ข่าว ; สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดกิจกรรม ครอบครัวแพนด้า ท้าลมหนาว

สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดกิจกรรมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวด้วยการนำครอบครัวแพนด้า ออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง หรือ สวนหลังบ้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารัก สดใส ในแบบฉบับของแพนด้า กับการกลับมาอีกครั้งภายใต้กิจกรรม “ครอบครัวแพนด้า ท้าลมหนาว ที่สวนหลังบ้าน”

นายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ถือเป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยสวนสัตว์เชียงใหม่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของการท่องเที่ยวทางด้านสัตว์ป่าและภูมิทัศน์ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีสัตว์นานาชนิด ซึ่งหนึ่งในสัตว์ดาวเด่นนั้นคือ “ครอบครัวแพนด้า” โดยทุกปี เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว สวนสัตว์เชียงใหม่จะนำแพนด้าออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง หรือสวนหลังบ้าน เพื่อให้แพนด้าได้มีโอกาสสัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็นของธรรมชาติเสมือนถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม รวมถึงการได้ออกกำลังกาย และได้รับแสงแดดในยามเช้า ซึ่งจะทำให้แพนด้ามีสุขภาพดีสมบูรณ์แข็งแรง

สำหรับกิจกรรมการนำครอบครัวแพนด้า ออกสู่สวนหลังบ้านนั้น สวนสัตว์เชียงใหม่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความน่ารักของแพนด้า ที่ปีนี้พากันมาทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พ่อหมี ช่วง ช่วง แม่หมีหลินฮุ่ย และลูกสาวจอมซน หลินปิง เป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2554 เป็นต้นไป ซึ่งอาจมีการขยายเวลาการเข้าชมในช่วงเช้าหากสภาพอากาศมีอุณหภูมิที่เหมาะสม หรืออาจขยายเวลาจนกว่าจะหมดฤดูหนาวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมครอบครัวแพนด้า ที่สวนหลังบ้านได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 10.30 น. ณ ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 053-358-116, 053-221179 ต่อ 7 หรือติดต่อสอบถามที่โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย โทรศัพท์ 053-893170 และ 053-893172 ทุกวันในเวลาราชการ หรือที่เว็บไซต์ www.chiangmaizoo.com และ www pandainthailand.net

ข่าว ; สาธารณสุขเชียงใหม่รณรงค์วันเอดส์โลก สู่เป้าหมายที่เป็นศูนย์

นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคเอดส์ของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 พบผู้ป่วยโรคเอดส์จำนวน 23,355 คน เป็นเพศชาย 15,974 คน เพศหญิง 7,381 คน เสียชีวิตไปแล้ว 5,456 คน โดยอัตราส่วนเพศชายต่อเพศหญิงในปี 2552 และ 2553 มีแนวโน้มในเพศชายเพิ่มสูงขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุในช่วงวัยแรงงาน 25-39 ปี ส่วนมากประกอบอาชีพรับจ้าง รองลงมาคือ เกษตรกรรม และค้าขาย โดยร้อยละ 91.8 ติดเชื้อเอชไอวีจากเพศสัมพันธ์ อำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรกในปี 2553 ได้แก่ อำเภอแม่แตง แม่ริม สันทราย เชียงดาว และฝาง กลุ่มที่ต้องค้นหาและดำเนินการคือกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ซึ่งเน้นการป้องกันและค้นหารายใหม่

จากการที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก และโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ได้กำหนดกรอบแนวคิดการรณรงค์วันเอดส์โลกปีนี้และอีก 5 ปีข้างหน้าคือ “สู่เป้าหมายที่เป็นศูนย์” โดยกำหนดคำขวัญในการรณรงค์ว่า “Getting to Zero” ถอดความเป็นภาษาไทยว่า  “เอดส์ลดแล้ว...ลดอีก”  ซึ่งประเด็นการรณรงค์ “Getting to Zero” หรือ “สู่เป้าหมายที่เป็นศูนย์” หมายถึง

1.ไม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต้องลดลง 2 ใน 3 จากประมาณการ และอัตราทารกแรกเกิดติดเชื้อต้องน้อยกว่าร้อยละ 2

2. ไม่มีการตายเนื่องจากเอดส์ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจากเอดส์ต้องลดลงมากกว่าร้อยละ 50 และผู้ติดเชื้อทุกคนต้องได้รับความคุ้มครอง ตลอดจนเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม

3. ไม่มีการตีตราและเลือกปฏิบัติ โดยจำนวนการถูกเลือกปฏิบัติหรือการละเมิดสิทธิต้องลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ตลอดจนกฎหมายและนโยบายที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการ การรักษา และบริการรัฐสาธารณะอื่นๆ ต้องได้รับการแก้ไข

สำหรับเป้าหมายการรณรงค์ “เอดส์ลดแล้ว...ลดอีก”  กำหนดไว้ 3 ลด คือ

1) ลดการติดเชื้อเอชไอวี จนถึงการไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ด้วยการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการป้องกันการรับหรือการถ่ายทอดเชื้อ

2) ลดอุปสรรคที่ผู้ติดเชื้อเข้าถึงบริการสุขภาพ ซึ่งต้องไม่พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ด้วยการเข้าใจการประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเอง

3) ลดอคติให้ถึงจุดที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติทั้งต่อกลุ่มผู้ติดเชื้อและกลุ่มที่มีภาวะเปราะบาง ด้วยการรณรงค์ให้สังคมเลิกตัดสินคุณค่าผู้อื่น เคารพสิทธิมนุษยชน ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น

ส่วนการดำเนินงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ในวันเอดส์โลกปี 2554 ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย อาทิ

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 ร่วมกับองค์การพีเอช-เจเปน และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดโครงการ MJU Youth Corner ณ อาคารอำนวย ยศสุข มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งแต่เวลา ซึ่งภายในงานจะมีการแสดงฉ่อยต้านภัยเอดส์ การแสดงดนตรีสด และการแสดงหนังสั้น เพื่อรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

วันที่ 1 ธันวาคม 2554 ร่วมกับสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเชียงใหม่ จัดกิจกรรม “Condom Box and World AIDS Day 2011” ณ ห้องประชุมพลบดี 1 ตึกเฉลิมพระเกียรติ สถาบันการพละศึกษา วิทยาเขตเชียงใหม่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานเปิดงาน และเปิดกล่อง Condom Box ซึ่งเป็นกล่องให้บริการถุงยางอนามัยแก่นักศึกษาในราคาประหยัด มีการแสดงชุด “สพล.ร่วมใจ ต้านภัยเอดส์” การสาธิตการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกวิธี รวมทั้งมีบูธให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์

นอกจากนั้น ยังมีการจัดกิจกรรม “เปิดปากพูดเรื่องเพศ เอดส์ป้องกันได้ เข้าถึงบริการตรวจเลือดแบบสมัครใจ (VCCT)” ณ ลานน้ำพุ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยมีการปล่อยขบวนคาราวานเพื่อประชาสัมพันธ์แผ่นป้ายรณรงค์ในสถานบันเทิงทั่วเชียงใหม่กว่า 8 จุด มีการประกวดบูธนิทรรศการ ประกวดเต้น ประกวด Mr./ Miss TG และการแสดงบนเวที อาทิ ฟ้อนอวยพร คาบาเร่ต์ รวมถึงมินิคอนเสิร์ต โดย ก้อง และมาร์ค AF

ข่าว ; เชียงใหม่กำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า

จังหวัดเชียงใหม่กำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยยึดกรอบแผนจัดการหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง ปี 2555 – 2559 ของกรมควบคุมมลพิษ พื้นที่เป้าหมายเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่มีสถิติการเผาในที่โล่งมาก 10 อันดับแรกในปี 2554 ได้แก่ แม่แจ่ม อมก๋อย ฮอด เชียงดาว ดอยเต่า จอมทอง แม่อาย แม่แตง ฝาง และ พร้าว

หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประกาศให้การแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน และได้ดำเนินการทบทวนสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า รายงานการศึกษาวิจัยทางวิชาการ และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ในการจัดทำแผนงาน/โครงการ โดยได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ปี พ.ศ.2555 – 2559 โดยเปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าโดยยึดกรอบแผนจัดการหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง ปี 2555 – 2559 ของกรมควบคุมมลพิษซึ่งประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ แนวทางการดำเนินงาน ดังนี้

ยุทธศาสตร์ที่ 1 ควบคุมการเผาในพื้นที่ชุมชน กำหนดแนวทางการดำเนินงานโดยเพิ่มความเข้มงวดการกำกับ ดูแล และบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบชุมชน เช่น การจัดเก็บขยะในชุมชนเมือง หรือการส่งเสริมการจัดการขยะในครัวเรือนโดยไม่เผาในชนบท งดการเผาในพื้นที่ชุมชน งดการเผาขยะมูลฝอย หญ้า เศษวัสดุริมทางเด็ดขาด   พร้อมทั้งสนับสนุนให้ อปท. พัฒนาระบบจัดเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะมูลฝอย ควบคุมการใช้มาตรการ 3 Rs (ใช้น้อย ใช้ซ้ำ ใช้แปรรูป) มีการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือชุมชนและการใช้กฎระเบียบชุมชนควบคุมการเผา สนับสนุนให้อปท. ดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันเป็นภารกิจบังคับ หรือขอรับการสนับสนุน งบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัดหรือกองทุนสิ่งแวดล้อม

ยุทธศาสตร์ที่ 2 การควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม โดยดำเนินมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่การเกษตร สนับสนุนการทำเกษตรปลอดการเผา พัฒนาศักยภาพเครือข่ายเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนปลอดการเผา ส่งเสริมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตรปลอดการเผา การใช้ประโยชน์เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทดแทนการเผา สนับสนุนการทำเกษตรผสมผสาน เช่น กาแฟ ข้าว และเลี้ยงสัตว์ หรือส่งเสริมการปลูกไม้ยืนต้น สัก ไม้ผล ไม้โตเร็วและส่งเสริมตลาดทดแทนปลูกพืชเชิงเดี่ยว รวมถึงดำเนินมาตรการจัดระเบียบการเผาเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่จำเป็น

ยุทธศาสตร์ที่ 3 ควบคุมไฟป่า มีการควบคุมและป้องกันการเกิดไฟป่า โดยลดเชื้อเพลิงในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม เช่น การชิงเผาในพื้นที่ป่าเต็งรังเฉพาะพื้นที่เสี่ยงใกล้ชุมชนในช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนหรือเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี และต้องเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและชุมชน ควบคู่กับการทำแนวกันไฟ การป้องกันไฟป่า การทำฝายชะลอน้ำ และปลูกป่าเปียกเพื่อลดพื้นที่เผาในระยะยาว ส่วนพื้นที่ป่าดิบหรือพื้นที่ป่าสมบูรณ์ เช่น อุทยานแห่งชาติอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นต้น ไม่เหมาะสมในการจัดการเชื้อเพลิงโดยการชิงเผา ต้องดำเนินการโดยการงดการเผาในพื้นที่ ติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวัง แจ้งเตือนสถานการณ์ ตั้งจุดสกัด ชุดลาดตระเวน และเตรียมความพร้อมการดับไฟป่า มีการสนับสนุนให้ชุมชน อปท. มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์/รักษาพื้นที่ป่าและเพิ่มศักยภาพการจัดการไฟป่าในพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงการจัดชุดปฏิบัติการควบคุมไฟป่าเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานในช่วงวิกฤติหมอกควันด้วย

ยุทธศาสตร์ที่ 4 รณรงค์ประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างการมีส่วนร่วม โดยประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์ เผยแพร่ความรู้และข้อมูลข่าวสาร เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน สร้างความตระหนักและปลุกจิตสำนึกความรับผิดชอบด้านการจัดการปัญหาหมอกควันและไฟป่า ผ่านสื่อต่าง ๆ  ส่งเสริมขีดความสามารถ ความเข้มแข็งของชุมชนและเครือข่ายชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดการเผาในชุมชน/พื้นที่เกษตรกรรม และลดการเกิดไฟป่า โดยสร้างแรงจูงใจและส่งเสริมการสร้างรายได้จากการอนุรักษ์ เช่น การประกวดหมู่บ้านปลอดการเผา การจัดตั้งกองทุนหรืองบประมาณสนับสนุนเครือข่ายป่าชุมชน กลุ่มเกษตรกรปลอดการเผา เป็นต้น รวมทั้งมีการพัฒนากลไกความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย และการติดตามตรวจสอบ โดยจัดตั้งคณะกรรมการ คณะทำงาน และชุดปฏิบัติการในระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอและจังหวัด ที่มีองค์ประกอบจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
ยุทธศาสตร์ที่ 5 ส่งเสริมการศึกษาวิจัย และขยายผลองค์ความรู้ โดยพัฒนาองค์ความรู้และการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลกระทบหมอกควัน กำหนดประเด็นการศึกษาทางเลือกแก้ไขปัญหา และรูปแบบองค์ความรู้ทางเลือกที่เหมาะสมในการลดการเผาให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ รวมทั้งการศึกษาวิจัยเพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่โล่ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาหมอกควัน ไฟป่าที่เกิดขึ้น สร้างความสูญเสียและเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและทางราชการ ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาทางด้านสุขภาพของประชาชน จึงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนในการร่วมกันป้องกันและแก้ไข โดยต้องไม่ส่งเสริมให้มีการเผาทุกชนิดซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดหมอกควันในพื้นที่ทุกแห่ง หากพบเห็นไฟป่าเกิดขึ้นในพื้นที่แห่งใดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทราบเพื่อเข้าดำเนินการควบคุมไฟป่า ทั้งนี้เพื่อรักษาไว้ซึ่งคุณภาพอากาศที่ดีและเป็นที่ชื่นชมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเชียงใหม่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ต่อไป

****************ข่าวโดย ส.ปชส.เชียงใหม่*****************

ข่าว ; สนามกอล์ฟแม่โจ้จัดแข่งขันรายการ Mae Jo Golf Club Foursomes Member Challenge 2011

สนามกอล์ฟ แม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จัดกิจกรรมการแข่งขันกอล์ฟสมาชิกสัมพันธ์ รายการ Mae Jo Golf Club Foursomes Member Challenge 2011 ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2554 Shot Gun Start เวลา 12.00 น. โดยเป็นการแข่งขันประเภททีม 2 คน เล่นลูกเดียวสลัุบกันตี แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 18 หลุม อัตราค่าสมัครเข้าร่วมการแข่งขันเพียงทีมละ 2,500 บาท ( 1 ทีม ประกอบด้วยผู้เล่น 2 คน ที่เป็นสมาชิกปัจจุบันของ แม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท ) อัตรานี้รวมค่ากรีนฟี, แคดดี้ฟี, งานเลี้ยงตอนเย็น, ถ้วยรางวัล, ของที่ระลึกและของรางวัลจับฉลาก สมาชิกแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท รีบสมัครร่วมแข่งขันได้แล้วตั้งแต่บัดนี้

ส่วนนักกอล์ฟที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกของสนามแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ทันทีตั้งแต่บัดนี้ และเพียงสมัครสมาชิกแล้วท่านจะได้เล่นกอล์ฟในราคากรีนฟีวันธรรมดา เพียงท่านละ 600 บาทเท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 5335 4431-2

ข่าว ; สหกรณ์เกษตรโครงการหลวงอินทนนท์เปิดตลาดพืชผลและดอกไม้เมืองหนาวรับฤดูกาลท่องเที่ยว

สหกรณ์เกษตรโครงการหลวงอินทนนท์เปิดตลาดพืชผลและดอกไม้เมืองหนาวรับฤดูกาลท่องเที่ยว เริ่มวันอังคารนี้ พร้อมกับเปิดโครงการพลิกฟื้นธุรกิจเครือข่ายนำร่องสหกรณ์ร่วมกัน 7 สหกรณ์ในเชียงใหม่-เชียงราย

นางสุพัตรา ศรีเทพ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรเชียงใหม่ จำกัด เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554 จะมีพิธีเปิดเทศกาลพืชผัก และดอกไม้เมืองหนาว ของสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จำกัด บริเวณหมู่บ้านขุนกลาง กม. 31 ถนนจอมทอง-อินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับเปิดโครงการพลิกฟื้นธุรกิจเครือข่ายนำร่องสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวง ณ จุดเดียวกัน โดยมีนายศิริชัย ออสุวรรณ ประธานชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นประธาน มี นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายประสพสิน แม้นทิม รองอธิบดีตรวจบัญชีสหกรณ์ และน.ส.สิริกาญจน์ วิทยาฤทธินนท์ ผอ.สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 7 มาร่วมพิธี และนำเสนอมาตรฐานการจัดการธุรกิจของสหกรณ์

ในงานจะมีการมอบเอกสารการพลิกฟื้นธุรกิจเครือข่ายนำร่องสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวง โดยมีตัวแทนจาก 7 สหกรณ์ที่ร่วมโครงการ ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จำกัด สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอ่างขาง จำกัด สหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงบ้านขุนวาง จำกัด สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่แฮ จำกัด สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่โถ จำกัด ทั้งหมดอยู่ใน จ.เชียงใหม่ และสหกรณ์การเกษตรแม่สลอง จำกัด จ.เชียงราย นอกจากนั้นจะมีการแลกเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนาธุรกิจเครือข่ายนำร่องสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงระหว่างชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยและ 7 สหกรณ์ในโครงการ

สำหรับการเปิดเทศกาลพืชผักและดอกไม้เมืองหนาว ณ ที่ทำการสหกรณ์ดอยอินทนนท์ มีนายยิ่ง แซ่ย่าง ประธานสหกรณ์ร่วมกับคณะกรรมการและสมาชิกจะจัดนิทรรศการ และนำพืชผลการเกษตร และไม้ดอกเมืองหนาวมาจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ซึ่งเดินทางขึ้นไปยังดอยอินทนนท์ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวขณะนี้อย่างคึกคักด้วย

****************ข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์***************

ข่าว ; อดีตรองนายก “กร ทัพพะรังสี” เยี่ยม The Shine คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองเชียงใหม่

อดีตรองนายกรัฐมนตรี “กร ทัพพะรังสี” และภริยารุดเยี่ยมโครงการคอนโดมิเนียม The Shine ในกลางเมืองเชียงใหม่โดยฝีมือคนรุ่นใหม่ตระกูลภู่จีนาพันธุ์ เอ่ยปากชมห้องตัวอย่างสวยงามสุดหรู หวังให้ลูกชายซื้อไว้เป็นที่พักแห่งที่สอง ขณะที่คนหนีน้ำท่วมขึ้นมาจองคึกคัก เหลือ 30 ยูนิตสุดท้ายเท่านั้น

 เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายกร ทัพพะรังสี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และภริยา เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ และมีโอกาสแวะเยี่ยมชมโครงการ The Shine (เดอะชายน์) คอนโดมิเนียมหรูขนาด 15 ชั้นใจกลางเมืองเชียงใหม่ ย่านถนนช้างคลาน โดยมีนายบุณยวัฒน์ (บุญช่วย) ภู่จีนาพันธุ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ที่ปรึกษาโครงการร่วมกับนายกิติคุณ ภู่จีนาพันธุ์ น.ส.กรรมการผู้จัดการ และ น.ส.กุลธิดา ภู่จีนาพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการให้การต้อนรับ โดยพาชมห้องชุดตัวอย่าง และชมสถานที่ก่อสร้าง ซึ่งติดถนนช้างคลาน และเจริญประเทศ สามารถเข้าออกได้ทั้งสองทาง หลังจากนั้นได้กล่าวว่าเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลที่โดดเด่น ห้องพักสวยหรูออกแบบได้ดีมาก กำลังจะให้บุตรชายขึ้นมาชมเพื่อตัดสินซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่สองที่เชียงใหม่ไว้ 2 ห้อง

นายกิติคุณ ภู่จีนาพันธุ์ กรรมการผู้จัดการโครงการ The Shine กล่าวว่า ระยะนี้มีผู้ใหญ่หลายท่านมาแวะชม และบ้างก็จองไว้แล้ว จากจำนวน 15 ชั้น 100 กว่ายูนิต มีที่จอดรถถึง 4 ชั้น ห้องพักเริ่มที่ชั้น 6 เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวน และมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ห้องพักมีทั้งหมด 9 รูปแบบให้เลือก ส่วนการออกแบบภายในภายนอกก็ดีไซน์อย่างสวยงามทันสมัย สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองเชียงใหม่ได้ถึงสามด้าน ขณะนี้เหลือราว ๆ 30 ยุนิตเท่านั้น เพราะหลังจากเกิดมหาอุทกภัยในภาคกลาง และ กทม. มีคนประสบภัยจากน้ำท่วมให้ความสนใจคึกคักเพื่อหาบ้านหลังที่สองไว้ที่เชียงใหม่ สำหรับผู้สนใจสอบถามรายละเอียดหรือแวะชมโครงการ/ห้องตัวอย่างได้ที่ 053-273222

*****************ข่าวโดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์******************

ข่าว ; ผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม

นายชาตรี  กันทวี ปลัดเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม  กล่าวว่า  ตามที่เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม  ได้จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นของเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม  ในวันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ นั้น ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีตำบลฟ้าฮ่าม อย่างไม่เป็นทางการ  ณ วันที่ ๒๗  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔    คือ

นายกเทศมนตรีตำบลฟ้าฮ่าม

อันดับ ๑  นายปรีชา   วรกุล     ๑,๔๘๗  คะแนน

อันดับ ๒  นายประเสริฐ  ทิพยรัตน์     ๑,๔๑๒ คะแนน

สมาชิกสภาเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม

เขตเลือกตั้งที่ ๑

อันดับ ๑  นายคัณโท  อินทแกล้ว    ๗๘๘  คะแนน

อันดับ ๒  นายปรีชา  สัมมาทรัพย์    ๗๐๖  คะแนน

อันดับ ๓ นายขจรศักดิ์  ปัญญาเรือง  ๖๙๗ คะแนน

อันดับ ๔ นายประยูร  รังสี  ๖๓๗  คะแนน

อันดับ ๕ นายธงชัย  ตราพันธ์    ๖๓๐ คะแนน

อันดับ ๖ นายอุดม  อินชัย  ๖๐๕  คะแนน 

เขตเลือกตั้งที่ ๒

อันดับ ๑   นายเปี๊ยก  ชื่นใจดี   ๖๐๗  คะแนน

อันดับ ๒  นายทองสุข  สงวน  ๕๙๔  คะแนน

อันดับ ๓  นายบุญฤทธิ์  ศรีสุวรรณ  ๕๙๔  คะแนน

อันดับ ๔ นางวันดี  ปันตุมมา  ๕๗๗  คะแนน

อันดับ ๕ นายสุบิน  เสทธยะ  ๕๗๔ คะแนน

อันดับ ๖ นายทะนงศักดิ์  สุทธิ  ๕๗๐ คะแนน 

ภาพข่าว ; เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม จัดงานรณรงค์เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี‏

เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม  นำโดยนายชาตรี  กันทวี ปลัดเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม ร่วมกับ ข้าราชการพนักงาน เทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม  และประชาชนในพื้นที่ จัดงานรณรงค์เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีตำบลฟ้าฮ่าม  โดยมีการแจกแผ่นพับรณรงค์์เลือกตั้งแก่ประชาชนในพื้นที่ทั้ง ๗ หมู่บ้าน  โดยมีการแบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 2 เขตเลือกตั้ง  และจะมีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔  เวลา ๐๘.๐๐ ถึง ๑๕.๐๐ น.

ข่าว ; ททท.จัดแข่งกอล์ฟส่งเสริมการท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ททท.สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออก 10 สำนักงาน จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการพิเศษ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่

ททท.สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกทั้ง 10 สำนักงาน คือ สำนักงานโตเกียว โอซากา ฟูกุโอกะ โซล เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง คุณหมิง กวางโจว ฮ่องกง และไทเป ร่วมกันดำเนินงานตามแผนการตลาดปี 2555 ซึ่งกำหนดโครงการในระดับพื้นที่ จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ Thailand Minister Cup ณ สนามกอล์ฟเชียงใหม่ไฮแลนด์ กอล์ฟรีสอร์ท จ.เชียงใหม่ มีตัวแทนบริษัทนำเที่ยวจากทั้ง 10 แห่งเข้าร่วมงาน 80 คน ผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ชนะประเภททีม ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นอกจากนั้น ยังมีถ้วยรางวัลประเภทบุคคลทั้งหญิงและชายอีกด้วย

การจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กิจกรรมการแข่งขันและการเล่นกอล์ฟ สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเฉพาะบริษัทนำเที่ยวจากทั้ง 10 พื้นที่เหล่านี้หันมาทำรายการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านกอล์ฟในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งเล่นกอล์ฟของไทยให้เป็นที่รูจักแพร่หลาย ผ่านตัวแทนการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในแต่ละพื้นที่อย่างกว้างขวางอีกด้วย

ข่าว ; มหาวิทยาลัยแม่โจ้ประกวดจัดสวนในงานวันเกษตรแม่โจ้ 2554

การจัดสวน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นองค์ประกอบและเป็นสีสันของการจัดงานต่าง ๆ ในปัจจุบัน  อีกทั้งยังได้รับความสนใจจากประชาชนเที่ยวชมงานเป็นอย่างมาก  งานวันเกษตรแม่โจ้  ประจำปี 2554  ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่  1-11 ธันวาคม 255 นี้  มหาวิทยาลัยแม่โจ้จึงจัดให้มีการประกวดจัดสวนหย่อม - สวนกล้วยไม้  สวนไม้ดอกไม้ประดับ สวนผัก-สวนครัว  และสวนตู้/สวนถาด ชิงเงินรางวัลมากมาย

คุณสมบัติของผู้ที่จะส่งสวนเข้าประกวด จัดสวนกล้วยไม้และสวนหย่อมไม้ดอกไม้ประดับ สวนผัก-สวนครัว ได้แก่ ผู้ที่สนใจทั่วไป นิติบุคคล สถานศึกษาต่างๆ ชมรม สมาคม หรือกลุ่มเอกชนใดๆ ผู้ที่เข้าประกวดสวนตู้ สวนถาด ได้แก่ บุคคลทั่วไป และนักเรียนระดับมัธยม

ผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมแสดงและประกวดการจัดสวนฯ จะต้องส่งใบสมัครการจัดสวนพร้อมทั้งระบุประเภทของสวนที่ต้องการจัด ถึงคณะกรรมการประกวดจัดสวนฯ ภายในวันที่  21 พฤศจิกายน 2554   ณ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม  มหาวิทยาลัยแม่โจ้  ในวันและเวลาราชการ  โดยสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่  www.faed.mju.ac.th/garden สอบถามรายละเอียดได้เพิ่มเติมได้ที่  โทร. 053-873367   หรือ อาจารย์สุระพงษ์ เตชะ โทร.083-1569616

ข่าว ; มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา ครั้งที่ 16

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา ครั้งที่ 16 วันที่ 10 - 11 พฤศจิกายน 2554 ณ หอประชุม มช. ภายในงานมีนิทรรศการเผยแพร่ข้อมูลหลักสูตรภาษาไทย นานาชาติ การให้คำปรึกษาแนะแนวการศึกษาต่อของสถาบันอุดมศึกษา 70 สถาบันชั้นนำทั่วประเทศ ทั้งภาครัฐ เอกชน พร้อมการบรรยายพิเศษ โดยวิทยากรจากภายในมหาวิทยาลัยและภายนอก และกิจกรรม OPEN HOUSE เปิดให้เข้าชมคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัยกว่า 17 คณะ คาดว่ามีผู้ร่วมงานกว่า 10,000 คน

รศ.อุษณีย์ คำประกอบ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยได้มีการจัดโครงการ สัมมนาทางวิชาการและการจัดนิทรรศการ“ตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา” ขึ้น ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541 เป็นต้นมา และเพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาจึงได้จัดโครงการนิทรรศการ “ตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา” ครั้งที่ 16 ขึ้น ระหว่างวันที่ 10 - 11 พฤศจิกายน 2554 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อกระจายโอกาสให้นักเรียน นิสิตนักศึกษา ครู ผู้ปกครอง หน่วยงาน และผู้ที่สนใจทั่วไปทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้เข้าถึงข้อมูลหลักสูตร และข้อมูลทางการศึกษาอื่น ๆ โดยทัดเทียมกัน เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อมูลในการศึกษาต่อระหว่างสถาบันอุดมศึกษา กับนักเรียน นิสิตนักศึกษา ครู ผู้ปกครอง หน่วยงาน และผู้ที่สนใจ รวมถึงระหว่างสถาบันอุดมศึกษาด้วยกัน ตลอดจนส่งเสริมให้มีการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในประเทศเพิ่มมากขึ้น

ตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา ครั้งที่ 16 ได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาบรรยายพิเศษในประเด็นที่เป็นประโยชน์หลายหัวข้อ ได้แก่ “เตรียมความพร้อมพิชิต Admissions เพื่อก้าวสู่ฝันมหาวิทยาลัยในดวงใจ” โดย รองศาสตราจารย์ ดร. สัมพันธ์  พันธุ์พฤกษ์  ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) “การยืนยันสิทธิ์ พิชิตสอบตรง” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทศพร  พิชัยยา ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและประมวลผล  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีการบรรยายพิเศษโดยผู้สอนที่มีเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากเยาวชน คือ อาจารย์อริสรา ธนาปกิจ (ครูพี่แนน) จากสถาบัน ENCONCEPT ซึ่งจะมาบรรยายพิเศษ เรื่อง “กลยุทธ์ในการเรียนและทำข้อสอบให้ได้คะแนนดี ในกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ” และอาจารย์ปิง  เจริญศิริวัฒน์ จากสถาบัน DAVANCE บรรยายพิเศษ เรื่อง “กลยุทธ์ในการเรียนและทำข้อสอบภาษาไทยและสังคมให้ได้คะแนนดี”

นอกจากการบรรยายพิเศษแล้ว ยังจะมีการจัดกิจกรรม OPEN HOUSE ขึ้น ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2554 ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย รวม 17 คณะ ได้แก่  คณะมนุษยศาสตร์  คณะศึกษาศาสตร์  คณะวิจิตรศิลป์  คณะวิทยาศาสตร์  คณะวิศวกรรมศาสตร์  คณะเกษตรศาสตร์  คณะเภสัชศาสตร์  คณะเทคนิคการแพทย์  คณะพยาบาลศาสตร์  คณะอุตสาหกรรมเกษตร  คณะสัตวแพทยศาสตร์  คณะบริหารธุรกิจ  คณะเศรษฐศาสตร์  คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  คณะการสื่อสารมวลชน คณะนิติศาสตร์  และวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี  ซึ่งจะเปิดให้เยี่ยมชมเพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรต่างๆ ของคณะ การเรียนการสอน และการนำความรู้จากที่ได้ศึกษาจากคณะนั้นๆ ไปประกอบอาชีพในอนาคต รวมถึงมีการเปิดให้เข้าชมห้องปฏิบัติการต่างๆ โดยจะมีพี่ๆ นักศึกษาแต่ละคณะเป็นผู้นำเยี่ยมชม

นอกจากนี้ ยังจะมีการแสดง และกิจกรรมบนเวที จากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ที่มาร่วมงาน เช่น การแสดงของนักศึกษานานาชาติ “ฟ้อนก๋ายลาย” จากชมรมพื้นบ้านล้านนา สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การแสดงของมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ อักทั้งการตอบคำถามชิงรางวัลและของที่ระลึกมากมาย

งานตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษาครั้งที่ 16 นี้ มีสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมจัดงานรวมทั้งสิ้น 70 สถาบัน  ประกอบด้วย สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ได้แก่  มหาวิทยาลัยของรัฐในสังกัดสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยในกำกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มหาวิทยาลัยสงฆ์ วิทยาลัยชุมชน สถาบันอุดมศึกษาเอกชน สถาบันอุดมศึกษาที่สังกัดหน่วยงานอื่น ๆ อาทิ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สถาบันการบินพลเรือน ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี เป็นต้น      โดยตลอดการจัดงานจะมีการจัดตั้งบูธ เพื่อให้แต่ละสถาบันอุดมศึกษา แสดงนิทรรศการ จำนวน 102 บูธ และคาดว่ามีผู้เข้าร่วมชมงานและนิทรรศการตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา ครั้งที่ 16 ทั้งนักเรียน นักศึกษา อาจารย์ ผู้ปกครอง และผู้สนใจ ประมาณ 10,000 คน

รศ.อุษณีย์ คำประกอบ กล่าวในตอนท้ายว่า การจัดงานตลาดนัดหลักสูตรนี้นักเรียนจะสามารถนำข้อมูลต่างๆ ไปประกอบการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อให้ตรงตามความต้องการของตนเองได้ในอนาคต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร.053-94-1408-9 หรือดูรายละเอียดที่ www.eqd.cmu.ac.th

ข่าว ; แม่โจ้กอล์ฟคลับแอนด์รีสอร์ท จัดกอล์ฟช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

แม่โจ้กอล์ฟคลับแอนด์รีสอร์ท จัดกอล์ฟรายการพิเศษ เสาร์ที่ 12 พ.ย.54 โดยนำรายได้จากลูกค้าที่ใช้บริการทั้งวัน ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมผ่านสภากาชาดไทย

ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ แม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า สืบเนื่องมาจากสถานการณ์อุทกภัย ที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคกลางและกรุงเทพมหานคร ที่ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลให้มีผู้ประสบภัยจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อน ต้องการสิ่งอุปโภคบริโภคเป็นจำนวนมาก

สนามกอล์ฟ แม่โจ้กอล์ฟคลับแอนด์รีสอร์ท มีความปรารถนาที่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มีส่วนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมพิเศษขึ้น ชื่อรายการ Mae Jo Golf Club Charity Day for flood victim ในวันที่เสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2554  ตลอดทั้งวัน โดยในวันดังกล่าวทางสนามจะคิดค่าบริการจากนักกอล์ฟ ราคากรีนฟีรวมแคดดี้ เพียงท่านละ 1,500 บาท รายได้ทั้งหมดหลังจากหักภาษีแล้ว จะนำไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่สภากาชาดไทย

จึงขอเชิญชวนนักกอล์ฟที่ต้องการเล่นกอล์ฟเพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งยังจะได้มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและจองเวลาออกรอบได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-354431 - 2

Due to the flooding crisis in Thailand which cripples many provinces, especially the central part of Thailand, MJGC&R is in sorrow for all the flooded victims and is going to organize a charity project to raise fund to help those unfortunate families. The details of the charity project is in the followings;

Project: Mae Jo Golf Club Charity Day for Thai Flooded Victims

Venue: MJGC&R

Date: November 12th, 2011

Registration

•Starting at 1,500THB Receive Green Fee, Caddie Fee and souvenir

All donations will be donated for the purpose of helping flooded victims this year (2011)

To book Tee off time please contact Tel. 053-354431-2

ข่าว ; คณะสารสนเทศ ม.แม่โจ้ รับนักวิเคราะห์นโยบายและแผน

รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา ดำรงเกียรติศักดิ์  คณบดีคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้  แจ้งว่า  คณะสารสนเทศและการสื่อสาร  มีความประสงค์จะรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผน วุฒิปริญญาโท ทางด้านการศึกษา บริหารธุรกิจ การจัดการ วิทยาการจัดการ การบริหารและประเมินโครงการ เศรษฐศาสตร์  จำนวน ๑ อัตรา

ผู้ประสงค์จะสมัครสอบสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซด์ของกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานอธิการบดี http://personnel.mju.ac.th และที่เว็บไซต์ของคณะสารสนเทศและการสื่อสารhttp://www.infocomm.mju.ac.th หรือขอรับใบสมัคร และสมัครได้ที่งานบริหารและธุรการ สำนักงานคณบดี คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้  โทรศัพท์ ๐ ๕๓๘๗ ๓๗๐๐- ๗          โดยรับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔  ในเวลา ๐๘.๓๐ – ๑๑.๐๐ น. และเวลา ๑๓.๓๐-๑๕.๓๐ น. เว้นวันหยุดราชการ

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าสอบที่เว็ปไซต์ คณะสารสนเทศและการสื่อสารhttp://www.infocomm.mju.ac.th , กองการเจ้าหน้าที่ http://www.mju.ac.th ในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๔

การสอบแข่งขันและสอบสัมภาษณ์

วันศุกร์ที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๔

สอบข้อเขียน  เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๐.๓๐ น.

        (รายละเอียดวิชาที่สอบแข่งขัน ตามแนบท้ายประกาศคณะกรรมการบริหารงานบุคคลมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ ๒๑๓/๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔)

สอบสัมภาษณ์ เวลา ๑๐.๔๕ น. เป็นต้นไป

        ณ ห้องคำหยาด ชั้น ๑ อาคาร ๗๕ ปี แม่โจ้ คณะสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์จำเป็นต้องมีคะแนนการสอบข้อเขียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๕๐

ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบคัดเลือก/สอบแข่งขันได้ ทางเว็ปไซต์ของคณะสารสนเทศและการสื่อสารhttp://www.infocomm.mju.ac.th ,และเว็ปไซต์ กองการเจ้าหน้าที่ http://www.mju.ac.th

ข่าว ; สาธารณสุขเชียงใหม่ระดมเภสัชกรหาแนวทางป้องกันยาขาดแคลน

จากภาวะวิกฤตน้ำท่วม นอกจากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว ยังเกิดปัญหาการผลิต ยา เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมพร้อมแก้ไข ไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์ในจังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมาเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม 1 ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายวัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำริให้หัวหน้า กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค เภสัชกรอิศรา นานาวิชิต ประชุมหาแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหา ไม่ให้เกิดภาวการณ์ขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์จังหวัดเชียงใหม่ ที่ส่งผลกระทบมาจากภาวะวิกฤตน้ำท่วม โดยมีเภสัชกรประจำโรงพยาบาลชุมชนทุกอำเภอ ร่วมหารือวางมาตรกาการจัดสรรยา เวชภัณฑ์ เพื่อบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โดยสรุปแนวทางการดำเนินการบริหารจัดการยาและเวชภัณฑ์ได้ดังนี้

1.การจ่ายยาโรคเรื้อรังจะลดวันลงเหลือ 30 วันจากเดิม 60-120 วัน

2.เร่งให้ทุกโรงพยาบาลสำรวจยาและเวชภัณฑ์ที่มีแนวโน้มจะขาดแคลนในระยะสั้น 7 วัน ระยะยาว 30 วัน ให้ทุกโรงพยาบาลสำรวจและส่งข้อมูลมายังสำนักงานสาธารณสุขเพื่อจัดทำข้อมูลรายงานทางเว็บไซด์หาข้อมูลโรงพยาบาลที่มีจำนวนยาและเวชภัณฑ์มากพอที่จะช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลนได้

3.วางแผนจัดทำรายการยาและเวชภัณฑ์ การใช้ยาที่ต้องติดตามเป็นพิเศษและยาที่จะมีแนวโน้มจะขาดแคลน

4.พิจารณาการจัดสรรยา+เวชภัณฑ์ จากแหล่งผลิตยา 4 แหล่งดังนี้

            4.1.ยาจากองค์การเภสัชกรรมมีแนวโน้มจะขาดแคลนได้วางมาตรการ ยาน้ำแก้ปัญหาโดยการยืมยาจากโรงพยาบาลที่ผลิตยาน้ำและเวชภัณฑ์บางส่วนได้ โรงพยาบาลนครพิงค์จะเป็นแหล่งผลิตยาน้ำให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ และมีโรงพยาบาลอีกหลายแห่งที่สามารถผลิต น้ำเกลือ ยาน้ำ ใช้เองได้จะสามารถช่วยเหลือ โรงพยาบาลที่ขาดแคลนได้

            4.2.ยาจาก บริษัทเอกชน มีหลายโรงงานที่ประสบภัย รวมทั้งปัญหาการขนส่ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่  จะใช้วิธีการจัดซื้อจากบริษัทอื่นที่ใช้แทนได้ ซึ่งราคาอาจแพงขึ้นบ้าง (ปกติจัดซื้อในราคาถูกที่สุด) และสามารถขนส่งได้สะดวก แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินราคากลางที่กำหนดไว้และอาจพิจารณาเป็นรายๆในยาที่จำเป็น

            4.3.ยาที่ได้รับการสนับสนุนจาก สปสช.ยังไม่ได้แจ้งการขาดแคลนยา สปสช. ยังยืนยันไม่ขาดแคลน โดยเฉพาะน้ำยาล้างไตทางช่องท้องที่ผู้ป่วยนำไปล้างไตด้วยตนเองที่บ้าน สสจ.ชม จะสำรวจส่วนขาดและช่วยเหลือหากเกิดการขาดแคลน

5.ยาที่ผลิตเองจาก โรงพยาบาลต่างๆของจังหวัดเชียงใหม่ ทุกแห่งจะดึงมาใช้ร่วมกันและกำหนดรายการยาและเวชภัณฑ์เป็นภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ว่ายาชนิดใดจะมีแนวโน้มขาดแคลนเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลนได้ทันเหตุการณ์ต่อไป