สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ เผยแพร่บทสัมภาษณ์ นายอู๋ จื้ออู่ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี แห่งการเปิดสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ เหลียวหลังความตั้งใจแรกเริ่มมั่นคงแข็งแกร่ง แลไปข้างหน้าความมุ่งมั่นแน่วแน่ยิ่ง มีรายละเอียดดังนี้
หลักการในการพิจารณาจัดตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่
หลังจากการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2518 ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ผู้นำระดับสูงได้เดินทางเยือนซึ่งกันและกันบ่อยครั้ง มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ทั้งสองประเทศร่วมมือกันเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค และเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อตอบสนองต่อการขยายความร่วมมือเชิงลึกของทั้งสองฝ่าย จีนและไทย จึงเห็นพ้องต้องกันที่จะจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ขึ้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ประเทศไทยเป็นผู้เริ่มจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกวางโจว จีนจึงตัดสินใจจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ประจำเชียงใหม่ขึ้น สถานกงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่เปิดทำการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2534 นับเป็นสถานกงสุลใหญ่จีนแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นสถานกงสุลใหญ่จีนแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากนโยบายการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยที่มีการพัฒนาในระดับสูง
เหตุผลประการแรกที่เลือกเชียงใหม่เป็นที่ตั้งของสถานกงสุลใหญ่จีน เนื่องจากภาคเหนือของไทยมีความใกล้ชิดกับประเทศจีนในทางภูมิศาสตร์ เชื่อมโยงกันทางวัฒนธรรมและมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด มีการไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิด มีชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวจีนโพ้นทะเล อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และมีศักยภาพสูงในการขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ในอนาคต
เหตุผลประการที่สองคือ เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีความเจริญและมีความสำคัญมากที่สุดของประเทศไทยรองจากกรุงเทพฯ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของภาคเหนือ ด้วยเหตุผลทั้งสองประการนี้ เชียงใหม่จึงเป็นตัวเลือกอันดับแรกของประเทศจีนในการจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่จีน
30 ปีผ่านไปในชั่วพริบตาเดียว ความสัมพันธ์จีน – ไทยพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในภูมิภาคและสถานการณ์ระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงไปมากจากการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือระหว่างจีนและภาคเหนือของไทยได้รับผลที่น่าพอใจ สถานกงสุลใหญ่จีนได้สร้างมิตรภาพในเชิงลึกร่วมกับทุกวงการในเขตอาณาของสถานกงสุลใหญ่ ปี 2564 นี้ เป็นปีที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นปีที่ครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นปีแรกที่ดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 ปี ฉบับที่ 14 และยังเป็นปีแห่งการเริ่มการเดินทางครั้งใหม่ในการสร้างประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยอย่างรอบด้าน และในปีนี้ยังเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองเมืองเชียงใหม่ครบรอบ 725 ปี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการฉลองครบรอบ 30 ปีแห่งการเปิดสถานกงสุลใหญ่จีน จะเป็นปีที่เราจะเฉลิมฉลองร่วมกันกับชาวเชียงใหม่ ดังนั้น เราจึงออกแบบตราสัญลักษณ์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีแห่งการเปิดสถานกงสุลใหญ่จีน
ความหมายของ ตราสัญลักษณ์ฉลองครบรอบ 30 ปีแห่งการเปิดสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่
ตราสัญลักษณ์นี้ออกแบบโดยนักออกแบบชาวจีนที่ใส่ใจในมิตรภาพจีน - ไทย และสนใจเรื่องราวของจังหวัดเชียงใหม่ ตราสัญลักษณ์หลักเป็นตัวเลข "30" ซึ่งเรียบง่ายแต่ทรงพลัง "3" เปรียบเสมือนพญามังกรที่ผงาดขึ้น และ "0" เป็นลวดลายล้านนาที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมภาคเหนือของไทย และมีความคล้ายกับอาคารไทยท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ ตราสัญลักษณ์ดังกล่าวหมายความถึง จีนและไทยอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์และส่งเสริมเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างจีนและภาคเหนือของไทยเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น และมีอนาคตที่สดใส
จะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอย่างไร
เมื่อพิจารณาถึงมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เราจึงตัดสินใจว่า จะไม่มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองที่มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก แต่เราจะใช้โอกาสนี้ในการย้อนดูพัฒนาการของการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในด้านต่าง ๆ ตลอดช่วงระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาความร่วมมือร่วมกันในอนาคต เรากำลังรวบรวมรูปภาพและข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานกงสุลใหญ่จากบุคคลในวงการต่าง ๆ เพื่อเตรียมจัดนิทรรศการภาพถ่ายในปีนี้ เราตั้งใจจะใช้ภาพถ่ายในการเล่าเรื่องราว เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างจีนกับภาคเหนือของไทย นอกจากนี้เรายังวางแผนที่จะเชิญผู้เชี่ยวชาญ และนักวิชาการเข้าร่วมการสัมมนาโดยใช้วิธีการแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อระดมความคิด และข้อเสนอแนะต่อการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนที่เป็นมิตรระหว่างจีนและภาคเหนือของไทย ผลักดันข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และกรอบความร่วมมือล้านช้าง – แม่โขง ในภาคเหนือของไทย นอกจากนี้ เรายังเตรียมที่จะจัดงานวันเปิดบ้านของสถานกงสุลใหญ่ โดยเชิญผู้บริหารจากวงการต่าง ๆ รวมถึงนักเรียนนักศึกษาให้เข้ามายังสถานกงสุลใหญ่ เพื่อสร้างความเข้าใจ และกระชับมิตรภาพให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
บทบาทของสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ต่อพัฒนาการความสัมพันธ์จีน – ไทย และความคืบหน้าทางความร่วมมือระหว่างจีนกับภาคเหนือของไทย
เมื่อปีที่แล้ว จีนและไทยร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งสองประเทศมีประวัติศาสตร์ไปมาหาสู่กันมายาวนานกว่าหนึ่งพันปี คำว่า "จีน - ไทยพี่น้องกัน" ได้ฝังรากลึกในหัวใจของประชาชน ทั้งสองฝ่ายเป็นเพื่อนมิตรและยังเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือที่ไว้วางใจต่อกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นแบบของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีระบอบสังคมที่แตกต่างกัน
การแลกเปลี่ยนฉันมิตรระหว่างจีนและภาคเหนือของไทยเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของความสัมพันธ์จีน – ไทย และเป็นภาพย่อของการพัฒนาความร่วมมืออันดีระหว่างจีนและไทย ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ ได้ติดต่อกับทุกภาคส่วนในเขตอาณาของสถานกงสุลใหญ่ เพื่อแนะนำประเทศจีนให้กับภาคเหนือของไทย และแนะนำภาคเหนือของไทยให้กับจีน สถานกงสุลใหญ่จีนได้มีบทบาทเสมือนสะพานเชื่อมสายสัมพันธ์ อีกทั้งเป็นสื่อกลางและเป็นตัวเร่งการขับเคลื่อนในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีนและภาคเหนือของไทย สถานกงสุลใหญ่จีนมีส่วนร่วมในการต้อนรับผู้นำจีนหลายท่านที่มาเยือนภาคเหนือของไทย และจัดคณะผู้แทนจากทุกวงการในภาคเหนือของไทยไปเยี่ยมเยือนและศึกษาดูงานในประเทศจีน นอกจากนี้ เรายังประสานงานในการสร้างความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องระหว่างหลายจังหวัดในภาคเหนือของไทยกับมณฑลและเมืองต่างๆของจีน อีกทั้งยังขยายความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างท้องถิ่นกับองค์กรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อสามสิบปีก่อน คนจีนที่รู้จักเชียงใหม่ยังมีจำนวนไม่มาก แต่ทุกวันนี้ เชียงใหม่และภาคเหนือของประเทศไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศจีน ในช่วง 2-3 ปีก่อนปี พ.ศ.2563 นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนภาคเหนือของไทยราว 2 ล้านคนต่อปี ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสี่ของนักท่องเที่ยวจีนที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย ในขณะเดียวกันชาวจีนรวมถึงนักศึกษาแลกเปลี่ยนชาวจีนได้เข้ามาอาศัยอยู่ในเชียงใหม่และภาคเหนือของไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรมของทั้งสองฝ่ายพัฒนาขึ้นอย่างคึกคัก ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการเกษตรยกระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือด้านการปลูกพืชทดแทนดำเนินไปอย่างราบรื่น ผลผลิตทางการเกษตร อาทิ ลำไย มะม่วง และใบชาในภาคเหนือของไทยเป็นที่นิยมในประเทศจีน ทั้งสองฝ่ายได้ขยายความร่วมมือในเชิงลึกทั้งด้านวัฒนธรรม การศึกษา การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับหมีแพนด้า การพัฒนาพลังงานสะอาด การขจัดไฟป่าและหมอกควันแบบบูรณาการ ตลอดจนการร่วมกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ความร่วมมือเหล่านี้ได้นำมาซึ่งประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ ภาคเหนือของประเทศไทยมีทัศนียภาพที่งดงาม มีวัฒนธรรมอันโดดเด่นและยาวนาน มีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์จากทำเลที่ตั้ง ซึ่งจะทำให้ภาคเหนือของไทยมีความได้เปรียบในด้านความสัมพันธ์จีน - ไทยและความร่วมมือล้านช้าง – แม่โขงมากยิ่งขึ้น สถานกงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่มุ่งมั่นและทุ่มเทที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีนและภาคเหนือของไทยต่อไป
ความคิดคำนึงถึงทุกภาคส่วน เนื่องในโอกาสสำคัญนี้
ขงจื่อกล่าวไว้ว่า "30 ปีตั้งตัว" ซึ่งหมายความว่า คนเราเมื่ออายุครบ 30 ปี ควรกำหนดเป้าหมายชีวิตและทิศทางการพัฒนาของตน รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน เมื่อย้อนกลับไปมองเส้นทางที่ผ่านมา 30 ปีฝ่าลมฝน สิ่งที่ไม่ลืมคือความตั้งใจแรกเริ่ม 30 ปีเดินตามฝัน สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือมิตรภาพ สถานกงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 กล่าวได้ว่า ถูกที่ ถูกเวลา ถูกคน และมีอนาคตที่สดใส ปัจจุบันความสัมพันธ์จีน – ไทย พัฒนาขึ้นอย่างสุกงอมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและภาคเหนือของไทย นี่ถือได้ว่าถูกเวลา ข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" และกรอบความร่วมมือล้านช้าง – แม่โขง มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้นซึ่งเป็นข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์จากทำเลที่ตั้งของภาคเหนือที่หาได้ยากยิ่ง นี่ถือได้ว่าถูกที่ ผลสำเร็จของความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีน – ไทยได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนสองประเทศและได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากทุกวงการในสังคม นี่คือถูกคน ข้าพเจ้าเชื่อว่าด้วยปัจจัยที่มีความได้เปรียบเหล่านี้ ความร่วมมือระหว่างจีนและภาคเหนือของไทยจะได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง และจะเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่งดงามต่อไป
สุดท้ายนี้ พวกเราขอขอบคุณเพื่อนมิตรจากทุกวงการในเขตอาณาของ สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ จากใจจริง สำหรับการสนับสนุนและความช่วยเหลือที่เข้มแข็งตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เราพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกท่าน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและผลักดันความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีนและภาคเหนือของไทย กระชับความสัมพันธ์ในรูปแบบหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างทั้งสองประเทศ
ในโอกาสเทศกาลสงกรานต์—ปีใหม่ไทย ที่กำลังจะมาถึงนี้ ข้าพเจ้าขออวยพรให้เพื่อนมิตรทุกท่านมีความสุขในวันขึ้นปีใหม่ไทย สมความมุ่งมั่นปรารถนาทุกประการ ขอให้ประเทศจีนและประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข และขอให้มิตรภาพระหว่างจีน – ไทยมั่นคงยืนยาวตลอดไป
***************
Looking back, what we do not forget is our original aspiration; looking forward, we are much more determined!
an exclusive interview with Mr. Wu Zhiwu, Consul General of the People’s Republic of China in Chiang Mai
On the occasion of the 30th anniversary of the establishment of the Consulate General of the People’s Republic of China in Chiang Mai, Consul General Mr. Wu Zhiwu gave a joint interview with major media from China and Northern Thailand. The contents are as follows:
I.What was the background and consideration for China to open a Consulate General in Chiang Mai?
Since the establishment of diplomatic relations between China and Thailand in July 1975, the relationship has developed rapidly, high-level exchanges have been frequent, and economic cooperation has become increasingly close. In the 1980s, both countries worked hand in hand to jointly safeguard regional peace and security and further enhanced strategic mutual trust. In order to meet the practical needs of expanding and deepening bilateral cooperation, China and Thailand agreed to open consulates for each other. In February 1989, Thailand set up a Consulate General in Guangzhou. China has also decided to set up a Consulate General in Chiang Mai. After preparations, the Consulate General opened on April 10, 1991. This is the first Consulate General set up by China in Thailand and the first Consulate General set up by China in Southeast Asia after the reform and opening up. It shows the high level of development of China-Thailand relations.
As for why Chiang Mai was chosen, firstly, Northern Thailand is close to China geographically. Thai culture and Chinese culture are interlinked. The two countries have had close exchanges in history. There are many overseas Chinese in Northern Thailand, and the prospects for cooperation in various fields are bright. Secondly, Chiang Mai is the most developed and important city in Thailand besides Bangkok, and also the economic and cultural center in Northern Thailand. Therefore, it is naturally the first choice for China to open a Consulate General.
Over the past 30 years, China-Thailand relations have improved day by day, and the international and regional situation has changed rapidly. With the rapid development of bilateral relations, the cooperation between China and Northern Thailand has achieved fruitful results, and the Consulate General has forged deep friendship with all walks of life in the region. 2021 is a year of historic significance. China will usher in the centenary celebration of the Communist Party of China, implement the fourteenth five-year plan, and embark on a new journey of building a socialist modern country in an all-round way. This year, Chiang Mai will also celebrate the 725th anniversary of the founding of the city. We look forward to celebrating the 30th anniversary of the establishment of the Consulate General to share the achievement and joy with the people of Chiang Mai. To this end, we specially developed the logo for the 30th anniversary of the establishment of the Consulate General.
II. What is the meaning of the logo of the 30th anniversary of the establishment of the Consulate General?
The logo was designed by a Chinese designer who cares about the friendship between China and Thailand and Chiang Mai. The main picture is a simple and powerful number "30". "3" is like a soaring dragon, and "0" is Lanna pattern with the characteristics of Northern Thai culture, and is also like a Thai-style building in the rising sun. The logo means that China and Thailand coexist harmoniously and complement each other. The cooperation between China and Northern Thailand is booming and has a bright future.
III.What celebrations will the Consulate General hold?
Considering the need for prevention and control of COVID-19, we decided not to focus our attention on organizing large-scale events. Instead, we focused on taking this opportunity to review the development of bilateral exchanges and cooperation in various fields over the past 30 years and look forward to the prospect of future cooperation. We are collecting image materials related to the Consulate General and preparing to hold a photo exhibition this year to show the process of the increasingly close and deepening relationship between China and Northern Thailand. We also plan to invite relevant experts and scholars to participate in the seminar online and offline, discussing the topics of promoting friendly exchanges between China and Northern Thailand, and promoting the implementation and development of the Belt and Road initiative and Lancang-Mekong cooperation project in Northern Thailand. We are also ready to hold the opening day of the Consulate General, invite local people and young students to enter the Consulate General, and deepen mutual understanding and friendship.
IV.How to evaluate the development of China-Thailand relations and the progress of cooperation between China and Northern Thailand? What role does the Consulate General play?
Last year, China and Thailand jointly celebrated the 45th Anniversary of the establishment of diplomatic relations. The two countries have a history of friendly exchanges for thousand years. The kinship between the two countries is deeply rooted in the hearts of the people. The two sides are mutually reliable friends and cooperative partners, which can be regarded as a model of relations between countries with different social systems.
The friendly exchanges between China and Northern Thailand are an indispensable part of China-Thailand relations and a microcosm of the sound development of China-Thailand cooperation. Over the past 30 years, the Chinese Consulate General in Chiang Mai has actively contacted all walks of life in the Cosular District, introduced China to Northern Thailand, and introduced Northern Thailand to China. In the friendly exchanges and cooperation between China and Northern Thailand, it has played a role of bridge, not only as a sensor, but also as a propeller. The Consulate General participated in the reception of a number of Chinese leaders visiting Northern Thailand, and facilitated various sectors in Northern Thailand to organize delegations to visit China. We also actively coordinate the establishment of friendly relations between local governments and cities in Northern Thailand and Chinese provinces and cities, and constantly expand the cooperation and exchanges between local and various institutions. Thirty years ago, not many Chinese knew about Chiang Mai. Today, Chiang Mai and Northern Thailand are well-known in China. In the two or three years before 2020, more than 2 million Chinese tourists visit Northern Thailand each year, accounting for a quarter of Chinese tourists to Thailand. Meanwhile, there are more and more Chinese people and Chinese students coming to Northern Thailand and Chiang Mai. Cultural cooperation between the two sides is in the ascendant. The level of economic, trade and agricultural cooperation between the two sides is increasing, and cooperation has been carried out in the field of alternative planting. Longan, mango, tea and other agricultural products from Northern Thailand are very popular in China. In the fields of culture and education, giant panda joint scientific research, clean energy development, comprehensive administration of mountain fires and smog, and joint fight against transnational crime, the cooperation between the two sides is deepening, bringing real benefits to the general public. Northern Thailand has beautiful mountains and rivers, splendid and long-standing cultural heritage, and unique geographical advantages. It is bound to glow with greater brilliance in China-Thailand relations and the Lancang-Mekong Cooperation. The Chinese Consulate General in Chiang Mai is willing to continue to make unremitting efforts to promote cooperation between China and Northern Thailand.
V.On the occasion of celebrating the 30th anniversary of the establishment of the Consulate General, what do you want to say to the people in the Consular District ?
Confucius said that "At thirty, I stood firm." means that when a person reaches 30, he should determine his life goal and development direction, and undertake his due responsibilities independently. Looking back on the road since the establishment of the Consulate General, after 30 years of trials and hardships, what we do not forget is our original aspiration; after 30 years of pursuing dreams, what remains unchanged is friendship. The Chinese Consulate General in Chiang Mai, which is now in its thirties. It’s just the right place at the right time, and in harmony with our neighbors. The future will be bright. At present, the steady development of China-Thailand relations have provided a solid foundation for deepening cooperation between China and Northern Thailand. This is the “right time”. The Belt and Road Initiative and the Lancang-Mekong Cooperation have been taking a deep and practical step, creating a rare opportunity for the northern region to play a dominant role. This is the “right place”. The fruitful results of the friendly cooperation between China and Thailand have benefited the people of the two countries and won the strong support from all walks of life of the two countries. This is “in harmony with our neighbors”. I believe that with these favorable conditions, the cooperation between China and Northern Thailand will certainly be able to build on the existing foundation and continue to write a brilliant chapter.
Finally, we would like to express our heartfelt thanks to our friends from all walks of life in the Consular District for their great support and assistance in the past 30 years. We are willing to continue to work hand in hand with you, continuously enhance friendly exchanges, solidly promote mutually beneficial cooperation between China and Northern Thailand in various fields, and make due contributions to the deepening of China-Thailand comprehensive strategic cooperative partnership.
As the Songkran Festival is coming, I wish all friends good luck and success in the Thai New Year! I wish China and Thailand peace, prosperity and development! I wish the friendship between China and Thailand has flourished like a tree growing tall and strong.
**************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น