All online

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; ชาวบ้านถูกชลประทานรุกที่ดิน ร้องศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่

เจ้าของที่ดินที่สันกำแพง ร้องศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ กรณีถูกชลประทานรุกที่ดินขยายลำเหมืองเข้า หลังจากเคยร้องเรียนหลายแห่งมาแล้วไม่เป็นผล ทั้งค่าชดเชย และเวนคืนก็ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว

ที่อาคารศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด นางพิมพรรณ ไชยชนะ หรือบุพศิริ บ้านอยู่เลชที่ 21 หมู่ 5 ซอย 3 ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นำเอกสารหลักฐานปึกใหญ่ พร้อมภาพถ่าย และสำเนาผังที่ดินเข้าร้องเรียนกับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่ เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องราวและให้ความเป็นธรรม กรณีกรมชลประทานได้ขุดลอกขยายคลองระบายน้ำผ่านที่ดินของตนเองโดยไม่ได้ค่าชดเชยหรือค่าเวนคืนใด ๆ เรื่องค้างคามาหลายปี ไม่มีคำตอบจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ

ต่อมา ผวจ.เชียงใหม่ได้ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องไว้ มีใจความสรุปว่า นางพิมพรรณผู้ร้อง ซื้อที่ดินต่อจากนางบัวคำ ไชยวรรณ ตั้งแต่ 3 ธันวาคม 2530 ต่อมาแปลงเป็นโฉนดเลขที่ 17031 หน้าสำรวจ 1638 ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง เนื้อที่ 8 ไร่ 1 งาน 65 ตร.ว. ที่ดินดังกล่าวมีที่สาธารณะหรือหัวนาปลายนาติดอยู่อยู่ ไม่ทราบเนื้อที่ แต่ชัดคาดว่าเป็น 10 ไร่ เพราะมีลำเหมืองเล็ก ๆ อยู่ จึงลงทุนปลูกไม้ผล และลำไยเกือบ 200 ต้น โดยจ้างนายก๋องเป็นผู้ปลูกบนที่ดินตรงที่ไม่มีเอกสารสิทธิ และได้เข้าไปดูแลตลอด กระทั่งต้นไม้โตออกผล และขายได้แล้ว  พ.ศ. 2534 มีการประกาศทางราชการ สำหรับผู้ที่มีหัวนาปลายนา ยังไม่ได้ขอออกกรรมสิทธิ์ให้รีบไปทำ  และมีโครงการชลประทานเข้ามาเดินสำรวจ เพื่อจะขยายลำเหมือง แต่นายสมชัย แผ้วจัด เจ้าหน้าที่ขณะนั้น อ้างว่าการทำแนวเขตคลองชลประทานจะไม่เข้ามายังที่ดินของตน ทางราชการจะไม่เวนคืนที่ดินจุดนี้

ภายหลังมี นายคำ ซึ่งเป็นญาตินางบัวคำ มาอาสาว่าจะนำเอกสารสำเนาโฉนด และบัตรประจำตัว ทะเบียนบ้านเพื่อไปขอออกเอกสารในพื้นที่ว่างเปล่า และหากมีการสำรวจขยายเขตชลประทานเข้ามา จะได้รับค่าชดใช้เป็นเงินประมาณ 50,000 บาท ซึ่งก็ปรากฏว่ามีการจ่ายเงินนี้ขึ้นจริง ในเวลาต่อมา นางพิมพรรณจึงรู้ว่าเสียรู้ ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ.สันกำแพง ฐานบุกรุกเข้ามาขุดคลอง และไม่ได้รับเงิน เพราะหวังจะให้มีการเจรจากันก่อน แต่ระหว่างนั้นมีการขุดลอกลำเหมือง และล้มต้นไม้ทั้งต้นเก่าอายุนับร้อยปี และไม้ผลปลูกใหม่ของนางพิมพรรณจนราบเรียบไปหมด มาถึงปี 2538-39 ก็มีการขุดลอกอีก และจ่ายเงินชดเชยชาวบ้าน แต่นางพิมพรรณก็ไม่ได้รับ เพราะเข้าใจว่าอยู่ในระหว่างฟ้องดำเนินคดี แต่รอไปก็ไม่มีผลอะไร เจ้าพนักงานที่ดินให้นำโฉนดไปตรวจสอบ และระบุว่าการขุดลอกนั้นกระทำนอกเขตที่ดินโฉนดของนางพิมพรรณ จึงไม่มีสิทธิอะไร ต่อมานางพิมพรรณร้องศาลปกครองอีกครั้ง ก็ไม่มีความคืบหน้า เพราะเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่รับผิดชอบกับจะต้องหาหลักฐานต่างๆไปเพิ่มเติมตลอดมา ดังนั้นจึงเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ ผวจ.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้ความเป็นธรรมต่อไป.

ภาพ/ข่าว โดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

ข่าว ; ราคาลำไยปีนี้มีแนวโน้มดี สร้างความพอใจแก่เกษตรกร


ชาวสวนลำไยเหนือเฮ ราคาพุ่งสูงตลอด 2 สัปดาห์ระดับ 25-26 บาท/กก. แต่ต้องเป็นเกรด AA ขณะที่ผลผลิตยังออกไม่มาก ตลาดแย่งซื้อและให้ราคาสูง แกนนำเกษตรกรชาวสวน รายงานกระทรวงเกษตรฯปีนี้ไร้ปัญหา ผลผลิตมีน้อยต่ำกว่า 4 แสนตัน สาเหตุมีการผลิตลำไยนอกฤดูถึงครึ่งหนึ่ง ขณะที่แม่ค้าขายปลีกลำไยตามข้างทางทำรายได้ถึงกิโลกรัมละ 40 บาท

ฤดูกาลเก็บเกี่ยวลำไยประจำปี 2555 เริ่มขึ้นแล้วเกือบ 2 สัปดาห์ ซึ่งจากการตระเวนของทีมข่าวไปตรวจสอบล้งหรือผามรับซื้อลำไยตั้งแต่ อ.ดอยหล่อ จนถึง อ.จอมทอง ในสัปดาห์นี้พบว่า มีการขึ้นป้ายรับซื้อลำไยสดรูดร่วง เกรด AA ราคาสูงถึง กก.ละ 25 บาท เกรด A ราคา 18 บาท ส่วนผลเล็กกว่านั้นลดลงเป็น 7-8 บาท จนถึง 2 บาท เพื่อนำเข้าเป็นลำไยอบแห้ง ส่วนลำไยสดช่อเพื่อนำลงตะกร้า มีล้งรับซื้อริมถนนสายเชียงใหม่-ฮอด อ.จอมทอง หลายแห่ง โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านสบเตี๊ยะ ให้ราคาเกรด AA สูงถึง กก.ละ 32 บาท แต่มีสินค้าน้อยมากเพราะเกษตรกรไม่สามารถเก็บลำไยลงได้ในขณะที่ยังไม่แก่จัด และผลเล็ก ส่วนใหญ่เป็นลำไยเกรด A หรือ A ลบ ซึ่งได้ราคาประมาณ กก.ละ 23-25 บาท พ่อค้ารับซื้อให้ข้อมูลว่า ปีนี้ต้องรีบซื้อและให้ราคาดี เพราะมีพ่อค้าจากจีน เวียดนาม และฮ่องกงมาแย่งซื้อ เกรงจะไม่มีของเข้าเตาอบ

นายประเทือง คงรอด รองประธานเกษตรกรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ และแกนนำชาวสวนลำไยเชียงใหม่-ลำพูน เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ ได้รายงานสถานการณ์ลำไยให้นายชวลิต ชูขจร รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคเหนือทราบถึงสถานการณ์ขณะนี้ เกษตรกรชาวสวนลำไยมีความพึงพอใจราคาลำไยที่ได้รับ จึงไม่มีปัญหาให้รัฐเข้ามาแทรกแซงราคาหรือช่วยเหลือ จากเดิมที่ประเมินผลผลิตว่าจะมากกว่า 4 แสนตันทั่วภาคเหนือ แต่จนถึงบัดนี้เชื่อว่าผลผลิตจะน้อยกว่าที่คาด จึงไม่มีผลทำให้ราคาตกต่ำ สาเหตุเพราะตั้งแต่ปีที่แล้วมีการเพิ่มพื้นที่ผลิตลำไยนอกฤดูมากขึ้น รวมแล้วน่าจะมากถึง 50% ของพื้นที่ปลูกลำไยทั่วภาคเหนือ และราคาลำไยสดนอกฤดูก็สูงคงที่ในระดับ 42-45 บาท

นายประเทือง กล่าวอีกว่า ปัญหาที่พบคือไม่สามารถผลิตลำไยคุณภาพเกรด AA ได้ ทั้งลำไยนอกฤดู และขณะนี้ลำไยในฤดูที่เผชิญฝนแล้งมาก่อนหน้า รวมทั้งการให้น้ำไม่คงที่ ส่งผลให้ลำไยมีขนาดเล็กขนาด A ลบเป็นส่วนใหญ่ จึงได้ราคาราว 17-18บาท/กก. ทั้งที่ขึ้นป้ายรับซื้อ เกรด AA ไว้ 25 บาท และก่อนวันที่ 15 กรกฎาคม รับซื้อถึง 26 บาทก็ตาม แต่ของมีน้อยและบางส่วนเห็นราคาลำไยสูงต้นฤดูเก็บเกี่ยวก็รีบเก็บทั้งที่ลำไยยังไม่สุก จึงขอร้องให้ชาวสวนใจเย็น ปีนี้ผลผลิตมีน้อยราคาจะทรงตัวอยู่ระดับนี้ไปอีก จนถึง 20 วันข้างหน้าผลผลิตจะออกสู่ตลาดน้อยที่สุด และหากตลาดยังมีการแข่งขันกันรับซื้อเช่นนี้ก็อาจจะมีราคาสูงกว่านี้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับแผงขายลำไยสดตามข้างทาง อาทิ แผงเจ๊เชง สายเชียงใหม่-ลำพูน (หนองหอย) ขายลำไยพวงลูกใหญ่ กก.ละ 40 บาท เกรดอื่นๆ ลดหลั่นกันลงมา เช่นเดียวกับริมทางสายเชียงใหม่-ลำปาง ที่ดอยติ ขาย 3 กิโลกรัม 100 บาท หรือตก กก.ละ 35-40 บาท สูงกว่าปีก่อนที่ขาย 4-5 กก. 100 บาท

ข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; ผกก.สภ.แม่ทา ตัวอย่างตำรวจน้ำดี


เผยตำรวจแม่ทาเป็นปลื้มผลงานร่วมกันพัฒนาโรงพักจากสภาพ ขมขื่น กลายเป็น ความหวัง หลังจากได้ ผกก. นักพัฒนา พ.ต.อ.วันชัย เจริญผล มาอยู่เพียง 3 เดือน พลิกฟื้นโรงพัก บ้านพักตำรวจ สถานที่รอบ ๆ สวยงาม จากทุนทรัพย์บริจาคล้วน ๆ แม้แต่ รองผู้ว่าฯ ก็นำมอบให้กว่าแสน นายอำเภอแม่ทา และ นายก อบต.ชื่นชมเป็นตำรวจที่หาได้ยาก มีการตั้งตำรวจอาสาอีก 400 คน ทั้งๆที่จะเกษียณอายุกันยายนนี้ ผบก.ภาค 5 เลยจัดเลี้ยงฉลองผลงานชื่นมื่น

ที่ลานอเนกประสงค์ด้านหลัง สภ.แม่ทา จ.ลำพูน นายมนัส ขันใส นายอำเภอแม่ทา ร่วมกับ พล.ต.ต.ชูชัย ขุนคลังมีวน ผู้บังคับการประจำตำรวจภูธร ภาค 5 ร่วมงานฉลองผลงานการพัฒนาสถานีตำรวจของ พ.ต.อ.วันชัย เจริญผล ผกก.ร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ รวมถึงแม่บ้านตำรวจ ที่ผนึกกำลังกันพัฒนาครั้งนี้จนทำให้สถานีตำรวจ บ้านพักตำรวจ ถนนหนทางมีสภาพใหม่ และน่ามองยิ่งขึ้น โดยมีนายสวาท เพียรพนัสสัก นายก อบต.ทาปลาดุก นายมนตรี ตรีตราพันธ์ ประธานชมรมสามล้อเครื่องเชียงใหม่ และคณะไปร่วมแสดงความยินดีด้วย โดยคณะตำรวจแม่ทา ได้ฉายภาพวีดิทัศน์ให้ผู้ร่วมงานได้ชมสภาพโรงพักก่อน พ.ต.อ.วันชัย เจริญผล ไปรับตำแหน่งเมื่อ 10 เมษายน 2555 และหลังจากนั้นอีก 3 เดือน มีการปรับปรุงโรงพัก ทั้งทำสีใหม่ ทำพื้นห้อง ห้องประชุมและอุปกรณ์ต่างๆ ใหม่หมด ถนนรอบสถานี ลานอเนกประสงค์ ถนนทางเข้าบ้านพักตำรวจเทคอนกรีต บ้านพักตำรวจปรับปรุงใหม่ และทาสีใหม่สดใสกว่าเดิม

พ.ต.อ.วันชัย เจริญผล ผกก.แม่ทา กล่าวว่า การพัฒนาโรงพัก-บริเวณรอบ ๆ และบ้านพักข้าราชการตำรวจครั้งนี้ สำเร็จลงได้ เพราะความร่วมมือจากเพื่อนข้าราชการตำรวจทั้งสัญญาบัตร และประทวนอย่างเต็มกำลัง ทุกคนได้มีส่วนช่วยมากบ้างน้อยบ้าง รวมแม้กระทั่งแม่บ้านตำรวจก็มาช่วยกัน จึงทำให้เกิดความภูมิใจ ที่งานสำเร็จลงได้ โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการเลย ทั้งนี้ ตนได้รับแรงใจสนับสนุนจากคนเคารพนับถือร่วมสมทบเงินมารวมกว่า 4 แสนบาทใช้ดำเนินการทั้งหมด โดยเฉพาะจากนายวัชระ ทิพย์พิลา รอง ผวจ.ลพบุรี เพื่อนเรียนนิด้าด้วยกัน 1.2 แสนบาทนำเงินสด ๆ มามอบถึงโรงพัก การที่นำพัฒนาครั้งนี้ส่งผลให้เกิดกำลังใจ ความรักความผูกพันของเพื่อนตำรวจเป็นอย่างมาก แม้ตนจะเกษียณอายุในวันที่ 30 กันยายน 2555 นี้ก็ตาม มีคนถามว่าทำๆไม ก็บอกว่าทำแล้วมีความสุข เพื่อนตำรวจก็มีความสุข จากวีดิทัศน์บอกจาก ขมขื่น มาเป็น ความหวัง ทำให้ทุกคนรักโรงพัก รักบ้านพักมากขึ้น

ด้านนายมนัส ขันใส นายอำเภอแม่ทา กล่าวว่า ตนเพิ่งถูกย้ายมาแม่ทาได้ 7 เดือนก่อนหน้า พ.ต.อ.วันชัยเล็กน้อย เมื่อมาเห็นการทำงานของ ผกก.นักพัฒนาแล้วดีใจ และก็เสียดายมาก หากมีอายุราชการมากกว่านี้ จะทำให้สถานีตำรวจเจริญขึ้น และงานบริการประชาชนก็จะเข้าถึงมากขึ้น โดยเฉพาะที่น่าชื่นชมที่ พ.ต.อ.วันชัยได้จัดตั้งตำรวจอาสา (ตำรวจบ้าน) ใน 2 ตำบล คือทาปลาดุก และทาสบเส้ารวม 400 คน มีตั้งกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ และเตรียมจะทอดผ้าป่าเพื่อหาชุดตำรวจบ้านให้ด้วย นับเป็นการช่วยเหลือฝ่ายปกครองเป็นอย่างดี เพราะตำรวจบ้านก็มาจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมกันเป็นหูเป็นตาป้องกันอาชญากรรม และยาเสพติด ซึ่งตนย้ำเสมอว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ทางอำเภอและตำรวจกว่าจะทราบ คนร้ายหนีไปแล้ว แต่ตำรวจบ้านอยู่ในพื้นที่สามารถช่วยพวกเราได้  ขณะที่นายสวาท เพียรพนัสสัก นายก อบต.กล่าวว่า ตั้งแต่มี ผกก.มาก็มี พ.ต.อ.วันชัย เจริญผล ที่เป็นตำรวจนักพัฒนาเข้าหามวลชน ทำให้ประชาชนรัก เมื่อมีคดีเกิดขึ้นก็สามารถจะเข้าแก้ไขได้ทัน

พล.ต.ต.ชูชัย ขุนคลังมีวน ผู้บังคับการประจำ ภาค 5 กล่าวชื่นชมผลงาน ผกก.แม่ทา ว่าเห็นผลงานมาตั้งแต่เป็นรอง ผกก.แม่ทะ ลำปาง เพราะตั้งตำรวจอาสาขึ้นทั้งอำเภอ มาช่วยงานตำรวจจนกระทั่งลดปัญหายาเสพติด และอาชญากรรมได้ เมื่อขึ้นไปเป็น ผกก.สภ.หนองม่วงไข่ แพร่ จนกระทั่งผู้บังคับบัญชาเห็นผลงาน จึงได้เป็น ผกก.เมืองแพร่ ทั้งประชาชน และพระสงฆ์เถระผู้ใหญ่ให้ความรักความเมตตา เมื่อย้ายมาแม่ทา เจ้าคณะจังหวัดก็มาส่ง จะเห็นว่าตำรวจนักพัฒนาอยู่นิ่งไม่เป็นมาแม่ทาแค่ 3 เดือนก็เปลี่ยนแปลงโรงพักไปได้ขนาดนี้ โดยเฉพาะทำให้เกิดความรักความร่วมมือจากผู้ใต้บังคับบัญชา จึงถือเป็นนายตำรวจนักพัฒนาที่หาได้ยาก ทั้งๆ ที่อีกสองเดือนกว่าจะปลดภาระแล้วก็ยังทุ่มเทแรงกายใจอย่างเต็มที่เช่นนี้ โดยไม่ได้อะไร ความดีความชอบหรือสองขั้นก็ไม่ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผู้ใหญ่ได้กล่าวแสดงความยินดีแล้ว ผกก.แม่ทาได้จับสลากรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้า และของรางวัลจำนวนมากให้แก่ข้าราชการตำรวจทุกนายพร้อมประกวดร้องเพลงอย่างสนุกสนานชื่นมื่นเป็นครั้งแรกของ สภ.แม่ทาด้วย.

ภาพ/ข่าว โดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์

ข่าว ; กอล์ฟเยาวชนสะสมคะแนนภาคเหนือตอนบน ประจำปี 2555 ถึง 2556


สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำภาคเหนือตอนบน กำหนดจัดการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนสะสมคะแนนประจำปี 2555 ถึง 2556 เริ่มปลายเดือนกรกฎาคมนี้

การแข่งขันกอล์ฟเยาวชนสะสมคะแนนประจำปี 2555 ถึง 2556 รายการ TGA-CAT Junior Golf Ranking 2012-2013 ซึ่งสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำภาคเหนือตอนบน กำหนดจัดขึ้น โดยนักกอล์ฟที่มีคะแนนสะสมในรายการนี้ มีโอกาสได้เป็นตัวแทนภาคเหนือตอนบนเข้าคัดเลือกระดับประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับโลกหลายรายการ เช่น รายการสิงห์ ไทยแลนด์ จูเนียร์ เวิร์ลด์ กอล์ฟ รายการเอเชีย แปซิฟิก และรายการจูเนียร์ เวิร์ลด์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

กำหนดการแข่งขันของภาคเหนือตอนบนจำนวน 6 สนามประกอบด้วย สนามที่ 1 วันที่ 28-29 กรกฎาคม 2555 ที่สนามกอล์ฟสันติบุรี จังหวัดเชียงราย สนามที่ 2 วันที่ 25-26 สิงหาคม 2555  สนามซัมมิท กรีนวัลเลย์ เชียงใหม่ สนามที่ 3 วันที่ 22-23 กันยายน 2555  สนามเดอะ รอยัล เชียงใหม่กอล์ฟคลับ สนามที่ 4 วันที่ 20-21 ตุลาคม 2555  สนามกอล์ฟกัซซัน เลคซิตี้ จ.ลำพูน สนามที่ 5 วันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2555 สนามกอล์ฟการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แม่เมาะ จ.ลำปาง และสนามที่ 6 วันที่ 9-10 มีนาคม 2556 สนามกอล์ฟสันติบุรี จ.เชียงราย

ผู้เข้าร่วมกาแข่งขันต้องเป็นนักกอล์ฟที่เป็นสมาชิกสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมีคุณสมบัติครบถ้วนโดยไม่มีแต้มต่อ แต่จะแบ่งเยาวชนออกเป็นประเภทชายและหญิงอย่างละ 6 กลุ่มตามอายุคือ คลาส A อายุ 15-17 ปี คลาส B อายุ 13-14 ปี คลาส C อายุ 11-12 ปี คลาส D อายุ 9-10 ปี คลาส E อายุ 7-8 ปี และคลาส F อายุ 5-6 ปี เป็นการแข่งขันแบบสโตรคเพลย์ (Stroke Play) นับคะแนนที่ตีได้จริง (Gross Score) จำนวน 2 วัน 36 หลุม

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมแข่งขันได้ที่ ผู้อำนวยการแข่งขัน อาจารย์สุรพล วงษ์สถิตย์ ชั้น 2 สนามฝึกซ้อมกอล์ฟสตาร์โดม กองบิน 41 หรือที่โทรศัพท์ 081-9804603 หรือ อาจารย์พัชรินทร์ วงษ์สถิตย์ โทรศัพท์ 089-7553564

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; บุณย์ มหาฤทธิ์ นักเขียนเมืองเหนือรับโล่เขียนบทบรรณาธิการดีเด่น

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2555 ที่สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถ.สามเสน กทม. มีการจัดงานครบรอบ 15 ปีสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ โดยนายจักร์กฤษ เพิ่มพูน ประธานสภาฯ ได้เปิดสนทนากลุ่มเชิญอดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์ทุกคนรวมทั้งประธานปัจจุบันร่วมสนทนาเรื่อง 15 ปี สภาการหนังสือพิมพ์ฯ จากอดีต ผ่านปัจจุบัน สู่อนาคต ท่ามกลางความสนใจของสมาชิกจากสื่อทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค รวมทั้งอาจารย์จากคณะวารสารศาสตร์ และนิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วมจำนวนมาก เสร็จแล้ว ได้มีพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ บทบรรณาธิการดีเด่น ประจำปี 2554”
เริ่มจาก หนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ รางวัลบทบรรณาธิการ(บทนำ) ดีเด่น ได้แก่ เรื่อง "เปลี่ยนปัญหาสู่ทางออก" หนังสือพิมพ์บ้านกล้วย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รางวัลชมเชยอันดับหนึ่ง "ปัญหาเด็กกลับไม่เล็กอย่างที่คิด" หนังสือพิมพ์หอข่าว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รางวัลชมเชยอันดับสอง "ต้นกล้าประชาธิปไตยในตัวเรา" หนังสือพิมพ์รังสิต มหาวิทยาลัยรังสิต

ประเภทหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาค รางวัลบทบรรณาธิการดีเด่น ได้แก่ "คุณภาพอากาศภาคเหนือกลับมาวิกฤตอีกครั้งแล้ว" หนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลชมเชยอันดับหนึ่ง "พระอัจฉริยะภาพในหลวงหนังสือพิมพ์เพชรภูมิ จังหวัดเพชรบุรี รางวัลชมเชยอันดับสอง "เสรีภาพและความรับผิดชอบสื่อมวลชน" จากหนังสือพิมพ์ประชาคม จังหวัดอุดรธานี

และประเภทหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง รางวัลบทบรรณาธิการดีเด่น ได้แก่ "อย่าสำลักประชานิยม จนลืมความจริง" หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ รางวัลชมเชยอันดับหนึ่ง "พลิกวิกฤตน้ำเป็นโอกาส" หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และรางวัลชมเชยอันดับสอง "คอรัปชั่นทำให้บ้านเมืองรุ่งเรืองได้จริงหรือ" จากหนังสือพิมพ์สยามรัฐ

สำหรับบทบรรณาธิการดีเด่นส่วนภูมิภาค หนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ เขียนโดยนายบุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์ หรือนามปากกา บุณย์ มหาฤทธิ์ เริ่มเป็นนักข่าวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 เขียนบทบรรณาธิการไทยนิวส์ ปี 2521-2522 ใช้ชื่อ ดอกบัวขาว พร้อมคอลัมน์ประจำ แล้วไปออกหนังสือพิมพ์เองบ้าง สังกัดฉบับอื่นบ้าง ปลายปี 2527 กลับมาประจำไทยนิวส์ และรับหน้าที่เขียนบทบรรณาธิการโดยไม่ได้ระบุชื่อผู้เขียน พร้อมคอลัมน์เคาะสนิมทุกวันมาจนถึงปัจจุบัน รวมผลงานหลายหมื่นเรื่อง

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาความรุนแรงใน 5 จังหวัดชายแดนใต้


ผู้นำศาสนาได้ให้เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ในเวทีเสวนา ผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุขโดยให้โอกาสเจ้าของพื้นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ต้องศึกษาถึงวิถีชีวิตของชุมนุมในชายแดนใต้เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยความเข้าใจและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

นายชูโชค ทองตาล่วง ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ในเวทีเสวนา ผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุข ซึ่งสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2555 ณ โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมเสวนาเป็นผู้นำศาสนาต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 40 คน ส่วนผู้นำศาสนาที่ร่วมเสวนาและแสดงความคิดเห็นบนเวที  2 ท่าน ประกอบด้วย พระมหาสง่า ธีรสํวโร เจ้าอาวาสวัดผาลาด อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ว่า ให้นำแนวพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการพัฒนาภาคใต้ ให้โอกาสให้พวกเขาเป็นเจ้าของพื้นที่โดยการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเองในสิ่งที่ประชาชนในชุมนุมขาดแคลนและต้องการได้รับการพัฒนาในสิ่งที่ขาดจนสามารถสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงในพื้นที่ได้ ชี้แนะให้คนในพื้นที่น้อมนำศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิตไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม เพราะทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี และควรที่จะเลิกทะเลาะกันได้แล้ว เพราะในอีก 3 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งต้องแข่งขันกับประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ นอกประชาคมอาเซียน ดังนั้นคนไทยจึงต้องมีความรัก ความสามัคคี และผนึกกำลังของคนในชาติให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศไทย

ด้าน น.ท. สมคิด  ลัทธิศักดิ์ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ร่วมแสดงความคิดเห็นบนเวทีเสวนาด้วย ได้เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ต้องทำความเข้าใจถึงวิถีการดำเนินชีวิตของคนในพื้นที่ ทั้งขนบธรรมเนียม ประเพณี สังคม ศาสนา และปฏิบัติตัวให้สามารถอยู่ร่วมกับคนในพื้นที่ได้อย่างสันติสุข  เปลี่ยนวิธีปฏิบัติจากการใช้กำลังหรือความรุนแรง มาเป็นการให้ความรู้ การเข้าไปพัฒนาให้พื้นที่มีความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมกับพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ โดยการส่งเสริมทั้งด้านการศึกษาและอาชีพสำหรับนำไปเป็นความรู้ในการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว  สกัดกั้นมิให้ยาเสพติดสามารถเข้าไปมอมเมาเยาวชนในพื้นที่ได้ เพราะหากเยาวชนเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดจากผู้ประสงค์ร้ายแล้วก็จะตกเป็นเครื่องมือของบุคคลดังกล่าวที่คอยยุยงให้เยาวชนเหล่านี้กระทำความผิดและก่อความรุนแรงขึ้นได้

ในส่วนของผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้กล่าวเสริมว่า ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ เกิดจากนายทุนหลายกลุ่ม ประกอบด้วย นายทุนยาเสพติดที่เข้าไปมอมเมาเยาวชนในพื้นที่ให้ตกเป็นเครื่องมือก่อความรุนแรง นายทุนภาครัฐที่ทุ่มงบประมาณเข้าไปพัฒนาในจำนวนมหาศาล แต่ไม่มีการประเมินผลลัพธ์ที่ได้ว่าคุ้มค่ากับงบประมาณที่นำไปพัฒนาหรือไม่และสิ่งที่นำไปพัฒนานั้นเป็นความต้องการของคนในพื้นที่หรือไม่ นอกจากนั้นยังมีนายทุนที่เข้าไปเพื่อหวังทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงนายทุนของการยั่วยวนในสิ่งอบายมุข  ต่าง ๆ ให้แก่คนในพื้นที่ ซึ่งหากรัฐบาลสามารถขจัดนายทุนเหล่านี้ได้ ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนได้ก็จะลดน้อยลง หรือหมดไปในที่สุด

ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเสวนาผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุขในครั้งนี้ เป็นการสื่อสารให้สังคมได้รับรู้และเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนชาวไทยในการเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกัน โดยผู้นำศาสนาถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุของความรุนแรงและชี้แนะแนวทางในการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายและการปฏิบัติอย่างแท้จริง ซึ่งรัฐต้องมีความจริงใจ รับฟังเสียงของประชาชน และนำมาดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยจะสรุปความคิดเห็นที่ได้จากการเสวนานำเสนอรัฐบาลต่อไป

ข่าว ; รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จี้หน่วยงานรัฐจัดระเบียบสังคม


รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จี้หน่วยงานรัฐใช้อำนาจหน้าที่จัดระเบียบสังคมเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พร้อมทั้งมอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 5 กวดขันกลุ่มแก๊งที่มั่วสุมและก่อความวุ่นวาย สร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ในสายตาของนักท่องเที่ยว

นายชูชาติ  กีฬาแปง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 6/2555 เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (29 มิ.ย.55) ณ ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการจัดระเบียบสังคมทั้งฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ใช้อำนาจหน้าที่ในการดำเนินการจัดระเบียบสังคมให้เกิดความสงบเรียบร้อย ด้วยความเข้มแข็ง ทั้งปัญหาการปิดสถานประกอบการบันเทิงเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง หรือการจำหน่ายสุราในบริเวณห้ามจำหน่ายและจำหน่ายสุราแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เนื่องจากปัจจุบันได้มีพระสงฆ์และองค์กรด้านวัฒนธรรมออกมาเรียกร้องให้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดมากขึ้น ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการใช้อำนาจหน้าที่ในการดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างจริงจังแล้ว ปัญหาดังกล่าวก็จะลดน้อยลงและหมดไปในที่สุด นอกจากนั้นยังได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่และฝ่ายปกครอง กวดขันปราบปรามกลุ่มแก๊งที่มั่วสุมและก่อความวุ่นวาย สร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน และสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ในสายตาของนักท่องเที่ยวโดยขอให้ดูแลนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่นำรายได้เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก  นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ด้วย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า  หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้ความสำคัญในการจัดระเบียบสังคมเป็นอย่างมาก โดยได้ออกตรวจตราสถานประกอบการบันเทิงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงกลางคืนอย่างต่อเนื่อง และได้กำชับให้สถานประกอบการที่กระทำผิดกฎหมายให้เห็นแก่ความเป็นระเบียบ ความสงบเรียบร้อยและความสวยงามของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นแบบอย่างที่ดีงามและนำไปกล่าวขานต่อเพื่อนฝูงหรือมิตรประเทศในความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการเคารพกฎระเบียบของคนไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและส่งผลต่อการอยากมาสัมผัสเมืองเชียงใหม่ด้วยตนเองของกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่ได้รับฟังการกล่าวขานในทางชื่นชมและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็นและนำไปบอกต่อ


รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จี้หน่วยงานรัฐใช้อำนาจหน้าที่จัดระเบียบสังคมเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พร้อมทั้งมอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 5 กวดขันกลุ่มแก๊งที่มั่วสุมและก่อความวุ่นวาย สร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ในสายตาของนักท่องเที่ยว

นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 6/2555 เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (29 มิ.ย.55) ณ ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการจัดระเบียบสังคมทั้งฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ใช้อำนาจหน้าที่ในการดำเนินการจัดระเบียบสังคมให้เกิดความสงบเรียบร้อย ด้วยความเข้มแข็ง ทั้งปัญหาการปิดสถานประกอบการบันเทิงเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง หรือการจำหน่ายสุราในบริเวณห้ามจำหน่ายและจำหน่ายสุราแก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เนื่องจากปัจจุบันได้มีพระสงฆ์และองค์กรด้านวัฒนธรรมออกมาเรียกร้องให้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดมากขึ้น ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการใช้อำนาจหน้าที่ในการดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างจริงจังแล้ว ปัญหาดังกล่าวก็จะลดน้อยลงและหมดไปในที่สุด นอกจากนั้นยังได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่และฝ่ายปกครอง กวดขันปราบปรามกลุ่มแก๊งที่มั่วสุมและก่อความวุ่นวาย สร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน และสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ในสายตาของนักท่องเที่ยวโดยขอให้ดูแลนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่นำรายได้เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก  นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ด้วย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้ความสำคัญในการจัดระเบียบสังคมเป็นอย่างมาก โดยได้ออกตรวจตราสถานประกอบการบันเทิงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงกลางคืนอย่างต่อเนื่อง และได้กำชับให้สถานประกอบการที่กระทำผิดกฎหมายให้เห็นแก่ความเป็นระเบียบ ความสงบเรียบร้อยและความสวยงามของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นแบบอย่างที่ดีงามและนำไปกล่าวขานต่อเพื่อนฝูงหรือมิตรประเทศในความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการเคารพกฎระเบียบของคนไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและส่งผลต่อการอยากมาสัมผัสเมืองเชียงใหม่ด้วยตนเองของกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่ได้รับฟังการกล่าวขานในทางชื่นชมและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็นและนำไปบอกต่อ

ข่าว ; ปิดงานมหกรรมเชียงใหม่ กอล์ฟ เฟสติวัล 2012


มหกรรมเชียงใหม่ กอล์ฟ เฟสติวัล 2012 ปิดฉากลงแล้วท่ามกลางความประทับใจ ขณะที่รองผู้ว่า ททท.ยันประสบความสำเร็จ และจะได้ขยายผลไปร่วมกับทุกภูมิภาคเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงกรีนซีซั่น

นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นประธานปิดการแข่งขัน เชียงใหม่ กอล์ฟเฟสติวัล 2012 ณ อัลไพน์ กอล์ฟรีสอร์ท เชียงใหม่ หลังจากดำเนินโครงการมาเป็นเวลา 2 เดือน ภายใต้อัตราค่าใช้บริการสนามกอล์ฟ 800 บาท ทุกคน ทุกวัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยวหรือกรีนซีซั่น โดยใช้กีฬากอล์ฟซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยรองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวว่า การจัดกิจกรรม 3 ปีที่ผ่านมานับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบสำหรับภูมิภาคอื่นและกำลังได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ มหกรรมเชียงใหม่ กอล์ฟ เฟสติวัล จะยังคงดำเนินต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป ซึ่งอาจจะเพิ่มความเชื่อมโยงกับจังหวัดใกล้เคียงและภูมิภาคอื่น ทั้งด้านการตลาดและการแข่งขัน

สำหรับผลการแข่งขันเชียงใหม่ กอล์ฟ เฟสติวัล แชมเปี้ยนชิพ สนามสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2555 ณ อัลไพน์ กอล์ฟ รีสอร์ทเชียงใหม่ ชนะเลิศโอเวอร์ออลโลกรอส ได้แก่ วรวิทย์ สุขนภาสวัสดิ์ 38-35-73 (4)69 ไฟลท์ เอ ชนะเลิศ สุพจน์ จุมพล 40-38-78 (9) 69 รองชนะเลิศอันดับ 1 You Chan Son 38-42-80 (10X) 70 รองชนะเลิศอันดับ 2 สุดสยาม จันทราทิตย์ 41-39-80 (10) 70 ไฟลท์ บี ชนะเลิศ โชคชัย 39-43-82 (13X 69 รองชนะเลิศอันดับ 1 ชาตรี หาญไพโรจน์ 42-43-85 (16) 69 รองชนะเลิศอันดับ 2 กมล สุระยศ 41-43-84 (13) 71 ไฟลท์ ซี ชนะเลิศ ศิริพงษ์ วัฒนไพบูลย์  50-47-97 (25) 72 รองชนะเลิศอันดับ 1 สุรพล รอยอินทรัตน์ 48-52-100 (28) 72 รองชนะเลิศอันดับ 2 อัครพงศ์ ระบิน 49-51-100 (26) 74 และไฟลท์ เลดี้  ชนะเลิศ พิมชนก กาวิล 36-39-75 (6) 69 รองชนะเลิศอันดับ 1 ไพลิน รอยอินทรัตน์ 48-40-88 (17) 71 รองชนะเลิศอันดับ 2 ณัฐนรี เขื่อนแก้ว 39-42-81 (9) 72