดิน พื้นที่ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ราคากลาง 2,235,000 บาท ซึ่งประมูลได้ในราคา 2,535,000 บาท ในเวลา 12.00 น.
แต่ครั้นถึงเวลา 12.00 น.ซึ่งน่าจะจบการประมูลไปแล้วนั้น ปรากฏว่าระบบการประมูลของกรมธนารักษ์หยุดทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ทำการประมูลดับมืดเป็นสีดำ จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 4 นาที ระบบกลับมาใช้ได้อีกครั้งหนึ่ง แต่รายชื่อผู้ชนะการประมูลกลับเป็นชื่อของคนอื่นด้วยจำนวนเงินประมูลมากกว่าที่ตนเองเสนอไว้จำนวน 2 รายการคือ รายการที่ 1 และ รายการที่ 2 ที่สรุปการประมูลได้ในราคาสูงกว่าที่ตนเองประมูลไว้ล่าสุดเพียงนิดเดียวคือ 60,000 บาท ซึ่งเป็นราคาสำหรับการเสนอเพิ่มเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ยังคงเหลือทรัพย์สินที่ตนเองประมูลได้อยู่เพียงรายการเดียวคือรายการที่ 3 ในราคา 2,535,000 บาทเท่านั้น
น.ส.ณัฐธยาน์ กล่าวว่า การที่ตนเองมีชื่ออยู่ในลำดับที่ชนะการประมูลในขณะที่ถึงเวลา 12.00 น.ซึ่งหมดเวลาประมูลแล้วนั้น ไม่ทราบว่าเกิดปัญหาจากการขัดข้องทางเทคนิคหรือเหตุอื่นใด ที่ทำให้หน้าจอดับไประยะเวลาหนึ่ง แต่เมื่อระบบกลับมาทำงานปรากฏว่ามีผู้ให้ราคาในการประมูลมากกว่าและชนะตนเองไปเช่นนี้ ถือว่าไม่เป็นการยุติธรรมเพราะทำให้ตนเองเสียโอกาสที่จะได้ทรัพย์สินที่ต้องการ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม เห็นว่ากรมธนารักษ์ควรจะต้องให้ความเป็นธรรมกับตนเอง โดยดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเช่น ยกเลิกการประมูลครั้งที่ผ่านมาและจัดการประมูลขึ้นใหม่ เพื่อไม่ให้ตนเองรวมถึงอาจจะมีผู้อื่นที่ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน ต้องเสียโอกาสในการชนะการประมูลและได้ทรัพย์สินในครั้งนี้
****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น