มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) จับมือ บริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด นำโดย คุณวิชัย ทองแตง ตอกย้ำการก้าวสู่ CMU AI University พร้อมผลักดันมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็น "มหาวิทยาลัย AI" ศูนย์กลางนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์แห่งอนาคตอย่างเป็นทางการ ก้าวล้ำสู่อนาคตศูนย์กลางการเรียนรู้ วิจัย และนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แห่งแรกในภาคเหนือของประเทศไทย มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรให้พร้อมรับมือกับโลกยุคดิจิทัล
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ คุณวิชัย ทองแตง ประธานมูลนิธิ หนึ่งน้ำใจ One Love Foundation และ คุณวรสิทธิ์ ลีลาบูรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีวีดี โฮลดิ้งส์ ดร.ก้องเกียรติ สุริเย กรรมการ บริษัท กรีน แสตนดาร์ด จำกัด รองศาสตราจารย์ ดร. สุชาย ธนวเสถียร ผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ดดู ทรานฟอร์เมอร์ กรุ๊ป จำกัด โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วินิตา บุณโยดม รองอธิการบดี และ รองศาสตราจารย์ ดร.รัฐสิทธิ์ สุขะหุต รองอธิการบดี พร้อมผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมประชุม Tech Spiin-off Pitching : ปั้นธุรกิจจากงานวิจัย ณ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แถลงถึงการผลักดัน “มหาวิทยาลัย AI” โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กับ บริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด มีเป้าหมายเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้และนวัตกรรมที่สำคัญสำหรับประเทศไทย จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ สำหรับนักศึกษา ผู้ประกอบการและประชาชนผู้สนใจทั่วไป
ในขณะที่ คุณวิชัย ทองแตง ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็น The Godfather of Startup กล่าวว่า บริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะหลังการลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด กับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายและให้คำแนะนำในโครงการต่าง ๆ ล่าสุดมีการเปิดตัว "มหาวิทยาลัย AI" ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นศูนย์การเรียนรู้ วิจัย และนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งแรกในภาคเหนือ เป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับภูมิภาค พร้อมเสริมสร้างเศรษฐกิจและสังคมในยุคดิจิทัล
หลักสูตรของ “มหาวิทยาลัย AI” ครอบคลุมทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยเน้นการพัฒนาทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิทยาการข้อมูล (Data Science) การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น AI Agent ฯลฯ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังมีความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ได้จริง รวมถึงการจัดอบรมและสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับนักวิจัย และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก นักศึกษาจะได้รับโอกาสทำงานร่วมกับทีมวิจัยที่มีชื่อเสียงและฝึกงานในบริษัทชั้นนำ พร้อมเสริมสร้างประสบการณ์จริงและเตรียมความพร้อมสู่โลกแห่งการทำงานยุคดิจิทัล
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัย AI ยังมุ่งเน้นการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในทุกมิติของการเรียนการสอน การวิจัย การบริหารจัดการ และการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนการพัฒนาบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี AI ที่จะช่วยสร้างระบบนิเวศของนวัตกรรมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้าน AI ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยังได้จัดตั้งเครือข่ายผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มีความสนใจในเทคโนโลยี AI เพื่อสร้างโอกาสในการระดมทุนและการขยายธุรกิจ เพื่อให้บริษัทสตาร์ทอัพสามารถเติบโตและแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมุ่งเน้นการสร้างโครงการวิจัยที่มีความเป็นนวัตกรรมและสามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชนและสังคมโดยรวม รวมถึงเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในตลาดโลก
ที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้เกิดโครงการที่มีการบูรณาการเทคโนโลยี AI ในการแก้ปัญหาสังคม เช่น การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพด้วย AI การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการพลังงาน และการส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะ เป็นต้น โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีไปใช้จริงในภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ การฝึกอบรม และการวิจัยร่วมกัน เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมและธุรกิจ
โครงการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทางเทคโนโลยี แต่ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่และทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรมเพื่ออนาคต
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในกระบวนการเรียนการสอน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพทางการศึกษา และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่ออนาคต นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้ AI ในงานวิจัย เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของสังคมอย่างแท้จริง อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยี.
อีกหนึ่งช่องทางการติดตามข่าว
https://www.blockdit.com/posts/67ed02886b0f44390c2cbca9
****************