All online

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต มช. ครั้งที่ 46

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 46 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยถึงรายละเอียดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 46 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งที่ 46 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำความปลื้มปิติแก่ชาวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อย่างหาที่สุดมิได้

พิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งที่ 46 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีมติเป็นเอกฉันท์ ขอประทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาพยาบาลศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เพื่อเฉลิมพระเกียรติคุณให้ปรากฏและเป็นสิริมงคลอันสูงสุดแก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ ได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ รวม 8 ท่าน ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (เทคโนโลยีสารสนเทศ) ศาสตราจารย์ นายแพทย์ คริสโตเฟอร์ ซี. ไบเรอร์ (Professor Christopher C. Beyrer) ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (วิทยาศาสตร์สุขภาพ) ศาสตราจารย์ ดร.ฟิลิป ฮานส์ บี. เอฟ. ฟรานซิส (Professor Dr.Philip Hans B.F. Franses) ปริญญาเศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วันเพ็ญ สุรฤกษ์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ภูมิศาสตร์) ศาสตราจารย์ ดร.คาร์ล สตาร์ (Professor Dr.Karl Stahr) ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (เกษตรศาสตร์) ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุภาพ สุจินดา ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (บรรณารักษศาสตร์) ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอุษา ทิสยากร ปริญญาปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (แพทยศาสตร์) นางธนี พหลโยธิน ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (การพัฒนาสังคม) และได้รับพระราชทานเกียรติบัตรศาสตราจารย์เกียรติคุณ จำนวน 3 ท่าน ได้แก่ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ดุสิต ล้ำเลิศกุล เป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณในสาขาวิชาอายุรศาสตร์โรคไต ศาสตราจารย์ ดร.นิธิยา รัตนาปนนท์ เป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณในสาขาวิชาอุตสาหกรรมเกษตร และ ศาสตราจารย์ ดร.เบญจวรรณ ฤกษ์เกษม เป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณในสาขาวิชาพืชไร่ (ธาตุอาหารพืช) ซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการทุกท่านเป็นผู้ที่สร้างประโยชน์ทั้งในด้าน วิชาการ วิชาชีพแก่สังคมและประเทศชาติเป็นเอนกประการ

พิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งที่ 46 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แบ่งออกเป็นภาคเช้าและภาคบ่าย ซึ่งในปี นี้มีผู้สำเร็จการศึกษามีสิทธิ์เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จำนวนทั้งสิ้น 7,003 คน จาก 21 คณะ 1 บัณฑิตวิทยาลัย แบ่งออกเป็นระดับบัณฑิตศึกษา 1,841 คน ประกอบด้วย ปริญญาเอก 111 คน ปริญญาโท 1,730 คน ระดับปริญญาตรี 5,162 คน แบ่งออกเป็น คณะมนุษยศาสตร์ 557 คน คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ 226 คน คณะวิจิตรศิลป์ 96 คน คณะวิทยาศาสตร์ 761 คน คณะวิศวกรรมศาสตร์ 793 คน วิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยี 286 คน คณะศึกษาศาสตร์ 483 คน คณะเศรษฐศาสตร์ 519 คน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 67 คน คณะสังคมศาสตร์ 252 คน คณะสัตวแพทยศาสตร์ 58 คน คณะอุตสาหกรรมเกษตร 295 คน คณะการสื่อสารมวลชน 142 คน คณะเกษตรศาสตร์ 400 คน คณะทันตแพทยศาสตร์ 97 คน คณะเทคนิคการแพทย์ 256 คน คณะนิติศาสตร์ 137 คน คณะบริหารธุรกิจ 637 คน คณะพยาบาลศาสตร์ 341 คน คณะแพทยศาสตร์ 218 คน คณะเภสัชศาสตร์ 201 คน บัณฑิตวิทยาลัย 181 คน ในจำนวนนี้มีบัณฑิตที่ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 จำนวน 445 คน เกียรตินิยมอันดับ 2 จำนวน 573 คน บัณฑิตที่ได้รับเหรียญรางวัลเรียนดีตลอดหลักสูตร เหรียญทอง จำนวน 106 คน เหรียญเงิน จำนวน 339 คน เกียรติบัตรยอดเยี่ยมบัณฑิตศึกษาระดับปริญญาเอก จำนวน 7 คน ระดับปริญญาโท จำนวน 2 คน

สำหรับจำนวนผู้ สำเร็จการศึกษา ตั้งแต่เริ่มดำเนินการจัดการศึกษา เมื่อปี พ.ศ.2507 ถึงปัจจุบัน มีผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้งสิ้น 136,883 คน แบ่งออกเป็น ปริญญาเอก 691 คน ปริญญาโท 24,169 คน ปริญญาตรี 103,286 คน ปริญญาตรี (สมทบ) 2,111 คน ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง 301 คน ประกาศนียบัตรบัณฑิต 2,690 คน และประกาศนียบัตรต่างๆ 3,635 คน



ทางด้านสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้พิจารณาคัดเลือกนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดีเด่น ประจำปี 2554 จำนวน 13 ท่าน คือ พญ.กรรณิการ์ ตันประเสริฐ นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริหารองค์กรการศึกษา นพ.สุวิช อุปถัมภ์ นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาส่งเสริมความสัมพันธ์นักศึกษาเก่า นายพิจารณ์ วิริยะพันธุ์ นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม นายสมควร ชูวรรธนะปกรณ์ นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริหารองค์กรเอกชน ศ.ดร.อนุรักษ์ ปัญญานุวัฒน์ นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขานักวิชาการ นางเพ็ญสุวรรณ นาคะปรีชา นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริการสังคม นพ.เรวัต วิศรุตเวช นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริหารราชการ นายสมชาย เสียงหลาย นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริหารราชการ นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริหารธุรกิจ นางนารีรัตน์ จันทรมังกร นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริหารธุรกิจ นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริหารราชการ นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริหารธุรกิจ น.ส.เพ็ญภัค รัตนคำฟู นักศึกษาเก่าดีเด่นสาขาบริหารองค์กรส่วนท้องถิ่น และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นักศึกษาเก่าผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตโดยทุกท่านนับเป็นนักศึกษาเก่าที่มีผลงานและการทำงานที่โดดเด่น ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต นำมาซึ่งชื่อเสียงและความภาคภูมิใจแก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นนักศึกษาเก่าดีเด่น จะเข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดีเด่น ประจำปี 2554 ในพิธีซ้อมใหญ่ การเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรฯ ครั้งที่ 46 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันพุธ ที่ 18 มกราคม 2555 เวลา 13.30 น. ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ข่าว ; เชียงใหม่เตรียมเสนอขอรับการสนับสนุนจาก ครม.วันที่ 15 มกราคมนี้

จังหวัดเชียงใหม่เตรียมเสนอแผนงาน/โครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรี  ในคราวประชุม ครม.สัญจร ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 15 มกราคม 2555 นี้

หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2555 เวลา 09.00 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ  จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดเตรียมแผนงาน/โครงการ เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนจาก ครม. ดังนี้

แผนงาน/โครงการเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาสำคัญของพื้นที่และประชาชนในจังหวัด และมีความจำเป็นเร่งด่วน โดยจะเสนอขอรับการสนับสนุนการดำเนินการจากงบกลางประจำปี 2555 รวม 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ งบประมาณ 200 ล้านบาท โครงการจัดระบบสาธารณูปโภคลงใต้ดินเพื่อพัฒนานครเชียงใหม่ งบประมาณ 180 ล้านบาท โครงการพัฒนาโครงข่ายในเขตผังเมืองรวมเชียงใหม่ งบประมาณ 742 ล้านบาท และ โครงการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการจังหวัดเชียงใหม่ งบประมาณ 1,908.154 ล้านบาท

แผนงาน/โครงการที่ไม่เคยได้รับการสนับสนุนงบประมาณและไม่อยู่ระหว่างการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในช่องทางอื่นในขณะนี้ ซึ่งเสนอโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ประกอบด้วย โครงการจัดตั้งศูนย์บริการสุขภาพและบริการสาธารณสุข งบประมาณ 2,000 ล้านบาท โครงการอุทยานเทคโนโลยีและความสร้างสรรค์ภาคเหนือ งบประมาณ 3,800 ล้านบาท โครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่เสนอโดยส่วนราชการเพื่อให้ความเห็นชอบได้รวบรวมเพื่อพิจารณาอีกจำนวน 37 โครงการ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกำหนดการลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมโครงการสำคัญของ นางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ว่า ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 เวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยี่ยมชมมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย จากนั้นเวลา 16.00 – 17.00 น. จะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่เตรียมนำเสนอโครงการ 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านโลจิสติกส์ ด้านท่องเที่ยว และด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม

วันที่ 15 มกราคม 2555 เวลา 09.00 – 12.00 น. จะร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จากนั้นจะเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด ส่วนเวลา 17.00 น. จะร่วมรับเสด็จสมเด็จพระเทพ-รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ฯ ราชพฤกษ์ 2554

สำหรับกำหนดการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่เชียงใหม่ ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 แบ่งเป็น 3 คณะดังนี้

คณะที่ 1 ประกอบด้วย นายธีระ  วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นายพรศักดิ์ เจริญ-ประเสริฐ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในเวลา 09.40 น. มีกำหนดเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัด อำเภอแม่แตง ซึ่งเสนอโครงการซ่อมแซมตลิ่งลำน้ำแม่งัด ณ ตำบลบ้านเป้า – ตำบลช่อแล เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและ  ภัยแล้งจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงบ่ายกำหนดเดินทางไปพบปะเกษตรกรและผู้นำท้องถิ่น ณ เทศบาลเมืองแกน และ ศึกษาดูงาน Smart Tunnel (แก้มลิงคลองแม่แฝก)  ณ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จากนั้นในเวลา 16.00 น. จะเข้าร่วมประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชน

คณะที่ 2 ประกอบด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายพิชัย นรินทะพันธุ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในเวลา 10.30 น. มีกำหนดเดินทางไปยังสำนักทางหลวงที่ 1 เชียงใหม่ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่เขตเทศบาลนครเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง จากนั้นจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่เส้นทางก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 11 ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่-สี่แยกรินคำ และในเวลา 16.00 น. เข้าร่วมประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชน

คณะที่ 3 ประกอบด้วย นายสุรวิทย์  คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ นายบุญทรง  เตริยาภิรมย์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางบุญรื่น ศรีธเรศ และ นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในเวลา 11.00 น. มีกำหนดเดินทางไปยังตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปโครงการจัดตั้งศูนย์บริการสุขภาพและบริการสาธารณสุข (Medical Hub)  จากนั้นในช่วงบ่ายจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่จะจัดตั้งศูนย์บริการ ฯ  ณ บริเวณลานจอดรถคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่วนเวลา 16.00 น. จะเดินทางไปร่วมประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมในการเป็นสถานที่จัดประชุม ครม.สัญจรที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 มกราคมนี้ และคาดหวังว่าโครงการต่าง ๆ ที่จังหวัดเชียงใหม่นำเสนอจะได้รับการพิจารณาจาก ครม.

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

ข่าว ; เชียงใหม่เตรียมมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 5,000 บาท อีก 6,167 ครัวเรือน

จังหวัดเชียงใหม่เตรียมมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ครัวเรือนละ 5,000 บาท อีก 6,167 ครัวเรือน ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ ในวันที่ 17 มกราคม นี้ ที่สวนสาธารณะรถไฟ และพุทธสถานเชียงใหม่

นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 ได้อนุมัติในหลักการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ครัวเรือนละ 5,000 บาท เพิ่มเติม ครั้งที่ 3 โดยใช้หลักเกณฑ์พิจารณาตามเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย ครัวเรือนละ 5,000 บาท ตามข้อมูลครัวเรือนผู้ประสบภัยเบื้องต้นในพื้นที่ 62 จังหวัด สำหรับอุทกภัยตั้งแต่วันที่ 6 – 23 กันยายน 2554 และอุทกภัยตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2554 จนถึงปัจจุบัน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับธนาคารออมสินและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเตรียมนำเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ครัวเรือนละ 5,000 บาท เป็นรอบที่ 6  อีกจำนวน 6,167 ครัวเรือน ในวันที่ 17 มกราคม 2555  เวลา 09.00 – 12.00 น. ณ สวนสาธารณะรถไฟ  และพุทธสถานเชียงใหม่ โดยมีราษฎร    ผู้ประสบอุทกภัยจาก 10 ตำบลในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่เข้ารับมอบเงิน ประกอบด้วย ตำบลช้างคลาน  วัดเกตุ หายยา หนองหอย ท่าศาลา ช้างม่อย ป่าแดด หนองป่าครั่ง ป่าตัน และ ฟ้าฮ่าม

รายงาน ; ฉลองตรุษจีนแบบ “เปิดประตูปัญญา” พร้อมไหว้เจ้าแม่กวนอิม...รับปีมังกรทอง


ปี 2555 เข้าสู่มะโรงศกหรือปีมังกร ตามความเชื่อของชาวถือว่ามังกรทอง เป็นเทพผู้กำหนดให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ต่อพืชพันธุ์ธัญญาหาร และเป็นสัตว์สิริมงคลที่ชาวจีนนับถือมานาน รูปสัญลักษณ์พระศรีอริยเมตไตรยหรือเจ้าแม่กวนอิม ก็ประทับบนมังกรตัวใหญ่  จึงมีการเชิดมังกรในวันตรุษจีน และพิธีการสำคัญทุกครั้ง เพื่อความสำเร็จสมบูรณ์ของงานนั้น ๆ 

ผ่านพ้นเทศกาลขึ้นปีใหม่สากลแล้ว และอีกสองสัปดาห์จะเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน จึงมีความเคลื่อนไหวเตรียมการเฉลิมฉลองตรุษจีนหลายรูปแบบ รวมทั้งการหยุดพักผ่อน และเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจังหวัดเชียงใหม่จะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลนี้อีกครั้ง เพราะผู้คนจะเดินทางมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่องเที่ยว และชมงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติฯ ณ อุยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่อย่างล้นหลาม สร้างสถิติจำนวนผู้เข้าชมให้ใกล้ล้านคนเข้าไปทุกขณะ 

อาจารย์เกียรติชัย ปฐมวัฒนะกุล ศิษย์เอกของพระพุทธพจนวราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนธรรมอยู่ สถานธรรมไท่หลิน ติดถนนวงแหวนรอบกลาง (ที่มีพระแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุด) บ้านสันป่าเลียง ต.หนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า ใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีนต้องชวนกันเฉลิมฉลองแบบเปิดประตูปัญญาแห่งตน จุดประทีปกลางใจให้สว่าง ทำให้เราสามารถค้นพบ พุทธะในตน และได้รู้ถึงหนทางแห่งการกลับคืนสู่เบื้องบน

ผู้น้อยขอเชิญชวนท่านเข้ารับวิถีธรรมหรือวิถีอนุตรธรรมเป็นเบื้องต้นก่อน เพราะวิถีธรรมอันสูงส่ง ซึ่งพระอริยะเจ้า กษัตริย์หรือปราชญ์แต่งครั้งโบราณ สืบทอดเป็นการเฉพาะ เสมือนเป็นความลับแห่งสวรรค์ ได้ประทานลงสู่ 3 โลกในบัดนี้...ตามกำหนดในธรรมกาล บัดนี้กาลเวลาโลกได้ล่วงมาถึงช่วงที่ 3 เป็นกัปสุดท้ายหรือที่เรียกว่า กลียุค อันเป็นเกณฑ์กำหนดล้างโลกแล้ว 

แต่ก่อนที่วันแห่งวาระสุดท้ายจะมาถึง องค์ในสภาวธรรม ธรรมะมารดา ผู้ซึ่งกำหนด ดวงธรรมญาณ อีกทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ซึ่งทรงไว้ด้วยเมตตาธรรม ทรงใช้ความพยายามที่จะให้โอกาส เทพ พรหม มนุษย์ และเหล่าวิญญาณในสามโลกได้มีโอกาสบำเพ็ญธรรม ศึกษารู้ธรรมญาณ ก่อเกิดพุทธะแห่งตน เพื่อกลับคืนสู่สภาวะสดใส สงบ สบายหรือที่เรียกว่า นิพพาน ให้ได้ถึงเร็วที่สุด 

อมตะพุทธจี้กง พร้อมด้วยพระโพธิสัตว์จันทรปัญญา ก็ทรงอุบัติสู่โลกมนุษย์ เพื่อสภาวธรรมดังกล่าว ซึ่งบัดนี้กาลวาระล่วงเข้าสู่กลียุค ที่คนบาปคนชั่วทั้งหลายจะต้องถูกชำระสะสาง ชดใช้หนี้เวรกรรมที่สร้างสะสมกันมา ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในยุคนี้ จึงมากมายและใหญ่หลวงนัก คนที่จะหยุดรอดพ้น คือ คนที่มีธรรมะจริง ๆ เท่านั้น อาจจะสายเกินไปสำหรับคนที่มัวผัดวันประกันพรุ่งหรือไม่พบวิถีธรรม ขอขงเร่งมากราบขอรับวิถีธรรม ก่อนจะสายเกินไป 

ขณะที่อาจารย์เชี่ย เตียนเฉือนซือ อาจารย์ใหญ่ถ่ายทอดเบิกธรรม เจ้าสำนักสถานธรรมไท่หลิน อธิบายถึงผลดีของการรับวิถีธรรมว่า พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม และผู้ที่ได้รับธรรมะ ก็ด้วยอาศัยบุญกุศลที่สั่งสมมาแต่อดีตชาติอย่างน้อย 3 ชาติ ดังนั้นผู้ที่รับธรรมะจึงได้รับสิ่งพิเศษกว่าบุคคลทั่วไป คือ ด้านจิตญาณเดิมของมนุษย์ทั้งหลาย ล้วนมาจากแดนฟ้าเบื้องบนมาสู่โลกมนุษย์ แต่เพราะความลุ่มหลงจึงไม่รู้หนทางกลับบ้านเดิม การรับวิถีธรรม คือการกราบขอพระวิสุทธิอาจารย์ อมตะพุทธจี้กง และพระโพธิสัตว์จันทรปัญญา เปิดประตูปัญญา ชี้ให้เราได้รู้ถึงจิตเดิมแท้ที่มีอยู่คู่กับกายสังขารว่าอยู่ ณ ที่ใด และชี้ให้เรารู้หนทางหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด พ้นจากภูมิวิถีหก  

การรับวิถีธรรมตามแบบมหายานไท่หลินคุณธรรมนี้ อาจารย์ผู้ชี้แนวทางกล่าวว่า สูงสุดคือการหลุดพ้น แต่ในภาวะที่ยังมีชีวิตอยู่ สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตให้ดีขึ้น ลดเคราะห์ร้ายภัยพิบัติ และลบล้างหนี้เวรกรรมได้ ยิ่งกว่านั้นในครอบครัวจะมีความอบอุ่น ปรองดองกัน มากกว่านั้นสังคมก็จะสงบสุข สามัคคีกัน และประเทศชาติจะมีความผาสุกร่มเย็นไปตลอด ตามคำสอนของปราชญ์โบราณของจีนถือว่า ท่านได้รับการถอนชื่อจากบัญชียมโลก ไปสถิตบนสวรรค์ ณ ด่านตรีเทพพิทักษ์มหาราช สามารถฉุดช่วยบรรพบุรุษ 7 ชั้น ลูกหลาน 9 ชั่วคน พ้นจากความทุกข์ทรมานในนรก สั่งสมบุญให้บรรพชน และลูกหลานภายภาคหน้า รวมทั้งได้รับนิรโทษกรรม 7 ใน 10 ส่วนจากธรรมะมารดา และได้รับไตรรัตนะอันวิเศษ นี่คือผลของการรับวิถีธรรม และปฏิบัติธรรมตามแนวทางพุทธจี้กง และพระโพธิสัตว์ (พระแม่กวนอิม) 

สถานธรรม คือบ้านของจิตวิญญาณ ขอให้หมั่นกลับมากราบไหว้สักการะ รับแสงพุทธรังษีรัศมีฉายส่องจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกพระองค์จะได้คุ้มครองท่าน การได้รับธรรมะวันนี้ ตัวท่านเปรียบได้ดังพระพุทธรูปที่ได้รับการเบิกพระเนตรแล้ว ด้วยความปรารถนาดีห่วงใยของนักธรรมอาวุโส ที่ปรารถนาให้ท่านเกิดความศักดิ์สิทธิ์ ได้วิริยะอุตสาหะ จัดประชุมธรรม เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติ บำเพ็ญธรรมให้แก่ท่าน จึงขอเชิญเข้าร่วมประชุมธรรมที่สถานธรรมไท่หลินได้ทุกวัน โดยเฉพาะก่อนจะถึงวันตรุษจีนนี้ อาจารย์เชี่ย เตียนฉวนซือ เชิญชวน  

สถานธรรมไท่หลิน ปฏิบัติบำเพ็ญธรรม และบำเพ็ญตนด้วยการกินเจมาต่อเนื่อง ตั้งอยู่เลขที่ 62 ถนนวงแหวนรอบกลาง หมู่ 4 บ้านสันป่าเลียง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000 โทร. 053-334722 มือถือ 081-7240088,085-0409602
                                                                                                                                                                บุณย์ มหาฤทธิ์ -เรื่อง/ภาพ