B2S

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข่าว ; "อุดร" แชมป์ ASM Thailand Phuket ได้ลุย Vattanac Legends Championship 2025 ที่กัมพูชา 28-30 พ.ย.2568


"โปรดอน" อุดร ดวงเดชา โปรอาวุโสจากจังหวัดเชียงใหม่ คว้าแชมป์กอล์ฟรายการ ASM Thailand ครั้งที่ 12 ซึ่งจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2568 ที่สนาม เรดเมาเท่น กอล์ฟคลับ จ.ภูเก็ต หลังจากทำสกอร์ 68-67-66 รวม 3 วัน 15 อันเดอร์พาร์ 201

ผลจากการชนะในครั้งนี้ ทำให้ อุดร ดวงเดชา ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟ Asian Senior Tour Qualifier รายการ Vattanac Legends Championship ซึ่งมีกำหนดจัดแข่งขันระหว่าง 28-30 พฤศจิกายน 2568 ชิงเงินรางวัลรวม 600,000 ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา ณ สนามกอล์ฟ Vattanac Golf Resort กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยมีนักกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 60 คน แบบไม่มีการตัดตัว

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/692012dfe63adac921d87ec4

*****************

ข่าว ; “กิรเดช-แดนไท” อันดับ 12 ร่วมศึก Caleb Surratt ยังนำต่อ กอล์ฟ PIF Saudi International รอบสอง


21 พฤศจิกายน 2568 – กิรเดช อภิบาลรัตน์ และ แดนไท บุญมา ทำสกอร์รวมสองวันคนละ 8 อันเดอร์พาร์ 134 อยู่ในกลุ่มอันดับ 12 ร่วม หลังผ่านครึ่งทางกอล์ฟ PIF Saudi International powered by SoftBank Investment Advisers ที่สนาม Riyadh Golf Club ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ Caleb Surratt โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน รักษาตำแหน่งผู้นำต่อด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 128

Asian Tour จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ PIF Saudi International powered by SoftBank Investment Advisers รายการสุดท้ายของอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 160 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2568 ที่สนาม Riyadh Golf Club ระยะ 7,439 หลา พาร์ 71 โดยมีนักกอล์ฟไทยลงชิงชัย 14 คน ทั้งนี้ เวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดิอาระเบียช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง

ผ่านครึ่งทางของการแข่งขัน โปรอาร์ม-กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2013 เก็บได้อีก 1 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 134 เท่ากับ แดนไท บุญมา เจ้าของแชมป์เอเชียน ทัวร์ สองรายการ ที่หวดอีก 4 อันเดอร์พาร์ 69 เป็นวันที่สอง ทั้งคู่รั้งในกลุ่มอันดับ 12 ร่วมกับโปรดังอย่าง พอล เคซีย์ แชมป์พีจีเอทัวร์ 3 รายการจากอังกฤษ, ปีเตอร์ ยูไลน์ ผู้เล่นจากลิฟกอล์ฟ ลีก ชาวอเมริกัน เจ้าของแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองรายการ และ สกอตต์ วินเซนต์ จากซิมบับเว ซึ่งกำลังรั้งอันดับหนึ่งในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ในขณะนี้

ขณะที่ตำแหน่งจ่าฝูงยังเป็นของ คาเลบ ซูแรตต์ ดาวรุ่งวัย 21 ปี จากสหรัฐฯ ที่หวดเพิ่มอีก 5 อันเดอร์พาร์ 66 จากการทำ 5 เบอร์ดี้ ไม่มีโบกี้ นำต่อเป็นวันที่สองด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 128 โดยมี โธมัส ปีเตอร์ส จากเบลเยี่ยม ที่ตีเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 66 ไล่จี้เพียงสโตรคเดียว

คาเลบ ซูแรตต์ ผู้เล่นลิฟกอล์ฟทีม Legion XIII ของจอน ราห์ม ซึ่งจบรองแชมป์รายการนี้เมื่อปีที่แล้ว เผยว่า “เป็นวันที่ดีมาก ผมออกไปเล่นวันนี้ บางครั้งก็คิดมาก บางครั้งก็คิดเร็วเกินไป แต่ผมก็ยังเล่นได้ดี ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีที่ผมได้เห็นตัวเอง และหวังว่าจะใช้โมเมนตัมแบบเดียวกันนี้ในอีกสองวันที่เหลือ ซึ่งสกอร์แต่ละคนบนลีดเดอร์บอร์ดยอดเยี่ยมมาก ก็ต้องรอดูกันต่อไป”

ทางด้านนักกอล์ฟชื่อดังอย่าง หลุยส์ อุสธุยเซน แชมป์ดิ โอเพ่น 2010 จากแอฟริกาใต้ เก็บอีก 1 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 135 อยู่ในกลุ่มอันดับ 19 ร่วมกับ มิเกล ทาบัวนา นักกอล์ฟจากฟิลิปปินส์ ซึ่งกำลังลุ้นติดสองอันดับแรกในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ เพื่อชิงตั๋วไปลิฟกอล์ฟ ลีก ฤดูกาล 2026 ส่วน แพทริค รีด แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 รวมสองวันมี 2 อันเดอร์พาร์ 140 รั้งอันดับ 58 ร่วม ขณะที่ ดัสติน จอห์นสัน อดีตมือหนึ่งโลก, เทเลอร์ กูช แชมป์บุคคลลิฟกอล์ฟลีก 2023 จากสหรัฐฯ และเซอร์จิโอ การ์เซีย ดีกรีแชมป์เมเจอร์จากสเปน ไม่ผ่านเข้ารอบ หลังสองทัวร์นาเมนท์ตัดตัวผู้เล่นที่สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 140 มีนักกอล์ฟไทยผ่านเข้าไปเล่นสองวันสุดท้ายได้ 9 คน

สำหรับนักกอล์ฟไทยที่ผ่านตัดตัวอีก 7 คน ทำสกอร์ดังนี้ สดมภ์ แก้วกาญจนา (68) สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 137 อยู่ในกลุ่มอันดับ 31 ร่วม, เศรษฐี ประคองเวช (68) และ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (69) สกอร์รวมคนละ 4 อันเดอร์พาร์ 138 อันดับ 38 ร่วม, สาริศ สุวรรณรัตน์ (66) สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 139 อันดับ 49 ร่วม, รฐนน วรรณศรีจันทร์ (72), กัญจน์ เจริญกุล (71) และ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ (71) สกอร์รวมคนละ 2 อันเดอร์พาร์ 140 อันดับ 58 ร่วม

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/691ff87b9e47837030e67e65

Reference

asiantour.com

*******************

ข่าว ; มูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย - R&A และมูลนิธิธงชัยใจดี จัดสอนกอล์ฟระดับชุมชน ตั้งเป้าเพิ่มประชากรกอล์ฟ


โครงการสอนกอล์ฟระดับชุมชน (Community Golf Instructor Program) เป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย R&A และ มูลนิธิธงชัยใจดี จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมเฮอริเทจ ลพบุรี โดยมีวัตุประสงค์เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาผู้ฝึกสอนกอล์ฟในระดับชุมชนและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกีฬากอล์ฟให้แก่เยาวชน และเพิ่มจำนวนประชากรกอล์ฟของไทยให้มากขึ้น

กิจกรรมสำคัญในโครงการประกอบด้วย การบรรยายเรื่องการสอนกอล์ฟระดับชุมชน สาธิตการปฏิบัติการสอนระดับชุมชนจากทีมงานมืออาชีพ โดยมีโปรป้อมเพชร สารพุฒิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสถาบันสอนกอล์ฟธงชัยใจดี กอล์ฟ อคาเดมี เป็นหัวหน้าทีม ในวันต่อมามีการทดลองการสอนกอล์ฟระดับชุมชน ของผู้เข้าอบรมซึ่งเป็นบุคลากรของสถาบันต่างๆ และในวันสุดท้ายเป็นการจัดสถานีการสอนกอล์ฟแบบแบ่งกลุ่ม  พร้อมมีการทดสอบการสอนกอล์ฟระดับชุมชนด้วย

สำหรับผู้เข้ารับการอบรมเป็นบุคลากรจากสถาบันต่างๆรวมทั้งสิ้น 50 คน จาก 11 โรงเรียน 1 มหาวิทยาลัย ได้แก่ โรงเรียนโคกเจริญ, โรงเรียนโคกลำพาน, โรงเรียนงามมีศรี, โรงเรียนชัยบาดาลพิทยาคม, โรงเรียนธงชัยใจดีไตรวิเทศศึกษา, โรงเรียนบ้านวังเพลิง, โรงเรียนเพ็ญพัฒนา, โรงเรียนเมืองละโว้วิทยา, โรงเรียนรุ่งนิวัติ, โรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ, โรงเรียนสุวัฒนบดี และ มหาวิทยาลัยสยาม นอกจากนี้ยังมีนักเรียนที่ไม่เคยสัมผัสกีฬากอล์ฟได้ที่ติดตามครูมาร่วมกิจกรรมด้วย

ในพิธีมอบเกียรติบัตรหลังจบการอบรมได้รับเกียรติจาก นายวัชรพงศ์ พิพัฒน์สุริยวงศ์ ศึกษาธิการจังหวัดลพบุรี, นายมหิทธร สุรบุญจรัส ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลพบุรี, นายสุทิน ดรุณโยธิน ประธานมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย และ ดร.ธงชัย ใจดี ประธานมูลนิธิธงชัยใจดี ร่วมแสดงความยินดี

เรวดี ต สุวรรณ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย เปิดเผยว่า “มูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย เป็นการรวมตัวของสมาคมกีฬากอล์ฟสตรีฯ สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย และสมาคมสนามกอล์ฟไทย มีแนวคิดริเริ่มในการจัดทำโครงการนี้ตลอดสามปีที่ผ่านมา เมื่อรวมตัวเป็นมูลนิธิได้แล้วก็รู้สึกภูมิใจมาก ซึ่งเป็นมูลนิธิกีฬากอล์ฟประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ จากนั้นทางมูลนิธิจึงได้นำเสนอข้อมูลต่อ R&A ซึ่งเป็นองค์กรดูแลกีฬากอล์ฟทุกประเทศยกเว้นอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก แจ้งว่าเราต้องการให้กีฬากอล์ฟมีความก้าวหน้าแต่การขอทุนสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศเป็นการยาก เพราะยังมีภารกิจอื่นที่สำคัญอีกหลายอย่าง เมื่อทาง R&A มาประชุมที่ประเทศไทยและให้การบ้านว่า มูลนิธิกีฬากอล์ฟไทยต้องสร้างนักกอล์ฟให้ได้ 5 ล้านคน เราก็ยอมรับแต่ก็ไม่ได้กำหนดว่าจะใช้เวลากี่ปี ซึ่งการที่จะเพิ่มจำนวนนักกอล์ฟต้องเริ่มจากโรงเรียน แต่เด็กยังขาดโอกาสอยู่มาก ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำคือจะการมีกีฬากอล์ฟในโรงเรียนให้ได้ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ Community Golf Instructor Program นี้”

สุทิน ดรุณโยธิน ประธานมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับผู้ผ่านการอบรมทุกคน ขอให้นำความรู้ที่ได้รับไปใช้ทำการสอนในชุมชนโดยเฉพาะเด็กๆ ตั้งแต่ทักษะเบื้องต้น ให้เดินหน้าต่อไปจนถึงระดับอาชีพในอนาคต สำหรับมูลนิธิธงชัยใจดี ก็ขอชมเชยว่าดำเนินการทำได้สมบูรณ์อยู่แล้ว ส่วนที่อื่นๆก็มีบ้างแต่ส่วนใหญ่สอนคนที่เป็นอยู่แล้วมาฝึกฝนเพิ่มเติม ที่นี่มีเด็กๆ จำนวนมาก ทุกอย่างดูน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง”

ธงชัย ใจดี ประธานมูลนิธิธงชัยใจดี เผยว่า “ขอแสดงความยินดีกับหลักสูตรวันนี้ เราจะนำผู้ที่ผ่านการอบรมไปพัฒนาต่อยอดตามวัตถุประสงค์ของโครงการ หวังว่าจะช่วยเผยแพร่และพัฒนาในเขตชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะนักเรียนที่อยู่ต่างจังหวัดที่ขาดเรื่องความรู้ด้านกีฬากอล์ฟ เราจะทำตามนโยบายในการเพิ่มจำนวนประชากรกอล์ฟให้มากที่สุด โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางอีกโครงการหนึ่ง หวังว่าโครงการนี้พัฒนากว้างไกลต่อไป”

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/691feb40e63adac921c1d2b3

******************

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข่าว ; ทีมงานสนามกอล์ฟ "เครือกัซซัน" เตรียมความพร้อมรับลูกค้าช่วง High Season 2025-2026


เมื่อวันพุธที่ 19 พฤศจิกายน  2568 ที่ร้านวีระลาบเป็ด เชียงใหม่ & LA LUNE CAFE นายสุพชฌาย์ เสวตไอยาราม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด สนามกอล์ฟเครือกัซซัน ซึ่งประกอบด้วย สนามกอล์ฟ กัซซันเลกาซี่ กอล์ฟคลับ และ สนามกอล์ฟ กัซซันพาโนราม่า กอล์ฟคลับ จ.ลำพูน

ได้จัดการประชุมทีมงานฝ่ายขายและการตลาด โดยได้ร่วมกันพิจารณาการจัดทำแคมเปญพิเศษ พร้อมการโปรโมทผ่านโซเชียลมีเดีย และพัฒนาระบบจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรับลูกค้ากอล์ฟในช่วงฤดูการท่องเที่ยว "ไฮซีซั่น" 2025-2026 ที่กำลังมาถึง

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันกำหนดแพคเกจกอล์ฟที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าทั้งชาวต่างชาติและคนไทย ที่จะนำมาให้บริการในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้  ซึ่งทางสนามกอล์ฟได้เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 - 22.00 น. ทุกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เช่น

Package Stay and Play ช่วง High Season 2025 - 2026, Golf Rouding, Golf Package Stay & Play, เเละ Twilight Golf เป็นต้น

นอกจากนั้น ที่สนามกัซซันเลกาซี่ กอล์ฟคลับ และ สนามกัซซันพาโนราม่า กอล์ฟคลับ จ.ลำพูน ยังมีโปรโมชั่นการออกรอบเล่นกอล์ฟ ที่พัก สถานที่จัดเลี้ยงหรือจัดประชุมสัมมนา รวมทั้งรายการอาหารเมนูพิเศษไว้บริการอีกมากมาย

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม จองออกรอบหรือใช้บริการได้ที่ กัซซันเลกาซี่ กอล์ฟคลับ กรีนฟี โปรช็อป โทร.053-921846 และ 081-7167711 กัซซันพาโนราม่า กอล์ฟคลับ กรีนฟี โปรช็อป โทร.065-4165961 ฝ่ายขายและการตลาด โทร.053-921815, 083-5800146 หรือที่ Line ID : gassangolf

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/691ead7f7e5234028a9e7984

***************

ข่าว ; “กิรเดช” ประเดิมสวย ทำสกอร์ตามผู้นำ 2 สโตรค เปิดศึก PIF Saudi International รอบแรก


20 พฤศจิกายน 2568 – กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2013 ออกสตาร์ทได้ดีหวด 7 อันเดอร์พาร์ 64 แบบไม่มีโบกี้ รั้งอันดับ 4 หลังจบรอบแรกกอล์ฟ PIF Saudi International powered by SoftBank Investment Advisers ที่สนาม Riyadh Golf Club ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมีสกอร์ตามหลังสองผู้นำร่วม 2 สโตรค

Asian Tour จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ PIF Saudi International powered by SoftBank Investment Advisers รายการสุดท้ายของอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 160 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2568 ที่สนาม Riyadh Golf Club ระยะ 7,439 หลา พาร์ 71 โดยมีนักกอล์ฟไทยลงชิงชัย 14 คน ทั้งนี้ เวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดิอาระเบียช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง

เปิดฉากการแข่งขันรอบแรกปรากฎว่า โปรอาร์ม-กิรเดช อภิบาลรัตน์ ผู้เล่นจากดีพีเวิลด์ ทัวร์ ทำผลงานได้ดีหวด 7 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียแม้โบกี้เดียว จบ 18 หลุมเข้ามา 7 อันเดอร์พาร์ 64 อยู่อันดับ 4 ขณะที่ Caleb Surratt นักกอล์ฟชาวอเมริกัน ซึ่งหวดสถิติสนามด้วยสกอร์ 61 ในรายการนี้เมื่อปีที่แล้ว และ Adrian Meronk จากโปแลนด์ ซึ่งคว้าแชมป์ลิฟกอล์ฟริยาดที่สนามแห่งนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ขึ้นนำร่วมกันด้วยสกอร์คนละ 9 อันเดอร์พาร์ 62 โดยมี Thomas Pieters จากเบลเยี่ยม ตามหลังเพียงสโตรคเดียว

กิรเดช อภิบาลรัตน์ ซึ่งทำผลงานได้ดีที่สนามแห่งนี้ด้วยการจบที่สามร่วมในรายการซาอุดิ โอเพ่น เมื่อต้นปีที่แล้ว เผยหลังเกมว่า “ผมไม่ค่อยได้เล่นสนามนี้บ่อยนัก น่าจะเป็นครั้งที่สามที่มาที่นี่ ซึ่งผมสามารถพูดได้เลยว่าเป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่มีสภาพสนามดีที่สุด ผมค่อนข้างพอใจกับผลงานการเล่นของตัวเองในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เริ่มต้นได้ดีมาก แต่ทุกอย่างยังไม่ลงตัวในช่วงสองวันสุดท้าย ผมก็จะพยายามต่อไป หวังว่าทุกอย่างจะลงตัวในสัปดาห์นี้ ส่วนตัวคิดว่าผู้ชนะรายการนี้ได้ต้องทำสกอร์ต่ำมากๆ เพราะมีโอกาสทำเบอร์ดี้กันได้เยอะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งธงด้วย”

ส่วนแดนไท บุญมา เจ้าของแชมป์เอเชียน ทัวร์ สองรายการ หวด 4 อันเดอร์พาร์ 69 อยู่ในกลุ่มอันดับ 16 ร่วมกับ ปีเตอร์ ยูไลน์ แชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองรายการจากสหรัฐฯ ส่วนรฐนน วรรณศรีจันทร์ แชมป์เอเชียน ทัวร์ 3 รายการ ทำ 3 อันเดอร์พาร์ 68 รั้งอันดับ 28 ร่วม ขณะที่โปรเพชร-สดมภ์ แก้วกาญจนา ที่เพิ่งคว้าตั๋วเล่นในดีพีเวิลด์ทัวร์ฤดูกาล 2026 และ เอกปริษฐิ์ หวู่ ซึ่งเพิ่งคว้าแชมป์แชมป์เอเชียน ทัวร์ ที่ไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ ตีเข้ามาคนละ 2 อันเดอร์พาร์ 68 เท่ากับ โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2019 และ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ ทั้งสี่คนอยู่ในกลุ่มอันดับ 42 ร่วม

ทางด้านดาวดังของโลกอย่าง Louis Oosthuizen แชมป์ดิ โอเพ่น 2010 จากแอฟริกาใต้ และ Paul Casey แชมป์พีจีเอทัวร์ 3 รายการจากอังกฤษ หวดคนละ 6 อันเดอร์พาร์ 65 อยู่ในกลุ่มอันดับ 5 ร่วม ส่วนสองโปรแถวหน้าชาวอเมริกันอย่าง Dustin Johnson อดีตมือหนึ่งโลก และ Patric Reed แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 ตีมาคนละ 1 อันเดอร์พาร์ 70 รั้งอันดับ 64 ร่วม ขณะที่ Talor Gooch แชมป์บุคคลลิฟกอล์ฟลีก 2023 จากสหรัฐฯ และSergio Garcia ดีกรีแชมป์เมเจอร์จากสเปน ตีเกินคนละ 1 โอเวอร์พาร์ 72 อยู่ในกลุ่มอันดับ 91 ร่วม

สำหรับกอล์ฟ Internetional Series ได้เพิ่มโควต้าให้กับนักกอล์ฟที่สามารถจบในสองอันดับแรกของตารางคะแนนสะสม Internetional Series ฤดูกาล 2025 จะได้รับสิทธิ์ไปเล่นในลิฟกอล์ฟลีกฤดูกาล 2026 ส่วนผู้ที่ทำอันดับอยู่ในท็อป 40 จะได้สิทธิไปเล่นลิฟ กอล์ฟ ลีก โปรโมชั่นส์ ที่ฟลอริด้า ต้นปีหน้า เพื่อชิงตั๋วไปลิฟกอล์ฟลีกต่อไป

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/691e9fe35dd1a56b511ac7e2

Reference

asiantour.com

*******************

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข่าว ; คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปลูกถ่ายตับระหว่างคู่ฝาแฝดสำเร็จเป็นคู่แรกของประเทศไทย


จากความเจ็บป่วย สู่ความหวัง สายสัมพันธ์ที่ช่วยชีวิต นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการปลูกถ่ายตับจากฝาแฝดเหมือน ในขณะที่ผู้บริจาคเป็นผู้มีชีวิต ซึ่งเป็นคู่แรกและที่เดียวของประเทศไทย

รายงานข่ายจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แจ้งว่า ผู้ป่วยรายนี้คือ แฝดพี่ นายศุภวิชญ ซองเงิน อายุ 20 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคท่อน้ำดีตีบตันตั้งแต่กำเนิด (Biliary atresia) เคยเข้ารับการผ่าตัดเปิดทางระบายของน้ำดีเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วนต้น (Kasai procedure) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 แม้การผ่าตัดช่วยยืดอายุการทำงานของตับ แต่ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาเกิดภาวะแทรกซ้อนและตับเสื่อมลงเรื่อย ๆ จนต้องเข้ารับการรักษาซ้ำหลายครั้ง เสี่ยงต่อภาวะตับวาย จึงเป็นข้อบ่งชี้ให้ต้องทำการปลูกถ่ายตับ

ในการรักษาครั้งนี้ แฝดผู้น้อง นายศุภพิชญ ซองเงิน อายุ 20 ปี ได้อุทิศตนเป็นผู้บริจาคตับ โดยมอบตับจำนวนร้อยละ 65 ของปริมาตรตับทั้งหมดให้กับพี่ชาย นอกจากจะเป็นการผ่าตัดปลูกถ่ายตับในผู้บริจาคมีชีวิต (Living donor) แล้ว ในครั้งนี้นับเป็นกรณีพิเศษเพราะทั้งคู่เป็น ฝาแฝดเหมือน (Identical twin) จึงมีพันธุกรรมเหมือนกันทุกประการ ส่งผลให้การเข้ากันได้ของอวัยวะ (Histocompatibility) สูงมาก ความเสี่ยงของการปฏิเสธอวัยวะต่ำกว่าปกติ และไม่จำเป็นต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive drugs) ในระยะยาว ซึ่งแตกต่างจากการปลูกถ่ายตับทั่วไปที่ผู้ป่วยต้องใช้ยาตลอดชีวิต

รศ.นพ.สัณหวิชญ์ จันทร์รังสี อาจารย์ประจำหน่วยศัลยศาสตร์ระบบตับ ทางเดินน้ำดี และตับอ่อน ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัด กล่าวว่า “การผ่าตัดปลูกถ่ายตับในครั้งนี้มีความท้าทายสูง ทั้งด้านเทคนิคการผ่าตัด การประเมินผู้บริจาคและผู้รับ รวมถึงการวางแผนดูแลหลังการผ่าตัด โดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดปลูกถ่ายตับที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจะเป็นการปลูกถ่ายตับจากผู้บริจาคสมองตาย แต่ทั้งนี้ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ (Organ Transplant Center) คณะแพทยศาสตร์ มช. เป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับจากผู้บริจาคที่มีชีวิตในผู้ใหญ่

ทีมรักษาจึงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และเฝ้ารอช่วงเวลาที่เหมาะสมที่แฝดคู่นี้มีความพร้อมที่จะเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ ปริมาตรของตับที่จะให้ได้ โดยต้องปลอดภัยกับผู้ให้ รวมถึงป้องกันความเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่มีโอกาสเกิดขึ้น และเนื่องด้วยความพิเศษของการเป็นฝาแฝดเหมือน ทำให้โอกาสการปฏิเสธอวัยวะต่ำกว่ากรณีทั่วไปมาก ซึ่งสิ่งที่ทีมแพทย์จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปคือ การทำงานของตับใหม่ในระยะยาวและการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน

ความสำเร็จครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของทีมศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทุกฝ่าย นอกจากจะได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นการผ่าตัดปลูกถ่ายตับจากฝาแฝดเหมือนครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนศักยภาพของทีมแพทย์ไทยในการทำการผ่าตัดที่มีความซับซ้อนสูงในระดับสากล และมีส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการรักษาของประเทศ”

รศ.นพ.วรกิตติ ลาภพิเศษพันธุ์ รองผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ และอาจารย์ประจำหน่วยศัลยศาสตร์ระบบตับ ทางเดินน้ำดีและตับอ่อน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ (Organ Transplant Center) คณะแพทยศาสตร์ มช. ได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับไปแล้ว 62 คู่ 

โดยผลลัพธ์ในผู้รับการปลูกถ่าย (Recipient outcomes) ในช่วงปี 2566–2568 มีผลลัพธ์ที่โดดเด่น ได้แก่ อัตราการรอดชีวิตที่ 1 ปี คิดเป็นร้อยละ 95 เทียบเท่าฐานข้อมูลจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลี อัตราการเกิดภาวะท่อน้ำดีตีบหรือรั่วเพียงร้อยละ 11 และไม่พบภาวะหลอดเลือดแดงอุดตันในการปลูกถ่ายทั้งหมด ขณะที่ผลลัพธ์ในผู้บริจาค (Donor outcomes) พบว่า การผ่าตัดส่องกล้องในผู้บริจาคสำเร็จทั้งหมด ไม่พบการเกิดภาวะตับวายในผู้บริจาค และมีระยะเวลาเฉลี่ยการพักรักษาตัว ในโรงพยาบาลเท่ากับ 6 วัน”

รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวว่า “ผลลัพธ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานการรักษาที่ทัดเทียมกับนานาชาติ และยืนยันถึงความเชี่ยวชาญ และศักยภาพของทีมแพทย์ศัลยกรรมตับ ตับอ่อน และทางเดินน้ำดีของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การผ่าตัดปลูกถ่ายตับระหว่างคู่ฝาแฝดเหมือนครั้งนี้ จึงไม่เพียงเป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่สำคัญ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการพัฒนาศักยภาพของทีมแพทย์ไทยในระดับโลก”

ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่ายังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็น “โรงเรียนแพทย์ในดวงใจ เพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาวะ ด้วยนวัตกรรม และเป็นกำลังสำคัญในการ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยอย่างยั่งยืน”

อีกหนึ่งช่องทางติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/691da54b6ff4c72fed34c7a6

อ้างอิง

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

*****************

ข่าว ; ดาวดังโลกตบเท้าสู้ศึก PIF Saudi International “สดมภ์” นำทัพ 14 โปรไทยลงชิงชัย


19 พฤศจิกายน 2568 – โปรกอล์ฟระดับโลกตบเท้าเข้าแข่งขัน PIF Saudi International powered by SoftBank Investment Advisers รายการสุดท้ายของ International Series ฤดูกาล 2025 ชิงเงินรางวัลรวมสูงถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 160 ล้านบาท เปิดฉากชิงชัยรอบแรกวันพุธที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามริยาด กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,439 หลา พาร์ 71 ประเทศซาอุดิอาระเบีย ด้านโปรไทยนำทัพโดย สดมภ์ แก้วกาญจนา ซึ่งเพิ่งคว้าตั๋วลงเล่นในดีพีเวิลด์ทัวร์ปีหน้า ทั้งนี้เวลาท้องถิ่นประเทศซาอุดิอาระเบียช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง

กอล์ฟรายการ PIF Saudi International powered by SoftBank Investment Advisers แข่งขันระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2568 มีดาวดังของโลกลงประชันมือกับผู้เล่นแถวหน้าของทัวร์ เช่น โปรมือดีจากสหรัฐฯ อย่าง ดัสติน จอห์นสัน อดีตมือหนึ่งโลกและแชมป์บุคคลของลิฟกอล์ฟลีกฤดูกาล 2022,  เทเลอร์ กูช แชมป์บุคคลลิฟกอล์ฟลีก 2023, แพทริค รีด แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 ร่วมด้วย มาร์ติน คายเมอร์ แชมป์พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2010 และ ยูเอส โอเพ่น 2014 จากเยอรมัน, หลุยส์ อุสธุยเซน แชมป์ดิ โอเพ่น 2010 จากแอฟริกาใต้ และ เซอร์จิโอ การ์เซีย ดีกรีแชมป์เมเจอร์จากสเปน

สำหรับกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ได้เพิ่มโควต้าให้กับนักกอล์ฟที่สามารถจบในสองอันดับแรกของตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2025 จะได้รับสิทธิ์ไปเล่นในลิฟกอล์ฟลีกฤดูกาลหน้า ส่วนผู้ที่ทำอันดับอยู่ในท็อป 40 จะได้สิทธิไปเล่นลิฟ กอล์ฟ ลีก โปรโมชั่นส์ ที่ฟลอริด้า ต้นปีหน้า เพื่อชิงตั๋วไปลิฟกอล์ฟลีกต่อไป

ขณะที่ผู้เล่นแถวหน้าจากเอเชียน ทัวร์ ที่จะลงชิงชัยในสัปดาห์นี้นำโดย จอห์น แคทลิน อดีตมือหนึ่งของทัวร์จากสหรัฐฯ, สกอตต์ เฮนด์ มือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2016 จากออสเตรเลีย รวมถึง สกอตต์ วินเซนต์ จากซิมบับเว และ คาซุกิ ฮิกะ จากญี่ปุ่น ซึ่งกำลังรั้งอันดับหนึ่งและสองในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ในขณะนี้ ส่วน มิเกล ทาบัวนา แชมป์อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งอยู่อันดับสามในตารางคะแนนสะสม จะลงลุ้นชิงตั๋วไปลิฟกอล์ฟ ลีก ฤดูกาล 2026 เช่นกัน

ด้านนักกอล์ฟไทยลงแข่งขัน 14 คน อย่างเช่น โปรเพชร-สดมภ์ แก้วกาญจนา ที่เพิ่งคว้าตั๋วลงเล่นในดีพีเวิลด์ทัวร์ฤดูกาล 2026 และ ไท่ซู-เอกปริษฐิ์ หวู่  แชมป์เอเชียน ทัวร์ ที่ไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมถึง โปรอาร์ม-กิรเดช อภิบาลรัตน์ ผู้เล่นจากดีพีเวิลด์ ทัวร์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2013, โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ มือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2019 และแชมป์เอเชียน ทัวร์ 7 รายการ และเหล่าแชมป์เอเชียน ทัวร์ อย่าง สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย และ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ เจ้าของแชมป์เอเชียน ทัวร์ 4 รายการ, รฐนน วรรณศรีจันทร์ แชมป์ 3 รายการ, แดนไท บุญมา และ สาริศ สุวรรณรัตน์ แชมป์คนละ 2 รายการ

กอล์ฟรายการ พีไอเอฟ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล พาวเวอร์ บาย ซอฟต์แบงก์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส รอบแรก วันที่ 19 พ.ย.2568 กลุ่มแรกเริ่มเวลา 06.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น  หรือเวลา 10.20 น. ตามเวลาประเทศไทย

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/691d7d5a4aaf486c81699167

Reference

asiantour.com

*******************

ข่าว ; มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดงาน CMU Book Fair ครั้งที่ 29 สัปดาห์หนังสือแห่งปี 25 พ.ย.- 3 ธ.ค.2568


สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กำหนดจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งปี CMU Book Fair ครั้งที่ 29 ในธีม “Read me up” อ่านยกกำลัง เพิ่มพลังความรู้ สู่ชุมชน ในระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม 2568 เวลา 9.00 – 21.00 น. ณ บริเวณโดยรอบอาคารสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการอ่านแก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง ได้มีโอกาสเลือกหนังสือและสิ่งพิมพ์ดีมีคุณภาพในราคาพิเศษ พร้อมทั้งมีโอกาสพบปะนักเขียนภายในงานดังกล่าว

สำหรับกิจกรรมภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งปี CMU Book Fair ครั้งที่ 29 ประกอบด้วย

การออกร้านจำหน่ายหนังสือ สื่อการศึกษา และของที่ระลึก จากร้านจำหน่ายหนังสือ สำนักพิมพ์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 100 บูธ เพื่อเปิดโอกาสในการเป็นเจ้าของหนังสือดี ราคาพิเศษ ส่งเสริมให้เกิดนิสัยรักการอ่านมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เปิดโอกาสให้อาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทราบแหล่งจัดพิมพ์หนังสือ เอกสารวิชาการ เพื่อประโยชน์ในการเรียนการสอน และอาจสั่งซื้อเพื่อตนเอง หรือแนะนำให้ห้องสมุดสั่งซื้อเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไปได้ รวมถึงให้ร้านหนังสือ สำนักพิมพ์ ได้พบปะลูกค้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจำหน่ายหนังสือในจังหวัดเชียงใหม่ ห้องสมุดสถาบันการศึกษา โรงเรียน รวมทั้งประชาชนทั่วไป


กิจกรรม “นักเขียนพบผู้อ่าน” เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนและประชาชนผู้สนใจรักการอ่านและการเขียนมากขึ้น มีโอกาสได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนักอ่านกับนักเขียน สำหรับปีนี้ มีนักเขียนมาร่วมกิจกรรม เช่น หมอตังค์ มรรคพร/ ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา/ คุณมอสมัดจุก/ คุณโสภณ ศุภมั่งมี/ คุณโจ้บองโก้/ คุณประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด/ คุณวิน นิมมานวรวุฒิ/ คุณเจม ชี้ดาบ เป็นต้น

กิจกรรม Workshop เช่น ยาดมสมุนไพร/ ร้อยลูกปัดเซรามิก/ มหาชามเริญคาเฟ่/ Worry stone หินคลายกังวล/ WaterColor ระบายใจด้วยสีน้ำ/ ปลูก Cactus ด้วยรัก ฟูมฟักด้วยใจ เป็นต้น

กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ประกวดโต้วาที ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568 เวลา 9.00 – 12.00 น. เป็นต้นไป ชิงเงินรางวัลรวม 6,000 บาท ลงทะเบียนได้ที่ https://cmu.to/BF29contest

การออกร้านจำหน่ายสินค้า ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม

กิจกรรมการมีส่วนร่วมของชุมชนและสังคม ที่น่าสนใจ เช่น

(1) กิจกรรม “เปลี่ยนเล่ม เปลี่ยนโลก” เชิญชวนนำหนังสือทุกประเภทที่อยู่ในสภาพดี ไม่ฉีกขาด ตามเงื่อนไขที่กำหนด มาแลกเปลี่ยนกันภายในงาน โดยภายในงานจะมีหนังสือกองกลางให้เลือก ทั้งหนังสือมือสองสภาพดีและหนังสือใหม่มือหนึ่งที่สำนักหอสมุดจัดหามาเพิ่มเติม เพื่อหมุนเวียนหนังสือดี ๆ สู่มือใหม่ และสร้างชุมชนแห่งการอ่านที่ยั่งยืน จัดระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2568

(2) กิจกรรม “Game ไม่เก่า เพราะเรา SHARE” เปิดรับบริจาค Boardgame สภาพดี ไม่ชำรุดหรือสูญหาย อุปกรณ์ประกอบครบถ้วน เพื่อส่งต่อให้โรงเรียนในโครงการ เช่น โรงเรียนบ้านป่าก้าง โรงเรียนวัดป่าแดด และโรงเรียนแม่หอพระวิทยาคม รับบอร์ดเกมทุกประเภท ทั้งเกมเพื่อความสนุกและเกมเพื่อการเรียนรู้ จัดตั้งแต่วันนี้ ถึง 3 ธันวาคม 2568

(3) กิจกรรม “ฝาขวดน้ำ แลกของรางวัล” เชิญชวนร่วมบริจาคฝาขวดน้ำพลาสติกที่เป็นฝาขวดน้ำดื่มเท่านั้น เพื่อนำมาแลกรับของรางวัลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฝาทุกชิ้นจะถูกส่งต่อให้โครงการ “โต๊ะนักเรียนรีไซเคิล (Green Road)” เพื่อนำไปผลิตโต๊ะและเก้าอี้มอบให้โรงเรียนที่ขาดแคลน จัดระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2568

(4) กิจกรรม “รับบริจาคกระดาษหน้าเดียว” เปิดรับบริจาคกระดาษหน้าเดียว นำไปรีไซเคิล และส่งต่อให้กับโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปผลิตสมุดอักษรเบรลล์ให้แก่นักเรียนผู้พิการทางสายตา จัดตั้งแต่วันนี้ ถึง 3 ธันวาคม 2568

(5) กิจกรรม “Mini Tour @ CMU Library” บริการนำชมการให้บริการและพื้นที่ให้บริการสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รู้รับทราบบริการทรัพยากร และสิ่งอำนวยความสะดวกของสำนักหอสมุดมากขึ้น โดยจัดวันละ 11 รอบ รอบละประมาณ 45 นาที ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า ได้ที่ https://cmu.to/MiniTour หรือเข้าร่วมแบบ Walk-in จัดระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2568

สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน ในพุธวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 9.00 น. ณ ลานไม้หน้าอาคารสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตลอดจนร่วมงานดังกล่าว และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.facebook.com/CMUBookFair

อีกหนึ่งช่องทางติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/691d52305b7948fcf9581466

*****************

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

คอลัมน์ ; “บนกรีนกอล์ฟ” หนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ ฉบับวันที่ 17-23 พฤศจิกายน 2568

มาพบกับ “บนกรีนกอล์ฟ” โดย “ยล พัตเยี่ยม” ที่หน้ากีฬา “ไทยนิวส์” กันแล้ว.....ความคืบหน้าการแข่งขัน กีฬากอล์ฟ ในกีฬาอาวุโสแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 5 ครั้งที่ 8 "เวียงโกศัยเกมส์" ซึ่งจังหวัดแพร่ เจ้าภาพได้กำหนดจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2569 รวม 3 วัน ณ สนามกอล์ฟ กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง มีนักกอล์ฟที่เข้าแข่งขันจาก 15 จังหวัดภาคเหนือ ไม่เกินจังหวัดละ 18 คน แบ่งเป็นชาย 11 คน หญิง 7 คน แบ่งออกเป็นประเภทละ 4 กลุ่มอายุคือ อายุ 45 ปีขึ้นไป ชาย 2 คน หญิง 2 คน อายุ 55 ปีขึ้นไป ชาย 3 คน หญิง 2 คน อายุ 65 ปีขึ้นไป ชาย 4 คน หญิง 2 คน และอายุ 75 ปีขึ้นไป ชาย 2 คน หญิง 1 คน ซึ่งจะคัดเอานักกีฬาแต่ละรุ่นเข้าไปแข่งขัน กีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 8 "ตาปีเกมส์" ที่สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 8-14 มิถุนายน 2569 โดยแต่ละประเภทและแต่ละรุ่นจะมีจำนวนเช่นเดียวกับจำนวนที่แต่ละจังหวัดส่งเข้าแข่งขันระดับภาค.....กีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 8 "ตาปีเกมส์" ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นเจ้าภาพนั้น กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 8-14 มิถุนายน 2569 มีการแข่งขัน 15 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, กอล์ฟ, ฟุตบอล, ลีลาศ, บาสเก็ตบอล, เทนนิส, แบดมินตัน, เกทบอล, เทเบิลเทนนิส, ยิงปืน, ตะกร้อ, เปตอง วู้ดบอล และเพาะกาย ขณะที่ "เวียงโกศัยเกมส์" ระหว่างวันที่ 15-22 กุมภาพันธ์ 2569 จะคัดเลือกเพียง 13 ชนิดเท่านั้น เพราะอีก 2 กีฬาคือ ว่ายน้ำ และ ลีลาศ ไปได้เลยโดยไม่ต้องคัดเลือกระดับภาค.....ส่วนการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 41 "เมืองแพร่เกมส์" ระหว่าง 22-31 มกราคม 2569 ขณะทำต้นฉบับนี้ยังไม่เห็นกำหนดวันและสนามแข่งขันกีฬากอล์ฟ แต่ยังไงก็ต้องอยู่ในห้วงเวลา 10 วันนั้นและคงเป็นสนาม กฟผ.แม่เมาะ เช่นเดียวกัน.....

.....มีข่าวดีเกี่ยวกับตลาดการท่องเที่ยวด้านกีฬากอล์ฟของไทย สมาคมกอล์ฟรีสอร์ทภาคเหนือ ภายใต้การนำของ นายกตั้ม เฉลิมพล ชูชาติ และ อุปนายกโจ้ สุพชฌาย์ เสวตไอยาราม ซึ่งได้ประชุมประจำเดือนพฤศจิกายน 2568 ได้มีแขกพิเศษเอเย่นต์นำเที่ยวจากยุโรป Golf Scape เข้าร่วมประชุมคือ Mr.Raghad Mukhaimer ซึ่งเป็น Founder & CEO และ Ms.Sara Engsig ซึ่งเป็น Vice President, Operations เพื่อหารือเรื่องการท่องเที่ยวกอล์ฟ เพื่อเตรียมขยายไปสู่ระดับโลก เชื่อว่าบ้านเราจะมีโอกาสได้ต้อนรับนักกอล์ฟนักท่องเที่ยวจากยุโรปและนานาชาติ.....สุดสัปดาห์นี้แฟนกอล์ฟชาวไทยเตรียมเชียร์โปรสาวกันอีกครั้ง กับ LPGA Tour รายการใหญ่ปิดท้ายปี CME Group Tour Championship ระหว่าง 20-23 พฤศจิกายน 2569 ที่ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา รายการนี้ จีโน่ อาฒยา ฐิติกุล จะป้องกันแชมป์ รับอีกซัก 4 ล้านดอลล่าร์ หลังจากปีที่แล้วรับมาแล้วครั้งหนึ่ง ร่วมลุ้นกันอีกปีครับ.....พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ.....

ยล พัตเยี่ยม

yodsup@gmail.com

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข่าว ; “เอกปริษฐิ์” ปลดล็อคคว้าแชมป์แรก Asian Tour ได้แล้วจากรายการ Taiwan Glass Taifong Open ที่ไต้หวัน


16 พฤศจิกายน 2568 – เอกปริษฐิ์ หวู่ นักกอล์ฟลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน ปลดล็อคคว้าแชมป์ Asian Tour เป็นครั้งแรกให้กับตัวเองได้สำเร็จ จากรายการ Taiwan Glass Taifong Open หลังหวดรอบสุดท้ายเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 จบด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 ที่สนาม Taifong Golf Club ไต้หวัน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยแซงชนะ Hung Chien-yao โปรกอล์ฟเจ้าถิ่นสองสโตรค

Asian Tour จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ Taiwan Glass Taifong Open ชิงเงินรางวัลรวม 4 แสนเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12.4 ล้านบาท ณ สนาม Taifong Golf Club ระยะ 7,302 หลา พาร์ 72 เมืองชางฮัว ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2568 ปรากฏว่า ไท่ซู-เอกปริษฐิ์ หวู่ นักกอล์ฟลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน ซึ่งออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ตามหลัง Hung Chien-yaoโปรกอล์ฟเจ้าถิ่นอยู่หนึ่งสโตรค หวดได้อีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 จากการทำ 6 เบอร์ดี้ เสียเพียงโบกี้เดียว จบด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 แซงคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ เป็นครั้งแรกให้กับตัวเอง พร้อมรับเงินรางวัล 72,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.2 ล้านบาท ขณะที่ เชียน-เหยา เก็บได้เพียง 2 อันเดอร์พาร์ 70 รั้งรองแชมป์ไปด้วยสกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 รับเงินรางวัลไป 44,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1.4 ล้านบาท

เอกปริษฐิ์ โปรดาวรุ่งวัย 26 ปี เผยหลังปลดล็อคคว้าแชมป์แรกนับตั้งแต่ลงเล่นในเอเชียน ทัวร์ เป็นปีแรก พร้อมขยับจากอันดับ 73 มาอยู่ที่ 28 ในตารางคะแนนสะสมเอเชียน ทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต ว่า “เป็นอะไรที่พิเศษมากสำหรับผม รู้สึกตื้นตันใจมาก ผมรู้อย่างเดียวว่าความพยายามทั้งหมดที่ผมทุ่มเทลงไปนั้นก็เพื่อช่วงเวลาแบบนี้ ผมบอกกับตัวเองตลอดทั้งวัน ผมแค่อยากผ่อนคลาย ผมไม่รู้อนาคต แต่รู้ว่าทุกครั้งที่ผมตี ผมต้องอยู่กับตัวเอง แค่เชื่อมั่นในตัวเองและตีให้ถูก อย่าคิดว่าใครกำลังทำอะไร และใครเป็นผู้นำ ตอนฮังพลาดเสียสองฌโบกี้ติดในช่วงท้าย ผมรู้ว่าผมยังมีงานที่ต้องทำ และไม่อยากมั่นใจมากเกินไปในตอนนั้น”

ขณะที่ ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย อดีตนักกอล์ฟมือหนึ่งออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวรปี 2023 รอบสุดท้ายตีเข้ามา 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสี่วันมี 9 อันเดอร์พาร์ 279 จบในกลุ่มอันดับ 6 ร่วม ส่วน รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์ รองแชมป์รานยการนี้เมื่อปีที่แล้ว เร่งเครื่องหวด 5 อันเดอร์พาร์ 67 ตามมาที่อันดับ 9 ร่วม ด้วยสกอร์รม 8 อันเดอร์พาร์ 280

ส่วนผลงานนักกอล์ฟไทยที่น่าสนใจรายอื่น ชัพชัย นิราช (72) สกอร์รวม 7 อันดอร์พาร์ 281 จบอันดับ 13 ร่วม, ศรุต วงค์ชัยสิทธิ์ (75) สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 282 อันดับ 15 ร่วม,  เศรษฐี ประคองเวช (71)  สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 283 อันดับ 19 ร่วม และ ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม (69) สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 285 อันดับ 24 ร่วม

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/6919bfa03f711ff2cd659283

Reference

asiantour.com

*******************

ข่าว ; มช.คว้ารางวัลระดับโลก IET Engineers in Society Awards ตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมของไทย ด้วยการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติ “IET Engineers in Society Awards 2025” ด้าน Sustainability and Climate Change จาก The Institution of Engineering and Technology (IET) สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นสถาบันวิศวกรรมชั้นนำของโลกที่มีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี และได้รับพระราชทานกฎบัตร (Royal Charter) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 รางวัลนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการขับเคลื่อนพันธกิจสู่การเป็น Carbon Neutrality University อย่างแท้จริง และยืนยันบทบาทในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย

โครงการ “Building Beyond Roads” ได้รับการคัดเลือกให้คว้ารางวัลสูงสุดในปีนี้จากผลงานที่เปลี่ยน “ขยะพลาสติกและเศษหินฝุ่น” ให้กลายเป็นวัสดุก่อสร้างมูลค่าสูง ซึ่งสามารถนำไปใช้สร้างถนนที่แข็งแรง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีคาร์บอนสุทธิเป็นลบ หรือ “Negative Carbon Road”  ภายในพื้นที่ถนนมหาวิทยาลัย โดยไม่กระทบต่อรากไม้ใหญ่ แสดงถึงความใส่ใจทั้งทางเทคนิคและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

การต่อยอดจากความสำเร็จด้านถนนสีเขียว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสิ่งแวดล้อมอีกขั้น ด้วยการเปิดตัว ลานจอดรถรักษ์โลกแห่งแรกของประเทศไทย “U-Parking” หรือ Negative Carbon Parking บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ณ ลานจอดรถหน้าสำนักบริการวิชาการ (UNISERV) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายใต้การออกแบบและดำเนินงานของคณะวิศวกรรมศาสตร์ “U-Parking” เป็นลานจอดรถต้นแบบที่มี ผิวพรุนและซึมน้ำ ผลิตจากขยะพลาสติกและถ่านชีวมวล ซึ่งช่วยลดขยะและลดการเผาในพื้นที่เกษตร ทั้งยังช่วยให้น้ำฝนซึมผ่านพื้นผิวได้ดี ไม่เกิดน้ำขังบนถนน และสามารถนำน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ผลงานนี้ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้เทียบเท่าการปลูกป่ากว่า 57 ไร่ต่อปี อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของการก่อสร้างถนนที่อนุรักษ์ต้นยางนาอายุ 150 ปี ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

โครงการ “U-Parking” อยู่ภายใต้ทีมวิจัย นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.พีรพงศ์ จิตเสงี่ยม อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ และรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หัวหน้าโครงการ Negative Carbon Parking & Road โดยมุ่งพัฒนาเทคนิคการก่อสร้างคอนกรีตผสมวัสดุ Carbon Removal Materials (Biochar) จากเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อเป็นองค์ประกอบของคอนกรีตที่มีความรักษ์โลกในรูปแบบใหม่ และต่อยอดด้วยเทคโนโลยีการสร้างพื้นผิวทางซึมน้ำ (Permeable Pavement) เพื่อการใช้น้ำอย่างยั่งยืน ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง และเป็นก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครั้งนี้เกิดจากความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับพันธมิตรระดับโลก โดยมี National University of Singapore (NUS) ร่วมตรวจประเมินผลความยั่งยืนด้วยกระบวนการ Life Cycle Assessment (LCA) เพื่อยืนยันคุณภาพทางวิทยาศาสตร์ และ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG เป็นผู้สนับสนุนหลักในการต่อยอดนวัตกรรมจากห้องปฏิบัติการสู่การผลิตจริงกว่า 600 ตัน โดยโครงการดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา CPAC Extra Base Layer สูตร Carbon Storage นวัตกรรมทดแทนวัสดุชั้นพื้นทางและชั้นรองพื้นทางที่ CPAC กำลังขยายตลาดอยู่ในปัจจุบัน ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมของคนไทยที่มีศักยภาพในระดับโลก และเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบาย Inclusive Green Growth ในภาพใหญ่ของ SCG และความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนถึงพลังของการบูรณาการความรู้ระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม ที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสามารถยืนหยัดในเวทีโลกในฐานะผู้นำด้านวิศวกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างสง่างาม

การได้รับรางวัล IET Engineers in Society Awards 2025 ในครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำถึงความสำเร็จของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้านนวัตกรรมการก่อสร้างถนนยุคใหม่ แต่ยังสะท้อนถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการสร้างงานวิจัยเพื่อสังคม (Socially Responsible Research) ที่ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และแสดงให้เห็นว่าการจัดการขยะไม่ใช่ภาระของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่คือภารกิจร่วมกันของทุกคนในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้โลกใบนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างนวัตกรรมเพื่อโลกที่ดีกว่า สร้างคุณค่าคืนสู่สังคม ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกอย่างต่อเนื่อง

อีกหนึ่งช่องทางติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/691963c96abce1d7a7def51b

*****************

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข่าว ; Super Hot Deal Coupon สนามกอล์ฟเครือกัซซัน ซื้อวันนี้ตุนไว้ใช้ช่วงไฮซีซั่นราคาแพงได้ถึงสิ้นปี 2568


ฝ่ายขายและการตลาด สนามกอล์ฟเครือกัซซัน จ.ลำพูน แจ้งว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีก 16 วันเท่านั้น สำหรับโปรโมชั่นการเล่นกอล์ฟรายการ Welcome Winter Super Hot Deal Coupon ซึ่งเปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2568 ซื้อแล้วใช้ได้ทันทีและยังสามารถเก็บไว้ใช้ได้ในช่วงไฮซีซั่นถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาสำหรับการเล่นกอล์ฟจะสูงขึ้น

ที่สนามกัซซันเลกาซี่ กอล์ฟคลับ คูปอง 1 ชุด 5 ใบ จำหนายในราคาเพียงชุดละ 8,000 บาท หรือเท่ากับราคาใบละ 1,600 บาท สนามกัซซันพาโนราม่า กอล์ฟคลับ ราคาเพียงชุดละ 7,000 บาทหรือเท่ากับราคาใบละ 1,400 บาท โดยคูปอง 1 ใบ ใช้สำหรับออกรอบเล่นกอล์ฟ 1 รอบ 18 หลุม รวมกรีนฟี แคดดี้ รถกอล์ฟนั่งเดี่ยว

ทั้งนี้ ทางสนามกำหนดผู้ซื้อและผู้ใช้คูปองเฉพาะคนไทยและไทยเรสสิเดนท์เท่านั้น โดยคนไทยต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ส่วนไทยเรสสิเดนท์ต้องแสดงใบอนุญาตขับขี่ที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป

นอกจากนั้น ที่สนามกัซซันเลกาซี่ กอล์ฟคลับ และ สนามกัซซันพาโนราม่า กอล์ฟคลับ จ.ลำพูน ยังมีโปรโมชั่นการออกรอบเล่นกอล์ฟ ที่พัก สถานที่จัดเลี้ยงหรือจัดประชุมสัมมนา รวมทั้งรายการอาหารเมนูพิเศษไว้บริการอีกมากมาย

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม จองออกรอบหรือใช้บริการได้ที่ กัซซันเลกาซี่ กอล์ฟคลับ กรีนฟี โปรช็อป โทร.053-921846 และ 081-7167711 กัซซันพาโนราม่า กอล์ฟคลับ กรีนฟี โปรช็อป โทร.065-4165961 ฝ่ายขายและการตลาด โทร.053-921815, 083-5800146 หรือที่ Line ID : gassangolf

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/691832484c9567fbf92f3560

****************

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข่าว ; NARIT เผย TNRT พบสัญญาณคลื่นวิทยุจากอนุมูลอิสระ OH ในดาวหางคาบ 71 ปี 12P/Pons-Brooks


สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) National Astronomical Research Institute of Thailand (NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยผลการศึกษาแรกด้วยกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ ขนาด 40 เมตร ของหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ พบสัญญาณคลื่นวิทยุจากอนุมูลอิสระ (OH) ในดาวหางคาบ 71 ปี 12P/Pons-Brooks นับเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการดาราศาสตร์วิทยุในไทย งานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร The Planetary Science Journal เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา

ดาวหาง ประกอบด้วยน้ำแข็งและอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก เมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ พลังงานความร้อนจะทำให้เกิด “โคม่า” หรือชั้นบรรยากาศรอบนิวเคลียสดาวหาง รวมถึงหางฝุ่นและหางพลาสมา เนื่องจากดาวหางส่วนใหญ่คงสภาพเดิมมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของระบบสุริยะเมื่อราว 4,600 ล้านปีก่อน การศึกษาดาวหางจึงมีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจต้นกำเนิดของระบบสุริยะและโลก

สำหรับดาวหางคาบสั้น 12P/Pons-Brooks นั้น โคจรใกล้ดวงอาทิตย์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม  พ.ศ. 2507 และกลับมาอีกครั้งเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2567 หลังห่างหายไปกว่า 70 ปี นักวิจัยกลุ่มดาราศาสตร์วิทยุ สดร. ใช้เครื่องรับสัญญาณย่าน L บนกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ (Thai National Radio Telescope: TNRT) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เมตร สังเกตการณ์ดาวหางเมื่อวันที่ 22, 27 และ 29 มีนาคม 2567 ผลการสังเกตพบสัญญาณคลื่นวิทยุจากอนุมูลอิสระ OH ในชั้นโคม่าของดาวหาง ซึ่งสามารถใช้ประเมินปริมาณแก๊สที่ดาวหางปลดปล่อยออกมาเมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ หรือที่เรียกว่า “การระเหิดของดาวหาง” (outgassing activity) ได้ ผลการศึกษายังพบอีกว่าอัตราการผลิตแก๊ส OH เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด

ดร. โนบุยูกิ ซาไก (Nobuyuki Sakai) ผู้เขียนหลักของงานวิจัยกล่าวว่า “ผลลัพธ์ที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาตินั้น สอดคล้องกับงานวิจัยก่อนหน้านี้จากดาวหางดวงอื่น ๆ โดยสำหรับดาวหาง 12P/Pons-Brooks มีรายงานการเปลี่ยนแปลงความสว่างทางแสงอย่างรวดเร็ว (หรือที่เรียกว่า optical outburst) หากในอนาคตเราสามารถใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติเพื่อสังเกตดาวหางดวงอื่น ๆ ได้มากขึ้น เราอาจจะสามารถเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างการระเบิดทางแสงเหล่านี้กับอัตราการผลิตแก๊ส OH ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น”

กล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ ตั้งอยู่ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ. ดอยสะเก็ด จ. เชียงใหม่ นับเป็นโครงการระดับชาติที่มุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากรด้านดาราศาสตร์วิทยุและยีออเดซี โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากสถาบันมักซ์พลังค์เพื่อดาราศาสตร์วิทยุ (Max-Planck-Institut für Radioastronomie) ประเทศเยอรมนี ในการพัฒนาเครื่องรับสัญญาณย่าน L และ K รวมถึงระบบประมวลผล Universal Software Backend (USB) ด้วยเทคโนโลยี Effelsberg Direct Digitization (EDD) รวมถึงความร่วมมือกับหอดูดาวเยเบส (Yebes Observatory, IGN) ประเทศสเปน ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ควบคุมกล้องโทรทรรศน์ ด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในหอดูดาวระดับโลก เช่น หอดูดาว ALMA ประเทศชิลี

นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านเทคนิคระดับนานาชาติของหอสังเกตการณ์วิทยุแห่งชาติ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานชั้นนำด้านดาราศาสตร์วิทยุประเทศต่าง ๆ ได้แก่ NAOJ ญี่ปุ่น CSIRO ออสเตรเลีย SHAO จีน NCRA-TIFR อินเดีย  MPIfR เยอรมัน KASI เกาหลีใต้  IGN สเปน และ JIV-ERIC เนเธอร์แลนด์  และ JBCA, the University of Manchester สหราชอาณาจักร เป็นต้น ร่วมติดตามการดำเนินงาน ให้คำแนะนำ ข้อเสนอแนะด้านเทคนิคและการวางแผนและบริหารจัดการหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ รวมถึงให้คำปรึกษาในบทบาทของหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติไทยในเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติด้วย

การค้นพบครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติในฐานะอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์ระดับเรือธงของประเทศไทย พร้อมเปิดโอกาสให้นักดาราศาสตร์ไทยได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยระดับนานาชาติและเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเสริมสร้างศักยภาพด้านดาราศาสตร์วิทยุในไทย ภายใต้การดำเนินงานของหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ ซึ่งรวมถึงการติดตั้ง กล้องโทรทรรศน์วิทยุประเภทวีกอสขนาด 13 เมตร และการเชื่อมโยงเครือข่ายกับกล้องโทรทรรศน์วิทยุชั้นนำทั่วโลก ทั้งใน เยอรมนี จีน ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ เพื่อร่วมผลักดันองค์ความรู้ใหม่ของจักรวาลให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/6916c5f43db89cd16b2d95e5

อ้างอิง

งานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

*******************

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข่าว ; “รับน้องขึ้นดอย” รวมใจลูกช้าง สานต่อประเพณีสู่ปีที่ 61 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เสาร์ที่ 22 พ.ย.2568 นี้


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กำหนดจัดงานประเพณี “รับน้องขึ้นดอย” ในวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568 โดยการนำกลุ่มพลังชาว มช. เดินจากมหาวิทยาลัยขึ้นไปสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

การนำน้องใหม่ไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพ “รับน้องขึ้นดอย” เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา โดยนักศึกษาจะร่วมใจกันเดินขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นระยะทางกว่า 14 กิโลเมตร นับว่าเป็นการรับน้องที่สร้างสรรค์ที่จัดสืบเนื่องต่อกันมาทุกปี

สำหรับปีนี้ กำหนดจัดขึ้นในธีม “รับน้องขึ้นดอย ร้อยภู พันธุ์เผ่า หลากเหล่าชนเนา ล้วนวัฒนา” น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงมีพระเมตตาต่อปวงชนทุกหมู่เหล่า อันก่อเป็นคุณูปการภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมาย ที่รวมถึงประชาชนในพื้นที่ราบสูง ให้ได้รับโอกาสได้มีอาชีพ และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขและมีคุณภาพ

กำหนดการประเพณีรับน้องขึ้นดอย 2568 เริ่มตั้งแต่เวลา 03.30 น. ขบวนเสลี่ยงช้างแก้วออกเดินทางจากมหาวิทยาลัย จากนั้น เวลา 03.45 น. เป็นขบวนตามลำดับ 1.คณะวิศวกรรมศาสตร์ 2.คณะเกษตรศาสตร์ 3.คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ 4.คณะแพทยศาสตร์ 5.คณะอุตสาหกรรมเกษตร 6.คณะเศรษฐศาสตร์ 7.คณะสังคมศาสตร์ 8.คณะเทคนิคการแพทย์ 9.คณะสัตวแพทยศาสตร์ 10.คณะทันตแพทยศาสตร์ 11.คณะบริหารธุรกิจ 12.วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี 13.คณะเภสัชศาสตร์ 14.คณะการสื่อสารมวลชน 15.คณะพยาบาลศาสตร์ 16.คณะศึกษาศาสตร์

เวลา 07.00 น. พิธีเปิดกิจกรรมรับน้องขึ้นดอย 2568 ต่อด้วย ขบวนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาลัยพหุวิทยาการและสหวิทยาการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ ออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เวลา 07.30 น. 17.คณะมนุษยศาสตร์ 18.คณะนิติศาสตร์ 19.วิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล 20.คณะวิทยาศาสตร์ 21.คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 22.คณะวิจิตรศิลป์ ขบวนงานประเพณีลูกช้างขึ้นดอย ผู้แทนนักศึกษาจากคณะต่างๆ ร่วมกันอัญเชิญเครื่องสักการะพระธาตุ และต่อด้วยขบวนของนักศึกษาแต่ละคณะ ซึ่งพร้อมใจสวมชุดพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวเชียงใหม่ เพื่ออนุรักษ์ประเพณีอันงดงามของวัฒนธรรมล้านนา ซึ่งทั้งระหว่างทางและเมื่อถึงวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ จะมีกิจกรรมสำหรับน้องใหม่และผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างหลากหลายและมากมาย

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา “รับน้องขึ้นดอย” เป็นมากกว่าประเพณีของนักศึกษาใหม่ แต่คือช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่พี่ ๆ ศิษย์เก่าจะได้กลับมาสานสายใยแห่งความผูกพันในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกครั้ง ในปีนี้ มหาวิทยาลัยได้เชิญชวนบรรดาพี่ ๆ ศิษย์เก่าเข้าร่วมกิจกรรมเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่แจ้งเพิ่มเติมว่า งานประเพณีรับน้องขึ้นดอย 2568 คาดว่าจะมีนักศึกษาและผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งนักศึกษาใหม่ นักศึกษาปัจจุบัน และพี่ๆ ศิษย์เก่าที่กลับมาให้กำลังให้น้องๆ จึงขอความกรุณาผู้สัญจรโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปยังวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

อีกหนึ่งช่องทางติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/69149fd7c50f477f415d3855

*****************

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข่าว ; มูลนิธิครูบาศรีวิชัย มอบรางวัล 3 นักพัฒนาตามรอยครูบาศรีวิชัย ปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 36


                         เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.30 น. ที่พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่ นายพยูณ มีทองคำ ประธานมูลนิธิครูบาศรีวิชัยจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิ ได้จัดพิธีมอบโล่และเงินรางวัลนักพัฒนาตามรอยครูบาศรีวิชัย ประจำปี 2568 โดยได้นิมนต์พระเทพปริยัติ เจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด และ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งเป็นประธานกล่าวสัมโมทนียกถาต่อผู้ได้รับมอบรางวัล อีกทั้งได้ชื่นชมมูลนิธิครูบาศรีวิชัยที่ได้ส่งเสริมการประกอบคุณงามความดีต่อสังคม โดยมีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการมูลนิธิให้เข้ารับรางวัล 3 ประเภท จำนวน 3 คน ประกอบด้วย

                        ประเภทพระภิกษุสงฆ์ ได้แก่ พระครูกิตติจันทโรภาส เจ้าอาวาสวัดบ้านป่านันทบุรีญาณสังวราราม และ เจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน จ.น่าน (ธรรมยุต)

                        ประเภทข้าราชการ ได้แก่ พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ข้าราชการบำนาญ สังกัดกระทรวงกลาโหม นักพัฒนาชาวเชียงใหม่ที่มีผลงานพัฒนามากมาย รวมทั้งด้านกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย

                        ประเภทประชาชน ได้แก่ นางวงกต จันทรมังกร นักสังคมสงเคราะห์ และ ธุรกิจสิ่งทอ

                        สำหรับรางวัลที่มอบในครั้งนี้ แต่ละประเภทได้รับโล่เชิดชูเกียรติพร้อมเงินรางวัลรายการละ 30,000 บาท โดยหลังจากเสร็จพิธีการมอบแล้ว พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ได้มอบเงินสมทบมูลนิธิครูบาศรีวิชัย 50,000 บาท และ นางวงกต จันทรมังกร มอบเงินสมทบมูลนิธิครูบาศรีวิชัย 20,000 บาท

                        ทั้งนี้ มูลนิธิครูบาศรีวิชัย ได้มีการมอบรางวัลนักพัฒนาเป็นประจำทุกปี ปีละ 3 ราย นับถึงปี 2568 เป็นการมอบรางวัลเป็นปีที่ 36 โดยมีการมอบในวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นเป็นวันที่ครูบาศรีวิชัยนำชาวพุทธกว่า 10,000 คน ลงจอบแรกในการสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพโดยไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน ความยาวของถนนประมาณ 10 กิโลเมตร แล้วเสร็จในเวลา 5 เดือนเศษ โดยประชาชนชาวพุทธที่ร่วมสร้างถนนไม่รับค่าแรงงานก่อสร้าง นับเป็นผลงานชิ้นเอกที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่รวมทั้งจากต่างจังหวัดและต่างประเทศ สามารถเดินทางขึ้นไปยังดอยสุเทพด้วยรถยนต์แย่างสะดวกสบายมาตราบทุกวันนี้

                        อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว

                        https://www.blockdit.com/posts/691347d1b32639ad20b0d512

*******************

คอลัมน์ ; “บนกรีนกอล์ฟ” หนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ ฉบับวันที่ 10-16 พฤศจิกายน 2568

มาพบกับ “บนกรีนกอล์ฟ” โดย “ยล พัตเยี่ยม” ที่หน้ากีฬา “ไทยนิวส์” กันแล้ว.....ย่างเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว "ไฮซีซั่น" ขอนำเสนอราคาการเล่นกอล์ฟ สำหรับนักกอล์ฟชาวไทยและไทยเรสสิเดนท์ เพื่อประกอบการตัดสินใจในเดือนพฤศจิกายน 2568 เป็นราคา 18 หลุม รวมกรีนฟี แคดดี้ รถกอล์ฟ.....เริ่มที่ สนามกัซซันเลกาซี่ กอล์ฟคลับ ราคา 1,800 บาท และมีการจำหน่ายคูปองชุดละ 5 ใบราคาชุดละ 8,000 บาท ติดต่อ โทร.053-921846 และ 081-7167711 หรือที่ Line ID : gassangolf.....สนามกัซซันพาโนราม่า กอล์ฟคลับ ราคา 1,600 และคูปองชุดละ 5 ใบในราคาชุดละ 7,000 บาท ติดต่อโทร.053-921846 และ 081-7167711 หรือที่ Line ID : gassangolf.....สนามกัซซันขุนตาน กอล์ฟแอนด์รีสอร์ท ราคา 1,500 บาท และสำหรับ Privilege Member 1,400 บาท ติดต่อ โทร.081-9504871 หรือที่ Line ID : khuntangolf.....สนามแม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ทแอนด์สปา ราคา 2,600 บาท สมาชิกสนามสามารถเดินได้เฉพาะในช่วงบ่าย ติดต่อ โทร.053-354431-2 หรือ 081-9193200 หรือที่ Line: @mjgolf.....

.....สนามอัลไพน์กอล์ฟรีสอร์ทเชียงใหม่ ราคา 3,000 บาท และมีจำหน่ายคูปองชุด 10 ใบ ในราคา 18,000 บาท ติดต่อ โทร.053-880-888 ต่อ 1 หรือที่ Line: @alpinegolfresort.....สนามเชียงใหม่ไฮแลนด์ กอล์ฟ แอนด์ สปารีสอร์ท ราคา 2,790 บาท แต่หลังเวลา 13.00 น. ราคา 2,190 บาท ใช้ได้ถึง 31 มีนาคม 2569 ติดต่อ โทร.081-961-0028 , 095-680-0083, 053-261-354 ถึง 9 หรือที่ Official LINE  : CMhighlands.....สนาม เดอะรอยัลเชียงใหม่ กอล์ฟคลับ (ร่มหลวง) ช่วงเช้าราคา 1,600 บาท ช่วงหลังเที่ยง ราคา 1,400 ใช้ได้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2569 ติดต่อ โทร.052-081 995, 083-568 9797, 083-578 2727 หรือที่ Line id: gmrcg.....สนามหริภุญชัย กอล์ฟคลับ ราคา 1,200 ใช้ได้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2569 ติดต่อ โทร.053-0960222 และ 061-2913015.....สนามอาทิตยาเชียงใหม่ กอล์ฟแอนด์รีสอร์ท มีเฉพาะช่วงบ่ายหลังเวลา 13.00 น. ราคา 1,200 บาท เนื่องจากช่วงเช้ามีการจองเต็มตลอดเดือนแล้ว ติดต่อ โทร.053-096233 และ 053-096333.....สนามซัมมิทกรีนวัลเลย์ เชียงใหม่คันทรีคลับ มีหลายราคา หลายประเภท ทั้งกอล์ฟกลางวันและกลางคืน และราคาเฉพาะสมาชิก สอบถามเพิ่มเติม โทร.053-298 222, 094-764 1110 และ 094-6139191 หรือที่ Line : @summitgreenvalley.....สนามนอร์ทฮิลล์เชียงใหม่ กอล์ฟคลับ ราคา 2,600 บาท ส่วน Night Golf หลังเวลา 16.00 น. ราคา 1,600 ติดต่อ โทร.053-908 999, 053-111 000 และ 093-1305470.....ขอย้ำว่าก่อนจะตัดสินใจ ขอให้ติดต่อสอบถามและจองล่วงหน้า เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการจองเต็มก็เป็นได้.....พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ.....

ยล พัตเยี่ยม

yodsup@gmail.com

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข่าว ; จัดงาน CMU OPEN HOUSE 2025 เปิดโอกาสนักศึกษาและผู้สนใจสัมผัสประสบการณ์ ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมงาน CMU OPEN HOUSE 2025 รูปแบบ Onsite ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 14 พฤศจิกายน 2568 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสบรรยากาศจริงของชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบกับกิจกรรมแนะนำหลักสูตรจาก 22 คณะ การให้คำปรึกษาจากรุ่นพี่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกิจกรรมเสริมความรู้มากมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

การจัดงานครั้งนี้มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเรียนการสอน บรรยากาศภายในคณะ และการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัวศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีในการสร้างแรงบันดาลใจและค้นหาตนเองผ่านกิจกรรมที่แต่ละคณะได้จัดเตรียมไว้ต้อนรับ

ภายในงานกำหนดให้ลงทะเบียนหน้างานเท่านั้น โดยเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 11.00 น. ณ ลานน้ำพุ หน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้เข้าร่วมจะได้รับสติกเกอร์สำหรับเข้าร่วมกิจกรรม จากนั้นเวลา 12.40 น. ผู้ลงทะเบียนจะรวมตัวกันที่ลานน้ำพุ ก่อนออกเดินทางไปยังคณะต่าง ๆ ในเวลา 13.20 น. โดยมหาวิทยาลัยได้จัดรถรับ–ส่งบริการอย่างสะดวกสบาย เพื่อพาผู้เข้าร่วมไปสัมผัสประสบการณ์จริงที่แต่ละคณะตั้งแต่เวลา 13.30 – 15.30 น.

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้พบกับการแนะนำหลักสูตรการเรียนรู้ของแต่ละคณะ การเยี่ยมชมอาคารเรียนและห้องปฏิบัติการ การพูดคุยกับคณาจารย์และรุ่นพี่ รวมถึงกิจกรรมเวิร์กชอปและนิทรรศการผลงานที่สะท้อนความโดดเด่นของแต่ละสาขาวิชาอย่างน่าสนใจ ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมและตอบแบบสอบถามจะได้รับ ประกาศนียบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (e-Certificate) ของคณะนั้น ๆ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ผ่านทางเว็บไซต์ CMU OPEN HOUSE

นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดพร้อมกับ นิทรรศการตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา ครั้งที่ 27 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการรวบรวมข้อมูลหลักสูตรจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ รวมถึงบูธจาก 22 คณะของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อให้คำปรึกษาและแนะแนวการศึกษาต่ออย่างใกล้ชิด โดยมีรุ่นพี่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมให้คำแนะนำและแบ่งปันประสบการณ์จริงในการเรียน การใช้ชีวิต และการเตรียมตัวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถแต่งกายได้ตามความเหมาะสม เช่น ชุดนักเรียน ชุดพละ หรือชุดสุภาพ เพื่อความสะดวกและความเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดการเข้าร่วมกิจกรรม

โดยก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้จัดกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ภายใต้ชื่อ Live CMU OPEN HOUSE 2025 “CMU Tonight” ผ่านทาง Facebook Page: CMU OPEN HOUSE ซึ่งจัดขึ้นในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจจากทั่วประเทศได้ทำความรู้จักกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในมิติที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น กิจกรรมออนไลน์ดังกล่าวประกอบด้วย 2 ช่วงหลัก ได้แก่ Showcase Show จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 มีการนำเสนอภาพรวมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมพูดคุยกับรุ่นพี่ในกิจกรรม CMU TCAS Clinic เพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับการสมัครเรียนในระบบ TCAS แต่ละรอบ รวมถึงกิจกรรมสันทนาการและเกมแจกของรางวัลมากมาย

นอกจากนั้นยังมีการเปิดบ้านออนไลน์ 22 คณะ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 17 และ 20 – 24 ตุลาคม 2568 รวม 11 วัน วันละ 2 คณะ เวลา 18.00 – 20.00 น. ผู้เข้าชมสามารถรับชมการถ่ายทอดสดผ่านเพจ Facebook: CMU OPEN HOUSE พร้อมตอบแบบสอบถามหลังรับชม เพื่อรับ ประกาศนียบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของคณะนั้น ๆ

สำหรับกิจกรรม CMU OPEN HOUSE ทั้งในรูปแบบออนไลน์และ Onsite ถือเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสให้เยาวชนได้ค้นหาความฝันและแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ ผ่านการสัมผัสประสบการณ์จริงจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อร่วมค้นหาศักยภาพในตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจ และก้าวสู่เส้นทางแห่งอนาคตไปพร้อมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อีกหนึ่งช่องทางติดตามข่าว

https://www.blockdit.com/posts/6911f2c58ad7436020f7a8b6

*****************