เอเชียนทัวร์เผยโปรแกรมการแข่งขันครึ่งฤดูกาลแรกของปี 2023 มีการชิงชัย 11 รายการ ประเดิมสนามแรกที่ซาอุดิอาระเบีย และมีดวลที่ประเทศไทย 3 รายการ
กอล์ฟเอเชียนทัวร์ ประกาศโปรแกรมการแข่งขันช่วงครึ่งฤดูกาลแรกถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2023 ชิงชัยรวม 11 รายการใน 14 สัปดาห์ เริ่มต้นด้วยศึกใหญ่ระดับโลกอย่าง “พีเอฟไอ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล พาวเวอร์ด บาย ซอฟแบงค์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส” ชิงเงินรางวัล 5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 175 ล้านบาท ณ สนามรอยัลกรีน กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ที่คิงอับดุลลาห์ อีโคโนมิค ซิตี้ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ระหว่างวันที่ 2-5 กุมภาพันธ์ โดยการแข่งขันรายนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 แชมป์ตกของ ฮาโรลด์ วอร์เนอร์ เดอะเธิร์ด โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน ที่พัตต์อีเกิ้ลระยะ 92 ฟุต ในหลุมสุดท้ายเฉือนชนะ บับบา วัตสัน ไปอย่างสนุกเร้าใจ
จากนั้นเอเชียนทัวร์จะไปเยือนสนามอัล มูจ กอล์ฟ ประเทศโอมาน ระหว่างวันที่ 9-12 กุมภาพันธ์ และสนามโดฮา กอล์ฟ คลับ ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ ด้วยการจัดการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ 2 รายการใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ จัดขึ้นที่ตะวันออกกลาง
สำหรับการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ที่โอมานและกาตาร์ ถือเป็นสองรายการแรกจากที่เพิ่มขึ้นเป็น 10 รายการในปี 2023 โดยรายการที่สามจะแข่งขันที่สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ หัวหิน ประเทศไทย ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา หรือราว 70 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคม ส่วนสนามที่สี่จะจัดขึ้นที่คัม รานห์ ประเทศเวียดนาม ในเดือนเมษายน
ทั้งนี้เอเชียนทัวร์ เปิดตัวการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และประเดิมแมตช์แรกที่ประเทศไทย ณ สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ หัวหิน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง แชมป์ตกเป็นของ ชีวาน คิม โปรกอล์ฟจากสหรัฐเชื้อสายเกาหลี ส่วนการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ครั้งแรกที่เวียดนาม จะชิงชัยกันที่สนามเคเอ็น กอล์ฟ ลิงก์ ซึ่งถือเป็นการกลับมาเยือนเวียดนามเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีของเอเชียนทัวร์
ขณะที่รายการนิวซีแลนด์ โอเพ่น พรีเซนเต็ดบาย สกาย สปอร์ต กลับสู่เวทีเอเชียนทัวร์อีกครั้ง หลังจากห่างหายไป 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด โดยจะแข่งขันในสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ที่มิลล์บรู๊ค รีสอร์ต ในควีนส์ทาวน์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเมนท์นี้มาตั้งแต่ปี 2014
ส่วนรายการ ดีจีซี โอเพน ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในฤดูกาล 2022 จะแข่งขันในระหว่างวันที่ 16-19 มีนาคม ณ เดลี กอล์ฟ คลับ สนามกอล์ฟแห่งประวัติศาสตร์ จากนั้นเอเชียนทัวร์จะกลับไปเยือนฮ่องกง อีกครั้งหลังจากรอคอยมานาน โดยจะเป็นรายการใหม่ ณ สนามกอล์ฟชื่อดังอย่าง ฮ่องกง กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 23-26 มีนาคม ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดการแข่งขันให้ทราบในเร็วๆ นี้ พร้อมกับอีก 2 รายการติดต่อกันที่ประเทศไทย ณ สนามสยามคันทรีคลับ วอเตอร์ไซด์ พัทยา จังหวัดชลบุรี ในเดือนเมษายน และอีก 1 รายการที่เกาหลีใต้ในเดือนพฤษภาคม
โช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและประธานบริหารของเอเชียนทัวร์ กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้ประกาศการเริ่มต้นฤดูกาล 2023 หลังจากฤดูกาล 2022 เพิ่งปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องยอดเยี่ยมมากที่พวกเราสามารถรักษาโมเมนตัมความต่อเนื่องจากฤดูกาลที่เพิ่งแข่งขันเสร็จสิ้นและออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ได้อย่างเต็มศักยภาพ เอเชียนทัวร์รู้สึกทึ่งมากกับโปรแกรมการแข่งขันที่หลากหลายทั่วโลกและน่าตื่นเต้นในซีซั่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินรางวัลชิงชัยจำนวนมหาศาล สนามแข่งขันระดับโลก และความสมดุลของการจัดทัวร์นาเมนท์เดิมและการจัดการแข่งขันรายการใหม่ๆ”
ประธานเอเชียนทัวร์ กล่าวเสริมอีกว่า “การออกสตาร์ตฤดูกาลด้วยการแข่งขันรายการระดับโลกอย่าง พีไอเอฟ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล พาวเวอร์ด บาย ซอฟแบงค์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส ถือเป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบและปูทางสู่การแข่งขันฤดูกาลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอเชียนทัวร์”
สำหรับฤดูกาล 2002 มีการชิงชัยรวม 20 รายการ และเพิ่งปิดฉากลงไปเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในรายการบีเอ็นไอ อินโดนีเซียน มาสเตอร์ส ที่ประเทศอินโดนีเซียซึ่ง สาริศ สุวรรณรัตน์ โปรกอล์ฟหนุ่มไทยคว้าแชมป์ไปครองอย่างน่าประทับใจ และกลายเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองในฤดูกาลหน้า ขณะที่ ชีวาน คิม จากสหรัฐอเมริกา ครองบัลลังก์มือหนึ่งเงินรางวัลสะสมเอเชียนทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต ส่วนสกอตต์ วินเซนต์ ครองแชมป์ทำเงินรางวัลสะสมของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์
ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
อีกหนึ่งช่องทางข่าว
https://www.blockdit.com/posts/63a1d82bf304fa6d4772d150
*****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น